ข่าว
สื่อสิงคโปร์ตีข่าว‘ส.ส.ปินส์’ออกตัว ห่วง‘ธนาธร’หลังเจอคดีเพียบ

28 พ.ค.62 เว็บไซต์ นสพ.The Straits Times ของสิงคโปร์ เสนอข่าว “End legal action against anti-junta MP, Asean parliamentarians urge Thailand’ โดยระบุว่า เท็ดดี้ บากิลัต (Teddy Baguilat) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของฟิลิปปินส์ แสดงความเป็นห่วง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (Thanathorn Juangroong-ruangkit) ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่กำลังถูกดำเนินคดีฐานต่อต้านรัฐบาลทหารโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ปกครองประเทศไทยตั้งแต่ปี 2557

รายงานข่าวระบุว่า นายธนาธรเดินหน้าต่อต้าน คสช. อย่างต่อเนื่อง ทั้งการชุมนุมประท้วงในปี 2558 การวิพากษ์วิจารณ์ผ่านโลกออนไลน์ในปี 2561 ล่าสุดเขาถูกศาลรัฐธรรมนูญออกคำสั่งระงับการทำหน้าที่ ส.ส. ไว้ในระหว่างการพิจารณาคุณสมบัติเกี่ยวกับการถือหุ้นในกิจการสื่อ ซึ่งนายเท็ดดี้ มองว่าเป็นการปิดกั้นเสียงวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลทหาร คสช. และเรียกร้องภาครัฐของไทยว่าต้องให้ความสำคัญกับคะแนนเสียงของประชาชน

ทั้งนี้ คาดการณ์กันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (Prayut Chan-o-cha) นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. จะได้อยู่ในอำนาจต่อไปผ่านการสนับสนุนของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่เขาเป็นผู้แต่งตั้ง ซึ่ง ส.ว. จะร่วมกับ ส.ส. ในการการเลือกนายกฯ ด้วย

‘ธนาธร’ไม่ต่อรองเก้าอี้รมต.ตื้อ‘ภท.-ปชป.’ทิ้งสินสอดร่วม‘อนค.’ตั้งรัฐบาล

30 พ.ค. 62 ที่จ.เชียงใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วย น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เขต 8 เชียงใหม่ ร่วมเดินสายขอบคุณประชาชนที่เทคะแนนให้จนชนะเลือกตั้งไปด้วยคะแนน 75,000 คะแนน โดยยอมรับเสียงที่ได้เกินความคาดหมาย และไม่ติดใจที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 2 คน ตกเป็นของพรรคพลังประชารัฐและประชาธิปัตย์ แต่ติดใจสูตรการคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของกกต.

“7 พรรคการเมืองฝั่งประชาธิปไตยยังจับมือเหนียวแน่น มีความเป็นเอกภาพสูง เป้าหมายหลัก คือ ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ ไม่ต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี ขอชวนพรรคภูมิใจไทย และประชาธิปัตย์ ร่วมจัดตั้งรัฐบาล” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าว


'อภิสิทธิ์'ตอบแล้ว! ปมคลิปชวน'ชัชชาติ'ตั้งรัฐบาล ชี้แค่แซวเล่นๆ

30 พ.ค. 62 จากกรณีโลกออนไลน์ได้มีการแชรืคลิปงานเลี้ยงรวมศิษย์เก่าโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่นที่ 15-19 ซึ่งมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นศิษย์เก่าสาธิตจุฬา รุ่นที่ 17 และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้เสนอตัวชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นศิษย์เก่าสาธิตจุฬาฯ รุ่นที่ 19 บนเวทีอย่างสนุกสนาน โดยช่วงที่นายกนิษฐ์เชิญให้นายชัชชาติแนะนำตัว ทันใดนั้นนายอภิสิทธิ์ได้หยอกล้อด้วยการไปจูงมือนายชัชชาติ พร้อมพูดว่า “ไป…เราไปจัดตั้งรัฐบาลกัน” ซึ่งเรียกเสียงฮาครื้นเครงจากคนในงานอย่างมาก

ล่าสุด นายอภิสิทธิ์ ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับคลิปนี้ว่า "เป็นคลิปเก่า ของเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นการแซวเล่นๆ ทำไมสังคมไม่มีอารมณ์ขันกันบ้าง"


เชือด!‘เรืองไกร’ไล่งับ10ส.ส.ปชป.ถือหุ้นสื่อคนดัง‘กรณ์-ตั๊น’เสียววาบ

30 พ.ค. 62 เมื่อเวลา 13.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เข้ายื่นคำร้องต่อกกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบ ส.ส.ถือหุ้นสื่อ ซึ่งอาจเข้าข่ายขาดคุณสมบัติและอาจต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ในทำนองเดียวกันกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โดยระบุว่าเป็นส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 10 รายประกอบด้วย นายกรณ์ จาติกวณิช น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นางกันตวรรณ ตันเถียร ส.ส.พังงา เขต 1 นายบัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง เขต 2 นายอัครเดชวงษ์ พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 นายประมวล พงศ์ถาวรเดช ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 3 นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 6 นายภาณุศรี บุศยกาญจน์ ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 1 น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 3 และนายสมชาติ ประดิษฐพร ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 4 ซึ่งทั้งหมดมีชื่อถือหุ้นในบริษัทที่วัตถุประสงค์ประกอบกิจการของบริษัท ระบุประกอบกิจการด้านสื่อสารมวลชน จึงอาจเข้าข่ายเป็นส.ส.ที่เข้าลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) ที่ศาลรัฐธรรมนูญต้องมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไว้พิจารณา

“ขอเรียกร้อง กกต.ต้องปฏิบัติให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน วันนี้เราเห็นตัวอย่างของศาลรัฐธรรมนูญ ที่สั่งให้นายธนาธร หยุดการปฏิบัติหน้าที่ แต่ตนเห็นว่าหลังจากกกต.พิจารณากรณีของนายธนาธรแล้ว กรณีการถือหุ้นอื่นๆ กกต.ก็เฉยหมด แล้วคิวสุดท้าย ส.ว. 250 คน โดยเฉพาะคนที่เคยยื่นบัญชีทรัพย์สินไว้แล้ว ตนก็เห็นแล้วว่ามีใครบ้าง ก็จะนำรายชื่อมายื่นร้องเรียนกับกกต.ให้หมด”นายเรืองไกร กล่าว

นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า กรณีของนายธนาธร ศาลระบุว่า มีเหตุอันควรสงสัย ต่างจากกรณีที่ผมยื่นคำร้องขอให้กกต.ตรวจสอบส.ส. ที่ถือหุ้นบริษัทที่ประกอบธุรกิจสื่อ ซึ่งมีหลักฐานที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าแสดงชัดเจน และคิดว่ามีส.ส.อีกไม่น้อยกว่า 50 คนที่มีกรณีถือหุ้นสื่อ ทั้งพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งผมจะรวบรวมร้องต่อไป แต่ทำไมกรณีก่อนหน้านี้ที่ยื่นคำร้องไว้ กกต.ยังไม่วินิจฉัย อย่าไปกังวลว่าส่งศาลแล้ว หากคนเหล่านี้ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จะเกิดปัญหาในเรื่องการโหวตนายกฯ ควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ผมอยากให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เป็นนายกฯ ต่อไป เพราะอยากเห็นเวลาประชุมสภา ท่านจะรับฝีปากของส.ส.ได้อย่างไร


'บิ๊กรบ.'ไฟเขียวแกนนำพปชร.ดีลตั้งรัฐบาล หึ่ง!กางนโยบายเกลี่ยกระทรวงใหม่ทั้งหมด

30 พ.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวการจัดตั้งรัฐบาล ที่นำโดย พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า ล่าสุดมีการส่งสัญญาณจากผู้ใหญ่ในรัฐบาล ให้ฝ่ายการเมืองเป็นผู้ดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อให้เป็นรูปแบบของการเมืองมากขึ้น โดยมี นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค เป็นผู้ดำเนินการ สอดคล้องกับที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุเมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา ว่าการตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องของพรรคการเมือง เนื่องจากพรรคร่วมโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และภูมิใจไทย (ภท.) อาจไม่สบายใจที่ พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ว่าจะเป็นผู้พิจารณารายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ด้วยตัวเอง

อย่างไรก็ตาม จากการเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย ก่อนหน้านี้ มีหลายประเด็นที่ต้องพิจารณากันต่อไป ซึ่งอาจมีการเกลี่ยกระทรวงกันใหม่จากเดิมที่วางไว้แล้ว โดยพิจารณาที่ด้านนโยบายของแต่ละพรรคการเมือง โดยตำแหน่งในกระทรวงต่างๆ จะต้องจัดลำดับความสำคัญและคำนึงถึงเสถียรภาพของรัฐบาลด้วย ทั้งนี้ พรรค พปชร.ตั้งเป้าจะตกลงกันให้ได้ก่อนวันโหวตเลือกนายกฯ แต่ในขั้นสุดท้าย พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นคนเคาะรายชื่อบุคคลต่างๆ ว่าเหมาะกับตำแหน่งรัฐมนตรีในกระทรวงที่ได้รับหรือไม่

รายงานข่าวแจ้งว่า แกนนำพรรค พปชร.มองว่าหากภาพรวมกระทรวงเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงคมนาคม ฯลฯ ไม่ได้เป็นของพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็จะกระทบกับคนชนบทซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ ซึ่งที่สุดจะส่งผลต่อการเลือกตั้งครั้งต่อไป ดังนั้น จึงต้องมาร่วมกันพิจารณาอย่างรอบคอบ


ทวงคืนสโลแกน’50 ปีปชป.’ ผู้ชนะประกวดจัดให้อีกดอกสโลแกน 73 ปี

30 พ.ค.62 - บัญชีเฟซบุ๊ก “บัก หำน้อย (ตนเล็กคนน้อยต้องมีสิทธิเสรี)” ของนายวรา จันทร์มณี โพสต์ภาพเมื่อครั้งนายวรา ขณะเป็นนักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง รับมอบโล่รางวัลเมื่อปี 2538 จากการประกวดคำขวัญครบรอบ 50 ปี พรรคประชาธิปัตย์ จากมือนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมข้อความ ระบุว่า “ผมอยากขอสโลแกน “50 ปี ประชาธิปัตย์ พัฒนาประชาธิปไตย รับใช้ประชาชน” ของผมคืน และพร้อมจะโอนเงินรางวัล 5,000 บาท คืนให้พรรคประชาธิปัตย์ด้วย ใครจะติดต่อให้ได้มั่งครับ”

“นอกจากจะคืนเงินให้แล้ว หากพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐในครั้งนี้ ผมจะแถมสโลแกนใหม่ให้ด้วย “73 ปี ประชาธิปัตย์ กัดกร่อนประชาธิปไตย ทรยศประชาชน” พูดจริงนะครับ พูดแล้วไม่ตระบัดสัตย์ ใครติดต่อให้ได้ ผมขอขอบคุณล่วงหน้าครับ “

สำหรับนายวรา เป็นอดีตเลขาส่วนตัว ท่านอังคาร กัลยาณพงศ์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์และกวีซีไรต์ และยังเคยเป็นอดีตกรรมการองค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง

สื่อจีนย้ำคำขู่ ไม่ขายแรร์เอิร์ธให้สหรัฐ

สื่อทางการจีนเผยแพร่คำตอบของเจ้าหน้าที่ในคณะกรรมาธิการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติเมื่อวานนี้ว่า หากถามว่าจีนจะใช้แรร์เอิร์ธเป็นมาตรการตอบโต้การกดขี่อย่างไร้เหตุผลของสหรัฐได้หรือไม่ ขอตอบว่าหากใครคิดจะใช้สินค้าที่ทำจากแรร์เอิร์ธมาจำกัดและกดขี่การพัฒนาของจีน ชาวจีนทั้งประเทศย่อมไม่พอใจอย่างแน่นอน แรร์เอิร์ธเป็นทรัพยากรที่ควรสงวนไว้ใช้ในประเทศก่อนเป็นอันดับแรก แต่จีนยินดีแบ่งปันกับทั่วโลกที่มีความต้องการใช้ในทางที่ชอบธรรม

สื่อทางการจีนหลายแห่งยังแสดงความเห็นในเชิงเตือนและขู่สหรัฐด้วย บทความแสดงความเห็นในสำนักข่าวซินหัวระบุว่า การทำสงครามการค้ากับจีน ทำให้สหรัฐเสี่ยงสูญเสียวัตถุดิบที่จำเป็นต่อการรักษาความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยี ส่วนบทบรรณาธิการในเว็บไซต์หนังสือพิมพ์โกลบอลไทมส์ระบุว่า สหรัฐจะสำนึกเสียใจที่บีบจีนเรื่องแรร์เอิร์ธ เพราะหากสหรัฐเดินหน้ากดขี่การพัฒนาของจีน แน่นอนว่าจีนจะใช้แรร์เอิร์ธเป็นอาวุธไม่ช้าก็เร็ว จีนผลิตแรร์เอิร์ธกว่าร้อยละ 95 ของโลก ขณะที่

สหรัฐนำเข้าจากจีนถึงร้อยละ 80 ของที่นำเข้าทั้งหมด แรร์เอิร์ธ เป็นธาตุ 17 ชนิด ที่จำเป็นต่อการผลิตสินค้าไฮเทคทุกอย่างตั้งแต่สมาร์ทโฟน โทรทัศน์ กล้อง หลอดไฟ ไปจนถึงยุทโธปกรณ์ทางทหาร

อย่างไรก็ดี นายเจมส์ กริฟฟิธส์ โปรดิวเซอร์อาวุโสซีเอ็นเอ็นเขียนบทความลงในเว็บไซต์ซีเอ็นเอ็นว่า หนังสือพิมพ์โกลบอลไทมส์ของทางการจีน ลงข่าวประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง เยี่ยมบริษัทที่เชี่ยวชาญเรื่องแรร์เอิร์ธในมณฑลเจียงซี ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ สัปดาห์ก่อน เป็นการแสดงความสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่ออุตสาหกรรมสำคัญที่มองกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นสิ่งที่ทำให้จีนได้เปรียบในการทำสงครามการค้ากับสหรัฐ ส่วนเมื่อสัปดาห์ก่อนหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ระบุว่า ความต้องการแรร์เอิร์ธของสหรัฐคือแต้มต่อของจีน เพราะสหรัฐอาจต้องใช้เวลาหลายปีในการฟื้นอุตสาหกรรมแรร์เอิร์ธและเพิ่มปริมาณการผลิตในประเทศเพื่อลดการพึ่งพาแรร์เอิร์ธจากจีน นานพอที่จะทำให้จีนชนะสงครามการค้าได้ และในระหว่างนั้นการที่จีนผูกขาดการผลิตแรร์เอิร์ธก็จะทำให้จีนชี้เป็นชี้ตายภาคไฮเทคของสหรัฐได้

นายกริฟฟิธส์ชี้ว่า จีนเคยใช้วิธีนี้กับญี่ปุ่นในปี 2553 ญี่ปุ่นรีบปล่อยตัวกัปตันเรือประมงจีนหลังจีนงดส่งออกแรร์เอิร์ธไปให้ แต่หมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออกที่จีนเรียกว่าเตียวหยูและญี่ปุ่นเรียกว่าเซนกากุ ก็ยังคงอยู่ภายใต้การยึดครองของญี่ปุ่น แรร์เอิร์ธไม่ได้หายากตามชื่อ แต่ยากเรื่องการสกัดออกมา จีนมีบทบาทสำคัญในการค้าแรร์เอิร์ธระดับโลกเพราะหย่อนยานเรื่องผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ทำให้จีนสกัดแรร์เอิร์ธได้ถูกและมากกว่าประเทศอื่น แรร์เอิร์ธพบได้ทั่วโลกทั้งในญี่ปุ่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย บางส่วนของแอฟริกาตะวันออกและแอฟริกาใต้ นอกจากนี้ ยังคาดกันว่าจีนอาจต้องกลายเป็นผู้นำเข้าแรร์เอิร์ธภายในปี 2568 เสียด้วยซ้ำ