🎡เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2567 นายต่อ ศรลัมพ์ กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส เป็นประธานในพิธีเปิดงานเทศกาลไทย “Thai Fest by the Beach” ณ Santa Monica Pier เมือง Santa Monica รัฐ California และเข้าร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่าง ๆ ภายในงานกับชุมชนไทยและชาวต่างชาติที่มาร่วมงานอย่างเป็นกันเอง
🎡ระหว่างพิธีเปิดงาน กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส กล่าวยินดีที่สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ได้มีโอกาสจัดงานเทศกาลไทยในครั้งนี้ ร่วมกับทีมประเทศไทย ได้แก่ นายนิวัฒน์ หาญสวัสดิ์ ผู้อำนวยการส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส และ นางพรพรรณ อินทรทัต ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงาน ลอสแอนเจลิส โดยสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้เชิญนางศรีวงศ์ อาญาสิทธิ เข้าร่วมเป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจากนาย Phil Brock นายกเทศมนตรีเมือง Santa Monica เข้าร่วมในพิธีเปิดงานอีกด้วย
🎡บรรยากาศในงานเทศกาลไทย Thai Fest by the Beach เป็นไปอย่างครึกครื้นสนุกสนาน มีซุ้มขายอาหารไทยที่ได้รับรางวัล Thai Select และร้านอาหารแนว Street food และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จากบริษัทสิงห์ นอร์ธอเมริกา จำกัด เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี กรุ๊ป) ในสหรัฐฯ และบริษัท Sun Lee, Inc. เข้าร่วมจำหน่ายในงานด้วยรวมทั้งมีการจัดกิจกรรม workshop การเล่นหมุนวงล้อ การสักยันต์ไทย พร้อมมุมถ่ายภาพและร่วมสนุกกับการถ่ายรูปกับตัวละคร Warbie นอกจากนั้น ยังมีการแสดงมวยไทยและศิลปะการป้องกันตัวจากนักมวยไทยที่มีชื่อเสียงจากประเทศไทยอย่าง บัวขาว บัญชาเมฆ และ ศุภชัย แสนพงษ์ หรือที่รู้จักกันในนามแสนชัย การแสดงดนตรีไทยทั้งในลักษณะไทยเดิมและร่วมสมัย การสาธิตการประกอบอาหารไทย การแสดงเดินแบบแฟชั่นโชว์ผ้าไทย การแสดงนาฏศิลป์ไทย การแสดงโขน รวมทั้งการแสดงจากกลุ่มเยาวชนไทยจากประเทศไทยที่เข้าร่วมการแข่งขัน World Championships of Performing Arts (WCOPA) 2024 โดยการแสดงและกิจกรรมทั้งหมดสามารถสร้างความสนุกสนานและความประทับใจแก่ผู้ร่วมงานทั้งชาวไทย ชาวอเมริกัน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี
🎡การจัดกิจกรรมและการแสดงในงานเทศกาลไทยดังกล่าว มีส่วนสำคัญในการประชาสัมพันธ์ ประเทศไทย ซึ่งจะต่อยอดและจุดประกายความนิยมไทยรวมทั้งนำไปสู่ผลประโยชน์เชิงพาณิชย์ในอนาคต อาทิ การส่งเสริมการท่องเที่ยว การเพิ่มมูลค่าการส่งออกสินค้า ในการนี้ สถานกงสุลใหญ่ฯ ขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนร่วมในการจัดงานในครั้งนี้และเชิญทุกท่านเข้าร่วมงานเทศกาลไทยต่าง ๆ ที่จะจัดขึ้นในครั้งต่อ ๆ ไป ด้วย
เมลาเนีย ทรัมป์ แสดงความสนับสนุนอย่างแข็งขันต่อสิทธิการทำแท้ง โดยแสดงจุดยืนที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ สามีของเธอ
เมลาเนีย ทรัมป์ แสดงความสนับสนุนอย่างแข็งขันต่อสิทธิการทำแท้ง ในหนังสือบัทึกความทรงจำเล่มใหม่ของเธอ โดยแสดงจุดยืนที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับโดนัลด์ ทรัมป์ สามีของเธอซึ่งเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน
ทีมหาเสียงของรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส แสดงความคิดเห็นอย่างรวดเร็วในวันพฤหัสบดี (3 ต.ค.) ต่อการเปิดเผยที่ไม่คาดคิดของอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ก่อนการเลือกตั้งวันที่ 5 พ.ย.
หนังสือบันทึกความทรงจำเล่มใหม่ของนางเมลาเนีย ทรัมป์ ระบุว่า "จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรับประกันว่า ผู้หญิงจะมีอำนาจตัดสินใจเองว่าต้องการมีลูกหรือไม่ โดยอิงตามความเชื่อของตนเอง โดยไม่ต้องถูกแทรกแซงหรือกดดันจากรัฐบาล"
ความคิดเห็นของอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งนับว่าแตกต่างไปจากสามีของเธอ ซึ่งมักจะกล่าวว่าการเลือกผู้พิพากษาในศาลฎีกาของเขาช่วยปูทางไปสู่การพลิกคำตัดสินคดี Roe v Wade และยุติสิทธิในการทำแท้ง โดยนับตั้งแต่คำตัดสินของศาลในปี 2022 รัฐต่างๆ ของสหรัฐฯ อย่างน้อย 20 รัฐได้นำข้อจำกัดทั้งหมดหรือบางส่วนมาใช้ โดยรัฐจอร์เจียห้ามการทำแท้งในกรณีส่วนใหญ่หลังจากตั้งครรภ์ได้ 6 สัปดาห์
ประเด็นการทำแท้งนับเป็นปัญหาสำคัญสำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้งในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มีความสูสีอย่างมาก และทีมหาเสียงของนางคามาลา แฮร์ริส ได้ออกมาแสดงความคิดเห็น ต่อการแสดงความเห็นที่ไม่ตรงกันของทั้งสองคน
ซาราฟินา ชิติกา โฆษกทีมหาเสียงของแฮร์ริสกล่าวว่า "น่าเศร้าสำหรับผู้หญิงทั่วอเมริกา สามีของนางทรัมป์ไม่เห็นด้วยกับเธออย่างหนักแน่น และเป็นสาเหตุที่ผู้หญิงอเมริกันมากกว่า 1 ใน 3 ต้องใช้ชีวิตภายใต้กฎหมายห้ามการทำแท้งของทรัมป์ ซึ่งคุกคามสุขภาพ เสรีภาพ และชีวิตของพวกเธอ" และยังกล่าวต่อว่า "โดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้เห็นชัดเจนอย่างยิ่งว่า หากเขาชนะการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน เขาจะห้ามการทำแท้งทั่วประเทศ ลงโทษผู้หญิง และจำกัดการเข้าถึงการดูแลการสืบพันธุ์ของผู้หญิง"
ทรัมป์กล่าวกับฟ็อกซ์นิวส์เมื่อวันพฤหัสบดีว่า ความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำแท้งแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ของประเทศ และเขาได้สนับสนุนให้ภรรยาของเขาแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา "เราคุยกันเรื่องนี้ และผมบอกว่า 'คุณต้องเขียนสิ่งที่คุณเชื่อ ฉันจะไม่บอกคุณว่าต้องทำอะไร คุณต้องเขียนสิ่งที่คุณเชื่อ’"
ตามรายงานของเดอะ การ์เดียน ซึ่งระบุว่าได้รับสำเนาหนังสือบันทึกความทรงจำดังกล่าว ก่อนที่จะตีพิมพ์ในสัปดาห์หน้า นางเมลาเนียเขียนว่า "การจำกัดสิทธิของผู้หญิงในการเลือกที่จะยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่ต้องการหรือไม่ ก็เหมือนกับการปฏิเสธการควบคุมร่างกายของตัวเอง"
เมลาเนีย ทรัมป์ ซึ่งแทบไม่ปรากฏตัวในช่วงการหาเสียงของสามี ยังได้โพสต์วิดีโอขาวดำบนโซเชียลมีเดียด้วย แม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดถึงการทำแท้งโดยตรงก็ตาม โดยระบุว่า "เสรีภาพส่วนบุคคลเป็นหลักการพื้นฐานที่ฉันปกป้องไว้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าไม่มีพื้นที่สำหรับการประนีประนอมเมื่อพูดถึงสิทธิพื้นฐานที่ผู้หญิงทุกคนมีมาตั้งแต่เกิด"
ทั้งนี้ อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งจากพรรครีพับลิกันคนอื่นๆ เช่น นางแนนซี เรแกน นางบาร์บารา บุช และนางลอรา บุช ก็แสดงจุดยืนที่สนับสนุนการทำแท้งเช่นกัน แม้ว่าจะออกจากทำเนียบขาวไปแล้วก็ตาม.
ที่มา CNA
การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลที่พุ่งเป้าไปที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ทำให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่บริเวณนอกสนามบินนานาชาติกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน
การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลที่พุ่งเป้าไปที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ เมื่อคืนวันพฤหัสบดี (3 ต.ค.) ทำให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่บริเวณนอกสนามบินนานาชาติกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่ชัดเจนว่าเป้าหมายคืออะไร แต่สนามบินอยู่ติดกับพื้นที่เขตดาฮีห์ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
ด้านกองทัพเลบานอนกล่าวว่า ทหารของตนเสียชีวิต 2 นายทางภาคใต้ของประเทศ ขณะที่กองกำลังอิสราเอลยังคงเดินหน้าบุกโจมตีกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ และสั่งให้ประชาชนในเมืองและหมู่บ้านอีก 20 แห่งอพยพ ส่วนกองทัพอิสราเอลไม่ได้ให้ความเห็น แต่ระบุว่าทหารของตนสังหารนักรบของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ใกล้ชายแดน กลุ่มฮิซบอลเลาะห์กล่าวว่าได้โจมตีทหารอิสราเอลทั้งสองฝั่งของชายแดน
การโจมตีทหารเลบานอน 2 ครั้งที่ทำให้เกิดการเสียชีวิต เกิดขึ้นห่างกันเพียงไม่กี่ชั่วโมงในวันพฤหัสบดี (3 ต.ค.) ซึ่งเป็นวันที่สามของการบุกโจมตีเต็มรูปแบบ กองทัพเลบานอนกล่าวว่าในการโจมตีครั้งแรก ทหาร 1 นายเสียชีวิต และอีก 1 นายได้รับบาดเจ็บ อันเป็นผลจากการรุกรานของอิสราเอลระหว่างปฏิบัติการอพยพและกู้ภัยกับสภากาชาดเลบานอนในหมู่บ้านเทย์เบห์ ด้านสภากาชาดกล่าวว่าอาสาสมัคร 4 นายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และการเคลื่อนย้ายพวกเขาได้รับการประสานงานกับเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพของสหประชาชาติ
กองทัพเลบานอนยังกล่าวว่าในเหตุการโจมตีครั้งที่สอง ทหารอีก 1 นายเสียชีวิต หลังจากอิสราเอลโจมตีฐานทัพในพื้นที่บินต์จาเบล และกล่าวเสริมว่า เจ้าหน้าที่ที่ฐานทัพตอบสนองต่อแหล่งที่มาของการโจมตี
ข่าวนี้เกิดขึ้นขณะที่กองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) แจ้งให้ผู้อยู่อาศัยในเมืองและหมู่บ้านอีก 24 แห่งในภาคใต้ของเลบานอน รวมถึงเมืองเนบาตีห์ เมืองหลักของภูมิภาค ออกจากพื้นที่ทันทีเพื่อความปลอดภัยของตนเอง ก่อนการโจมตี อิสราเอลเรียกร้องให้กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ถอนทัพไปยังแม่น้ำลิตานี ตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อยุติสงครามครั้งสุดท้ายในปี 2549
การโจมตีทางอากาศครั้งล่าสุดของอิสราเอลในกรุงเบรุต เกิดขึ้น 24 ชั่วโมงหลังจากอาคารที่พักอาศัยในย่านใจกลางเมืองโจมตี หน่วยงานป้องกันพลเรือนที่เชื่อมโยงกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ยังกล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัย 7 คนอยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิตจากการโจมตีครั้งนี้จำนวน 9 คน ต่อมารัฐมนตรีสาธารณสุขของเลบานอนกล่าวว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยและดับเพลิงมากกว่า 40 คน เสียชีวิตจากการยิงของอิสราเอลในช่วง 3 วันที่ผ่านมา
กองทัพอากาศอิสราเอลได้ดำเนินการโจมตีทางอากาศในวันพฤหัสบดี ต่อเป้าหมายที่ระบุว่าเป็นกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ รวมถึงสำนักงานใหญ่ด้านข่าวกรองของกลุ่ม สถานที่ผลิตอาวุธ และสถานที่จัดเก็บอาวุธ โดยการโจมตีของอิสราเอลและการโจมตีอื่นๆ ที่มุ่งเป้าไปที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,300 คนทั่วเลบานอน และทำให้ผู้คนต้องพลัดถิ่นมากกว่า 1 ล้านคน
อิสราเอลเปิดฉากโจมตีหลังจากเผชิญการสู้รบข้ามพรมแดนนานเกือบปี ซึ่งมีชนวนมาจากสงครามในฉนวนกาซา โดยระบุว่าต้องการให้แน่ใจว่าประชาชนที่พลัดถิ่นฐานจากการโจมตีด้วยจรวด ขีปนาวุธ และโดรนของฮิซบอลเลาะห์จะเดินทางกลับอย่างปลอดภัย
ฮิซบอลเลาะห์เป็นองค์กรทางทหาร การเมือง และสังคม ของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ ที่มีอำนาจอย่างมากในเลบานอน โดยอิสราเอล สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และประเทศอื่นๆ กำหนดให้ฮิซบอลเลาะห์เป็นองค์กรก่อการร้าย
กองทัพอิสราเอลประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เครื่องบินของตนได้โจมตีเป้าหมายก่อการร้ายของฮิซบอลเลาะห์ 200 แห่งทางตอนใต้ของเลบานอนและที่อื่นๆ ในช่วงกลางคืน ซึ่งรวมถึงคลังแสงและจุดสังเกตการณ์ด้วย นักรบของฮิซบอลเลาะห์ราว 15 นายเสียชีวิต เมื่ออาคารเทศบาลในบินต์จาเบลถูกโจมตี ต่อมา กองทัพอิสราเอลกล่าวว่าอาคารที่พักของผู้บัญชาการฮิซบอลเลาะห์ 3 นายถูกทำลายระหว่างปฏิบัติการร่วมกันระหว่างกองทัพอากาศและทหารราบ.
อิสราเอล โจมตีค่ายผู้ลี้ภัยตุลคาเร็ม ในเขตเวสต์แบงก์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 ศพ นับเป็นการโจมตีนองเลือดรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สงครามอิสราเอล-ฮามาส ปะทุขึ้นเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว
วันที่ 3 ต.ค.2567 กระทรวงสาธารณสุขของปาเลสไตน์ รายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 18 ศพ หลังจากอิสราเอล โจมตีค่ายผู้ลี้ภัยตุลคาเร็ม ในเขตเวสต์แบงก์ ซึ่งนับเป็นการโจมตีนองเลือดรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สงครามอิสราเอล-ฮามาส ปะทุขึ้นเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว
ด้านกองทัพอิสราเอลเปิดเผยว่า การโจมตีครั้งนี้ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงภายในของชินเบต และได้สังหารผู้นำกลุ่มฮามาส ในเมืองตุลคาเร็ม ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มก่อการร้ายในเขตเวสต์แบงก์
ขณะที่กลุ่มฮามาสประณามการโจมตีของอิสราเอล แต่ไม่ได้ยืนยันว่ามีสมาชิกกลุ่มคนใดเสียชีวิตหรือไม่
ทั้งนี้ ความรุนแรงปะทุขึ้นทั่วเขตเวสต์แบ็งและฉนวนกาซา นับตั้งแต่สงครามอิสราเอล-ฮามาสปะทุขึ้นในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ในขณะที่เมืองตุลคาเรมและเมืองอื่นๆ ทางภาคเหนือของปาเลสไตน์ก็โดนอิอสราเองโจมตีอย่างหนักหน่วง.
ภัยน้ำท่วมเป็นอัตราเดียว 9,000 บาทต่อครัวเรือน เตรียมชง ครม. โอนเงินช่วยเหลือให้เพิ่มสำหรับครัวเรือนที่เคยได้ 5,000 บาท
วันที่ 4 ตุลาคม 2567 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า ด้วยสถานการณ์อุทกภัยที่ได้สร้างผลกระทบต่อบ้านเรือนและความเป็นอยู่ของประชาชนในวงกว้าง และนายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายว่าให้แต่ละหน่วยงานพิจารณามาตรการให้การช่วยเหลือเยียวยาด้วยเกณฑ์สูงสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ได้พิจารณามาตรการในส่วนของกระทรวงมหาดไทย และได้ส่งหนังสือไปยังศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เพื่อพิจารณาทบทวนมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่องหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 ที่ได้ผ่านมติ ครม. เมื่อ 17 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา เพื่อให้ประชาชนผู้ประสบความเดือดร้อนได้รับการช่วยเหลือมากที่สุดตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศปช. ได้ให้ความเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยได้ปรับหลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือจากเดิมที่แยกตามระยะเวลาน้ำท่วมขังในพื้นที่อยู่อาศัย และให้อัตราการช่วยเหลืออยู่ที่ 5,000 บาท 7,000 บาท และ 9,000 บาทตามลำดับ โดยปรับเป็นทั้งกรณีที่อยู่อาศัยประจำอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม ดินถล่ม น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่งไม่เกิน 7 วัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย และกรณีน้ำท่วมขังเกินกว่า 7 วัน ให้ได้รับในอัตราเหมาจ่ายอัตราเดียวที่ 9,000 บาทต่อครัวเรือน
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับกรณีผู้ประสบภัยที่ได้รับความช่วยเหลือตามมติ ครม. เดิมไปแล้วครัวเรือนละ 5,000 บาทนั้น ให้มีการโอนเงินช่วยเหลือเพิ่มให้อีก แต่รวมแล้วต้องไม่เกิน 9,000 บาท ซึ่งการปรับเกณฑ์ในครั้งนี้เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว เหมาะสมกับภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้น และสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติโดยเร็ว
“เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายที่นายกรัฐมนตรีต้องการให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลือด้วยเกณฑ์สูงสุด ท่าน มท.1 ได้เร่งพิจารณาหลักเกณฑ์ใหม่และเสนอต่อ ศปช. และท่านภูมิธรรมในฐานะ ผอ.ศปช. ได้เห็นชอบแล้ว หลังจากนี้จะได้เร่งเสนอให้ ครม. พิจารณาเห็นชอบการปรับหลักเกณฑ์และจ่ายเงินช่วยเหลือประชาชนในอัตราเดียวที่ครัวเรือนละ 9,000 บาทต่อไป” น.ส.ไตรศุลี กล่าว