ข่าว
ชาวเน็ตชมสาวจิตอาสา กระโดดขึ้นคร่อมยื้อชีวิต

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “JANNY PEERAYA” ได้โพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์สุดระทึก เมื่อกู้ภัยสาวชื่อ “น้องแจน” ขณะกระโดดขึ้นเปลผู้ป่วยปั๊มหัวใจ (CPR) ให้กับชายหมดสติ แม้จะใส่กระโปรง ขณะกำลังเคลื่อนย้ายผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล ซึ่งชายรายนี้เป็นผู้ประสบเหตุเพลิงไหม้ชุมชนถนนจันทร์ เขต บางคอแหลม เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา สุดท้ายผู้ป่วยได้เสียชีวิตลง ทั้งนี้ผู้โพสต์ได้ระบุข้อความว่า

“เหตุเพลิงไหม้จันทน์ 51 แยก 12 ผู้ป่วยหมดสติ ทีมแพทย์โรงพยาบาลเจริญกรุงยืนยันเสียชีวิต เสียใจด้วยนะค่ะ ขอเต็มที่กับสิ่งที่หนูช่วยได้ ขออภัยสำหรับท่า”

หลังจากที่เผยแพร่คลิปวิดีโอไป ชาวโซเชียลฯ ต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์มีท่าทางไม่เหมาะสม แต่ตนได้ออกมาขออภัยในเรื่องท่าการปั๊มหัวใจ และคิดว่าการใช้ชีวิตคนอื่นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด อย่างไรก็ตาม ได้มีชาวเน็ตอีกจำนวนมากที่เข้ามาชื่นชมการกระทำของน้องแจน ที่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือผู้ป่วยจนมองข้ามเรื่องชุดที่ใส่ไป

ทั้งนี้ ความสำคัญของการทำ CPR อยู่ที่การปั๊มหัวใจที่ต้องทำให้ถูกต้อง และทันเวลา เพราะหากสมองขาดออกซิเจนไปเกิน 4 นาที สมองอาจเสียหายได้ เราสามารถเข้าไปทำ CPR ให้แก่ผู้ป่วยที่หมดสติ ลมหายใจอ่อนหรือหยุดหายใจ หัวใจใกล้หยุดเต้น หรือหยุดเต้นไปแล้ว เช่น จมน้ำ หัวใจวาย สำลักควันไฟจากที่ที่เกิดไฟไหม้ อุบัติเหตุต่างๆ

เด้งอีก รอง ผกก.-รองสารวัตร เค้นชุดสอบสวนหวย 30 ล้าน

จากกรณี พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะปฏิบัติราชการแทน ผบ.ตร. และผอ.ศปก.ตร. ลงนามในคำสั่ง ศปก.ตร.ที่ 10/2561 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ ศปก.ตร. สรุปว่าหลังจากโอนสำนวนการสอบสวนคดีที่ ร.ต.ท.จรูญ วิมล และนายปรีชา ใคร่ครวญ เกี่ยวกับคดีหวย 30 ล้านบาท เพื่อให้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามทำการสอบสวนฝ่ายเดียว เนื่องจากคณะพนักงานสอบมีความจำเป็นต้องรวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิดเพื่อหาข้อเท็จจริงและพิสูจน์ให้เห็นความผิด ดังนั้น เพื่อให้การสืบสวนเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะปฏิบัติราชการการแทน ผบ.ตร. และ ผอ.ศปก.ตร. จึงให้ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร. โดยให้ขาดจากต้นสังกัด เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ ผอ.ศปก.ตร.มอบหมาย โดยให้ไปรายงานตัวกับพล.ต.ท.สุรพล พินิจชอบ ผบช.ประจำสำนักงาน ผบ.ตร. ในวันที่ 22 ก.พ. 2561 เวลา 14.00 น. ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะแล้วเสร็จ ขณะที่วานนี้ตำรวจกองปราบปรามได้เชิญตัวนางดุษดี หรือกุ้ง เจ้าหน้าที่ศาลมาสอบปากคำ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

วันนี้ (23 ก.พ.) ที่กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศตลอดทั้งวันที่ผ่านมาได้มีสื่อมวลชนจากหลายสำนักต่างเดินทางมาเกาะติดเฝ้ารอทำข่าวความคืบหน้ากรณีหวย 30 ล้าน

มีรายงานว่า หลังจากวานนี้ทางตำรวจกองปราบปรามได้เชิญตัวนางดุษดี หรือกุ้ง เจ้าหน้าที่ศาล มาสอบปากคำ โดยตำรวจได้ใช้เวลาในการสอบปากคำนานกว่า 7-8 ชั่วโมง กระทั่งเวลาประมาณ 23.00 น.ของคืนวันที่ 22 ก.พ. นางดุษดี หรือกุ้ง ก็ได้เดินลงมาจากห้องสอบปากคำที่อาคาร 2 ภายในกองปราบปราม โดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าว

สาเหตุที่ตำรวจกองปราบปรามได้เชิญตัวนางดุษดี หรือกุ้ง มาสอบปากคำนั้น เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงในบางประเด็นที่ขัดแย้งต่อหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และข้อมูลทางการสอบสวนที่ตำรวจกองปราบปรามพบ โดยเฉพาะประเด็นที่ทางตำรวจภูธรภาค 7 ได้ระบุในสำนวนว่าเจ๊กุ้งเป็นผู้เห็นลอตเตอรี่เลขท้าย 726 โผล่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อครูปรีชา ทำให้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามต้องนำตัวมาสอบปากคำว่าสอดคล้องกับสำนวนเดิมหรือไม่

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าในการสอบปากคำนางดุษดี หรือกุ้ง ได้ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และให้การต่างจากในสำนวนของตำรวจภูธรภาค 7 โดยเฉพาะในประเด็นเห็นลอตเตอรี่เลขท้าย 726 โผล่ออกมาจากกระเป๋าเสื้อครูปรีชา ซึ่งนางดุษดีให้การว่าเห็นครูปรีชาซื้อลอตเตอรี่บนแผงที่มีเลข 26 จึงขอแบ่งซื้อ แต่ไม่ได้เห็นเลข 726 ในกระเป๋าเสื้อครูปรีชา ซึ่งนางกุ้งเองแปลกใจว่าในสำนวนของตำรวจกาญจนบุรีระบุเช่นนี้ได้อย่างไร

นอกจากนี้ ในสำนวนของตำรวจภูธรภาค 7 ระบุว่า นางดุษดี หรือกุ้ง ไปตลาดเรดซิตี้วันอังคารที่ 31 ตุลาคม แต่นางดุษดีระบุว่าไปที่ตลาดดังกล่าวในวันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม สอดคล้องกับการที่มีพยานเห็นเจ๊กุ้งสวมใส่ชุดผ้าไทย และตรงกับข้อมูลที่ทำงานต้นสังกัดมีนโยบายให้เจ้าหน้าที่ใส่ชุดผ้าไทยทุกวันศุกร์ จึงเชื่อได้ว่า เจ๊กุ้งและครูปรีชาเจอกันที่ตลาดเรดซิตี้วันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม ไม่ใช่วันที่ 31 ตุลาคมตามที่ให้การ

มีรายงานว่า สำหรับสำนวนที่กองปราบปรามทำขณะนี้มี 2 คดี ได้แก่ 1. คดีที่ครูปรีชา ใคร่ครวญ แจ้งความดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์ต่อ ร.ต.ท.จรูญ กับ 2. คดีที่ ร.ต.ท.จรูญแจ้งความดำเนินคดีต่อครูปรีชาในข้อหาแจ้งความเท็จ เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับโทษทางอาญา โดยในส่วนของสำนวนคดีที่ 1 นั้น ตำรวจภูธรภาค7 รวบรวมหลักฐานประกอบทำสำนวนไว้เสร็จแล้ว คงเหลือแต่สำนวนคดีที่ 2 ที่ยังไม่คลี่คลายในข้อเท็จจริง ซึ่งทางตำรวจกองปราบปรามอยู่ระหว่างการเร่งสอบปากคำและรวมรวมหลักฐานให้สำนวนแล้วเสร็จและสมบูรณ์ ก่อนจะแถลงความคืบหน้าคดีในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.เดชา กัลยาวุฒิพงศ์ รอง ผบก.ปฏิบัติหน้าที่แทน ผบก.ทพ. มีหนังสือบันทึกข้อความด่วนที่สุดจากกองทะเบียนพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 0009232/960 ลงวันที่ 22 ก.พ. เรื่องให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการในสังกัด ตร. ผ่านเรียน ผบช.ภ.7 และผบช.ก. มีใจความว่า ด้วย ตร. มีบันทึกลงวันที่ 22 ก.พ. 61 อนุมัติให้ พ.ต.ท.ชูวิทย์ เจริญนาค รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี และ ร.ต.อ.จิรยุทธ์ ชัชรินทร์กุล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี ปฏิบัติราชการที่ บก.ป. โดยขาดจากตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ ผบก.ป.มอบหมาย นับตั้งแต่ 22 ก.พ. 61 เป็นต้นไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ต่อมาทาง สภ.เมืองกาญจนบุรี ต้นสังกัดของนายตำรวจทั้งสองได้มีหนังสือด่วนที่สุดที่ 0022 (กจ.) 34/1489 ลงวันที่ 23 ก.พ. ลงนามโดย พ.ต.อ.ทศพร ปทุมยา ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี เรื่องส่งตัวข้าราชการตำรวจ เรียนผ่าน ผบก.ป. ใจความว่า ตามที่ ตร.มีบันทึกลงวันที่ 22 ก.พ. 61 อนุมัติให้ พ.ต.ท.ชูวิทย์ เจริญนาค ตำแหน่งรอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี ตำแหน่งเลขที่ สกต.236 ไปปฏิบัติราชการที่ บก.ป.โดยขาดจากตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ ผบก.ป.มอบหมาย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ. 61 เป็นต้นไปนั้น สภ.เมืองกาญจนบุรี ขอส่งตัว พ.ต.ท.ชูวิทย์ เจริญนาค ตำแหน่งรอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี เดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ตามที่ ตร.สั่งการ โดยให้เดินทางจาก สภ.เมืองกาญจนบุรี ตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ. 61 เวลา 11.00 น. เมื่อรับตัวไว้ปฏิบัติหน้าที่แล้วโปรดแจ้งให้ทราบด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่าสาเหตุของการย้ายนายตำรวจทั้งสองนาย คือ พ.ต.ท.ชูวิทย์ เจริญนาค รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี และ ร.ต.อ.จิรยุทธ์ ชัชรินทร์กุล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี ปฏิบัติราชการที่ บก.ป. นั้น เนื่องจาก ร.ต.อ.จิรายุทธ์ เป็นพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบสำนวนคดีหวยอลเวง อีกทั้งชุดสืบสวนของกองปราบปรามสืบสวนสอบสวนพบว่า ร.ต.อ.จิรายุทธ์ เป็นพนักงานสอบสวนที่เปลี่ยนแปลงคำให้การในสำนวนหลายครั้ง ด้วยการเพิ่มข้อเท็จจริงที่ได้มาภายหลังลงไปในคำให้การเดิม และยังลงวันที่ย้อนหลังอีกด้วย

ขณะที่ พ.ต.ท.ชูวิทย์ มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องของการที่สั่งการด้วยวาจาให้ทาง ร.ต.อ.จิรายุทธ์ เปลี่ยนแปลงคำให้การในสำนวนหลายครั้ง โดยเฉพาะคำให้การของ น.ส.รัตนาพร และ น.ส.พัชริดา เพื่อให้กลมกลืนสอดคล้องกัน เสมือนว่าเป็นการสอบสวนข้อเท็จจริงในครั้งแรก ทำให้พยานหลักฐานของฝ่ายนายปรีชามีน้ำหนักน่าเชื่อถือ ส่งผลต่อการมีความเห็นทางคดีของพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ และอาจส่งผลต่อการพิจารณาคดีในชั้นศาลได้ และพ.ต.ท.ชูวิทย์ เป็นบุคคลที่ทราบมาโดยตลอดว่าสำนวนการสอบสวนมีการแก้ไข อีกทั้งยังเป็นผู้ลงนามในการในหนังสืออายัดเงินบัญชีของ ร.ต.ท.จรูญ ตามคำสั่งของพล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี


'เปรมชัย' ส่อโดนคดี อ่วม มีอาวุธปืนผิด กม.ซ้ำอีก

(23 ก.พ.61) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้เรียกประชุมพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ กองบังคับการปราบปราม การกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกองพิสูจน์หลักฐาน กลางประชุมติตดาม ความคืบหน้าการดำเนินคดี นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวลอปเม้นต์ จำกัด (มหาชน) และพวกรวม 4 คนในคดียิงเสือดำ และลักลอบล่าสัตว์ป่า ในเขต รักษา พันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ นเรศวรด้าน ตะวันตก อำเภอทองผาภุมิ จังหวัดกาญจนบุรี

การประชุมวันนี้ได้มีการนำปืนยาว 6 กระบอกที่ได้จาก การตรวจยึดจากบ้านพัก ของนาย เปรมชัย จากจำนวนทั้งหมด 43 กระบอก ซึ่งตรวจสอบพบว่าเป็นปืนที่ครอบครอง โดยผิด กฎหมาย มีการเปลี่ยนแปลงเลขทะเบียนปืน และเป็นปืนที่นายทะเบียน ไม่สามารถออก ทะเบียนให้ได้จึงจะแจ้งข้อหาผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน กับนายเปรมชัย เพิ่มเติม

ขณะที่ พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง เปิดเผยว่า ผลตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาตร์ ของกลางของนายเปรมชัย และพวก ได้แล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย พร้อมส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ นำไปประกอบสำนวนคดี อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจพิสูจน์ว่า เสือดำถูกยิงจากปืนลูกซอง กระบอกใดนั้นไม่สามารถทำได้ แต่มีหนึ่งใน ปืนลูกซองของกลางที่พบตัว อย่างดีเอ็นเอ ของนายเปรมชัย

นอกจากนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังกำชับให้นำโทรศัพท์มือถือ ของนานเปรมชัย และพวกที่ยึดได้กลังเข้าจับกุม ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานกลาง ตรวจสอบข้อมูล และรูปภาพ ในโทรศัพท์ เพื่อนำมาประกอบสำนวนด้วย

ขณะที่พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ให้นายเปรมชัย มาให้ปากคำในวันที่ 5 มีนาคม หลังที่ทนายความขอเลื่อนให้ปากคำครั้งก่อน โดยอ้างว่าติดธุระสำคัญ ซึ่งคาดว่า สำนวนคดีจะแล้วเสร็จถายในวันที่ 24 มีนาคม ตอนนี้เหลือเพียงการสอบปากคำผู้ต้องหา พยาน และรอผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาตร์บางส่วนเท่านั้น


'ชินวัตร'ปล่อยภาพถ่าย ปู-แม้วระรื่นที่สิงคโปร์

23 ก.พ.61 นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์รูปผ่านอินสตาแกรมเป็นภาพถ่ายของตนเองกับนายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งระบุข้อความว่า "ฝากให้เพื่อนดู 1 นาทีลบ ทดสอบ ความไวอีกครั้งหนึ่ง" และหลังจากนั้นไม่นานภาพดังกล่าวก็ถูกลบออก

ขณะเดียวกันทางด้านอินสตาแกรมของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นางพินทองทา คุณากรวงศ์ และนางชยิกา วงศ์นภาจันทร์ หลานสาวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ยังได้โพสต์ภาพลักษณะ เดียวกันทั้งหมด โดยระบุสถานที่ถ่ายคือประเทศสิงคโปร์

สำหรับความเคลื่อนไหวของสองพี่น้องอดีตนายกฯ ซึ่งอยู่ระหว่าวงการหลบหนีคดีทั้งคู่นั้น ได้ปรากฏความเคลื่อนไหวบนโลกโซเซี่ยลครั้งแรกที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ในช่วงฉลอง ตรุษจีนที่ผ่านมา จากนั้นมีรายงานว่าทั้งสองคนเดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่น ก่อนโผล่ที่ฮ่องกง และล่าสุดคือที่สิงคโปร์โดยมีอดีตสส.พรรคเพื่อไทยบินไปพบจำนวนหนึ่ง ขณะที่ฝ่าย ควมามั่นคงของไทยยังไม่สามารถหาพิกัดที่ชัดเจนของอดีตนายกฯทั้งสองคนได้เลย

ก่อนหน้านี้มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการปรากฏตัวของนายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่ามีความเชื่อมโยงกับสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงที่รัฐบาล คสช.อยู่ในภาะขาลง และมีการเคลื่อนไหวจากกลุ่มต่อต้าน คสช.ที่มีการปลุกกระแสอย่างต่อเนื่อง ซึ่งฝ่ายความมั่นคงได้วิเคราะห์ว่า ทั้ง 3 กลุ่มคือ กลุ่มนายทักษิณ กลุ่มเคลื่อนไหวอยากเลือกตั้ง และกลุ่มอดีต ส.ส.เพื่อไทย มีความเชื่อมโยงกัน พร้อมกับสั่งให้มีการจับตา ความเคลื่อนไหว ดังกล่าวด้วย


ศาลนัดไต่สวนคดี 'ป้าทุบรถ' ฟ้อง 'กทม.'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 2 มีนาคม เวลา 13.30 น. ศาลปกครองกลาง ได้นัดไต่สวนคดีสิ่งแวดล้อมระหว่าง น.ส.บุญศรี แสงหยกตระการ กับพวกรวม 4 คน ยื่นฟ้องผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กับพวกรวม 4 คน และมีนายสุกิจ นามวรกานต์ กับพวกรวม 7 คน เป็นผู้ร้องสอด กรณีน.ส.บุญศรี เห็นว่า ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กับพวกละเลยให้มีการก่อสร้างอาคารและตลาดโดยผิดกฎหมายเป็นเหตุให้พื้นที่ซึ่งเคยเป็นที่อยู่อาศัยกลายเป็นที่จอดรถและเป็นกรณีที่ผิดวัตถุประสงค์ของหมู่บ้านเสรีวิลล่า ซึ่งได้จดทะเบียนจัดสรร เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยก่อให้เกิดมลพิษทางเสียง และก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้ฟ้องคดี จึงขอให้ศาลสั่งเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างตลาดและให้ผู้ว่าฯกทม. กับพวก ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการประกอบกิจการตลาดในหมู่บ้านเสรีวิลล่า ให้เป็นไปตามกฎหมาย

คดีนี้เป็นคดีที่ 2 ที่น.ส.บุญศรี ยื่นฟ้องศาลปกครองในแผนกคดีสิ่งแวดล้อมเมื่อปี 2555 หลังในพื้นที่มีการสร้างตลาดนัดเพิ่มขึ้น ซึ่งหลังการฟ้องคดีดังกล่าวศาลก็ได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาตามที่น.ส.บุญศรี ร้องขอ โดยมีคำสั่งให้ ผู้ว่าฯ กทม. และเขตประเวศ ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.สาธารณสุขฯ ดูแลจัดการไม่ให้ผู้ใดสร้างความเดือดร้อนรำคาญกับน.ส.บุญศรี

ส่วนในคดีแรกที่น.ส.บุญ.ศรี ยื่นฟ้องเมื่อปี 2553 และต่อมาในปี 56 ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งให้ศาลปกครองกลางดำเนินกระบวนพิจารณาคดีใหม่โดยให้เรียกเจ้าของตลาดนัด 2 แห่ง ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เข้ามาร่วมในคดีด้วยปัจจุบันคดียังอยู่ระหว่างการแสวงหาข้อเท็จจริงให้ครบถ้วนชั้นพิจารณา

"เจ้าแหลม"-เอสตราด้า มั่นใจเข็มขัดไม่กระเด็น

การชกมวยชิงแชมป์โลก รายการ "ซูเปอร์ฟลาย 2" ณ ฟอรัม อิงเกิ้ลวู้ด ลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ในคืนวันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2561

โดยคู่เอก ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น เจ้าของตำแหน่งชาวไทย จะป้องกันแชมป์สภามวยโลก (WBC) รุ่นซูเปอร์ฟลายเวต 115 ปอนด์ กับ ฮวน ฟรานซิสโก้ เอสตราด้า รองอันดับหนึ่งชาวเม็กซิกัน

พร้อมกันนี้ยังเป็นการชิงแชมป์ "ว่าง" สถาบัน"เดอะริงค์" (THE RING) อีกด้วย ส่วนคู่รองในรายการ แดนนี่ เนียเตส จะป้องกันแชมป์ สหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) รุ่นฟลายเวต 112 ปอนด์ กับ ฮวน คาร์ลอส เรเบโค่

โดยแชมป์โลกชาวไทยกล่าวถึงความพร้อมในครั้งนี้ว่า "ไฟต์นี้เป็นไฟต์ที่สำคัญและยิ่งใหญ่สำหรับผม ผมก็จะทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุดจะป้องกันแชมป์ให้นานที่สุด และมั่นใจว่าจะนำเข็มขัดกลับเมืองไทยให้ได้"

"สำหรับไฟต์ที่แล้วกับโรมัน ผมมีความมั่นใจเกินร้อย และมั่นใจว่าต้องชนะน็อก เพราะซ้อมมาตลอด 4 เดือนเต็ม อีกอย่างร่างกายก็ฟิตตลอด และไฟต์นี้ผมก็มีความมั่นใจเหมือนเช่นเดิม" เจ้าแหลม กล่าว

นอกจากนี้ แชมป์โลกขวัญใจชาวไทย ยังกล่าวถึงชีวิตที่เปลี่ยนไป หลังจากได้เข็มขัดแชมป์โลกว่า "ตอนเข้ามาต่อยมวยแรกๆ ก็ไม่ได้คิดว่าจะเป็นแชมป์โลก คิดแค่ว่าเป็นแชมป์เอเชียก็ภูมิใจแล้ว แต่พอได้มาเป็นแชมป์โลกที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ก็รู้สึกภูมิใจมาก แต่ก็ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิมแค่มีคนรู้จักมากขึ้นเท่านั้นเอง"