– รอยเตอร์ และ บีบีซี รายงานวันที่ 21 มี.ค. ว่า ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่าคณะเจ้าหน้าที่รัฐบาลยูเครนและสหรัฐอเมริกาจะพบปะหารือเพื่อเจรจาสันติภาพที่ซาอุดีอาระเบียในวันจันทร์ที่ 24 มี.ค.ที่จะถึงนี้ หลังจากทางการรัสเซียยืนยันการเจรจาระหว่างสหรัฐกับรัสเซียในวันเดียวกัน
นายเซเลนสกีกล่าวเพิ่มเติมว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ต้องหยุดการเรียกร้องที่ไม่จำเป็นซึ่งจะทำให้สงครามยิ่งยืดเยื้อออกไป ภายหลังนายปูตินเสนอเงื่อนไขหลายข้อซึ่งรวมถึงการยุติความช่วยเหลือทางทหารสำหรับยูเครนโดยสมบูรณ์...
ผู้นำยูเครนยังเตือนด้วยว่าการถอนยูเครนจากความพยายามเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ซึ่งนายปูตินเคยกล่าวว่าไม่สามารถนำมาเจรจาเพื่อสันติภาพได้นั้นจะเป็นของขวัญชิ้นใหญ่สำหรับรัสเซีย
นายเซเลนสกีซึ่งเดินทางเยือนกรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ ถูกสื่อมวลชนถามระหว่างแถลงข่าวร่วมกับ นายกรัฐมนตรีโยนาส การ์ สเตอร์ ของนอร์เวย์ ถึงความเป็นไปได้ที่สหรัฐอเมริกาอาจเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของยูเครน นายเซเลนสกีปฏิเสธและว่ามีการหารือเกี่ยวกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริฌเฌียซึ่งปัจจุบันอยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียในการคุยโทรศัพท์กับ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ...
แต่เน้นย้ำว่า “โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งหมดเป็นของประชาชนชาวยูเครน” และแม้ตอนนี้นายปูตินตกลงจะหยุดการโจมตีทางอากาศต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครน แต่ยังมีการโจมตีในดินแดนยูเครนต่อเนื่อง
กองทัพอากาศยูเครนเปิดเผยว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศสามารถยิงทำลายโดรนโจมตีของรัสเซีย 114 ลำจากทั้งหมด 214 ลำในการโจมตีเมื่อค่ำวันศุกร์ที่ 20 มี.ค.ผ่านมา และยังมีโดรนอีก 81 ลำสูญหายจากการใช้สงครามอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเปลี่ยนเส้นทางการจู่โจมของโดรน...
เกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานรุ่นใหม่ ซึ่งเพิ่งเข้าสู่กระบวนการผลิตเต็มรูปแบบ โดยมีนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของประเทศ เป็นผู้ควบคุมการทดสอบด้วยตนเอง
วันที่ 21 มีนาคม 2568 สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือ เคซีเอ็นเอรายงานว่า เกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานรุ่นใหม่ ซึ่งการทดสอบจัดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี โดยกรมขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ เพื่อตรวจสอบสมรรถนะโดยรวมของระบบอาวุธใหม่ที่กำลังผลิตเป็นจำนวนมากภายในโรงงานอุตสาหกรรมด้านยุทโธปกรณ์
รายงานข่าวระบุว่า นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือได้เดินทางไปติดตามการทดสอบขีปนาวุธร่วมกับสมาชิกคนสำคัญของคณะกรรมาธิการทหารกลางของพรรคแรงงาน และผลการยิงแสดงให้เห็นว่าขีปนาวุธรุ่นใหม่นี้มีความได้เปรียบด้านการตอบสนองรวดเร็วและมีความน่าเชื่อถือสูง
โดยเคซีเอ็นเอได้มีการเผยแพร่ภาพถ่ายที่เผยแพร่พร้อมรายงานข่าวแสดงให้เห็นขีปนาวุธถูกยิงขึ้นและโจมตีเป้าหมายจนเกิดการระเบิด โดยคิม จองอึน มีสีหน้าพึงพอใจต่อผลการทดสอบ
ผู้นำเกาหลีเหนือกล่าวว่า กองทัพของประเทศจะได้รับระบบอาวุธป้องกันประเทศหลักที่มีสมรรถนะโดดเด่นอีกหนึ่งระบบ พร้อมแสดงความขอบคุณต่อทีมวิจัยและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องซึ่งมีบทบาทในการเสริมสร้างศักยภาพด้านการป้องกันประเทศของเกาหลีเหนือ.
กองทัพซูดานแถลงว่าได้ยึดทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงคาร์ทูมคืนมาได้ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของกองกำลังรบกึ่งทหารที่ได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนา หลังจากสู้รบกันมานานเกือบ 2 ปี
กองทัพซูดานแถลงว่าได้ยึดทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงคาร์ทูมคืนมาได้ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของกองกำลังรบกึ่งทหารที่ไม่ได้สังกัดกองทัพซูดาน ที่ได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนา หลังจากสู้รบกันมานานเกือบ 2 ปี พลจัตวานาบิล อับดุลลาห์ โฆษกกองทัพซูดานกล่าวว่า กองกำลังสามารถยึดพื้นที่สำคัญๆ ในเมืองหลวงของซูดานได้สำเร็จหลังจากการสู้รบที่ดุเดือด
วิดีโอบนโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นทหารที่อยู่ในอาคารระบุวันที่เป็นวันที่ 21 ของเดือนรอมฎอน ซึ่งเป็นเดือนถือศีลอดของชาวมุสลิม ซึ่งตรงกับวันศุกร์ (21 มีค.) เจ้าหน้าที่ทหารซูดานซึ่งสวมยศร้อยเอกประกาศในวิดีโอดังกล่าว และยืนยันว่าทหารอยู่ในอาคารดังกล่าว
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา กองกำลังซูดานมีคืบหน้าอย่างต่อเนื่องภายใต้การนำของพลเอกอับเดล-ฟัตตาห์ บูรฮาน ผู้บัญชาการกองทัพ นั่นหมายความว่ากองกำลังสนับสนุนเคลื่อนที่เร็ว (Rapid Support Forces หรือ RSF) ที่เป็นคู่แข่งภายใต้การนำของพลเอกโมฮัมหมัด ฮัมดาน ดากาโล ส่วนใหญ่ถูกขับไล่ออกจากกรุงคาร์ทูม หลังจากที่สงครามของซูดานเริ่มขึ้นในเดือนเมษายน 2023
ทั้งนี้ เกิดเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะ ๆ ทั่วทั้งเมืองหลวงในวันศุกร์ แม้ว่าจะไม่ชัดเจนว่าเป็นการสู้รบหรือเป็นการฉลองก็ตาม
ซูดาน ประเทศในแอฟริกาตะวันออกเฉียงเหนือ ที่อยู่ในสภาพไม่มั่นคงมาตั้งแต่การลุกฮือของประชาชนที่ทำให้ประธานาธิบดีโอมาร์ อัล-บาชีร์ ซึ่งดำรงตำแหน่งเผด็จการมาช้านาน ต้องลงจากตำแหน่งในปี 2019 แต่การเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบประชาธิปไตยในช่วงสั้นๆ ต้องล้มเหลว เมื่อพลเอกบูร์ฮานและพลเอกดากาโล ก่อรัฐประหารในปี 2021 จากนั้น กองกำลัง RSF และกองทัพซูดานก็เริ่มสู้รบกันในปี 2023
กองกำลังของบูร์ฮาน รวมถึงกองทัพซูดานและกองกำลังติดอาวุธพันธมิตร ได้รุกคืบเข้าหากองกำลัง RSF ตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยสามารถยึดโรงกลั่นน้ำมันสำคัญทางตอนเหนือของกรุงคาร์ทูมคืนมาได้ จากนั้นจึงบุกโจมตีตำแหน่งของกองกำลัง RSF รอบๆ เมืองหลวง การสู้รบทำให้พลเรือนเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ RSF ก่อตั้งขึ้นในปี 2013 โดยมีจุดกำเนิดมาจากกลุ่มติดอาวุธ จันจาวีด (Janjaweed) ที่มีชื่อเสียงอื้อฉาวจากการปราบปรามกลุ่มกบฏในแคว้นดาร์ฟูร์อย่างโหดเหี้ยม นับแต่นั้น พลเอก ดากาโล ก็ได้สร้างกองกำลัง RSF อันทรงอิทธิพล และเข้าแทรกแซงความขัดแย้งในประเทศเพื่อนบ้านอย่าง เยเมน และลิเบีย รวมทั้งเข้าควบคุมเหมืองทองคำบางแห่งในซูดาน
RSF ถูกกล่าวหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งรวมถึงการสังหารหมู่ผู้ประท้วงมากกว่า 120 คนในเดือน มิ.ย 2019 การเป็นกองกำลังนอกกองทัพที่ทรงอิทธิพล ทำให้หลายฝ่ายมองว่า RSF เป็นต้นตอของความไร้เสถียรภาพในซูดาน.
ที่มา AP
นักวิจัยพบดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะขนาดเล็กจำนวน 4 ดวงห่างจากโลกไม่มากนัก และเป็นไปได้ว่า ดาวเคราะห์เหล่านี้อาจกลายเป็นเป้าหมายในภารกิจสำรวจดาวในอนาคต
เว็บไซต์ไลฟ์ไซแอนซ์เผยผลการศึกษาใหม่ว่า มีการค้นพบดาวเคราะห์คล้ายโลก 4 ดวง ซึ่งแต่ละดวงมีขนาดประมาณ 20-30% ของโลก กำลังโคจรอยู่ในระบบดาวเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เราที่สุด ดาวเคราะห์เหล่านี้อยู่ใกล้พอที่มนุษย์รุ่นต่อๆ ไปอาจสามารถเดินทางไปสำรวจและเยี่ยมชมได้ด้วยเทคโนโลยีในอนาคต อย่างไรก็ตาม ไม่น่าเป็นไปได้ที่จะพบสิ่งมีชีวิตใดๆ ที่นั่น
นักดาราศาสตร์สงสัยมานานแล้วว่ามีดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะอย่างน้อยหนึ่งดวงที่โคจรรอบดาวบาร์นาร์ด ซึ่งเป็นดาวแคระแดงที่มีมวลประมาณ 1 ใน 6 ของดวงอาทิตย์ โดยอยู่ห่างจากโลกราว 5.97 ปีแสง จึงถือเป็นดาวที่อยู่ใกล้ระบบสุริยะของเราเป็นอันดับที่ 4 รองจากดาวฤกษ์ 3 ดวงในระบบอัลฟาเซนทอรี
ภาพจำลองมุมมองจากพื้นผิวของดาวเคราะห์ 1 ใน 4 ที่โคจรรอบดาวบาร์นาร์ด
ในอดีต นักวิจัยสันนิษฐานว่า ดาวบาร์นาร์ดมีดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะที่เป็นมวลก๊าซขนาดใหญ่คล้ายกับดาวพฤหัสบดีโคจรไปรอบๆ ในลักษณะส่ายไปมา เนื่องจากดาวดวงนี้โคจรเข้าใกล้โลกแล้วก็ถอยห่างออกไปหลายครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีบางสิ่งบางอย่างดึงดูดดาวดังกล่าวไว้ด้วยแรงโน้มถ่วง เช่นเดียวกับที่ดวงจันทร์ดึงดูดโลกของเราและทำให้เกิดน้ำขึ้นน้ำลงบนโลก แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้แน่ชัด
ในกรณีศึกษาล่าสุดซึ่งเผยแพร่ออกมาเมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมาในจดหมายข่าว The Astrophysical Journal Letters ทีมวิจัยระบุว่าพวกเขาค้นพบว่า ลักษณะการโคจรแบบส่ายของระบบดาวบาร์นาร์ดนั้น ไม่ได้เกิดจากแรงดึงดูดของดาวเคราะห์ที่เป็นมวลก๊าซขนาดใหญ่ แต่เกิดจากแรงดึงดูดร่วมกันของดาวเคราะห์ขนาดเล็ก 4 ดวง ซึ่งแต่ละดวงมีมวลมากกว่าดาวพุธประมาณ 4 เท่า
ลักษณะการโคจรของดาวเคราะห์ทั้งสี่รอบดาวบาร์นาร์ด
“การค้นพบนี้น่าตื่นเต้นมาก” ริทวิก บาซันต์ หัวหน้าทีมวิจัย และนักศึกษาดุษฎีบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยชิคาโกกล่าวในแถลงการณ์ “ดาวบาร์นาร์ดเป็นเพื่อนบ้านในจักรวาลของเรา แต่เรากลับรู้เรื่องดาวดวงนี้ไม่มากนัก”
นักวิจัยระบุว่าดาวเคราะห์ดวงใหม่ทั้งสี่ที่เพิ่งค้นพบและยังไม่มีการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการนั้น “อยู่ใกล้ดาวฤกษ์ในระบบของพวกมันอย่างมากจนสามารถโคจรรอบดาวฤกษ์นั้นได้ภายในไม่กี่วัน…นั่นอาจหมายความว่าดาวเคราะห์เหล่านี้อาจร้อนเกินกว่าที่สิ่งมีชีวิตจะอยู่อาศัยได้”
นอกจากนี้ การค้นพบดาวเคราะห์ทั้งสี่นี้ยังตัดความเป็นไปได้ที่จะมีดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะอื่นๆ โคจรรอบดาวบาร์นาร์ดในระยะไกลพอที่จะเป็นดาวที่มีสภาพเอื้อให้สิ่งมีชีวิตอยู่อาศัยได้
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าระบบดาวนี้จะไม่มีสิ่งมีชีวิตตลอดไป แม้ว่าปัจจุบันเทคโนโลยีในปัจจุบันจะยังไม่สามารถทำให้มนุษย์เดินทางไปยังดาวเคราะห์ดังกล่าวได้ แต่มนุษย์รุ่นต่อๆ ไปอาจสามารถทำได้และไปตั้งอาณานิคมบนดาวเคราะห์เหล่านี้ได้โดยอาศัยเครื่องยนต์ขับเคลื่อนยานอวกาศด้วยพลังงานนิวเคลียร์ฟิวชันแบบใหม่ หรือระบบขับเคลื่อนด้วยใบเรือสุริยะที่อาศัยแรงดันจากแสงอาทิตย์
“อียูซัมมิต” ต้องบรรจุ “ทรัมป์” เป็นหนึ่งในประเด็นปัญหาที่เขย่าความมั่นคงของภูมิภาคยุโรป
เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 68 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บรรดาผู้นำชาติสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู เข้าร่วมประชุมสุดยอด หรือซัมมิต ด้านความมั่นคง ซึ่งจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของอียู กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น
รายงานข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุมได้หยิบยกประเด็นเรื่องการปรับโครงสร้างความมั่นคงใหม่ของภูมิภาคยุโรป เพื่อรองรับต่อนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ตีตัวออกห่างจากชาติในภูมิภาคยุโรป แต่หันไปฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัสเซีย ภายใต้การนำของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แทน พร้อมทั้งหาแนวทางแก้ไขอุปสรรคจากรัฐบาลฮังการี ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีวิกเตอร์ ออร์บาน ซึ่งมีแนวโน้มสนับสนุนรัสเซียอีกชาติหนึ่ง
ทั้งนี้ การหยิบยกประเด็นข้างต้นที่เกี่ยวกับประธานาธิบดีทรัมป์ มีขึ้นควบคู่ไปกับการหารือเรื่องการหามาตรการเพิ่มเติมในการกดดันต่อรัสเซีย เพื่อให้ยุติสงครามยูเครน รวมถึงแนวทางการช่วยเหลือยูเครน ซึ่งบรรดาผู้นำชาติยุโรป ให้คำมั่นว่า จะช่วยเหลือยูเครนในด้านการปกป้องอธิปไตย ดินแดน และระบอบประชาธิปไตยต่อไปอีกด้วย
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012