ข่าว
'ญี่ปุ่น' เตือนภัยพายุไต้ฝุ่น หมายเลข 5 อากาศแปรปรวน ชาวไทยพื้นที่เสี่ยงติดตามข่าวสารใกล้ชิด

วันศุกร์ ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2565: เพจเฟซบุ๊ก สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟูกูโอกะ Royal Thai Consulate-General in Fukuoka โพสต์ข้อความแจ้ง เตือนภัยพายุไต้ฝุ่นหมายเลข 5

กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นประกาศเตือนภัยพายุใต้ฝุ่นหมายเลข 5 ซึ่งคาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้พื้นที่อามามิ จ.คาโกชิมะ (ประกอบด้วยเกาะอามามิ และเกาะโอชิมะทางตอนใต้ของภูมิภาคคิวชู) ในช่วงค่ำของวันนี้ (29 ก.ค. 2565) โดยอาจส่งผลให้สภาพอากาศแปรปรวน ฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วมขัง

ในที่ราบต่ำ โดยคาดว่าในบางพื้นที่ของภูมิภาคคิวชู อาจมีปริมาณน้ำฝนเกิน 50 มิลลิเมตร/ชั่วโมง จึงขอให้ประชาชนเฝ้าระวัง และเตรียมความพร้อมรับมือกับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นดังกล่าว

ในการนี้ สถานกงสุลใหญ่ฯ ขอให้ชาวไทยในพื้นที่เสี่ยงฯ โปรดติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด กรณีฉุกเฉิน สามารถติดต่อสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ทางหมายเลขโทรศัพท์ HOTLINE 090-2585-3027 และ 090-9572-1515 จึงประชาสัมพันธ์มาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

สหรัฐฯ ทุบสถิติ มีผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงมากที่สุดในโลก

สหรัฐฯ ทุบสถิติ มีผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงมากที่สุดในโลก

29 ก.ค. 2565 : สหรัฐอเมริกากลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงมากที่สุดในโลกแล้ว หลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นทะลุเกิน 4,900 ราย ขณะที่วัคซีนยังมีไม่เพียงพอ

จากข้อมูลล่าสุดของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริกา หรือ CDC พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงทั่วประเทศสหรัฐฯ จนถึงวันพฤหัสบดีอยู่ที่ 4,907 คนแล้ว ทำให้สหรัฐอเมริกาแซงหน้าสเปน กลายมาเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงมากที่สุดในโลก โดยที่นิวยอร์กพบผู้ติดเชื้อมากที่สุดที่ 1,247 ราย ตามมาด้วยแคลิฟอร์เนีย 799 ราย และอิลลินอยส์ 396 ราย โดยขณะนี้รัฐบาลสหรัฐฯ ได้กระจายวัคซีนฝีดาษลิงไปยังหน่วยงานสาธารณสุขท้องถิ่นแล้วกว่า 310,000 โดส แต่ก็ดูเหมือนจะยังไม่เพียงพอ

ล่าสุดนครซานฟรานซิสโกระบุว่า วัคซีนที่ได้รับมาเพียง 7,800 โดสยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ จนทำให้ศูนย์ฉีดวัคซีนบางแห่งต้องปิดให้บริการ โดยนายกเทศมนตรีนครซานฟรานซิสโกได้ร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง ในการสนับสนุนวัคซีนเพิ่มเติม พร้อมทั้งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงในพื้นที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยพบผู้ติดเชื้อแล้ว 261 คน จากผู้ติดเชื้อทั้งรัฐแคลิฟอร์เนียประมาณ 800 คน และคาดว่าตัวเลขน่าจะพุ่งอย่างก้าวกระโดดในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ขณะที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ประกาศในเดือนนี้ว่าจะสั่งซื้อวัคซีนเพิ่มอีก 5 ล้านโดส แต่กว่าวัคซีนลอตดังกล่าวจะส่งมายังสหรัฐฯ น่าจะเป็นช่วงปีหน้า โดยรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักต่อการรับมือกับฝีดาษลิงที่ล่าช้า หลังจากในช่วงเดือนพฤษภาคมที่เริ่มพบการระบาดช่วงแรก สหรัฐฯ มีวัคซีนสำรองคงคลังอยู่เพียง 2,000 โดสเท่านั้น ขณะที่กระบวนการสั่งซื้อเพิ่มก็ล่าช้า ทำให้วัคซีนไม่เพียงพอต่อความต้องการเมื่อพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงทั่วโลกแล้วมากกว่า 21,000 คน ใน 78 ประเทศ

ที่มา : เอพี


ฟิลิปปินส์ พบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงรายแรก ติดตามอาการ 10 คนใกล้ชิด

29 ก.ค. รอยเตอร์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขแห่ง ฟิลิปปินส์ รายงานผู้ติดเชื้อไวรัสฝีดาษลิงเป็นคนแรกในประเทศเมื่อวันที่ 28 ก.ค. เป็นชายวัย 31 ปี กลับบ้านจากต่างประเทศเมื่อต้นเดือนก.ค. หลังเดินทางไปหลายประเทศที่มีผู้ติดเชื้อฝีดาษลิง ตอนนี้หายดีแล้วแต่กำลังกักตัวที่บ้าน

ขณะที่ผู้สัมผัสใกล้ชิด 10 คน ไม่แสดงอาการ ในจำนวนนี้ 3 คนมาจากบ้านของผู้ติดเชื้อ ทั้งหมดได้รับคำสั่งกักตัวเพื่อสังเกตอาการแล้ว

ทั้งนี้ ราว 70 ประเทศที่ฝีดาษลิงไม่ใช่โรคเฉพาะถิ่น ได้รายงานการระบาดของเชื้อดังกล่าว ขณะที่ผู้ป่วยยืนยันทั่วโลกเกิน 20,300 คนแล้ว และองค์การอนามัยโลกประกาศให้การระบาดของโรคนี้เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพระดับโลก


สี จิ้นผิง เตือน โจ ไบเดน "อย่าเล่นไฟ" ปมไต้หวัน

29 ก.ค.: บีบีซี และ ซีเอ็นเอ็น รายงานการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา และประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีน เป็นเวลา 2 ชั่วโมง 17 นาที เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่น

นับเป็นการสนทนาครั้งที่ห้าของนายไบเดนและนายสีตั้งแต่เดือนก.พ. 64 โดยผู้นำทั้งสองเตือนอีกฝ่ายถึงประเด็นไต้หวัน ซึ่งจีนมองมาตลอดว่าเป็นมณฑลแยกตัวออกไปที่ต้องกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของจีน และไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังเพื่อควบคุมไต้หวัน

สื่อทางการจีนรายงานว่า นายสีบอกให้นายไบเดนปฏิบัติตามนโยบายจีนเดียวโดยเตือนว่า “ไม่ควรละเมิดมติมหาชน และหากคุณเล่นไฟ คุณถูกจะแผดเผา ข้าพเจ้าหวังว่าฝ่ายสหรัฐฯ สามารถเห็นสิ่งนี้ได้อย่างชัดเจน”

ขณะที่ทำเนียบขาวสหรัฐฯ ระบุว่า “ในประเด็นไต้หวัน ประธานาธิบดีไบเดนย้ำว่า นโยบาย สหรัฐฯ ไม่ได้เปลี่ยนแปลง และสหรัฐฯ คัดค้านอย่างยิ่งต่อความพยายามฝ่ายเดียวในการเปลี่ยนแปลงสถานภาพปัจจุบัน หรือบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน”

นอกจากประเด็นไต้หวันแล้ว ผู้นำทั้งสองหารือประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความมั่นคงทางสุขภาพ และความเป็นไปได้ในการจัดการประชุมทวิภาคีแบบตัวต่อตัว ซึ่งให้เจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายประสานงานกันต่อไป

ทั้งนี้ ความตึงเครียดประเด็นไต้หวันเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะหลังมีข่าวลือว่า นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต มีแผนการเยือนไต้หวัน แม้ว่ากระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันว่า นางเพโลซีไม่ได้ประกาศแผนการดังกล่าว ขณะที่รัฐบาลจีนเตือนถึงผลลัพธ์ร้ายแรงหากนางเพโลซีเยือนไต้หวันจริง

อย่างไรก็ตาม หากนางเพโลซีเยือนไต้หวันจะถือเป็นนักการเมืองอเมริกันที่มีตำแหน่งอาวุโสสุดที่เยือนไต้หวันตั้งแต่ปี 2540


รัสเซียเผย ‘เชลยศึกยูเครน’ ดับ 40 หลังเคียฟโจมตีเรือนจำในโดเนตสค์

29 ก.ค. AFP : กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า มีเชลยศึกยูเครน 40 รายเสียชีวิต หลังยูเครนได้ยิงเรือนจำที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ฝักใฝ่รัสเซียในภูมิภาคโดเนตสค์

เหตุโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นในค่ายกักกันในโอเลนิฟกา ซึ่งนอกจากเชลยศึกที่เสียชีวิตแล้ว ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 75 คน

อย่างไรก็ดี กองทัพยูเครนปฏิเสธว่าไม่ได้ทำการโจมตี และกล่าวหารัสเซียกลับว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ และพยายามจะปกปิดหลักฐานการทรมานเชลยศึกของตนเอง ด้วยการกล่าวหายูเครนว่าทำความผิดอันเป็นอาชญากรรมสงคราม

ดานิล เบซโซนอฟ โฆษกของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย กล่าวว่า การโจมตีดังกล่าวเป็นการโจมตีโดยตรงต่อค่ายทหารที่ใช้เป็นที่กักขังนักโทษ และเตือนว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจจะเพิ่มสูงขึ้นอีก

ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า การโจมตีที่เกิดขึ้นมาจากปืนใหญ่ Himars ที่ผลิตในสหรัฐฯ พร้อมกล่าวหายูเครนว่าจงใจก่อเหตุโจมตีดังกล่าว

ด้านที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ชี้ว่า ข้อกล่าวหาของรัสเซียเป็นปฏิบัติการติดธงปลอดแบบดั้งเดิมและซับซ้อน โดยมีเป้าหมายเพื่อทำลายชื่อเสียของยูเครน

น้ำท่วมฉับพลันในรัฐเเคนทักกี เสียชีวิต 8 ราย

29 กรกฎาคม 2565: ฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน จนเป็นเหตุให้มีผู้เสีย ชีวิตอย่างน้อย 8 รายในรัฐเคนทักกีตะวันออก และทำให้ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่เกิดเหตุบางส่วนติดอยู่บนหลังคาบ้านและตามต้นไม้รอความช่วยเหลือ

เอเอฟพี:รายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 29 กรกฏาคม 2565 กล่าวว่า เกิดฝนตกหนักในช่วงเวลา 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทางตอนเหนือของแม่น้ำเคนทักกี ประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้น้ำในแม่น้ำซึ่งปกติจะมีความลึกเพียง แค่ 1-2 ฟุตในช่วงเวลานี้ของปี สูงขึ้นถึง 20 ฟุต ซึ่งถือว่าสูงอย่างไม่เคยเกิดมาก่อนตามสถิติที่บันทึกไว้ก่อนหน้านี้

น้ำที่เอ่อล้นจากแม่น้ำ ได้ทะลักเข้าท่วมตัวเมืองอย่างฉับพลันจนพลเมืองผู้อยู่อาศัยตั้งตัวไม่ทัน ท่าม กลางบ้านเรือนที่จมน้ำ และทรัพย์สินเสียหาย

แอนดี บีเชีย ผู้ว่าการรัฐเคนทักกีกล่าวว่า ทางการได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในเมืองต่างๆ ที่อาจได้รับผลกระทบจากกระแสน้ำ และได้ส่งเฮลิคอปเตอร์ของหน่วยกู้ภัย 4 ลำ เพื่อออกไปตระเวนช่วยเหลือตามจุดต่างๆ ที่เกิดเหตุ

บีเชียให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุดกับสื่อท้องถิ่น กล่าวว่า “อุทกภัยครั้งนี้ร้ายแรงที่สุดเท่าที่รัฐแห่งนี้เคยประสบ เราอาจมีตัวเลขผู้เสียชีวิตเกินเลข 2 หลัก แต่ในขณะนี้สามารถยืนยันได้เบื้องต้นว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ราย และตัวเลขอาจเพิ่มขึ้นทุกชั่วโมง ขณะที่มีคนอีกจำนวนมากที่ต้องการความช่วยเหลือ และเรากำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเข้าถึงพวกเขาทุกคน”

บีเชีย กล่าวเสริมอีกว่า บ้านเรือนประมาณ 25,000 หลังเสียหาย, ไฟฟ้าดับทั่วทั้งรัฐ และอีกหลายแห่งไม่มีน้ำดื่มน้ำใช้ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ ระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวยังคงมีความเสี่ยงจากน้ำท่วมฉับพลัน แหละเตือนนว่าจะมีฝนตกหนักขึ้นอีกหลายพื้นที่ ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งบรรดานักวิทยาศาสตร์ออกมาเตือนว่าเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากภาวะโลกร้อนอย่างชัดเจน