ข่าว
มหาดไทย ตบหน้า ศรส. ไม่เนรเทศ “สาธิต เซกัล”

วันที่ 12 ก.พ. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ศูนย์อำนวยความสงบ (ศรส.) มีมติให้เนรเทศนายสาธิต เซกัล นายกสมาคมธุรกิจอินเดีย-ไทย และแกนนำ กปปส. ซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าว ให้ออกจากประเทศไทย โดยตั้งข้อหาว่านายสาธิต ได้ร่วมกระทำผิดกับ แกนนำ กปปส. ในข้อหาต่างๆ หลายกรณี

อย่างไรก็ตามในที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมือง นายประภาศ บุญยินดี รองปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) ซึ่งเป็นประธานการประชุม ได้ปฏิเสธการเนรเทศนายสาธิต โดยให้เหตุผลว่า มีหลักฐานไม่ชัดเจนว่า นายสาธิต มีพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อประเทศ ซ้ำการปราศรัยของนายสนธิ พูดเพียงเรื่องจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เท่านั้น

′สุเทพ′ เย้ย ′เฉลิม′ ไร้อำนาจ หลังเนรเทศ ′สาธิต เซกัล′ ไม่สำเร็จ อัด ′ยรรยง′ ฟันขรก.ขึ้นเวทีม็อบ

12 ก.พ. 2557 เวลา 20.15 น. ที่เวทีปทุมวัน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ขึ้นปราศรัยตอนหนึ่งว่า นายสาธิต เซกัล นายกสมาคมธุรกิจอินเดีย-ไทย แกนนำ กปปส.ซึ่งได้ขึ้นเวทีหลายครั้ง และทุกครั้งก็จะพูดแสดงความรู้สึกในฐานะผู้ที่ได้พึ่งพิงพระบรมโพธิสมภาร และได้อาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างมีความสุข และได้ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างมาก จึงได้ขึ้นเวทีมากล่าวเทิดทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯบ่อยครั้ง แต่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศรส.จะเนรเทศนายสาธิตออกจากประเทศไทย

นายสุเทพกล่าวว่า ปรากฏว่าอำนาจในการเนรเทศไม่ได้ใช้อำนาจของของศรส. เพราะคนที่จะพิจารณาคดีดังกล่าว คือคณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมือง กระทรวงมหาดไทย(มท.) ซึ่งศรส.ได้ส่งเรื่องนี้ไปให้คณะกรรมการดังกล่าว แต่กลับปรากฏว่า ปลัดมท.ไม่ได้เข้าร่วมพิจารณา แต่ได้ให้ นายประภาส บุญยินดี รองปลัดมท. ทำหน้าที่ประธานในการประชุมแทน และได้พิจารณาเห็นว่า เหตุผลของศรส.ที่จะเนรเทศนายสาทิตนั้น เป็นเหตุผลที่ไม่เข้าเงื่อนไขการเนรเทศ เพราะนายสาธิตไม่ได้ทำตัวเป็นภัยต่อสังคม ที่สำคัญคำปราศรัยของนายสาธิต ไม่ได้เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ แต่นายสาธิตพูดเพียงแต่เรื่องจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เท่านั้น ไม่ทราบว่าร.ต.อ.เฉลิม จะว่าอย่างไร ตนรู้ว่าไม่หยุดเพียงเท่านั้น และจะหาหลักฐานทำเรื่องไปที่คณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมืองอีก การที่จะทำอะไรขอให้รู้ว่าประชาชนจับตาดูอยู่

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่นายยรรยง พวงราช ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (พณ.) ได้ส่งเรื่องให้ ศรส.เตรียมออกหมายจับข้าราชการพณ. พร้อมทั้งสอบวินัย และเอาโทษทางอาญาทั้ง 4 คนที่มาขึ้นเวที กปปส. ซึ่งเป็นเรื่องที่ข้าราชการของ พณ.ยอมรับไม่สิ่งที่ ศรส.ทำไม่ได้ และล่าสุดได้ออกหนังสือเชิญชวนข้าราชการทั้งกระทรวงเพื่อรวมตัวกันแต่งชุดดำแสดงการคัดค้านคำสั่งที่ไม่ชอบ และบังคับใช้กฏหมายที่ไม่เป็นธรรมดังกล่าว โดยไม่สนใจเจตนารมย์อันบริสุทธิ์ที่ต้องการต่อต้านคอร์รัปชั่น และอยากให้มีการปฏิรูปประเทศเท่านั้น ซึ่งนายยรรยงเล่นแรงเกินไป การมาขึ้นเวทีเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญ และทำนอกเวลาราชการด้วย


กกต.ส่งหนังสือให้ นายกฯ กราบบังคมทูลฯ พ.ร.ฎ.กำหนดวันรับสมัครเลือกตั้งเพิ่ม-วันลงคะแนนใหม่ 28 เขต

กกต.ส่งหนังสือถึง ′ยิ่งลักษณ์′ ขอให้กราบบังคมทูลฯ พ.ร.ฎ.กำหนดวันรับสมัครเลือกตั้งเพิ่มเติม และกำหนดวันลงคะแนนใหม่ใน 28 เขต ไร้ผู้สมัครส.ส. หากเห็นแย้งแนะให้ยื่นศาล รธน.ชี้ขาดทันที

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่อาคารโดมบริหาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.)ศูนย์รังสิต นายบุญส่ง น้อยโสภณ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวภายหลังการประชุม กกต. ว่า กกต.ทั้ง 5 คนได้ลงนามในหนังสือส่งถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อให้นายกฯกราบบังคมทูลเพื่อเสนอให้มีพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) กำหนดวันรับสมัครเลือกตั้งเพิ่มเติม กำหนดวันลงคะแนนใหม่ รวมทั้งการประกาศงดเว้นการจัดให้มีการลงคะแนนเลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้งและนอกราชอาณาจักร ใน 28 เขตเลือกตั้ง 8 จังหวัดที่ไม่มีผู้สมัคร ส.ส. โดยหนังสือดังกล่าวได้อ้างความเห็นของนักวิชาการและนักการเมืองที่แสดงความเห็นในเรื่องด้วย อย่างไรก็ตาม หนังสือดังกล่าวได้ส่งให้นายกฯแล้วตั้งแต่บ่ายวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ทั้งนี้หากนายกฯเห็นแย้งกับข้อเสนอของ กกต. ทางกกต.จะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอย่างแน่นอนตามมาตรา 214 ของรัฐธรรมนูญ

นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) แถลงว่า กกต.ได้ลงนามหนังสือส่งถึงนายกฯกรณี 28 เขตเลือกตั้งที่ไม่มีผู้สมัครส.ส.เรียบร้อยแล้ว โดย กกต.ได้พิจารณาด้วยความละเอียดรอบคอบ มีความเห็นว่า พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมายังไม่เสร็จสิ้น โดยได้มีการตรวจสอบข้อกฎหมาย ปรากฏว่า กกต.ไม่มีอำนาจในการออกประกาศ กกต.กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ใน 28 เขตเลือกตั้ง จึงจำเป็นต้องเสนอนายกฯให้กราบบังคมทูลขอให้ กกต.มีอำนาจในกำหนดวันรับสมัครเลือกตั้งเพิ่มเติม และกำหนดวันลงคะแนนใหม่ และประกาศยกเว้นการจัดให้มีการลงคะแนนเลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้งและนอกราชอาณาจักรใน 28 เขตเลือกตั้งดังกล่าว

สธ.เสียงแตก แพทย์สองกลุ่มทำจดหมายเปิดผนึกหนุนรัฐบาล

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ นพ.ภีศเดช สัมมานันท์ บุคลากรแพทย์สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะตัวแทนกลุ่มเพื่อนสาธารณสุข เพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ล่าสุด ตนและ นพ.ธีรวัฒน์ วงศ์ตัน ตัวแทนกลุ่มเพื่อนสาธารณสุขเพื่อประชาธิปไตย พร้อมทั้ง พล.ร.ต.นพ.สมยศ สำราญบำรุง ตัวแทนกลุ่มแพทย์ และผู้รักประชาธิปไตย ได้จัดทำจดหมายเปิดผนึกถึงท่านรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ผ่านไปยัง นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผ่านไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีและประชาชนทุกคน

โดยพวกตนกลุ่มบุคลากรด้านสาธารณสุข ประกอบด้วย กลุ่มแพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์ เภสัชกร และบุคลากรทางด้านสาธารณสุขอื่นๆ ทั่วประเทศ ทั้งในภาครัฐและเอกชน ทั้งในสังกัดมหาวิทยาลัย กระทรวงสาธารณสุข และสังกัดอื่นๆ ร่วม 800 คนทั่วประเทศ มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ของประเทศในขณะนี้จึงขอแสดงความเห็นถึงท่านในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกระทรวงสาธารณสุข ผ่านไปยังท่านรักษาการนายกรัฐมนตรี และประชาชน ดังนี้

1.เรียกร้องให้หลีกเลี่ยงการอ้างตำแหน่ง หรือสถาบันทางการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อแสดงความคิดเห็นทางการเมือง

2.ขอให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ที่ห้ามมิให้บุคคลใดเรียกร้อง หรือกระทำการใดเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้แก่ การเรียกร้องให้รัฐบาลรักษาการลาออก การเรียกร้องรัฐบาลหรือสภาที่มาจากการแต่งตั้ง หรือการใช้กำลังเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครอง

3. จากโครงการรับจำนำข้าว รัฐบาลทำหน้าที่รัฐบาลรักษาการอยู่ทำให้มีปัญหาในการจ่ายเงินชาวนาส่วนใหญ่ซึ่งมีฐานะยากจนมีความเดือดร้อน จึงขอร้องให้ทุกฝ่ายเห็นใจในความเดือดร้อนของชาวนา ไม่ใช้ความเดือดร้อนของชาวนามาเป็นเครื่องมือทางการเมือง

4. เรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง จัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตที่ยังเลือกตั้งไม่เสร็จสิ้นตามรัฐธรรมนูญมาตรา 93 ให้ได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครบทุกเขตโดยเร็วที่สุด