“ทักษิณ” ย้ำปล่อยวาง ให้โอกาสทหารทำงานอย่างเต็มที่ ส่งสัญญาณอย่าไปขวาง ยันพร้อมให้ความร่วมมือทุกทาง ระบุหากทำให้เศรษฐกิจประเทศกระเตื้องได้
วันที่ 22 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาฮ่องกง เพื่อฉลองวันเกิดให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว ที่มีวันคล้ายวันเกิดตรงกับวันที่ 21 ส.ค. โดยมีคนใกล้ชิดครอบครัวชินวัตร เดินทางไปร่วมแสดงความยินดี นอกจากนี้ ยังมีนักการเมืองของพรรคเพื่อไทยส่วนหนึ่งเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย
ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ระบุกับผู้ที่ไปพบว่า ตั้งแต่มีการชุมนุมของ กปปส. ทำให้เศรษฐกิจของประเทศทรุดตัวลงเรื่อยๆ และเมื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามายึดอำนาจ ก็ยังทำให้ภาพรวมของประเทศเสียหายลง อย่างไรก็ตาม เมื่อขณะนี้จะมีรัฐบาลชุดใหม่แล้ว ก็ต้องให้โอกาสเขาทำงานไป หากเราไปขัดขวางก็จะกลายเป็นว่า ไม่ให้ความร่วมมือกับประเทศ อะไรที่จะทำให้เศรษฐกิจกระเตื้องได้ ก็ควรให้การสนับสนุน อะไรที่จะเป็นประโยชน์ของประเทศ ก็ควรให้ความร่วมมือกับเขา ให้โอกาสเขาได้ทำงานอย่างเต็มที่
วอยซ์ออฟอเมริกา - สื่อของอเมริการายงานข่าวพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารที่นำกองทัพขับไล่รัฐบาลไทยเมื่อ 3 เดือนก่อน ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศ หลังถูกเสนอชื่อเพียงคนเดียว อ้างคำสัมภาษณ์ของนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการผู้หลบหนีพูดจาเหน็บแนมไม่ต่างอะไรจากเกาหลีเหนือ ขณะที่สหรัฐฯ แสดงความหวังว่ากระบวนการนี้จะนำไปสู่รัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งโดยอิสระและยุติธรรม
วอยซ์ออฟอเมริการายงานว่าสมาชิกสภานิติบัญัติแห่งชาติที่ได้รับเลือกสรรเข้ามาและเต็มไปด้วยทหาร ได้จัดประชุมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของประเทศในวันพฤหัสบดี(21) โดยมีเพียงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ถูกเสนอชื่อเพียงคนเดียว และไม่กี่นาทีหลังจากเสร็จสิ้นการโหวตแบบรายตัวของสมาชิก 191 คน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ก็ประกาศว่าการเสนอชื่อพลเอกประยุทธ์ในฐานะนายกรัฐมนตรีเป็นที่ยอมรับ และเตรียมนำความขึ้นกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป
สำนักข่าวของสหรัฐฯบอกว่าเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับกระบวนการเผด็จการในการเลือกผู้นำรัฐบาลคนใหม่เงียบเชียบมากในไทย ด้วยกฎอัยการศึกยังคงมีผลบังคับใช้ ขณะที่กฎหมายนี้ไม่อนุญาตให้มีการชุมนุมและการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนภายในประเทศก็อยู่ภายใต้การตรวจสอบของทหาร
อย่างไรก็ตามวอยซ์ออฟอเมริกาบอกว่า ยังมีนักวิจารณ์ชาวไทยส่วนหนึ่ง ซึ่งบางคนตอนนี้หลบหนีคณะรัฐประหารอยู่ในต่างแดน รวมถึงผู้แสดงทัศนะที่ไม่เปิดเผยตัวตนบนสื่อสังคมออนไลน์ ต่างคร่ำครวญต่อกระบวนการดังกล่าว โดยบางรายถึงขั้นเปรียบเทียบโครงสร้างรัฐบาลปัจจุบันของไทยกับเกาหลีเหนือ ซึ่งมีพรรคการเมืองเดียวและทำหน้าที่เสมือนตรายางเท่านั้น
สื่อแห่งรัฐอเมริกาอ้างคำสัมภาษณ์ของนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ จากสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต บอกว่าทั้งสองประเทศมีความเหมือนกันมากในทางการเมืองเวลานี้ "ผมไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องขบขัน มีอยู่หลายจุดที่สามารถนำสองประเทศมาเปรียบเทียบกัน โดยเฉพาะความน่าขันทางการเมืองบางอย่าง ผู้คนมีชีวิตอยู่ในความเพ้อฝันทางการเมืองของตนเอง มันดีเกินกว่าที่จะเป็นจริง มันเป็นแค่ความเพ้อฝัน"
นายปวิน ที่เวลานี้หลบหนีอยู่ในญี่ปุ่น หลังถูกคณะรัฐประหารยกเลิกพาสปอร์ตจากกรณีไม่ยอมเดินทางกลับประเทศตามคำสั่งรายงานตัว ชี้ว่าพลเอกประยุทธ์ เก็บซ่อนความปรารถนานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีไว้ในใจมานานแล้ว
"มันไม่ใช่การคืนอำนาจแก่ประชาชนคนไทย มันไม่เกี่ยวกับการปฏิรูปการเมืองไทย มันไม่ใช่ความพยายามมองหาวันสำหรับการเลือกตั้ง" นายปวิน ให้สัมภาษณ์กับวอยซ์ออฟอเมริกา "แต่มันคือส่วนหนึ่งของการเพิ่มอำนาจของทหารในการเมืองเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะมีกลไกลทางการเมืองในรูปแบบที่ไว้ใจได้ที่สามารถขัดขวางการกลับมาของตัวแทนของทักษิณ"
ขณะเดียวกันวอยซ์ออฟอเมริกา รายงานว่าทางสถานทูตสหรัฐฯในกรุงเทพฯ บอกว่าพวกเขากำลังจับตาพัฒนาการล่าสุดของการเมืองไทยและวอชิงตันหวังว่ามันจะเป็นก้าวย่างในกระบวนการที่นำไปสู่รัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งโดยอิสระและยุติธรรม
นายไพศาล พืชมงคล อดีตสมาชิกวุฒิสภาและอดีตสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol วันที่ 22 สิงหาคมว่า
การชี้นำของระบอบทักษินตอนนี้คือ สงบ และติดตามสถานการณ์ให้ใกล้ชิด รอให้ประชาชนผู้รักชาติปะทะกับ คสช. แล้วจึงฉวยโอกาสซ้ำเติม
แผ่นดินกำลังก่อตัวเป็น สามก๊ก ดังที่คาดหมายไว้
นั่นเพราะ1 คสช. ไม่ได้จัดการแก้ไขต้นตอปัญหาที่เกิดความขัดแย้ง ในประเทศ เหตุยังอยู่ ผลย่อมยังอยู่ด้วย
2 คสช. ไม่เห็นว่าการโกงชาติ การตั้งรัฐไทยไหม่ ต้องจัดการด้วยอำนาจรัฐ ปล่อยให้กลไกปกติที่สิ้นสภาพจัดการ
3 คสช. เห็นว่าประชนที่ต่อสู้เพื่อชาติศาสน์กษัตริย์ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาเป็นพวกมีปัญหาเหมือนพวกเผาเมือง ฆ่าคน
ดังนั้นจึงตั้งตนเป็นผู้ถืออำนาจ เป็นก๊กหนึ่ง
ระบอบทักษิณก็เป็นก๊กหนึ่งอยู่แล้ว
ประชาชนผู้รักชาติศาสน์กษัตริย์ก็ยังต่อต้านการโกงบ้านกินเมืองพิทักษ์สถาบันต่อไปจึงเป็นก๊กหนึ่ง
ความคิดที่ก่อให้เกิดสภาพสามก๊กนี้ถูกหรือความคิดที่ผมเสนอให้ คสช สามัคคีกับฝ่ายถูกแก้ไขฝ่ายผิดแล้วฟื้นฟูชาติถูก
ไม่นานคงเห็นชัดยิ่งกว่านี้
รบกวนฝ่ายเสธของ คสช. ช่วยพิมพ์แล้วนำเสนอหน่อยนะครับ
อย่าให้ความเสี่ยงเพิ่มมากกว่านี้เลย
คอรีย์ กรีฟฟิน หนึ่งในผู้ร่วมริเริ่มกิจกรรม 'Ice Bucket Challenge' เพื่อระดมทุนช่วยเหลือผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง เสียชีวิตแล้วในอุบัติเหตุระหว่างการดำน้ำที่รัฐแมสซาชูเซสต์...
นายคอรีย์ กรีฟฟิน หนึ่งในผู้ร่วมริเริ่มกิจกรรม 'Ice Bucket Challenge' เพื่อระดมทุนแก่สมาคมโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Amyotrophic Lateral Sclerosis: ALS) เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคดังกล่าว และกำลังได้รับความสนใจจากทั่วโลก เสียชีวิตแล้วในอุบัติเหตุระหว่างการดำน้ำที่เกาะ แนนทักคิต รัฐแมสซาชูเซตส์ ด้วยวัยเพียง 27 ปี
ตามรายงานของสำนักข่าว บลูมเบิร์ก นายกริฟฟินได้รับการประกาศว่าเสียชีวิตที่โรงพยาบาล แนนทักคิต คอทเทจ ในเวลา 3:00น. วันเสาร์ (16 ส.ค.) โดยคาร์ลอส มอเรรา โฆษกตำรวจท้องถิ่นเผยว่า นายกริฟฟินกระโดดลงมาจากชั้น 2 ของอาคารหลังหนึ่ง ลงไปในอ่าวแนนทักคิต แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียดอื่นๆ แต่ไมเคิล กรีลีย์ โฆษกส่วนตัวและเพื่อนขอบนายกริฟฟินเผยว่า นายกริฟฟินได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง 2 จุดในเหตุการณ์ดังกล่าว
ขณะที่เว็บไซต์ บิสเนสอินไซเดอร์ (businessinsider) รายงานอ้างคำพูดของผู้เห็นเหตุการณ์ว่า กริฟฟินโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำครั้งหนึ่งก่อนจะจมลงไปและไม่โผล่ขึ้นมาอีกเลย และนาย โคลิน แพร์รี เจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ด ดำน้ำค้นหานายกริฟฟินหลายครั้ง ก่อนจะพบเขาที่ก้นอ่าว เจ้าหน้าที่พยายามทำ ซีพีอาร์ ช่วยชีวิตแต่ไม่เป็นผล
ทั้งนี้ นายกริฟฟิน อดีตผู้จัดการของบริษัทการลงทุน เบน แคปิตอล จำกัด ช่วยเปลี่ยนให้กิจกรรม Ice Bucket Challenge เป็นการระดมทุนผู้ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง หลังจากที่เพื่อนของเขา พีท เฟรตส์ อดีตกัปตันของทีมเบสบอลมหาวิทยาลัยบอสตัน ได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคดังกล่าว และมีรายงานด้วยว่า กริฟฟินบริจาคเงิน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯให้แก่โครงการนี้
Ice Bucket Challenge กำลังถูกพูดถึงอย่างมาในโลกออนไลน์ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา โดยมีดาราคนดังมามายร่วมกิจกรรมและบริจาคเงิน อาทิ โอปราห์ วินฟรีย์, จัสติน บีเบอร์, บริทนีย์ สเปียร์, บิล เกตส์, มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก, เลดี้ กาก้า, ชาร์ลี ชีน, จอร์จ บุช เป็นต้น โดยจนถึงตอนนี้สามารถระดมทุนได้มากถึง 22.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯแล้ว
อนึ่ง พีท เฟรตส์ เขียนถึงนายกริฟฟินบนเฟซบุ๊กของเขาว่า "การช่วยเหลือคนไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับกริฟฟน เขาจัดอีเวนท์เพื่อผมเมื่อปี 2012 ไม่กี่เดือนหลังมีการวินิจฉัย เขาพยายามอย่างหนักในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อผู้ป่วยALS เราส่งข้อความคุยกันทุกวัน วางแผนและวางโครงร่างแนวทางเพื่อระดมทุน และจัดอีเวนท์"
"พลอย เฌอมาลย์" โพสต์อินสตาแกรม บอก "I don't give a fuck" พร้อมเปลี่ยนสถานะบอกขอลาหลังสู้มามากพอแล้วนับตั้งแต่เข้าวงการ ด้านแฟนคลับแห่ใจกำลังใจเพียบ
ยังเป็นประเด็นอย่างต่อเนื่อง สำหรับนางเอกสาว "พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์" ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวเคยกระชากแขนนักข่าว จนสื่อต้องออกมารวมตัวกันแบนนางเอกสาวและยืนยันที่จะไม่นำเสนอข่าวที่สาวพลอยไปร่วมงาน เพราะเกิดความไม่พอใจในเรื่องพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แถมใช้วาจาแบบไม่สุภาพ จนเจ้าตัวได้บินลัดฟ้าด้วยการที่ไปเที่ยวนิวยอร์ก
ล่าสุดนางเอกสาว "พลอย เฌอมาลย์" ได้ออกมาโพสต์รูปภาพลงอินสตาแกรมส่วนตัว @chermarn ที่มีข้อความว่า "I don't give a fuck" หรือที่แปลว่า "ฉันไม่สนใจคุณหรอกย่ะ" ทั้งนี้สาวพลอยยังเปลี่ยนข้อความบนหัวอินสตาแกรมว่า "ขอลา... อยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีใคร มาทำร้ายพลอยได้อีก.... ตั้งแต่ 11-32 มันสู้มามากพอ...."
ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวก็ทำเอาหลายคนเกิดความสงสัยกันว่าเจ้าตัวต้องการจะลาวงการหรือเปล่าเพราะช่วงดังกล่าวนั้นเป็นเวลาที่เธอเข้ามาอยู่ในวงการบันเทิงนั่นเอง
ขณะที่เหล่าบรรดาแฟนคลับที่ติดตามอินสตาแกรมของสาวพลอย ต่างออกมาโพสต์ให้กำลังใจอย่างล้นหลาม อาทิ "สู้ๆๆค่ะมีคนรอดูพี่อยู่ เป็นกำลังใจให้นะค่ะ. กำลังใจของพี่ยังมีให้พี่เสมอ"...."อดทน..ชนะทุกอย่าง^^"...."สู้ๆค่ะ อย่าได้แคร์"....."จริงจร้ามีอะไรอีกเยอะให้เราได้เรียนรู้ สู้สู้ แค่ช่วงเวลาเดียวเดี๋ยวก็ผ่านไป"...."อดทน และเข็มแข็ง เมื่อมีเรื่องร้ายๆๆ เดี่ยวมันก้จะมีเรื่องดีดีเข้ามา สุขก้อยู่ไม่นาน ทุกขก้อยู้ไม่นาน ไม่มีอะไรแน่นอน อยู่กับปัจจุบันให้สุขที่สุด เก็บพลังไว้ใช้เมื่อยามทุกข์นะ พี่เอาใจช่วย"
ในที่สุดภารกิจท้าสาดน้ำแข็งก็ส่งต่อมาถึงนางเอกสาว เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ โดยน้องเจี๊ยบของเราได้รับคำท้าจาก นานา ไรบีนา, ดีเจบุดด้า, มิ้นต์ ชาลิดา, สรัญวุฐิ วัชรพล งานนี้น่าดีใจที่ได้ยินเสียงของ สาวเจนี่ เป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดเรื่องราวข่าวคราว ก่อนที่เธอจะเจอน้ำเย็นๆ ราดตัว และถูกหนุ่มคนหนึ่งพุ่งชาร์จรวบเอวลงสระน้ำไป ก่อนที่ เจนี่ จะส่งต่อคำท้าให้ เวย์ ไทยเทเนี่ยม, พอลล่า เทเลอร์ และ แอน อลิชา โดยคลิปโดนสาดน้ำนี้ถูกส่งตรงมาจาก LA
แต่ช้าก่อน เรื่องราวยังไม่จบลงเท่านี้ เพราะประเด็นมันเกิดขึ้นให้เผือกกันว่าหนุ่มปริศนาที่พุ่งมาโอบ เจนี่ ลงน้ำคือใคร?? แฟนใหม่หรือเปล่า? เพื่อนสนิทหรือเปล่า? สาวหล่อคนไหนหรือเปล่า? อู้ย สุดแต่จะคาดเดากันไป! เอ้า แต่งานนี้ เจนี่ ไม่ปล่อยให้สงสัยกันนานเพราะล่าสุด เจนี่ เปิดตัวผู้ชายคนหนึ่งลงในวิดีโอคลิปในอินสตาแกรมในจังหวะที่คนกำลังหาคำตอบถึงผู้ชายที่พุ่งชาร์จโอบเธอลงสระน้ำพอดิบพอดี โดยระบุว่า
"May I introduce you to my new bff jason he's a good one #trustme #securitydetails #loveyou #youknowmytaste" คือนางก็บอกประมาณว่า ขอแนะนำให้รู้จักเพื่อนที่ดีที่สุดคนใหม่ เขาเป็นคนดีนะจ๊ะ (bff=best friends forever) #เชื่อใจฉันเถอะ#เช็กมาแล้วว่าปลอดภัย#เลิฟยู#น่าจะรู้ว่าฉันชอบแบบไหน อั๊ยยะ! จัดเต็มมาแบบนี้ ท่าทางคนนี้จะเช็กมาแล้วจริงๆ ว่าปลอดภัย (ฮ่า) ว่าแต่แค่เพื่อนจริงๆ เหรอจ๊ะ เจนี่? เอาเป็นว่า เจสัน จะแซ่บแค่ไหน
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012