ข่าว
“ทรัมป์”ชมผู้นำจีนรักประเทศ กำลังจัดการปัญหาเกาหลีเหนือ

เมื่อ 28 เม.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์นักข่าวรอยเตอร์ ที่ห้องทำงานในทำเนียบขาว กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ถึงสถานการณ์ตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี และประเด็นอื่นๆ โดยผู้นำสหรัฐฯ ได้พูดชื่นชม ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ที่กำลังจัดการปัญหาเกาหลีเหนือ พร้อมกับเรียก สี จิ้นผิงว่า เป็นผู้ชายที่ดีมากๆ รักประเทศและรักประชาชนชาวจีน

บีบีซี ชี้ว่า หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ ชนะเลือกตั้งไม่นาน เขาได้ตำหนิจีนไม่พยายามมากพอที่จะหยุดยั้งการยั่วยุของทางการเกาหลีเหนือ และบอกว่าสหรัฐฯ พร้อมจะจัดการปัญหาเกาหลีเหนือเองลำพังถ้าหากจีนไม่ช่วยเหลือ ทว่าจากการให้สัมภาษณ์นักข่าวรอยเตอร์ จากห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวครั้งนี้ ทรัมป์ ซึ่งได้พบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งเดินทางไปเยือนสหรัฐฯ เมื่อต้นเดือนเมษายนนี้ กล่าวชมสี จิ้นผิง ที่รักประเทศและประชาชน เพราะไม่ต้องการเห็นสถานการณ์วุ่นวายและมีคนล้มตาย

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้บอกกับนักข่าวรอยเตอร์ว่า เขาอยากให้แก้ปัญหาวิกฤตการณ์เกาหลีเหนือโดยวิธีทางการทูต แต่มันเป็นเรื่อง ‘ยาก’ และมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ โดยผู้นำสหรัฐฯ ยังกล่าวถึง คิม จอง อึนว่า เป็นเรื่องยากมากๆ สำหรับคิม จอง อึนที่ต้องเข้ามารับตำแหน่งผู้นำเกาหลีเหนือ ตั้งแต่อายุยังน้อย เพียงแค่ 27 ปี หลังจากบิดา นายคิม จอง อิล ถึงแก่อสัญกรรม

บีบีซีรายงานด้วยว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของชาติสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะร่วมประชุมหารือถึงสถานการณ์ของเกาหลีเหนือ ในวันศุกร์ที่ 28 เม.ย. ตามเวลาท้องถิ่น โดยนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ได้กล่าวเมื่อวันที่ 27 เม.ย.ว่า รัฐบาลจีนได้เรียกร้องอีกครั้งไปยังทางการเกาหลีเหนือให้ยุติการทดสอบขีปนาวุธหรือระเบิดนิวเคลียร์ ขณะที่นายทิลเลอร์สัน ซึ่งจะนั่งเก้าอี้ประธานการประชุมของรมว.ต่างประเทศคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น คาดว่าจะล็อบบี้ใ้ห้ที่ประชุมดำเนินมาตรการคว่ำบาตรมากขึ้น เพื่อเป็นการกดดันเกาหลีเหนือมากกว่าเดิม

กสญ.เตือนคนไทย อย่าเข้าเขตสนามบิน บินไทยลุ้นเตรียมเข้าสหรัฐ”

กงสุลใหญ่แอลเอ. เตือนคนไทยอย่าเข้าไปใกล้เขตสนามบิน และด่านตรวจคนเข้าเมืองในสหรัฐฯ อาจถูกสุ่มจับจากเจ้าหน้าที่รัฐบาล พร้อมข่าวดี การบินไทยเตรียมบินเข้าสหรัฐฯ ปลายปีนี้หรือต้นปี 2561

เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 23 เมษายน 2560 เวลา 20.00 น. กงสุลใหญ่ ธานี แสงรัตน์ ได้เดินทางไปออกอากาศสด ที่สถานีวิทยุท้องถิ่น KALI 900 AM. เมือง PASADENA ในรายการวิทยุภาคภาษาไทย “เพลงพิมพ์ใจและข่าว” จัดและดำเนินรายการโดย เพ็ญพิมพ์ จิตรธร

กงสุลใหญ่ ธานี แสงรัตน์ เดินทางมารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2559 จนถึงปัจจุบันคือเดือนเมษายน 2560 เป็นเวลา 10 เดือนแล้ว ก็มีอะไรหลายเรื่องราวที่ ได้ร่วมทำกับชุมชนไทยและอยากจะมาแบ่งปันให้พี่น้องชาวไทยในสหรัฐฯ และที่เมืองไทยได้รับทราบ จะได้ช่วยเป็นหูเป็นตาดูแลกัน

ตั้งแต่รัฐบาล ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมพ์ เข้ามารับหน้าที่ สิ่งที่ห่วงกังวลของชุมชนไทยและชุมชนชาวต่างชาติในสหรัฐฯ มีคล้ายๆ กันเรื่องหนึ่งคือ การเข้าเมือง เรื่อง อิมมิเกรชั่น ซึ่งยังมีความเข้าใจผิด เป็นกังวลจนไปถึงเมืองไทยที่ว่าการดำเนินการตรวจค้นคนเข้าเมือง การกวดขันเรื่องใบเขียว สร้างความกังวลการว่า เจ้าหน้าที่จะตามไปตรวจจับที่บ้าน ที่ทำงาน หรือตามท้องถนนหรือไม่ ที่ได้แสดงออกทางสื่อมวลชนไทยพอสมควร

กงสุลใหญ่ ได้มีโอกาสเข้าไปคุย Home Land Security Department ซึ่งมี 3 หน่วยงานสำคัญ ที่มีหน้าที่ดูแลคนเข้าเมือง ตามด่านตรวจตามสนามบิน เขาไม่มีนโยบายที่จะไปตามจับกุมตามบ้าน ที่ทำงาน และตามถนน แต่ถ้ามีก็คือการได้รับแจ้งความ จึงจำเป็นที่จะต้องไปตรวจ จะไม่มีการไปตรวจแบบสุ่มสี่สุ่มห้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็มีเพียงไม่กี่ร้อย ที่จะต้องดูแลชาวต่างชาติที่อยู่ทั้งถูกและผิดกฎหมายจำนวนนับล้านคน สิ่งที่อยากจะเตือนก็คือ ให้หลีกเลี่ยงการไปสนามบินหรือช่องทางเข้าทางบกคือด่านตรวจตามเมืองต่างๆ อาทิเช่น แซนดิเอโก อริโซนา นิวเม็กซิโก และ เท็กซัส แม้จะไปไม่ถึงตัวด่านตรวจ แต่เขามีเจ้าหน้าที่คอยสุ่มตรวจ และมีคนไทยถูกจับมาแล้ว

อีกเรื่องที่อยากจะฝากบอกถึงพี่น้องคนไทยและผู้ประกอบการทัวร์ มาท่องเที่ยวในอเมริกา โดยเฉพาะที่ แซนฟรานซิสโก จะมีการฉกชิงวิ่งราวทุบรถ ขโมยข้าวของทรัพย์สิน ซึ่งมีผู้ร้องเรียนมายังสถานกงสุลใหญ่มากที่สุด บริษัททัวร์ควรจะเตือนลูกทัวร์ให้ทั่วถึงกัน

นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องฟุตบอล THAI SOCCER LEAGUE USA. 2017 ซึ่งขณะนี้มีแล้ว 6 ทีม อยากให้ชุมชนในแต่ละรัฐทั่วอเมริกา นำทีมมาสมัครร่วมกันหลายๆรัฐ ซึ่งเมื่อวันเสาร์ที่ 22 เมษายน 2560 ได้เริ่มแข่งขันเป็นครั้งแรก ระหว่างทีม North Hollywood FC กับ ทีม(บัวแก้ว) Bua Keaw LA. FC.(ทีมน้องใหม่) ผลการแข่งขันคือ เสมอกัน 1 ต่อ 1

ส่วนงานกีฬาประเพณี ระหว่าง แอลเอ. กับ แซนฟรานซิสโกนั้น สมาคมไทยฯ จะจัดงานระดมทุนช่วยเหลือกีฬาประเพณี ในวันที่ 30 เมษายน 2560 นี้ ส่วนวันแข่งขันจริง ฟุตบอลประเพณีคือ 28 พฤษภาคม 2560

ต่อจากงาน “ฟุตบอล” ก็มีการจัด “ครัวไทยสู่ครัวโลก” เริ่ม 2-4 พฤษภาคม 2560 เป็นเวลา 3 วัน วันแรกจะเป็นแบบไทยแท้ ซึ่งผู้สนใจ พ่อครัว แม่บ้าน ก็สมัครและสอบถามไปได้ที่ (323) 962-9 574 ต่อ 208

ต่อไปเป็นเรื่อง “ Plan For Dad 2” “ ปลูกต้นไม้เพื่อพ่อครั้งที่ 2 ” ในวันที่ 13 พฤษภาคม 2560 จะปลูกเพิ่มอีก 4 ต้น ในไทยทาวน์ และกลับไปตรวจดูต้นเก่า ที่เคยปลูกไว้แล้วด้วย

และระหว่างวันที่ 17 - 19 พฤษภาคม 2560 ก็จะมีจัดที่ แซนฟรานฯ อบรมระดมการนวด 2 หลักสูตร คือการนวดขั้นพื้นฐาน และนวดรักษา

ที่ แอลเอ.จัดเป็น 2 ช่วงๆแรก ระหว่างวันที่ 22 - 24 พฤษภาคม และช่วงที่ 2 ระหว่างวันที่ 25 – 27 พฤษภาคม 2560 จัดที่โรงเรียนนวด ทั้ง 2 วัน ผู้สนใจสอบถามได้ที่ (949) 524-2555

เสร็จจากการอบรมนวดแล้ว กงสุลใหญ่ก็ได้นำทีมเข้าพบผู้ว่าการรัฐ โอริกอน KATE BROWN ซึ่งจะร่วมกันนำนักธุรกิจ ไปเยือนประเทศไทย เพื่อไปร่วมการประชุม ASEAN SUSTAINABLE WEEK นักธุรกิจ นักลงทุนด้านพลังงาน มีผู้ผลิตรถ 3 ล้อไฟฟ้า ตามที่นายกรัฐมนตรีต้องการให้รถตุ๊กตุ๊ก 3 ล้อไทย ใช้ไฟฟ้าร่วมไปด้วย และยังอยู่ร่วมกับโครงการนำเยาวชนไทยในสหรัฐฯ เยือนแผ่นดินแม่ครั้งที่ 11 ระหว่างวันที่ 1-16 กรกฎาคม 2560 กงสุลใหญ่ฯ นำชาวคณะเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาในวันที่ 4 กรกฎาคม 2560 ที่ทำเนียบรัฐบาล พร้อมเสนอให้รัฐบาลช่วยให้การสนับสนุนงาน ไทยนิวเยียร์ ในปี 2561

ส่วนงานใหญ่ที่กำลังถวายอยู่ในระหว่างประชุมคือ การสร้างพระเมรุ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และช่วงวันเพื่อถวายพระเพลิง อาจเป็นสัปดาห์สุดท้ายของเดือนตุลาคม และข่าวดีที่จะทำให้คนไทยภาคภูมิใจอีกครั้งคือ การกลับมาของการบินไทย ที่จะบินเข้าสหรัฐฯ อีกครั้งภายในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2561 ซึ่งขณะนี้การเจรจาใกล้จบสิ้นลงแล้ว

ส่วนเรื่องความกังวลในการเตรียมความพร้อม หากเกิดความรุนแรงระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯนั้น ได้เตรียมวางแผนการอพยพไว้ช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยและต่างชาติไว้แล้ว

แต่กงสุลใหญ่ เชื่อว่าคงไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น ไทยเป็นมิตรกับทุกประเทศ เชิญติดตามรับฟังข่าวสารการเมือง สัมภาษณ์บุคคลที่น่าสนใจและเพลงไทยไพเราะได้ ในรายการวิทยุภาคภาษาไทย “เพลงพิมพ์ใจและข่าว” ได้ทุกวันอาทิตย์ ในเวลา 2 ทุ่มทางสถานี KALI หรือ TUNE IN ที่ RADIO KALI 900 AM. และติดต่อสอบถามได้ที่ เพ็ญพิมพ์ จิตร ธร (323) 255-6848.


รวบทอมรับโอนเงินจาก “ดร.สวัสดิ์” อ้างเป็นเงินรับแทงพนันออนไลน์

วันนี้ (27 เม.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. เรียกประชุมคณะทำงานเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีที่ รศ.ดร.สวัสดิ์ แสงบางปลา อดีตประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาฉ้อโกงประชาชน หลังหลอกลวงเพื่อนอาจารย์ และอดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยดังกล่าว ให้นำเงินไปร่วมลงทุนในสหกรณ์ลอตเตอรี่จนเกิดความเสียหายกว่า 443 ล้านบาท

ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัว น.ส.เมธวัชร์ หรือ พชกร คนมั่น อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1034/2560 ลงวันที่ 27 เมษายน 2560 ข้อหาโอน รับโอน หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด หรือกระทำด้วยประการใดๆ เพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้น หรือกระทำการใดๆ เพื่อปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริงของการได้มาซึ่งทรัพย์สินที่มาจากการกระทำความผิดมูลฐานความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน โดยร่วมกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป และกระทำผิดฐานฟอกเงินโดยมีการสมคบกัน โดยจับกุมตัวได้ที่ จ.เชียงใหม่ ภายหลังพบว่าเป็นผู้ที่ได้รับการโอนเงินจาก รศ.ดร.สวัสดิ์

พ.ต.อ.ชาคริต กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2553 จนถึงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา รศ.ดร.สวัสดิ์ ได้อาศัยความเป็นประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำกัด หลอกลวงสมาชิกสหกรณ์ฯ และผู้ถือหุ้น ให้มาร่วมลงทุนสหกรณ์ลอตเตอรี่ โดยมี สมาชิกสหกรณ์ฯ หลงเชื่อ นำเงินมาลงทุน ซึ่งได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ป. รวม 63 ราย รวมมูลค่าเสียหายกว่า 443 ล้านบาท โดยพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ รศ.ดร.สวัสดิ์ ฐานฉ้อโกงประชาชน

พ.ต.อ.ชาคริต กล่าวต่อว่า ในส่วนของ น.ส.พชกร มีหลักฐานว่า ตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปี 2559 ได้มีการรับโอนเงินจาก รศ.ดร.สวัสดิ์ หลายครั้ง มีมูลค่ารวมกว่า 62 ล้านบาท ในลักษณะของการรับโอนทรัพย์สินเพื่อปกปิดการกระทำความผิดของ รศ.ดร.สวัสดิ์ เป็นความผิดฐานฟอกเงิน

สอบสวน น.ส.พชกร ให้การปฏิเสธว่า เงินที่ รศ.ดร.สวัสดิ์ โอนมาให้นั้นเป็นเงินที่ใช้ในการเล่นการพนันบาคาร่าออนไลน์ ครั้งละประมาณ 1 - 2 แสนบาท นับตั้งแต่ปี 2553 แต่ไม่ได้โอนมาเล่นพนันทุกวัน บางครั้งก็หายไปนานกว่า 2 เดือน ส่วนเงินที่เล่นพนันไปทั้งหมดน่าจะอยู่ประมาณ 20 ล้านบาท ที่ผ่านมา ตนก็ไม่ได้สนิทสนมหรือเคยเดินทาง หรือไปไหนมาไหนกับ รศ.ดร.สวัสดิ์ โดยตลอดระยะเวลาที่รู้จักกันมาประมาณ 10 ปี เคยพบกันแค่ 4 ครั้งเท่านั้น ส่วนที่มีการติดต่อกับ รศ.ดร.สวัสดิ์ เป็นเพราะได้รู้จักกันผ่าน น.ส.จิ๋ว เพื่อนของเพื่อนแฟนตนอีกที

น.ส.พชกร ให้การอีกว่า ครั้งแรกที่รู้จักกัน คือ เมื่อครั้งที่เดินทางไป จ.เชียงใหม่ ประมาณ 10 กว่าปีก่อน ตอนนั้นตนกับแฟนและเพื่อน ไปทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ก่อนที่เพื่อนของเพื่อนจะแนะนำให้รู้จัก รศ.ดร.สวัสดิ์ ซึ่งมารับประทานอาหารที่ร้านดังกล่าวอยู่ และได้นัดหมายกับหญิงสาวอายุประมาณ 27 ปี ซึ่งตนไม่ทราบสถานะของหญิงสาวคนดังกล่าวกับ รศ.ดร.สวัสดิ์ ว่าเป็นอะไรกัน สำหรับการเล่นการพนันที่ผ่านมา ตนจะทำหน้าที่เป็นแค่คนกลางที่โอนเงินเล่นพนันให้ แล้วได้ค่าตอบแทน 0.8% ของเงินที่แทงพนันเท่านั้น ยืนยันว่าได้โอนเงินไปหมดแล้ว

น.ส.พชกร ให้การด้วยว่า ขณะนี้ไม่มีเงินเหลืออยู่ที่ตนแต่อย่างใด เวลานี้ก็ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร แค่ขายเสื้อผ้าทางออนไลน์ ส่วนเว็บไซต์แทงพนันดังกล่าวได้รับการแนะนำจากเพื่อนอีกทอดหนึ่ง ที่ผ่านมา รศ.ดร.สวัสดิ์ ก็จะเล่นพนันได้บ้าง เสียบ้าง สลับกันไป

พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวอีกว่า ในส่วนของการติดตามเงินจำนวนกว่า 443 ล้านบาท นั้น ขณะนี้สามารถตรวจสอบและติดตามพบเส้นทางการเงินในจำนวนกว่า 60 ล้านบาท ที่พบว่ามีการโอนให้กับ น.ส.เมธวัชร์ ผู้ต้องหารายที่ 2 ในคดีนี้ที่สามารถจับกุมตัวได้แล้ว ทั้งนี้ จะมีการประสานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อพิจารณายึดทรัพย์สินจากการกระทำความผิด และช่วยติดตามเส้นทางการเงินที่มีการหลอกลวงไปจากผู้เสียหาย


นายกฯยันเศรษฐกิจไทยดีขึ้น แนะอย่าไปเชื่อคนโจมตีรบ.

เมื่อวันที่ 28 เมษายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ตอนหนึ่งว่า วันนี้เราพูดได้ว่าเศรษฐกิจไทยดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถ้าลองมองย้อนกลับไป ปี 2557 เศรษฐกิจไทยเติบโตได้เพียงร้อยละ 0.8 และปรับดีขึ้นต่อเนื่องเป็นร้อยละ 2.8 ในปี 2558 และ 3.2 ในปี 2559 ที่ผ่านมา ในปีนี้หากโครงการต่างๆ คืบหน้าไปตามแผนที่วางไว้ เศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวได้เพิ่มขึ้นอีก ที่ประมาณร้อยละ 3.5 เป็นการค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น จากปัญหาความไม่แน่นอนต่างๆ ของประเทศและภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกในช่วงที่ผ่านมาอย่างชัดเจน แม้จะยังไม่ได้กลับมาขยายตัวสูงเท่ากับในอดีต แต่ก็สะท้อนว่าเรายังมีโอกาสจะฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพ และยังน่าจะเติบโตได้ต่อเนื่องในวันข้างหน้า หากเราค่อยๆ ช่วยกัน ฟิตร่างกาย และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สำหรับเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเศรษฐกิจยังขยายตัวได้ดี เราได้เห็นการส่งออกยังขยายตัวต่อเนื่อง และเริ่มขยายตัวมากขึ้นในหลายหมวดสินค้า มีมูลค่าสูงกว่า 7 แสนล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตกว่าร้อยละ 10 สูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ รายได้เกษตรกรในเดือนมีนาคมปีนี้เมื่อเทียบกับปีก่อน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 30 จากทั้งผลผลิตและราคาสินค้าเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้รายได้ครัวเรือนและความเชื่อมั่นปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องด้วย

“ทั้งหมดนี้ส่งผลดีต่อการบริโภคภายในประเทศ โดยเฉพาะการตัดสินใจซื้อสินค้าคงทน มีราคาสูง เช่น รถยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ซบเซามาเป็นเวลานาน สำหรับการค้าขายของภาคธุรกิจ มีการขอจดทะเบียนธุรกิจเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 10 สะท้อนว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้น เอกชนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น หากเราต้องการจะกลับไปโตได้ในอัตราสูงๆ แบบเดิม เราจะต้องเร่งให้เกิดการปฏิรูปเศรษฐกิจ รัฐบาลนี้ได้เริ่มขับเคลื่อนไปบ้างแล้ว แต่ต้องเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ภายใต้ความพยายามเหล่านี้ ที่ผ่านมาก็อาจจะมีหลายพวกหลายฝ่าย พยายามจะโจมตีรัฐบาล บอกว่าเศรษฐกิจดีขึ้นต่อเนื่องนั้น คนในระดับฐานรากยังไม่ได้รับผลโดยตรง ไม่ถึงพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริงบ้าง เอื้อประโยชน์กลุ่มทุนรายใหญ่บ้าง ล้วนเป็นการสร้างความขัดแย้ง ทำลายบรรยากาศการค้าการลงทุนในประเทศที่กำลังค่อยๆ ไปได้ดี รัฐบาลและเอกชนหลายฝ่ายกำลังพยายามสร้างอยู่” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว และว่า รัฐบาลได้ตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้ดี รับทราบ กำลังดำเนินการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง แล้วก็จะเร่งรัดดำเนินการภายในปีนี้ให้ได้ต่อไป

“ช่วงนี้อากาศก็ร้อนพออยู่แล้ว ผมไม่อยากให้เอาความรู้สึกเป็นที่ตั้ง จนต้องทำให้เราต้องร้อนใจไปด้วย ผมก็อยากให้ลองมองความพยายามของรัฐบาลที่จะช่วยเหลือประชาชน ทั้งในส่วนฐานราก และในภาพรวมของประเทศ เราได้ดำเนินการมาตลอดเวลาเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว


ออกหมายจับ ‘บอส อยู่วิทยา’ ขออังกฤษ ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน

วันที่ 27 เม.ย.60 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ร.ท.สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกฯ และนายอำนาจ โชติชัย อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ แถลงว่า ในคดีที่ สน.ทองหล่อ คดีนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ผู้ต้องหาคดีขับรถยนต์โดยประมาททำให้ตำรวจผู้ขับขี่จักรยานยนต์เสียชีวิตและข้อหาอื่นๆ ซึ่งผู้ต้องหาร้องขอความเป็นธรรมและขอเลื่อนการเข้าพบพนักงานสอบสวนอ้างว่าติดภารกิจที่อังกฤษ อัยการอนุญาตให้เลื่อนไปวันที่ 27 เมษายน 2560 ร.ต.ท.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑบริภาร อัยการสูงสุด เห็นว่าคดีอยู่ในความสนใจของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง ประกอบกับพนักงานอัยการได้พิจารณาให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องหาตลอดมา และเป็นเวลาเนิ่นนานแล้ว หากการพิจารณาสั่งคดียังล่าช้าต่อไปอีกอาจเกิดความเสียหายแก่คดี และเป็นที่เคลือบแคลงต่อสังคม ซึ่งจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานอัยการสูงสุดได้

กรณีนี้จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้การพิจารณาเหตุร้องขอความเป็นธรรมของผู้ต้องหาแล้วเสร็จไปโดยเร็ว อัยการสูงสุดจึงมีคำสั่งให้สำนักงานคดีกิจการอัยการสูงสุดส่งสำนวนพร้อมเอกสารทั้งหมดให้อัยการสูงสุดพิจารณาโดยด่วน นอกจากนี้ผู้ต้องหายังยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด ฉบับลงวันที่ 6 มีนาคม 2560 อ้างว่าตนเองไม่ได้ขับรถโดยประมาท พร้อมกับอ้างคำให้การของพยานผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งได้จากการสอบสวนเพิ่มเติม และอ้างรายงานการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ประกอบคำร้องขอความเป็นธรรมมา และขอให้พิจารณาสั่งไม่ฟ้องตน

อัยการสูงสุดเห็นว่า เนื่องจากคดีนี้ความผิดบางข้อหา (หลบหนีไม่แจ้งเหตุ) จะขาดอายุความในวันที่ 3 กันยายน 2560 จึงอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. 2553 มาตรา 15 สั่งคดีว่าให้ยุติเรื่องร้องขอความเป็นธรรมเพราะพยานความเห็นของพยานผู้เชี่ยวชาญที่อ้างมานั้น ไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานเดิม แล้วให้แจ้งพนักงานสอบสวนไปจัดการให้ได้ตัวมาฟ้อง คือไปร้องศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับ ตามกฎหมาย ป.วิอาญา มาตรา 141 วรรคท้าย ถ้าตัวอยู่ในต่างประเทศ ให้ไปขอตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาฟ้องต่อศาลภายในอายุความ วันที่ 3 ก.ย.2560

ร.ท.สมนึก กล่าวว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2560 เวลาประมาณ 16.00 น. ผู้ต้องหาได้มอบอำนาจให้นายธนิต บัวเขียว ทนายความผู้รับมอบอำนาจมาขอเลื่อนคดี โดยอ้างมีความจำเป็นเร่งด่วนในการเดินทางเพื่อไปจัดการธุรกิจในประเทศต่างๆ ซึ่งนายสุทธิ กิตติศุภพร อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ พิจารณาแล้วไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี เนื่องจากผู้ต้องหาขอเลื่อนในลักษณะนี้หลายครั้งอย่างต่อเนื่อง โดยให้ผู้ต้องหามาพบพนักงานอัยการตามกำหนดนัด หากไม่มาถือว่ามีเจตนาประวิงคดีและหลบหนี และจะดำเนินการขอศาลออกหมายจับต่อไป ซึ่งทนายความผู้รับมอบอำนาจได้รับทราบคำสั่งแล้ว

"หากพนักงานสอบสวนไปขอหมายจับศาล แล้วหากผู้ต้องหามาร้องขอคัดค้านหมายจับ และหากศาลให้ไต่สวนการขอหมายจับ อัยการก็จะส่งอัยการเจ้าของสำนวนไปเบิกความและมีพยานเอกสารเกี่ยวกับการขอเลื่อนนัดหลายครั้ง เราเตรียมการรอไว้แล้ว" ร.ท.สมนึกกล่าว และว่า ในวันเดียวกันนี้ก็ได้สอบถามอัยการเจ้าของสำนวนแล้วว่าจนบัดนี้นายบอสยังไม่มีวี่แววว่าจะมา จึงให้เตรียมเรื่องขอหมายจับไว้ได้เลย

นายประยุทธ เพชรคุณ กล่าวว่า คดีนี้ยืนยันว่าอายุความในข้อหาบทหนักยังไม่ขาด คือข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย อายุความ 15 ปี ส่วนข้อหาหลบหนี อายุความขาดวันที่ 3 ก.ย.60 ส่วนอีกสองข้อหาเล็กน้อยโทษปรับเพียง 1 พันบาท อายุความขาดไปแล้ว แต่ไม่ใช่ปัญหา ถ้าได้ตัวมาอัยการเอาตัวฟ้องศาลได้ทันที คดีนี้เป็นคดีประมาท ไม่มีเจตนาฆ่า หากผู้ต้องหาแสดงข้อเท็จจริงให้ปรากฏต่อศาลว่าได้ดูแลเยียวยาฝ่ายผู้เสียหายอย่างดี ก็นับว่าเป็นเหตุที่อาจจะได้รับการบรรเทาผลร้ายและเป็นประโยชน์ต่อผู้ต้องหาทั้งสิ้น จึงฝากบอกนายบอสด้วย

ด้าน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ถามว่า มีข้อมูลว่านายบอสสบโอกาสที่ได้เลื่อนคดีไปมา ทำให้ไปใช้ประโยชน์จากเวลาดังกล่าวเพื่อไปขอสัญชาติเป็นคนอังกฤษ และทำไมคดีทั่วไป ไม่ได้รับอนุญาตให้เลื่อนคดียาวนานเช่นนี้ นายประยุทธกล่าวว่า เป็นเพียงการคาดเดา แต่ก็มีหลายคดีที่ผู้ต้องหามักทำกัน ก็อาจเป็นเงื่อนไขทำให้ขอตัวมาฟ้องคดีมากขึ้น แต่ไม่เกินความสามารถของอัยการ ส่วนความล่าช้าในกระบวนการสั่งคดีร้องขอความเป็นธรรม เป็นขั้นตอนที่ชาวบ้านคนใดก็ขอได้

ขณะที่ นายอำนาจ โชติชัย กล่าวว่า ไทยกับอังกฤษมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อัยการ และกระทรวงต่างประเทศจะส่งเอกสารให้ทางอังกฤษโดยเร็ว เพราะสืบทราบว่าขณะนี้ตัวอยู่ในอังกฤษ และมีขั้นตอนว่า คดีที่เราขอตัวมานั้นต้องไม่เป็นคดีการเมือง และมีสำนวนการสอบสวน มีหมายจับศาล ก็เพียงพอที่จะขอได้ ซึ่งเป็นเรื่องต่างตอบแทนที่ไทยอังกฤษทำมาตลอด และเขาส่งผู้ร้ายข้ามแดนมาหลายคดีแล้ว.

หมอโดนลากลงจากเครื่องบิน ชนะข้อตกลงได้เงินชดเชยแล้ว

เมื่อ 28 เม.ย.60 สำนักข่าวบีบีซี รายงาน ในที่สุด นายแพทย์ เดวิด ด๋าว ชายชาวอเมริกัน วัย 69 ปี ในรัฐเคนทักกี ได้เป็นฝ่ายชนะในข้อตกลง เรียกร้องเงินค่าเสียหายจาก สายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส จากเหตุการณ์สุดช็อก เมื่อเขาโดนเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยมาลากตัวลงไปจากเครื่องบินโดยสารของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน 3411 จากชิคาโก ไปยังเมืองหลุยส์วิลล์ รัฐเคนทักกี หลังจากเขาเป็นหนึ่งใน 4 ของผู้โดยสารที่ถูกสุ่มให้ลงจากเครื่องบิน เพราะต้องสละที่นั่งให้แก่เจ้าหน้าที่สายการบิน 4 คนที่ต้องไปปฏิบัติงานในรัฐเคนทักกี เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายน ที่ผ่านมา จนทำให้ทางสายการบินโดนวิจารณ์ลั่นโลก และเสียภาพลักษณ์อย่างหนัก หลังจากชาวเน็ตได้เห็นคลิปวิดีโอสุดตะลึง ที่ถูกนำมาเผยแพร่บนโลกออนไลน์

ด้านนายโทมัส ดีเมนทริโอ ทนายความของนายแพทย์ด๋าว กล่าวว่า จำนวนเงินค่าเสียหายที่ลูกความของเขา ได้รับจากสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์สในครั้งนี้ ยังเป็นเรื่องที่ต้องเก็บเป็น‘ความลับ’ ขณะที่นายออสการ์ มูนอซ ประธานผู้บริหารของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส พูดว่า เขากำลังทำในเรื่องสิ่งที่ถูกต้อง และเขามีในเรื่องนี้

บีบีซีแจ้งว่า เหตุการณ์ที่นายแพทย์ด๋าว ชาวอเมริกัน เชื้ยสายเวียดนาม โดนเจ้าหน้าที่ทำร้ายร่างกาย กระชากให้ลุกจากที่นั่ง ก่อนลากลงไปจากเครื่องบิน ทำให้สมองของเขากระทบกระเทือน จมูกหักและฟันหน้าหัก 2 ซี่ โดยทนายความยังบอกด้วยว่า ลูกความของเขา บอกว่าเหตุร้ายที่เกิดกับเขา ถือเป็นเรื่องที่น่ากลัวและบาดใจเขามากกว่าประสบการณ์ที่เขาเคยได้รับสมัยเกิดสงครามเวียดนามที่บ้านเกิดเสียอีก