ข่าว
จำคุกสาวแคนาดา ช่วยลูกเป็ดข้ามถนน

หญิงสาวชาวแคนาดาซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้คนขับรถจักรยานยนต์และลูกสาววัยรุ่นเสียชีวิต ขณะพยายามช่วยลูกเป็ดเดินข้ามถนน ซึ่งเป็นทางหลวงสายที่พลุกพล่านทางใต้ของเมืองมอนทรีล ถูกศาลตัดสินจำคุก 90 วัน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองมอนทรีลประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ว่าน.ส.เอ็มมาชอร์โนบาจ วัย 26 ปี ถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุก90 วันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาหลังจากที่เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาจำเลยผู้นี้ถูกตัดสินว่ากระทำผิดจริงตามข้อกล่าวหาประมาทเลินเล่อจนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตอย่างไรก็ตามศาลอนุญาตให้จำเลยรับโทษจำคุกเฉพาะช่วงสุดสัปดาห์ได้แต่ก็ห้ามเธอขับรถเป็นเวลา 10 ปี รวมทั้งยังต้องทำงานรับใช้สังคมเป็นเวลานาน 240 ชั่วโมง ทั้งที่ก่อนหน้านี้เธออาจต้องรับโทษสูงสุดถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิต

ต้นเหตุมาจากเมื่อเดือน มิ.ย.2553 ขณะขับรถอยู่นั้นจำเลยผู้นี้ได้หยุดรถอย่างกะทันหันในช่องเลนซ้ายของทางหลวงสายที่พลุกพล่านทางตอนใต้ของเมืองมอนทรีลทั้งนี้ก็เพื่อหาทางที่จะไล่จับลูกเป็ดฝูงหนึ่งที่เผลอเดินขึ้นมาบนถนนนั้นให้สามารถเดินข้ามถนนได้อย่างปลอดภัยแต่ปรากฎว่า มีคนขับรถจักรยานยนต์เป็นชายวัย 50 ปี พร้อมกับบุตรสาววัย 16 ปี ที่นั่งซ้อนท้ายมาด้วยได้พุ่งเข้าชนด้านหลังรถยนต์ของเธอด้วยความเร็วกว่า 105 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้ทั้งคู่เสียชีวิตในทันที

ข่าวลือเกี่ยวกับ'สถาบัน' พวกเห็นกงจักรเป็นดอกบัว

"ดร.สุเมธ" เผย "ในหลวง" ทรงติดตามและห่วงใยสถานการณ์บ้านเมืองตลอด ทรงทุ่มเทรักษาประเทศมา 87 ปี ชี้อยากเห็นคนไทย 65 ล้านคนลุกขึ้นมาช่วยพระองค์ท่าน ยันข่าวลือเกี่ยวกับ "สถาบัน" เกิดจากพวกเห็นกงจักรเป็นดอกบัว และพวกบัวใต้น้ำ แนะ "นายกฯ" เร่งสร้างผลงานเป็นรูปธรรม เพื่อให้คนเชื่อมั่น

วันที่ 19 ธ.ค. นายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยประเทศ และทรงติดตามสถานการณ์บ้านเมืองมาโดยตลอด ซึ่งพระองค์ท่านทรงทุ่มเททำหน้าที่รักษาประเทศมา 87 ปี อยากให้คนไทย 65 ล้านคนลุกขึ้นช่วยกันมาทำหน้าที่นี้ ประเทศชาติจะไปรอด

“พระองค์ทรงเป็นห่วง ทุกวันนี้ยังมีคนไม่หยุดทำลาย 'ดิน-น้ำ-ลม-ไฟ' แผ่นดินเล็กลง คนมากขึ้น กลุ่มอิทธิพลร่ำรวยจากการกอบโกย ซึ่งพระองค์ทรงมีพระราชดำรัสคำว่า 'พอเพียง' ไว้ล่วงหน้ามากว่า 30 ปี ป้องกันกระแสบริโภคนิยม ฝรั่งต่างชาติมาเรียนรู้ แต่คนไทยมองไม่เห็น น่าเสียดาย ปัญหาบ้านเมืองเวลานี้เกิดสิ่งไม่ดีไม่งามขึ้น เพราะคนเห็นแต่ประโยชน์ที่เป็นตัวเงิน จนทำลายได้หมด นี่คือปัญหารากเหง้าประเทศ”นายสุเมธ กล่าว

เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวว่า ตนเขียนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 ปี '37 ให้ 'พัฒนาคน' อันดับแรกใช้คนเป็นศูนย์กลาง ทำ 'คน' ให้มีคุณภาพ หาก 'คน' แย่ เอาไปใช้ทำได้สองแง่ตลอดเวลา เพราะมีทางแยกตลอดทางสายดำและทางสายธรรม

“ไม่ว่าเลือกนายกรัฐมนตรีฯหรือคณะรัฐมนตรี ทางตรงทางอ้อม หรือสรรหารัฐธรรมนูญดีๆ เครื่องมือดีๆ มากองไว้ได้เลย ก็เกิดเรื่องตลอดเวลา เพราะ 'คน' ใช้อย่างที่เห็นไปเล่นศรีธนณชัย ผมไม่เชื่อว่าแก้ปัญหาซื้อเสียงได้ ผมผ่านมาชีวิต 76 ปี คำตอบมันชัดเจนอยู่ที่ 'คน' คนทำผิดกันอยู่คอร์รัปชั่นกันโกงกันอยู่ตลอด มันเป็นสงครามไม่รู้จบ หยิบมาใช้เถอะฉบับไหนก็ได้ อย่าไปโทษตัวบท มันอยู่ที่คนใช้ แต่ประเทศที่สำเร็จก็มีประเทศสิงคโปร์ เกาหลีคนฟังเชื่อผู้นำ เขาพิสูจน์ให้เห็นไม่ทุจริตคอร์รัปชั่น...ไปรอด”นายสุเมธ กล่าวและว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องเร่งทำผลงานให้เกิดเป็นรูปธรรม เพื่อให้ทุกคนในชาติเกิดความเชื่อมั่น จนเกิดพลังชาติ เพราะถ้าไม่ได้รับความร่วมมือ การเปลี่ยนแปลงประเทศภายในปีเดียวคงสำเร็จยาก

นายสุเมธ ยังกล่าวถึงข่าวลือเกี่ยวกับ 'สถาบัน' ว่า เกิดจากพวกไม่รู้ หลง โลภ โง่ เห็นกงจักรเป็นดอกบัว พวกบัวใต้น้ำ ตนไม่อยากสอนพวกนี้ เดี่ยวก็เป็นอาหารเต่าปลาไป

สำหรับสถานการณ์ปัญหาภัยแล้ง และม็อบยางในปี 58 นายสุเมธ กล่าวว่า ตนเคยพูดมาเป็น 10 ปี เรื่องยางอย่าปลูกกันมาก ก็ไม่ฟัง ตั้งหน้าตั้งตาปลูกยาง ปืนขึ้นเขาไปปลูกกัน ไม่มีน้ำให้ งดทำนาปรัง ก็ปลูกกันเต็มหมด

“พระเจ้าอยู่หัวทรงสอน มาตลอด อย่าปลูกหมด กันพื้นที่ไว้ปลูกของกินด้วย ยังพยายามฝืนโลกกัน ตอนนี้เหลือราคาเท่าไหร่ อะไรควรทำ-ไม่ควรทำ ต้องการันตีชีวิตด้วย ตอนนี้มาร้อง 'ของ' มีมากในตลาดราคาก็ตก อีกหน่อยลูกหลานรู้จักแต่ต้นยางอย่างเดียว นักการเมืองข้าราชการไปปลูกกันหมด ก็เจ๊งอย่างที่เห็น”นายสุเมธกล่าว

สำหรับแนวทางแก้ภัยแล้งพระเจ้าอยู่หัว ทรงทำเป็นตัวอย่างเป็นต้นแบบไว้หมดแล้วในโครงการพระราชดำริ ขุดบ่อขุดสระ สร้างฝาย นำไปใช้ได้ในทุกชุมชน สามารถเก็บน้ำฝนได้หมด ในส่วนรัฐบาล เลิกพูดว่าจะสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ เพราะแนวฝนเปลี่ยน ต้องทำเขื่อนอ่างขนาดกลางและเล็ก มาใช้บริหารจัดการน้ำต่อเนื่องกับพื้นที่แก้มลิง ธรรมชาติให้เต็มศักยภาพ เช่น บึงบอระเพ็ดซึ่งมีพื้นที่แสนกว่าไร่ ตอนนี้เหลือสามหมื่นไร่ ก็มีทั้งราชการ เอกชน บุกรุกถมดินก่อสร้างลุกล้ำเต็มไปหมด ทั้งที่ประเทศไทยมีน้ำมหาศาลแต่ไม่รู้จักเก็บเวลานี้จึงแล้งและท่วมมาก ในปัจจุบันเขื่อนต่างๆเก็บน้ำฝนไว้ได้เพียง 8 หยด ภาคอีสานเก็บได้เพียง 3.2 หยด จากฝนร้อยหยด ถ้าเก็บน้ำฝนเพิ่มขึ้นแค่16 เปอร์เซ็นต์ คนไทยไม่เดือดร้อนแล้ว


'ชัชชาติ-หญิงลี' คนดังปี57 'สามีตีตรา' ละครฮิตกูเกิล

กูเกิล เผย เทรนด์การค้นหาปี 2557 ของไทย บุคคลแห่งปี คือ ชัชชาติ และ หญิงลี คำค้นที่ถูกหามากที่สุด คือ "แปลภาษา" OLX ได้คำค้นดาวรุ่ง หนังและละคร คือ คิดถึงวิทยา-สามีตีตรา ด้านเพลง คือ ภูมิแพ้กรุงเทพ แก็ดเจ็ตฮิต iPhone 6...

กูเกิล ประเทศไทย เผยอันดับเทรนด์การค้นหาประจำปี 2557 โดยรวบรวมผลจากคำค้นหาที่ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต เสิร์ชค้นหาผ่านทางกูเกิล โดยมีการแบ่งตามหมวดหมู่ ดังนี้

คนดังประจำปี (ชาย)

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์

1. ชัชชาติ (ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ผู้แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี) 2. ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.) 3. Robin Williams (โรบินส์ วิลเลียม ดารานักแสดงฮอลลีวูด ผู้ล่วงลับ) 4. กนก (กนก รัตน์วงศ์สกุล) 5. ชูวิทย์ (นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์) 6. สงกรานต์ The Voice (สงกรานต์-รังสรรค์ ปัญญาเรือน แชมป์ The Voice Thailand ซีซันส์ที่ 2) 7. ดีเจมะตูม 8. มะตอย (เน็ตไอดอลหนุ่ม ผู้ล่วงลับ) 9. เจมส์จิ 10. วิทิต แลต

คนดังประจำปี (หญิง)

หญิงลี ศรีจุมพล

1. หญิงลี (หญิงลี ศรีจุมพล นักร้องลูกทุ่ง) 2. เจนี่ (เจนี่-เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์) 3. โฟกัส (โฟกัส จิระกุล) 4. วาววา (วาววา-ณิชารีย์ โชคประจักษ์ชัด นักแสดง) 5. Jennifer Lawrence (เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์) 6. เจมี่ (เจมี่ บูเฮอร์) 7. อึนบี (โก อึนบี นักร้องสาวเกาหลี วงเลดีส์โค้ด ผู้ล่วงลับ) 8. ไอด้า (ไอรดา ศิริวุฒิ) 9. จุฑามาศ เคียงศรี (นางแบบและดารานักแสดง วัย 21 ปี เรื่องหัวใจใกล้รุ่ง ทางช่อง 3 เสียชีวิตจากเหตุถูกลูกหลงกระสุนปืนของกลุ่มวัยรุ่นพุ่งเจาะหน้าผากได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา) 10. หมอปลาย (ณวรชา พินิจโภคากร หมอดูชื่อดัง)

คำค้นดาวรุ่งพุ่งแรงประจำปี 1. OLX 2. สามีตีตรา 3. อย่าลืมฉัน 4. World Cup 2014 5. iPhone 6 6. t25 7. ภูมิแพ้กรุงเทพ 8. ฮอร์โมน 2 9. คิวบิก 10. ปริศนา ฟ้าแลบ

คำค้นยอดนิยมประจำปี


"ศรีรัศมิ์"อยู่ลำพังพ่อแม่ คดีรุม 4 สุวะดีกับบิ๊กกิ๊ก

จาก กรณีพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์ เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรม โอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ลาออกจากฐานันดรศักดิ์ และเดินทางไปทำบัตรประชาชนใหม่ ระบุสถานะในกองทะเบียนบัตรประชาชนว่า "น.ส.ศรีรัศมิ์ สุวะดี" พร้อมแจ้งย้ายเข้าไปอยู่บ้านใน ต.วัดเพลง อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี โดยใช้ชีวิตอย่างสงบกับพ่อแม่ จากนั้นสมเด็จพระบรม โอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร มีพระราชประสงค์ขอรับเงินพระราชทานจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อพระราชทานให้น.ส.ศรีรัศมิ์ ใช้ในการดำรงชีพและดูแลครอบครัว

ต่อ มาน.ส.ศรีรัศมิ์เขียนข้อความใส่กระดาษด้วยลายมือและติดไว้หน้าบ้านว่า "เราขอขอบพระคุณผู้สื่อข่าวทุกท่าน ที่ให้ความเป็นห่วงเป็นใย คอยติดตามมาเสมอ เราขอความกรุณาผู้สื่อข่าวทุกท่านด้วย ช่วงนี้เราขอปฏิบัติธรรมเงียบๆ ในบ้านหลังนี้ พร้อมครอบครัวด้วยความสงบค่ะ" ขณะที่เจ้าอาวาสวัดประดู่ที่เข้าไปรับบาตรในบ้าน เผยน.ส. ศรีรัศมิ์ยิ้มแย้มแจ่มใสและมีสภาพจิตใจที่ดี พร้อมเข้าใจปัญหาและยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ตามที่เคยเสนอข่าวไปนั้น

ความ คืบหน้า เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณหน้าบ้านพักของน.ส.ศรีรัศมิ์ ในต.วัดเพลง อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี ยังคงมีตำรวจจากสภ.วัดเพลง 3 นาย คอยดูแลรักษาความปลอดภัย พร้อมตรวจสอบและสังเกตการณ์รถที่เข้าออกบ้าน รวมถึงรถที่ผ่านไปมาอย่างเข้มงวด หลังได้รับคำสั่งจากพ.ต.ท.ทรงศักดิ์ แก้วพลน้อย รรท.ผกก.สภ.วัดเพลง ให้วางกำลังเข้มงวดตลอด 24 ช.ม. รวมทั้งจดรายละเอียดรถที่เข้า-ออกภายในบ้านทุกคัน และต้องรายงานสถานการณ์ในบริเวณดังกล่าวให้ผู้บังคับบัญชารับทราบอย่างต่อ เนื่อง อีกทั้งมีการตั้งด่านกวดขันวินัยจราจรตามปกติ

สำหรับบ้านพักของน.ส.ศรีรัศมิ์ ในอ.วัดเพลง เป็นบ้านหลังใหญ่พื้นที่กว้างขวาง 3 ไร่เศษ ซึ่งถูกสร้างและปรับปรุงใหม่ประมาณ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ล้อมด้วยกำแพงสูงกว่า 3 เมตร ด้านหลังติดคลองวัดประดู่ บริเวณรอบๆ มีญาติพี่น้องบางส่วนมาปลูกสร้างที่พักอาศัยอยู่ใกล้กัน

โดย ก่อนหน้านี้พ่อแม่ของน.ส.ศรีรัศมิ์ มักแวะมาพักอาศัยอยู่เป็นครั้งคราว โดยมีชาวบ้านในละแวกนั้นพบเห็นบ้าง แต่ช่วงก่อนที่น.ส.ศรีรัศมิ์จะลาออกจากฐานันดรศักดิ์ พ่อและแม่ได้ย้ายมาอาศัยอยู่ จากนั้นเมื่อได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ลาออกจากฐานันดรศักดิ์แล้ว น.ส.ศรีรัศมิ์จึงย้ายเข้ามาพักอาศัยอยู่กับพ่อแม่อย่างสงบ โดยใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายรวมทั้งนุ่งห่มขาวถือศีลด้วย และเป็นการอยู่ตามลำพังระหว่างพ่อแม่และน.ส.ศรีรัศมิ์

ส่วน บรรดาญาติพี่น้องของน.ส.ศรีรัศมิ์ ต้องตกเป็นผู้ต้องหาร่วมเครือข่ายการทุจริตของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผบช.ก. รวมถึงความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ประกอบด้วย นางสุดาทิพย์ ม่วงนวล พี่สาวของน.ส.ศรีรัศมิ์ ถูกดำเนินคดีแอบอ้างเบื้องสูง เพื่อเอื้อประโยชน์ในการประมูลเครื่องเสวย และบุกรุกแผ้วถางป่า

ขณะ ที่นายณรงค์ สุวะดี นายณัฐพล สุวะดี น้องชายของน.ส.ศรีรัศมิ์ และนายสิทธิศักดิ์ สุวะดี ลูกชายนางสุดาทิพย์ ซึ่งมีศักดิ์เป็น หลานของน.ส.ศรีรัศมิ์ ถูกดำเนินคดีฐานแอบอ้างเบื้องสูง โดยรับจ้างอุ้มเสี่ยให้ลดหนี้จาก 120 ล้านบาท เหลือ 20 ล้านบาท โดยมีนายนพพร ศุภพิพัฒน์ เศรษฐีหมื่นล้านตกเป็น ผู้ต้องหาฐานจ้างวาน เหตุเกิดพื้นที่สน.วัดพระยาไกร นอกจากนี้ยังก่อเหตุร่วมกันข่มขู่ทวงหนี้ 37 ล้านบาท ในพื้นที่สน.พระโขนง

รวมทั้งยังร่วมกันข่มขู่เสี่ย โรงน้ำแข็ง ย่านตลาดไท จ.ปทุมธานี ให้เลิกกิจการ เพื่อให้นางนวลรัตน์ เฮงกิจเจริญเลิศ หรือเจ๊เล็ก เจ้าของโรงน้ำแข็งอีกแห่งเข้าไปทำแทน ขณะที่นายณัฐพลยังถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมอีกภายหลัง ฐานแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง ช่วยเหลือนายชากานต์ ภาคภูมิ ผู้ต้องหาร่วมเครือข่าย ให้เรียบจบปริญญาโทจากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)

นอกจากนี้ น.ส.ศรีรัศมิ์ยังเกี่ยวโยงกับพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผบช.ก.ด้วย โดยพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ เป็นผู้ที่น.ส.ศรีรัศมิ์ ให้ความเคารพและนับถือเป็นน้า แม้พล.ต.ท. พงศ์พัฒน์ ไม่ได้เป็นคนในตระกูลสุวะดี ซึ่งพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ถูกดำเนินคดีฐานแอบอ้างเบื้องสูง เป็นเจ้าพนักงานใช้ตำแหน่งโดย มิชอบ เรียกรับทรัพย์สินในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ รับส่วยจากการค้าน้ำมันเถื่อนและจัดให้เล่นการพนัน เมื่อตรวจค้นบ้านพัก 11 แห่ง พบทรัพย์สินนับพันล้านบาท ก่อนถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อนและคุมตัวฝากขังไว้ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

ส่วน พ.ต.อ.โกวิทย์ ม่วงนวล อดีตผกก.ตม.สมุทรสาคร พี่เขยของน.ส.ศรีรัศมิ์ และเป็นสามีของนางสุดาทิพย์ ถูกดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกแผ้วถางป่าและรุกล้ำลำน้ำคูคลอง ก่อนถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อนเช่นกัน

สำหรับความคืบหน้าการ ดำเนินคดีพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผบช.ก. และเครือข่าย ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร. กล่าวถึงการตรวจสอบ 5 สำนวนคดีเครือข่ายพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ และพวก ว่าคณะกรรมการของตร. ส่งสำนวนมาให้แล้ว ซึ่งขณะนี้คณะทำงานฝ่ายกฎหมายกำลังเร่งตรวจสอบสำนวนคดีเครือข่ายพล.ต.ท.พงศ์ พัฒน์ ถึงความถูกต้องของสำนวนทั้งหมดอย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อเตรียมส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อศาลต่อไป โดยจากการตรวจสอบไม่พบปัญหาข้อขัดข้องภายในสำนวน คาดว่าจะส่งให้พนักงานอัยการได้ในเร็วๆ นี้

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า สำหรับสำนวนคดีเครือข่ายพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ มีทั้งหมด 5 สำนวนหลักคือ สำนวนคดีทุจริตแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ, สำนวนคดีการรับส่วยน้ำมันเถื่อน, สำนวนคดีการบุกรุกป่าไม้, สำนวนคดีบ่อนการพนัน และสำนวนคดีการฟอกเงิน ทั้งนี้ ทุกสำนวนคดีมีข้อหาการเรียกรับสินบนและความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เชื่อมโยงอยู่ในการกระทำ ความผิดทั้งสิ้น


"ประยุทธ์-ยิ่งลักษณ์"สุดยอดปี 57 เวียร์-อั้ม พัชราภา คว้าที่ 1 ดารา

(19 ธ.ค. 57) อีสานโพล (E-Saan Poll) ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยผลสำรวจเรื่อง "รางวัลแห่งปีของคนอีสาน 2557” การสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความคิดเห็นของคนอีสานเกี่ยวกับบุคคล องค์กร และผลงานที่มีความโดดเด่นที่สุดแห่งปี ในสาขาต่างๆ 15 รางวัล โดยทำการสำรวจ 2 ช่วง ระหว่างวันที่ 3-7 กรกฎาคม และ 12-16 ธันวาคม 2557 จากกลุ่มตัวอย่าง 2,229 ราย ในเขตพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด

การสำรวจนี้ จะให้ชาวอีสานเสนอชื่อ บุคคลหรือองค์กรหรือผลงานที่สมควรได้รับรางวัลแห่งปีในสาขาต่างๆ 15 รางวัล (แบบไม่มีตัวเลือกให้) แม้จะเป็นรางวัลประจำปี 2557 แต่ประชาชนมักจะเสนอชื่อบุคคลหรือองค์กรโดยใช้ผลงานในปัจจุบันและในอดีตประกอบการพิจารณา ซึ่งจากการประมวลผล พบว่า คะแนนสูงสุด 3 อันดับแรกแต่ละรางวัล มีดังนี้


1.) นักการเมือง/ผู้บริหารภาครัฐฝ่ายชายแห่งปี
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 34.9 (ครึ่งปีหลังได้ 47.8 )
พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ร้อยละ 17.1 (ครึ่งปีหลังได้ 15.1 )
นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ ร้อยละ 4.5 (ครึ่งปีหลังได้ 2.1 )
*ร้อยละ 36.1 เห็นว่ายังไม่มีผู้เหมาะสม (ครึ่งปีหลัง 30.2 )

2.) นักการเมือง/ผู้บริหารภาครัฐฝ่ายหญิงแห่งปี
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ร้อยละ 36.3 (ครึ่งปีหลังได้ 30.1 )
นางปวีณา หงสกุล ร้อยละ 3.5 (ครึ่งปีหลังได้ 3.9 )
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ร้อยละ 1.8 (ครึ่งปีหลังได้ 2.1 )
*ร้อยละ 58.0 เห็นว่ายังไม่มีผู้เหมาะสม (ครึ่งปีหลัง 63.3 )

3.) นักเคลื่อนไหวเพื่อสังคมแห่งปี
นางปวีณา หงส์สกุล ร้อยละ 7.4 (ครึ่งปีหลังได้ 7.2 )
พระสุเทพ ปภากโร ร้อยละ 5.7 (ครึ่งปีหลังได้ 5.4 )
นายบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ ร้อยละ 4.9 (ครึ่งปีหลังได้ 3.0 )
*ร้อยละ 55.9 เห็นว่ายังไม่มีผู้เหมาะสม (ครึ่งปีหลัง 61.0 )

4.) สถานีโทรทัศน์แห่งปี
สถานีโทรทัศน์ ไทยทีวีสี ช่อง 3 ร้อยละ 54.0 (ครึ่งปีหลังได้ 52.9 )
สถานีโทรทัศน์ ช่อง 7 ร้อยละ 29.7 (ครึ่งปีหลังได้ 34.4 )
สถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 ร้อยละ 5.7 (ครึ่งปีหลังได้ 3.4 )
*ร้อยละ 5.2 เห็นว่ายังไม่มีผู้เหมาะสม (ครึ่งปีหลัง 2.4 )

5.) หนังสือพิมพ์แห่งปี
หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ร้อยละ 50.5 (ครึ่งปีหลังได้ 49.7 )
หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ ร้อยละ 16.5 (ครึ่งปีหลังได้ 17.8 )
หนังสือพิมพ์ ข่าวสด ร้อยละ 4.5 (ครึ่งปีหลังได้ 5.7 )
*ร้อยละ 20.0 เห็นว่ายังไม่มีผู้เหมาะสม (ครึ่งปีหลัง 18.9 )

6.) สำนักโพลแห่งปี
สวนดุสิตโพลร้อยละ 18.6 (ครึ่งปีหลังได้ 24.2 )
เอแบคโพล ร้อยละ 11.8 (ครึ่งปีหลังได้ 15.8 )
นิด้าโพล ร้อยละ 3.5 (ครึ่งปีหลังได้ 5.8 )
*ร้อยละ 52.4 เห็นว่ายังไม่มีผู้เหมาะสม (ครึ่งปีหลัง 49.6 )
**(ห้ามโหวตให้อีสานโพล)

7.) ละครจอแก้วแห่งปี
ละครเรื่อง พราว ช่อง 7 ร้อยละ 19.5 (ละครใหม่ครึ่งปีหลัง )
ละครเรื่อง สามีตรีตรา ช่อง 3 ร้อยละ 10.8 (ครึ่งปีหลังได้ 5.2 )
ละครเรื่อง ทรายสีเพลิง ช่อง 3 ร้อยละ 5.1 (ละครใหม่ครึ่งปีหลัง)
*ร้อยละ 33.6 เห็นว่ายังไม่มีผู้เหมาะสม (ครึ่งปีหลัง 26.4 )

8.) พระเอกแห่งปี
เวียร์ ศุกลวัฒน์ ร้อยละ 9.8 (ครึ่งปีหลังได้ 18.7 )
โป๊บ ธนวรรธน์ ร้อยละ 9.1 (ครึ่งปีหลังได้ 3.6 )
ณเดชน์ คูกิมิยะ ร้อยละ 6.2 (ครึ่งปีหลังได้ 9.9 )
*ร้อยละ 31.7 เห็นว่ายังไม่มีผู้เหมาะสม (ครึ่งปีหลัง 20.9 )

9.) นางเอกแห่งปี
อั้ม พัชราภา ร้อยละ 14.8 (ครึ่งปีหลังได้ 25.7 )
พลอย เฌอมาลย์ ร้อยละ 7.7 (ครึ่งปีหลังได้ 4.1 )
ญาญ่า อุรัสยา ร้อยละ 6.9 (ครึ่งปีหลังได้ 11.0 )
*ร้อยละ 25.3 เห็นว่ายังไม่มีผู้เหมาะสม (ครึ่งปีหลัง 17.3 )

10.) นักร้องชายแห่งปี
ไผ่ พงศธร ร้อยละ 10.3 (ครึ่งปีหลังได้ 11.8 )
ศร สินชัย ร้อยละ 7.3 (ครึ่งปีหลังได้ 7.0 )
มนต์แคน แก่นคูณ ร้อยละ 5.6 (ครึ่งปีหลังได้ 6.6 )
*ร้อยละ 27.8 เห็นว่ายังไม่มีผู้เหมาะสม (ครึ่งปีหลัง 19.0 )

11.) นักร้องหญิงแห่งปี
หญิงลี ศรีจุมพล ร้อยละ 23.2 (ครึ่งปีหลังได้ 25.0 )
ต่าย อรทัย ร้อยละ 9.2 (ครึ่งปีหลังได้ 10.6 )
ตั๊กแตน ชลดา ร้อยละ 5.8 (ครึ่งปีหลังได้ 6.5 )
*ร้อยละ 28.7 เห็นว่ายังไม่มีผู้เหมาะสม (ครึ่งปีหลัง 20.3 )

12.) เพลงดังแห่งปี
ขอใจเธอแลกเบอร์โทร ร้อยละ 15.1 (ครึ่งปีหลังได้ 15.4 )
ผัวเก่า ร้อยละ 4.1 (ครึ่งปีหลังได้ 4.7 )
ไปถอนคำสาบาน ร้อยละ 2.8 (ครึ่งปีหลังได้ 1.6 )
*ร้อยละ 30.5 เห็นว่ายังไม่มีเพลงที่เหมาะสม (ครึ่งปีหลัง 24.8 )

13.) ผู้ประกาศข่าวชายแห่งปี
สรยุทธ สุทัศนะจินดา ร้อยละ 50.5 (ครึ่งปีหลังได้ 50.0 )
กิตติ สิงหาปัด ร้อยละ 9.0 (ครึ่งปีหลังได้ 11.0 )
ภาษิต อภิญญาวาท ร้อยละ 4.3 (ครึ่งปีหลังได้ 4.5 )
*ร้อยละ 17.9 เห็นว่ายังไม่มีผู้เหมาะสม (ครึ่งปีหลัง 10.6 )

14.) ผู้ประกาศข่าวหญิงแห่งปี
พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ (ไบรท์) ร้อยละ 22.5 (ครึ่งปีหลังได้ 24.9 )
เปรมสุดา สันติวัฒนา ร้อยละ 9.8 (ครึ่งปีหลังได้ 14.6 )
ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ร้อยละ 9.1 (ครึ่งปีหลังได้ 10.0 )
*ร้อยละ 29.6 เห็นว่ายังไม่มีผู้เหมาะสม (ครึ่งปีหลัง 17.1 )

15.) พิธีกรข่าวเศรษฐกิจแห่งปี
บัญชา ชุมชัยเวทย์ ร้อยละ 18.9 (ครึ่งปีหลังได้ 20.9 )
ภัทร จึงกานต์กุล ร้อยละ 6.4 (ครึ่งปีหลังได้ 10.5 )
กิตติ สิงหาปัด ร้อยละ 3.4 (ครึ่งปีหลังได้ 6.4 )
*ร้อยละ 62.7 เห็นว่ายังไม่มีผู้เหมาะสม (ครึ่งปีหลัง 48.9 )
‘ปู-ไปรยา’ได้แชมป์เซ็กซี่ ขวัญ-อุษามณีคว้าอันดับ2

“ปู-ไปรยา” นางเอกสาวสุดฮอต จากช่อง 7 คว้ารางวัลเซ็กซี่อันดับหนึ่งเป็นปีที่สอง ในการประกาศรางวัล นสพ.สยามบันเทิง ประกาศศักดาความเป็นซุปตาร์สุดเซ็กซี่เบอร์หนึ่งของไทย ส่งท้ายปี 57 ฮือฮาสาวกระต่าย แม็กซิม “ขโมยซีน” แต่งตัวชุดสุดวาบหวิวเข้างาน โชว์อึ๋มท่อนบนอะร้าอร่าม ช่างภาพรุมตอมถ่ายภาพกันแสงแฟลชแทบไหม้

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ที่ร้านรูท 66 อาร์ซีเอ นสพ.สยามบันเทิง ในเครืออินสไพร์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ จัดงาน “Star’s Light Awards 2014” ประกาศผล 50 เซ็กซี่ ฉลองก้าวสู่ปีที่ 20 โดยบรรยากาศในงานคึกคักไปด้วยเหล่าดารานักแสดงซุปเปอร์สตาร์ พร้อมใจกันเดินทางมาร่วมงานคับคั่ง ท่ามกลางแสงไฟแฟลชอันระยิบระยับของเหล่าช่างภาพที่จับจ้องบันทึกภาพความเซ็กซี่ของเหล่าเซเลบชื่อดังก้องฟ้าเมืองไทย ที่บรรจงแต่งองค์ทรงเครื่องมาประชันกันอย่างสุดฤทธิ์ สำหรับผลการตัดสินในปีนี้ นสพ.สยามบันเทิงให้นางเอกสาวช่อง 7 ปู-ไปรยา สวนดอกไม้ ลุนด์เบิร์ก คว้ารางวัลเซ็กซี่อันดับ 1 ไปครอง ซึ่งถือเป็นการคว้ารางวัลนางเอกเซ็กซี่เบอร์หนึ่งติดต่อกันเป็นปีที่ 2 ส่วนอันดับที่ 2 ได้แก่ ขวัญ-อุษามณี ไวทยานนท์ อันดับที่ 3 ซาร่า มาลากุล เลน อันดับที่ 4 เนย-โชติกา วงศ์วิลาศ อันดับที่ 5 ปุ๊กลุ๊ก-ฝนทิพย์ วัชรตระกูล อันดับที่ 6 แก้ม-กวินตรา โพธิจักร อันดับที่ 7 โม-อมีนา พินิจ อันดับที่ 8 มะลิ-มาลินี โคทส์, อันดับที่ 9 อุ้ม-ลักขณา วัธนวงส์ศิริ และอันดับ 10 นุช-นีรนาท โคทส์

นอกจากนี้ ทาง นสพ.สยามบันเทิงยังมอบรางวัลนางงามเซ็กซี่ให้กับแก้ม-กวินตรา โพธิจักร รางวัลนางแบบเซ็กซี่ โย-ยศวดี หัสดีวิจิตร รางวัลแดนซ์สเตปเทพ ปอ-อรรณพ ทองบริสุทธิ์ หรือ ปอ AF รางวัลแฟชั่นนิสต้าหญิง ได้แก่ ไอซ์-อภิษฎา เครือคงคา แฟชั่นนิสต้าชาย ได้แก่ โทนี่ รากแก่น นางเอกดาวรุ่ง แพทริเซีย กู๊ด เซ็กซี่อินเตอร์ แอน มิตรชัย นักร้องเซ็กซี่ ได้แก่ ศิลปิน นิว-จิ๋ว เซ็กซี่น้องใหม่ ได้แก่ เฟิร์น-ศุภนารี สุทธวิจิตรวงษ์ สาว FHM GND 2014 และแป้ง-ณัฐณิชา ทิพยณฑล The Star 4 รางวัลเซ็กซี่คอมเมดี้ ได้แก่ ชมพู่ ก่อนบ่าย รางวัลนักแสดงดาวรุ่ง ได้แก่ เซฟ-เซฟฟานี่ อาวะนิค รางวัลเซ็กซี่ค้างฟ้า ได้แก่ บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี