กรมอุตุฯ / วันที่ 11 ต.ค. กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณด้านตะวันตกของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลยังคงมีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
อนึ่ง ในช่วงวันที่ 12-15 ต.ค. 2562 บริเวณความกดอากาศสูงอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอุณหภูมิลดลง
ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณฝนฟ้าคะนอง
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 น.ของวันนี้ ถึงเวลา 06.00 น.ของวันที่ 12 ต.ค.นี้
ภาคเหนือ มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง กำแพงเพชร และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง กาญจนบุรี สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีของหน่วยงานต่อต้านการทุจริตในภูมิภาคอาเซียน ครั้งที่ ๑๕ (15th SEA-PAC Principals Meeting) และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ณ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 8-10 ตุลาคม 2562 เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ด้านการต่อต้านการทุจริตในภูมิภาคอาเซียน และพัฒนาประสิทธิภาพของหน่วยงานที่มีอำนาจในการต่อต้านการทุจริต ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานต่อต้านการทุจริตในภูมิภาคอาเซียนทั้ง 10 ประเทศเข้าร่วม
วันพุธที่ 9 ตุลาคม 2562 พลตำรวจเอกวัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ได้กล่าวในพิธีเปิดการประชุมหลักถึงการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC) เป็นโอกาสอันดีในการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางเศรษฐกิจโลกให้แก่ภูมิภาคอาเซียน นำไปสู่การเติบโตอย่างรวดเร็วในด้านการค้าการลงทุน รวมถึงการเคลื่อนย้ายคนและเงินทุนข้ามพรมแดนอย่างเสรี แต่ในขณะเดียวกันนั้นก็ก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งรวมถึงปัญหาการทุจริตและการให้สินบนข้ามชาติ อีกทั้งความสะดวกในการเดินทางและการสื่อสารในยุคปัจจุบันยังเอื้อต่อการใช้ประโยชน์จากเขตพรมแดนระหว่างประเทศที่เปิดกว้างอย่างเสรี และนโยบายการลงทุนของต่างประเทศเพื่อหลบหนีการกระทำผิด การยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด ประเทศไทยจึงได้กำหนดหัวข้อการประชุมหลักในครั้งนี้เกี่ยวกับการติดตามทรัพย์สินคืนและการปฏิเสธการให้ที่พักพิงแก่เจ้าหน้าที่รัฐผู้ทุจริตและทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด
ต่อจากนั้น เป็นพิธีการลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างกัน (MoU) ระหว่างคณะกรรมการ ป.ป.ช. กับหน่วยงานต่อต้านการทุจริตแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (State Inspection and Anti-Corruption Authority: SIAA) และ MoU ระหว่างคณะกรรมการ ป.ป.ช. กับคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย (Komisi Pemerantasan Korupsi: KPK) โดย MoU ทั้งสองฉบับมุ่งเน้นความร่วมมือกันในการต่อต้านการทุจริตของสองประเทศ การส่งเสริมแลกเปลี่ยนช้อมูล ประสบการณ์ และการประสานงานคดีระหว่างกัน
สำหรับการประชุมในครั้งนี้ ผู้แทนหน่วยงานต่อต้านการทุจริตของอาเซียนทั้ง 10 ประเทศได้ผลัดกันนำเสนอผลงานความคืบหน้าต่อที่ประชุมในการดำเนินการเพื่อการต่อต้านการทุจริต นอกจากนี้ ยังมีวาระสำคัญในการหารือและรับรองแผนการปฏิบัติงาน SEA-PAC (SEA-PAC Action Plan) สำหรับปี 2563-65 รวมถึงการอภิปรายในหัวข้อ “การปฏิเสธที่พักพิงแก่เจ้าพนักงานของรัฐผู้ทุจริตและทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด (Denying Safe Haven to Corrupt Officials and Stolen Assets)” และหัวข้อเกี่ยวกับ “มาตรการที่มีประสิทธิภาพสำหรับภาคธุรกิจเอกชนในการต่อต้านการให้สินบนแก่เจ้าพนักงานของรัฐ (Effective Anti-Bribery Measures in Privates Sector to Prevent Bribery of Public Officials”
นอกจากกิจกรรมในการประชุมหลักในวันที่ 9-10 ตุลาคมแล้ว เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2562 สำนักงาน ป.ป.ช. ยังได้ร่วมกับสำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime: UNODC) จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการระดับภูมิภาค ในหัวข้อ “การปฏิเสธที่พักพิงแก่เจ้าพนักงานของรัฐผู้ทุจริตและทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด (Denying Safe Haven to Corrupt Officials and Stolen Assets)” โดยการประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้มีผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายหน่วยงานทั้งไทยและต่างประเทศร่วมอภิปรายประสบการณ์และความท้าทายในการปฏิเสธที่พักพิงแก่เจ้าหน้าที่รัฐที่ใช้ช่องทางในการลงทุนหรือนโยบายการโยกย้ายถิ่นฐานเพื่อหลบหนีการกระทำความผิดและยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดไปต่างประเทศ เช่น หน่วยงาน KPK อินโดนีเซีย คณะกรรมการการตรวจตราแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (National Commission of Supervision: NCS) สำนักงานอัยการสูงสุด UNODC คณะกรรมการต่อต้านการทุจริตของมาเลเซีย (Malaysian Anti-Corruption Commission: MACC) และ Stolen Asset Recovery Initiative (StAR) และในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ร่วมกับ American Bar Association Rule of Law Initiative (ABA-ROLI) จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการและศึกษาดูงานนอกสถานที่ ณ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ภายใต้หัวข้อ “การส่งเสริมวัฒนธรรมต่อต้านการให้สินบนในภาคธุรกิจอาเซียน (Promoting Anti-Bribery Compliance Culture among ASEAN Businesses” โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 70 คนและมีผู้เชี่ยวชาญจากภาคธุรกิจเอกชนมาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ แนวปฏิบัติที่ดีและความท้าทายในการเสริมสร้างบรรยากาศการค้าการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนที่โปร่งใสไร้สินบน ซึ่งที่ประชุมเห็นพ้องตรงกันว่าประเทศส่วนใหญ่ในภูมิภาคอาเซียนได้ออกกฎหมายหรือกำลังดำเนินการออกกฎหมายเพื่อกำหนดให้นิติบุคคลต้องรับผิดในฐานความผิดการทุจริตและการให้สินบนแล้ว อย่างไรก็ดี การสร้างวัฒนธรรมแห่งความซื่อสัตย์สุจริตอย่างยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียนยังคงต้องการความร่วมมือระหว่างประเทศระหว่างภาครัฐด้วยกันตลอดจนความร่วมมือจากภาคเอกชนและภาคประชาสังคมอย่างจริงจังและต่อเนื่องด้วย
นายกรัฐมนตรีเอธิโอเปีย คว้ารางวัลโนเบลสันติภาพ ปี 2019 – BBCไทย
นายกรัฐมนตรีอาเบีย อาห์เหม็ด แห่งเอธิโอเปีย ได้รับเลือกให้เป็นผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2019 จากความพยายามผลักดัน “ให้เกิดสันติภาพและความร่วมมือระหว่างประเทศ”
ความพยายามของนายอาห์เหม็ด ได้นำไปสู่การลงนามในข้อตกลงสันติภาพเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งช่วยยุติภาวะการคุมเชิงทางทหารกับเอริเทรียที่ยืดเยื้อมาเกือบ 20 ปี หลังเกิดข้อพิพาทเรื่องชายแดนกันในปี 1998-2000 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นคน
รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ คือรางวัลที่มอบให้แก่ “ผู้สร้างคุณประโยชน์อันยิ่งใหญ่ต่อมวลมนุษยชาติในด้านสันติภาพ” ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งในปีนี้ มีผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล 301 ราย แบ่งเป็นบุคคล 223 ราย และองค์กร 78 ราย หนึ่งในนั้นคือ น.ส.เกรียตา ทุนแบร์ย นักรณรงค์เพื่อสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมชาวสวีเดนวัย 16 ปี
สำหรับนายอาห์เหม็ด ถือเป็นผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพคนที่ 100 โดยเขาจะได้รับเงินรางวัลมูลค่า 9 ล้านโครน (ราว 27 ล้านบาท) ในพิธีมอบรางวัลที่กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ ในเดือน ธ.ค.นี้
AFPประชาชนเฉลิมฉลองการเปิดพรมแดนเอธิโอเปีย-เอริเทรีย อีกครั้ง
อาเบีย อาห์เหม็ด คือใคร
นับแต่ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของเอธิโอเปียเมื่อเดือน เม.ย. 2018 นายอาห์เหม็ด ได้ดำเนินการปฏิรูปที่เป็นอิสระขนานใหญ่ในเอธิโอเปีย ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในประเทศที่เคยมีการควบคุมอย่างเข้มงวดแห่งนี้
เขาได้สั่งปล่อยตัวนักเคลื่อนไหวฝ่ายค้านหลายพันคน และอนุญาตให้กลุ่มผู้เห็นต่างที่เคยลี้ภัยไปอยู่ต่างแดน สามารถเดินทางกลับประเทศได้
แต่ผลงานชิ้นสำคัญที่สุดของเขาคือการเป็นผู้ผลักดันให้มีการทำข้อตกลงสันติภาพกับประเทศเพื่อนบ้านคู่ปรปักษ์ อย่าง เอริเทรีย ซึ่งช่วยปิดฉากความขัดแย้งระหว่างประเทศที่ยืดเยื้อมานานร่วม 20 ปี
อย่างไรก็ตาม การปฏิรูปของนายอาห์เหม็ด ยังเผยให้เห็นปัญหาความตึงเครียดระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ในเอธิโอเปียและความรุนแรงจากปัญหาดังกล่าวที่ทำให้ประชาชนต้องพลัดพรากจากถิ่นฐานบ้านเกิดราว 2.5 ล้านคน
วันที่ 11 ตุลาคม 2562 - 15:26 น. กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นได้มีการแจ้งเตือนพายุฮากิบิสที่คาดว่าจะส่งผลกระทบในภูมิภาค Tokai หรือ เขต kanto รวมไปถึงกรุงโตเกียว ในวันเสาร์นี้ ตามเวลาท้องถิ่น
กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นได้มีการแจ้งเตือนพายุฮากิบิสที่คาดว่าจะส่งผลกระทบในภูมิภาค Tokai หรือ เขต kanto รวมไปถึงกรุงโตเกียว ในวันเสาร์นี้ ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตอนนี้ได้มีการประกาศแจ้งเตือนฉุกเฉินสำหรับพายุฮากิบิสซึ่งคาดว่าพายุลูกนี้จะมีความรุนแรง
และทำให้เกิดคลื่นสูง และฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ล่าสุดได้มีการสั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วน เพื่อความปลอดภัยของชีวิต คาดว่าพายุลูกนี้จะแผ่ขยายบริเวณกว้าง โดยพื้นที่หลักๆที่จะได้รับผลกระทบคือ ทางตะวันออก ของประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่วันเสาร์ไปจนถึงวันอาทิตย์นี้ หรืออาจจะส่งผลกระทบบางพื้นที่รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้พายุฮากิบิสจะทำให้เกิดฝนตกอย่างรุนแรงเทียบเท่า ไต้ฝุ่นคาโนกาว่า ที่เคยเกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 1958 ซึ่งในครั้งนั้นมีประชาชนจำนวนกว่า 1,200 คน เสียชีวิตและสูญหาย ในภูมิภาค Shizuoka และเขต Kanto ดังนั้นจึงอยากเตือนประชาชนให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรง น้ำท่วมสูง และพายุรุนแรงเอาไว้ด้วย