ข่าว
30 สาวงาม ประชั้นบิกินนี ชิงมงกุฏมิสไทยแลนด์เวิร์ล

แซบจนโค้งสุดท้าย 30 สาว “มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018” อวดโฉมในชุดว่ายน้ำสุดเซ็กซี่ กองเชียร์นางงามเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม ใครจะคว้าตำแหน่งพร้อมเงินรางวัลมูลค่ากว่า 7 ล้าน ลุ้นรอบตัดสินเสาร์นี้(15 ก.ย.)

ใจละลายเลยทีเดียว เมื่อ 30 สาวงาม ผู้เข้าประกวด “มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018” ซ้อมเดินชุดว่ายน้ำ ทูพีช วันพีช ก่อนพบโชว์จัดเต็มในรอบตัดสิน ที่จะจัดขึ้นวันเสาร์ที่ 15 กันยายนนี้ ณ ห้อง พาราเดียม ฮอลล์ โรงแรม เดอะ เบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ โดยชุดว่ายน้ำที่ 30 สาวงามสวมใส่มาในแบรนด์ Miraclesuit และแบรนด์ Lspace จากบริษัท แคส แอนด์ เคโอ จำกัด สวยเซ็กซี่ทุกคนจนเลือกไม่ถูกว่าจะเชียร์ใคร เอาเป็นว่าไปส่องซูมให้จุใจไปเลยจ้า

สำหรับผู้คว้ามงกุฏ “มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018” จะได้รางวัลดังนี้ เงินรางวัล 1,000,000 บาท, มงกุฎทับทิมประดับเพชร จาก สยามเจมส์ เฮอริเทจ มูลค่า 1,800,000 บาท, คอนโดมิเนี่ยม เอ สเปซ สุขุมวิท 77 จาก อารียา พรอพเพอตี้ มูลค่า 2,340,000บาท, รถยนต์ Hyundai รุ่น IONIQ Electric มูลค่า 1,749,000 บาท และอีกมากมาย

นายกฯ ยกเลิก ม.44 คนไทยได้เลือกตั้ง กพ.

14 ก.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 13/2561 เรื่อง การดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (เพิ่มเติม) เพื่อให้พรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นก่อนแล้ว และพรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นใหม่สามารถดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน ไม่เกิดความเหลื่อมล้ำหรือยุ่งยากสับสน แต่จากข้อเท็จจริงปรากฏว่าในปัจจุบันพรรคการเมืองดังกล่าวยังคงมีปัญหาเกี่ยวกับการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองบางประการ โดยให้สามารถดำเนินการได้ในช่วงระยะเวลา 90 วันนับแต่มีการประกาศพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งเป็นระยะเวลาเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่ พ.ร.บ.ดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับต่อไป อาศัยอำนาจตามมาตรา 265 ของรัฐธรรมนูญ 2560 และอำนาจตามมาตร 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว มีคำสั่งให้พรรคการเมืองในวาระเริ่มแรกให้พรรคการเมืองจัดให้มีทุนประเดิมจำนวน 1 ล้านบาท และแจ้งให้นายทะเบียนทราบภายใน 180 วัน และให้สมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่า 500 คน ชำระค่าบำรุงพรรคของปี 2561 ภายใน 180 วันนับตั้งแต่คำสั่งดังกล่าวมีผล รวมทั้งให้สมาชิกพรรคชำระค่าบำรุงพรรคการเมืองให้ได้ไม่น้อยกว่า 5,000 คน ภายใน 1 ปี นับตั้งแต่คำสั่งนี้มีผล

ทั้งนี้ ก่อนที่กฎหมายลูก ส.ส.มีผลบังคับใช้ พรรคการเมืองใดประสงค์จะดำเนินกิจกรรมทางการเมืองดังต่อไปนี้ ทั้งการแก้ไขข้อบังคับพรรค นโยบายพรรคเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายลูก ส.ส.เลือกคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) จัดตั้งสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด รับสมาชิกพรรคการเมือง จัดให้มีคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรค ให้ความเห็นเกี่ยวกับการแบ่งเขตเลือกตั้ง ในกรณีที่ต้องจัดประชุมใหญ่เพื่อการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ถ้าองค์ประชุมของที่ประชุมใหญ่ ประกอบด้วยกรรมการบริหารพรรคการเมืองไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน กรรมการบริหารพรรคการเมืองเท่าที่มีอยู่ และมีสมาชิกของพรรคการเมือง ทั้งนี้ มีจำนวนรวมกัน ทั้งหมดไม่น้อยกว่า 250 คนแล้ว ให้ถือว่าเป็นองค์ประชุมดำเนินการดังกล่าวได้ พรรคการเมืองใดประสงค์ทำกิจกรรมทางการเมืองให้แจ้งคณะกรรมการ ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 5 วัน เมื่อแจ้งแล้วให้ถือว่าได้รับอนุญาตจาก คสช.

อย่างไรก็ตาม สำหรับการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งครั้งแรก หลังกฎหมายลูก ส.ส.มีผลบังคับใช้ให้พรรคการเมืองจัดให้มีกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ประกอบด้วยกรรมการบริหารพรรค 4 คน ตัวแทนสมาชิกพรรคการเมืองจำนวน 7 คน เพื่อพิจารณาเสนอผู้สมัครต่อคณะกรรมการการบริหาร และเมื่อคณะกรรมการบริหารพรรคเห็นชอบให้หัวหน้าพรรคออกหนังสือรับรองการส่งผู้ได้รับการสรรหาเพื่อประกอบการรับสมัคร ซึ่งหากกรรมการสรรหาไม่เห็นชอบบุคคลที่ได้รับการคัดเลือกให้คณะกรรมการสรรหา สรรหาบุคคลแทน แต่ถ้ายืนยันบุคคลเดิมแล้วกรรมการบริหารพรรคยืนยันไม่เห็นด้วยให้ตั้งคณะกรรมการร่วมกัน มีมติเช่นใดก็ให้ยึดตามนั้น โดยให้เปิดเผยรายชื่อผู้สมัครที่กรรมการบริหารพรรคเห็นชอบภายใน 7 วัน พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองติดต่อสื่อสารกับสมาชิกพรรคผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้ แต่ต้องไม่ใช่ลักษณะการหาเสียง แต่ กกต.และ คสช.สามารถกำหนดลักษณะต้องห้ามการประชาสัมพันธ์ที่กระทบต่อความสงบเรียบร้อยและสั่งให้มีการระงับได้ นอกจากนี้ เปิดโอกาสให้ กกต.แบ่งเขตเลือกตั้งให้แล้วเสร็จก่อนที่กฎหมายลูก ส.ส.จะบังคับใช้

คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 14 ก.ย.61 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.


'โอตะAKB48'รุมถอนหงอก'วีระ' ปล่อยไก่หน้าแหกลบโพสต์ไม่ทัน

จากกรณีที่ นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) โพสต์คลิปวิดีโอช่วงที่ศิลปิน 6 คนจากวง "AKB 48" ซึ่งเป็นวงพี่ของวง "BNK 48" จากประเทศญี่ปุ่น เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสที่เดินทางมาเตรียมการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ที่ประเทศไทยปลายปีนี้ พร้อมระบุข้อความว่า "รัฐบาลต้องเปิดเผยงบประมาณที่ใช้ในการเชิญนักร้องกลุ่มนี้มาสร้างภาพให้รัฐบาล เนื่องจากงบประมาณนั้นเป็นเงินภาษีจากประชาชน ไม่ใช่เงินส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี"

13 ก.ย.61 ล่าสุดทางเพจ "ประชาชน ไซเบอร์" ได้ออกมาตอบโต้นายวีระ ว่า "น้องๆ #AKB48 เป็นฝ่ายขอเข้าพบนายกฯ เพื่อโปรโมทคอนเสิร์ตในไทยปลายปีนี้นะครับ รัฐบาลไม่ได้เป็นฝ่ายเชิญ แก่จนหัวหงอกหนวด หงอกแล้วก็แซะเรื่องไม่เป็นเรื่อง แถมแซะแบบไม่หาข้อมูลด้วย อ่อลืมไป บิดเบือนจนเป็นสัน...ของชายชราสมองกลับคนนี้ไปแล้ว ปล.แล้วแบบอีกคนนิ่ไม่จี้เปิดงบที่ไปควบม้าถึงเกาหลีใต้บ้างหรือครับ"

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบกลับไปยังเพจส่วนตัวของนายวีระ ซึ่งเปิดไว้ทั้ง 2 เพจ คือ "Veera Somkwamkid" และ "วีระ สมความคิด" กลับไม่พบคลิปและข้อความการจี้เปิดงบประมาณเชิญวง AKB 48 แต่อย่างใด คาดว่าน่าจะลบโพสต์ออกไปแล้วหลังถูกโอตะของวง AKB 48 โจมตีอย่างหนักกลับมา


คุก “ชินแสโชกุน” 4,355 ปี ลอยแพสมาชิกไปทัวร์ญี่ปุ่น

(12 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. ศาลอาญามีคำพิพากษาให้จำคุก น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือซินแสโชกุน ทอมบอย อายุ 31 ปี กรรมการบริษัท เวลท์เอเวอร์ จำเลยที่ 2 รวม 871 กระทงๆ ละ 5 เป็นเวลาทั้งสิ้น 4,355 ปี และปรับ 20,000 บาท ตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และและร่วมกันจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ควบคุมฉลากโดยแสดงฉลากไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงตามกฎหมายแล้วให้จำคุกสูงสุด 20 ปี

โดยให้ปรับบริษัท เวลท์เอเวอร์ จำเลยที่ 1 ด้วย เป็นเงิน 435,520,000 บาท และให้จำคุก น.ส.ทัศย์ดาว สมัครกสิกรรณ์ อายุ 36 ปี หญิงคนสนิทและเลขานุการส่วนตัวของซินแสโชกุน จำเลยที่ 5, นางพารินธรญ์ หงส์หิรัญ ดัคกอร์ อายุ 36 ปี จำเลยที่ 8 รวม 871 กระทงๆ ละ 5 เป็นเวลาทั้งสิ้น 4,355 ปี ตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงตามกฎหมายแล้วให้จำคุกสูงสุด 20 ปี กรณีสืบเนื่องจากเมื่อเดือน ม.ค.-เม.ย. 2560 พวกจำเลย ชักชวนให้ผู้เสียหายเข้าเป็นสมาชิกของบริษัทผลิตภัณฑ์อาหารเสริม โดยระบุให้สมาชิกชำระเงิน 9,700 บาทต่อคน แล้วจะได้อาหารเสริม 2 กระปุก พร้อมกับอ้างว่าสมาชิกจะมีสิทธิได้เดินทางไปท่องเที่ยวประเทศแถบเอเชียด้วย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง แต่รายล่าสุดกลับถูกลอยแพที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งคดีพบมูลค่าความเสียหายนับ 50 ล้านบาท โดยอัยการยื่นฟ้องจำเลยทั้งหมดเมื่อวันที่ 6 ก.ค. 60

โดยศาลมีสั่งจำเลยที่ 1, 2, 5, 8 ชดใช้เงินคืนแก่ผู้เสียหายรวม 871 คน พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของเงินต้นสำหรับผู้เสียหายแต่ละราย นับแต่วันฟ้อง (6 ก.ค. 60) เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จด้วย (มูลค่าประมาณ 51 ล้านบาทเศษ)และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 3, 4, 6, 7, 9, 10 คือ นางมณฑญาณ์ นิรันดร หรือจันทร์ฉาย นาคฤทธิ์ อายุ 56 ปี มารดาซินแสโชกุน, นายก้องศรัณย์ แสงประภา อายุ 23 ปี ลูกพี่ลูกน้องของซินแสโชกุน, นางประนอม พลานุสนธิ์ อายุ 41 ปี เลขานุการของซินแสโชกุน, นางณิชมน แสงประภา อายุ 65 ปี ป้าของซินแสโชกุน และเป็นมารดาของนายก้องศรัณย์, น.ส.สุดารัตน์ อเนกนวล อายุ 26 ปี และนายโกวิท ช่วยสัตว์ อายุ 31 ปี


เมีย “เท่ง เถิดเทิง” แฉ จับได้ ผัวซุกเมียน้อย

งามไส้แล้วจ้า! “มาลา” เมีย “เท่ง เถิดเทิง” แฉผัวซุกชู้ จับได้คาหนังคาเขา ปีนกำแพงหนีเกือบตกมาตาย! ตะลึงทั้งโซเชียลฯ เมีย “เท่ง เถิดเทิง” โพสต์แฉผัวคบชู้ จับได้คาหนังคาเขา บุกพังห้องต้องปีนกำแพงหนีเกือบตกมาตาย ซัดแรง หญิงเร็ว ชายเลว ด้านชาวเน็ตยังสองจิตสองใจ เรื่องจริงหรืออำเล่น

โซเชียลมีเดียตะลึงเลยทีเดียว หลังจากที่ “มาลา” ภรรยาตลกดัง “เท่ง เถิดเทิง” โพสต์ภาพปริศนา พร้อมแคปชันร้อนแรงทำเอาไอจีสะเทือน ด้วยข้อความ “ให้ทายว่าภาพนี้เป็นภาพอะไร.....เป็นภาพคน จ.ร. เค้าแอบคบชู้กันโดนเมียจับได้บุกพังห้อง เลยต้องปีนกำแพงหนี ผู้หญิงเร็ว ผู้ชายก็เลว เห็นขาตอนปีนหนีแร้วน่าสงสารจัง เกือบตกมาตาย” งานนี้ชาวเน็ตยังสองจิตสองใจว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องอำเล่น หรือไอจีโดนแฮก แนะถ้าเป็นเรื่องจริงควรไปเคลียร์กันเองก่อน บางรายบอกภาพผู้หญิงในชุดสีฟ้าบางมุมก็คล้าย “พลอย” ลูกสาวเท่ง ส่วนความจริงจะเป็นอย่างไร ต้องติดตาม

"ดร.เสรี" ถูกด่ากลับ ติงภาพลีด มธ.ตกต่ำ

จากกรณีภาพโปรโมตกิจกรรมคัดเลือกเชียร์ลีดเดอร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อร่วมงานแข่งขันฟุตบอลประเพณี จุฬา-ธรรมศาสตร์ ที่เป็นการถ่ายภาพแบบเปลือยเนินอก จนถูกวิพากษ์วิจารณ์กันในโลกออนไลน์ถึงความเหมาะสม

โดย ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก "Arnond Sakworawich" ว่า "ที่ธรรมศาสตร์ เห็นทีแรกนึกว่าป้ายแถวๆ ห้วยขวาง รัชดา แต่ว่าสวยดีนะ ทำใจกว้างๆ หน่อย นี่ปี 2018 แล้วนะ"

จากโพสต์ดังกล่าว ดร.เสรี วงษ์มณฑา ซึ่งจากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เข้าตอบกลับความคิดเห็นว่า "ไม่อยากเชื่อว่ามหาวิทยาลัยที่ชื่อมีคำว่า ธรรม จะตกต่ำได้ขนาดนี้ น่าอนาถจริง ๆ ค่ะ"

การแสดงความเห็นดังกล่าว ทำให้คนบางกลุ่มเข้ามาต่อว่าจำนวนมาก ทั้งในแง่ของความคิดโบราณ และลุกลามไปถึงเรื่องการเลือกฝ่ายการเมือง

ล่าสุด ดร.อานนท์ ได้โพสต์ข้อความจาก ดร.เสรี ว่า “รศ. ดร. เสรี วงศ์มณฑา ส่งข้อความมาอย่างนี้ครับ ขอฝากการปกป้องวัฒนธรรมและความดีงามของประเทศจากเสรีภาพของ Gen Y ด้วยนะ เพราะจิตใจพี่ไม่เข้มแข็งพอที่จะฟังการด่ากลับเวลาที่พี่ท้วงติง ถ้าเขาคิดจะอธิบายแทนการด่ากลับ ก็จะทำหน้าที่ต่อไป แต่ต่อไปนี้จะไม่ขอพูดอะไรทั้งนั้นกับการกระทำของ Gen Y ใครช่วยปกป้องวัฒนธรรมของประเทศได้ก็จงทำเถิดค่ะ”