ข่าว
มือปืนติดกล้องไลฟ์สดนาทีโหด กราดยิงถล่มมัสยิดตาย 49 ศพ

ยอดเหยื่อกราดยิงถล่มมัสยิด 2 แห่งในเมืองไครสต์เชิร์ช นิวซีแลนด์ อย่างน้อย 49 ศพ หนึ่งในมือปืนติดกล้อง GoPro ไลฟ์สด นาทีกราดยิงสุดเหี้ยม ขณะที่ ตร.ควบคุมผู้ต้องสงสัยร่วมก่อเหตุกราดยิงแล้ว 4 ราย

15 มี.ค.62 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุกราดยิงสุดโหด ถล่มมัสยิดถึง 2 แห่ง ในเมืองไครสต์เชิร์ช เมืองทางชายฝั่งตะวันออกของเกาะใต้ ในประเทศนิวซีแลนด์ ขณะที่ชาวมุสลิมจำนวนมากมาประกอบพิธีละหมาด เมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ 15 มี.ค.62 นั้น

เว็บไซต์ เดลี่เมล รายงานว่า เหตุการณ์กราดยิงที่มัสยิด 2แห่ง ได้แก่ มัสยิดอัล นูร์ ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมือง และมัสยิดอีกแห่งบนถนนลินวูด ในเมืองไครสต์เชิร์ช คราวนี้ว่าเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนอย่างน้อย 40 ราย ก่อนต่อมา ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 49 รายแล้ว บาดเจ็บเกือบ 50 ราย ในขณะที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวคนต้องสงสัยร่วมกันก่อเหตุได้แล้ว 4 คน เป็นชาย 3 คน และหญิง 1 คน อีกทั้งยังพบว่ามีระเบิดแสวงเครื่องหลายลูกติดไว้ในรถยนต์หลายคันด้วย

เดลี่เมล ยังเผยแพร่คลิปนาทีมือปืนคนหนึ่ง ซึ่งบอกชื่อตนเองทางทวิตเตอร์ว่า ชื่อเบรนตัน ทาร์เรนต์ มาจากเมืองแกรฟตัน รัฐนิวเซาท์เวลส์ ในออสเตรเลีย วัย 28 ปี ได้ติดตั้งกล้อง GoPro ถ่ายทอดสด ‘ไลฟ์-สตรีม’ ทางอินเทอร์เน็ต เผยแพร่นาทีสะเทือนขวัญ เหตุการณ์ขณะที่มือปืนรายนี้ได้ขับรถยนต์มาจอดที่ด้านหน้ามัสยิดอัล นูร์ ก่อนจะหยิบปืนไรเฟิลสองกระบอกเดินเข้าไปก่อเหตุกราดยิงในมัสยิด เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น.ของวันที่ 15 มี.ค. ตามเวลาท้องถิ่น โดยคลิปที่เดลี่เมลนำมาเผยแพร่นั้น หยุดลงเพียงเท่านี้

ขณะที่มีรายงานว่า มือปืนหนุ่มคนนี้ได้กราดยิงสังหารหมู่ ปลิดชีพเหยื่อเคราะห์ร้ายอย่างเหี้ยมโหด กระสุนหลายสิบนัดถูกยิงใส่ชาวมุสลิมที่กำลังประกอบพิธีละหมาด จนทำให้มีบางคนโดนคมกระสุนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที

นายกรัฐมนตรีเจซินดา อาร์เดิร์น แห่งนิวซีแลนด์แถลงข่าวร้ายด้วยสีหน้าเศร้าสลดเคร่งเครียด

ด้านนายกรัฐมนตรีเจซินดา อาร์เดิร์น แห่งนิวซีแลนด์ ได้เดินทางจากกรุงเวลลิงตัน มายังเมืองไครสต์เชิร์ชทันที เพื่อร่วมประชุมฉุกเฉินกับเจ้าหน้าที่ทางการ หลังรับแจ้งเกิดเหตุร้าย โดยนายกรัฐมนตรีหญิงแห่งนิวซีแลนด์ได้เรียกเหตุกราดยิงที่มัสยิด 2 แห่งในเมืองไครสต์เชิร์ช ว่า เป็นหนึ่งในวันที่มืดมนที่สุดของนิวซีแลนด์ และเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยในประเทศนิวซีแลนด์.

"จตุพร" เย้ย "บิ๊กตู่" ถ้าหากไม่มี "สุเทพ" ชาตินี้ก็ไม่มีทางได้เป็นนายกฯ

"จตุพร" ประกาศเพื่อชาติ ปักธง สกลนคร เย้ย ถ้าไม่มี "สุเทพ" ไปชุมนุมเปิดประตูให้ทหารยึดอำนาจ ชาตินี้ "บิ๊กตู่" ก็ไม่มีทางได้เป็นนายกฯ ฝากเตือน เส้นทางที่ไป จบไม่สวยสักคน

วันที่ 15 มี.ค. พรรคเพื่อชาติ ลงหาเสียงที่ จ.สกลนคร ในภารกิจ "ส่งประยุทธ์กลับบ้าน" โดยมี นายอารี ไกรนรา, ดร.วิโชติ วัณโณ รองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ คณะผู้บริหารพรรคเพื่อชาติ และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ ปราศรัยใหญ่จุดแรก ณ วัดบ้านคำเพิ่ม อ.ภูพาน จ.สกลนคร ช่วยผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อชาติ จ.สกลนคร นายเฉลิมชัย อุฬารกุล เขต 2 เบอร์ 18

นายจตุพร กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐได้ไปถาม กกต.ว่า จะให้พลเอกประยุทธ์ขึ้นเวทีปราศรัย หรือดีเบตได้หรือไม่ กกต.ก็บอกว่าได้ แต่ท้ายที่สุดเปลี่ยนใจ เมื่อคืนนี้ส่งมาเป็นคลิปไปยังจังหวัดสุโขทัย แล้วถามคนไทยว่า กล้าไปกับผมหรือไม่ ทั้งนี้ตนอยากจะบอกกับพลเอกประยุทธ์ว่า ตนไม่กล้าไปกับพลเอกประยุทธ์ เพราะเส้นทางที่ประยุทธ์จะไปนั้น เหมือนกันหมด ในประวัติศาสตร์ จุดจบไม่สวยสักคน ตนจึงไม่กล้าที่จะไปกับพลเอกประยุทธ์

ความจริงเราเรียกร้องกันมาตลอดเวลา 5 ปี ที่พลเอกประยุทธ์ยึดอำนาจมา ถ้าสามารถบริหารชาติให้คนไทยหายจน พืชผลทางการเกษตรราคาดี ขายไม่ขาดทุน คนไทยมีความสุขกันทั่วหน้า แต่ 5 ปีมานี้เราจนกันทั่วหน้า มีพลเอกประยุทธ์พูดทุกวันศุกร์บอกว่า คืนความสุข ทั้งที่ตลอดระยะเวลา 5 ปี ไม่เคยมีความสุขจริง แม้แต่เพียงวันเดียว เมื่อไม่สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้ ก็ควรที่จะกลับบ้านได้แล้ว วันนี้พรรคเพื่อชาติคิดไม่มาก บอกกับพี่น้องคนไทยสั้นๆ ว่า เลือกพรรคเพื่อชาติ พาประยุทธ์กลับบ้านทันที แล้วเราจะชนะได้หรือไม่นั้น ตนขอเรียนว่า เผด็จการทั้งโลกก็เป็นแบบนี้ เวลาจะเลือกตั้งก็จะเอาเปรียบแบบนี้ แต่ท้ายที่สุดแพ้ทุกราย เหตุผลที่แพ้เพราะประชาชนทั้งแผ่นดินนั้นไม่ยินยอมให้ประเทศนี้เป็นเผด็จการอีกต่อไป

นายจตุพร กล่าวด้วยว่า ตนอยากจะบอกกับพี่น้องว่า ฟากฝั่งของนายสุเทพ ซึ่งเป็นฝั่งเดียวกับพลเอกประยุทธ์นั้น กำลังอยู่ในช่วงคลั่ง ใครไม่หนุนประยุทธ์ อาละวาดหมด ไม่เว้นแม้กระทั่ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งวันนี้นายสุเทพ แฉหมด ว่า ทำให้นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ได้อย่างไร ต้องไปเจรจากันที่ต่างประเทศ แล้วก็บอกว่านายอภิสิทธิ์ ถ้าไม่ได้นายสุเทพ อย่าว่าแต่ชาตินี้เลย ชาติหน้าก็ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ตนก็ขอบอกว่า อย่าว่าแต่นายอภิสิทธิ์เลย พลเอกประยุทธ์ ก็เหมือนกัน ถ้าไม่มีนายสุเทพไปชุมนุมแล้วนำไปสู่การเปิดประตูให้กับการยึดอำนาจ พลเอกประยุทธ์ ก็ไม่มีทางที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีเหมือนกัน

จากนั้น ก่อนสิ้นสุดการปราศรัย นายจตุพรได้ทำการปักธง พร้อมกล่าวว่า ขออนุญาตฝากพี่น้อง อย่าให้แพ้พลังประชารัฐ อย่าให้แพ้ใคร จนกระทั่งนายสุเทพขอให้พี่น้องเลือกด้วยความเสียสละ พรรคใหญ่เลือกมากไปก็ชนเพดาน พรรคเล็กคะแนนทั้งหมด ไปเทรวมกัน ไม่หายไปไหน ตนขออนุญาตปักธง ณ ดินแดนของนักสู้ วีรบุรุษภูพานทุกท่าน ณ ที่แห่งนี้

จากนั้นทางคณะก็ได้เดินทางต่อไปปราศรัยใหญ่ ณ วัดบ้านนาศรีนวล อ.โคกศรีสุพรรณ, สวนกล้วยไม้เฉลิมชัย อ.โพนนาแก้ว และวัดโพนธาราม อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร เป็นจุดสุดท้ายของวันนี้.


'ชูวิทย์' จัดหนัก 'สุเทพ' ด่าขนาดนี้ใครเลือกปชป.

14 มี.ค. 62 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊ก "ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" ถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำกปปส. ปราศัยบนเวที โดยอ้างบุญคุณว่าหากไม่ได้ตนเอง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ชาติหน้าก็ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี

ระบุว่า "เอาน่าสุเทพ สุภาษิตเขาบอก “กินบนเรือน ขี้รดบนหลังคา” มันไม่ดี คิดถึงอดีตที่เคยร่วมเป็นร่วมตายกันมาหน่อย นี่ขนาดกินข้าวหม้อเดียวกัน ยังด่าได้ขนาดนี้ แล้วชาวบ้านที่ไหนจะกล้าเลือกปชป. สาวไส้ให้กากินแท้ๆ"


‘บิ๊กตู่’เปิดคลิปปราศรัยใหญ่ อ้อนคนฝั่งธนช่วยเลือก’พปชร.

15 มี.ค.62 เมื่อเวลา 18.00 น. ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติบางมด พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ โดยมีประชาชนร่วมรับฟังประมาณ 4,000 คน บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค ปราศรัยว่า การปราศรัยครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในกรุงเทพของพรรค เราเป็นพรรคน้องใหม่ที่มีอายุแค่ 4 เดือน แต่ใจโตกว่า 4 เดือนมาก โดยพร้อมทุ่มแรงใจและกายในการทำงานเพื่อประชาชน เราขอนำเสนอนโยบายหลายอย่าง ที่ตอบโจทย์ประชาชน ทำได้จริง ไม่มีปัญหาตามมาแน่นอน

นายอุตตม กล่าวว่า วันนี้หลายพรรคให้ความสนใจต่อพรรคเรามาก โดยออกมาตินโยบายที่เราออกมา แต่ยืนยันว่าสิ่งที่จะทำนั้น เป็นประโยชน์ ไม่มีปัญหาตามมา โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง เกิดวาทกรรมทางการเมืองมากมาย ซึ่งตนมองว่าไม่ใช่เวลา ที่จะมาแบ่งขั้วกัน แต่ควรนำเสนอนโยบาย ที่จะทำเพื่อประชาชน วันนี้ประเทศไทยมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะที่แล้วมา คนไทยได้เสียเลือดเสียเนื้อจากความทะเลาะเบาะแว้ง เราจึงเสนอตัวขึ้นมาทำงานเพื่อประเทศชาติ เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง

นายอุตตม กล่าวว่า พรรค พปชร.ไม่ทะเลาะกับใคร มีแต่ความสงบสุข ที่ประเทศชาติเดินหน้ามาได้จนถึงทุกวันนี้ ขอถามว่าเราจะเดินหน้าอย่างไร เราต้องการให้ประเทศกลับไปสู่วังวนของความขัดแย้งอีกหรือไม่ พรรค พปชร.เดินหน้าด้วยความสงบและจะนำพาประเทศไปสู่ความหวังและอนาคตที่ดีกว่า ขอสัญญาว่าถ้าได้มีโอกาสเข้าไปเป็นรัฐบาล เราจะเดินหน้าสิ่งที่ได้พูดไว้ทันที และเชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นผู้นำที่สามารถนำพาความสุขสู่คนไทย พรรคพปชร.ไม่ได้สืบทอดอำนาจ แต่จะสืบทอดให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง

จากนั้นได้มีการเปิดคลิปปราศรัยของ พล.อ.ประยุทธ์ โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่รักทุกท่าน ผมพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ หัวใจดวงนี้ของผมนั้นให้กับชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์มานานแล้วตั้งแต่เกิดมาแล้ว ตั้งแต่เป็นทหารมาต้องดูแลคนทั้งประเทศ เป็นงานที่ยากแต่ผมไม่เคยท้อแท้ เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมท้อแท้นั่นแสดงว่าเราจะไม่เดินไปข้างหน้า ไม่ได้นะครับสัญชาตญาณความเป็นทหารของผมยังมีอยู่ทุกอย่าง

เพราะฉะนั้นวันนี้ผมก็ต้องปรับตัวของผมเองให้ทำงานกับคนทุกคนได้ ไม่ใช่ว่าเราจะเลือกข้างใครก็ได้อะไรก็ได้มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เพราะวันนี้มันเป็นรัฐบาลที่เรามาจากการเลือกตั้ง มาจากคนหลายพวกหลายฝ่าย แต่ทุกคน ถ้าเราเลือกคนดีเข้ามาในสภาเราก็จะได้รัฐบาล ได้ ครม.ที่มีประสิทธิภาพ ทำเพื่อประชาชน ทำประโยชน์เพื่อประชาชนไม่ใช่ผลประโยชน์ พร้อมเดินไปกับผมหรือยัง พร้อมจะก้าวไปข้างหน้ากับผมหรือยัง ถ้าเราก้าวไปข้างหน้าบ้างก้าวถอยหลังบ้าง แล้วก็เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาสะเปะสะปะ มันก็ไปถึงที่หมายช้าหน่อย เราต้องเดินหน้าไปด้วยความเข้าใจร่วมกัน แล้วเข้าใจไหมว่า เราต้องทำอย่างไรต่อไป เราจะต้องทำต่อจากของเดิมที่มานี่แหละ หลายอย่างต้องเริ่มใหม่ หลายอย่างต้องเพิ่มขึ้น แต่ต้องช่วยกันด้วยสองมือ 68 ล้านหัวใจเดินไปด้วยกันข้างหน้า ไม่ร่วมมือมันก็ไม่สำเร็จ ก็อยากให้ทุกคนเชื่อมั่น ในเมื่อทุกคนเชื่อมั่นผมมา 5 ปีแล้ว 5 ปีนะไม่ใช่สั้นๆ เป็น 5 ปีแห่งความยากลำบากในการแก้ปัญหาแต่มันมีอนาคต

เรากำลังทำเพื่ออนาคต อนาคตมันต้องทำวันนี้ ไม่ใช่ไปหวังเอาข้างหน้าอย่างเดียวและมันต้องต่อยอดจากอดีตที่เราทำมาแล้วมันถึงจะเดินหน้าต่อไป วันนี้โลกมันมาแบบนี้ วันนี้ประเทศไทยเจริญเติบโตมาแบบนี้ อะไรดีผมก็ทำต่อ อะไรที่ไม่ดีผมก็ไม่ทำ

โอเคนะครับร่วมมือกับเรานะครับ ยิ้ม ยิ้มหวานๆ ให้กัน เราต้องไม่ทะเลาะกันอีก ฉีกยิ้มกว้างๆ ผมเองก็ยิ้มมากขึ้นในตอนนี้ ผมเห็นในความสำเร็จบ้างเห็นความร่วมมือเห็นรอยยิ้มของประชาชนมากๆ ผมก็ยิ้มออก เราอย่าไปทำหน้าบึ้งตึงใส่กันอีกเลย ผมต้องการความรัก ความสามัคคีไปด้วยกัน ขอความสุขขอความรักขอความสามัคคีกลับมาเถอะครับ ให้ประเทศไทย ให้ตัวเรา ให้ครอบครัวเรา ให้สังคมเรา เกิดความอบอุ่นไปในวันข้างหน้า นั่นแหละครับเขาเรียกว่าอนาคต เห็นด้วยกับผมไหม เราต้องเดินหน้าไปด้วยกัน พอใจหรือไม่ รอได้ไหม แบบบางเพลงเขาพูดว่ารักแล้วรอหน่อย รักแล้วรักนานๆ ขอบคุณครับ สวัสดีครับ”


โค้งสุดท้าย‘พรรคเพื่อชาติ’ ชูนโยบาย‘พาแม้วกลับบ้าน’

15 มี.ค.62 นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ พร้อมนางลลิตา ฤกษ์สำราญ รองหัวหน้าพรรค และนายยงยุทธ ติยะไพรัช ในฐานะกองเชียร์พรรค ร่วมแถลงนโยบายโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง โดยชูนโยบายพาอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร กลับบ้าน เนื่องจากเล็งเห็นถึงคุณค่าในความเป็นคนไทย อีกทั้งยังเป็นสินทรัพย์ของประเทศ จึงเห็นควรต้องนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ในด้านที่เป็นความรู้ความสามารถ ส่วนทางคดีก็ควรจะมีกระบวนสืบสวนสอบสวน ต้องเป็นบุคคลที่เป็นกลาง ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย ต้องมีความเป็นธรรมและยุติธรรม เป็นที่ประจักษ์ยอมรับทั้งสองฝ่าย ซึ่งเป็นที่มาของนโยบายพรรคด้านความยุติธรรมที่จะต้องปฏิบัติ และส่งเสริมให้เป็นไปตามหลักสากล นานาอารยประเทศยอมรับ เพราะหากไม่เป็นสากล ไม่เป็นที่ยอมรับ และไม่มีความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน

“กรณีอดีตนายกฯทักษิณ หากมีความผิดตามที่ถูกกล่าวหาแล้ว ทำไมต่างชาติถึงไม่ให้ความร่วมมือในการจับกุม พรรคเพื่อชาติจะเป็นเกาะกลางในเรื่องนี้ ไม่ใช่เฉพาะกรณีของ อดีตนายกรัฐมนตรีเท่านั้น แต่รวมถึงประชาชนคนไทยทุกคน” หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ กล่าว

ด้านนายยงยุทธ ติยะไพรัช กล่าวว่า การพาทักษิณกลับประเทศจะเป็นกรณีตัวอย่างให้ต่างชาติเห็นว่า กระบวนการยุติธรรมเป็นสากล การเอาทักษิณกลับมาถือเป็นการนำคนที่มีประสบการณ์ ความรู้ ต่างชาติให้ความเชื่อถือ มาช่วยเหลือประเทศชาติซึ่งไม่จำเป็นต้องมาเป็นนายกรัฐมนตรี มาอยู่แบบคนธรรมดา อยู่กับครอบครัวแบบปกติ หากทำสำเร็จจะทำให้สภาพประเทศไม่มีความแตกแยก ขณะเดียวกันทำให้กลุ่มคนที่สนับสนุนอดีตนายกฯทักษิณมีความเช้าใจ

“ขณะนี้สภาพภายในประเทศง่อยเปลี้ยเพราะมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ผมในฐานะกองเชียร์เห็นความตั้งใจของพรรคเพื่อชาติจึงเห็นว่า อดีตนายกฯทักษิณ ควรกลับมาต่อสู้คดีและพูดคุยกันด้วยความเป็นธรรม อย่าสร้างบรรยากาศแบบสงครามเย็น ซึ่งไม่เป็นผลดีกับประเทศ ผมไปพบประชาชนในพื้นที่ทั่วประเทศ ทุกคนก็เห็นด้วยกับประเด็นนี้ ถ้าทำสำเร็จความบาดหมางในชาติก็จะหายไป อย่างสร้างผีทักษิณให้เกิดขึ้นอีก ควรคุยกันได้แล้ว ”นายยงยุทธ กล่าว

นายยงยุทธ กล่าวว่า พรรคยังชูนโยบายยกเลิกสัมปทาน การผูกขาดตัดตอนที่เป็นอุปสรรคปัญหาต่อการพัฒนา โดยเฉพาะธุรกิจโรงเหล้าที่ได้รับสัมปทาน 60-70 ปีควรหยุดเสียทีเพราะพอมีเงินมากๆก็ไปไล่ซื้อที่ชาวบ้าน จนต้องหนีเข้าไปรุกที่ป่าไม้ ซึ่งพรรคจะชูนโยบาย 2 ประเด็นนี้ในการหาเสียงโค้งสุดท้ายอย่างต่อเนื่อง

นิโคลีน ลุยงานที่มุ่งมั่นไว้ นำทีมเพื่อน้องๆ ออทิสติก

ตั้งใจจริงๆ ตั้งแต่ยังไม่มีมง จนได้มงใหญ่ ก็ยิ่งเพิ่มความตั้งใจแรง อยากจะทำต่อไปเรื่อยๆ นิโคลีน พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ รอง 1 มิสเวิลด์ Miss World 2018 ลุยต่อด้วยใจจริง อยากจะทำโครงการต่างๆ โน่น นั้น นี่เพื่อเด็กพิเศษที่เป็นออทิสติก อย่างที่รู้ๆ กันแล้ว นิโคลีนมีน้องชายเป็นออทิสติก ก็เลยยิ่งมีพลังใจ ที่จะทำดีให้กับน้องๆ ทุกคนที่เป็นออทิสติกไปด้วย

โครงการดีๆ นี้น่าสนับสนุน แชริตี้เซ็ตมิสไทยแลนด์เวิลด์ จากโครงการเลิฟฟอร์ออล Love for All เพื่อน้องโดย นิโคลีน มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018 และรอง 1 มิสเวิลด์ Miss World 2018 ที่ทำเพื่อสังคมทั้งมอบโอกาสให้เด็กออทิสติก ได้มีพื้นที่แสดงความสามารถ พึ่งพาตนเองได้

ร่วมสร้างโรงเรียนให้เด็กในถิ่นทุรกันดาร ต่อยอดกิจกรรมแจ่มๆ โดยกองประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ กับโปรเจกต์ เลิฟฟอร์ออลชาริตี้เซ็ต Love for All Charity Set เพื่อระดมทุนช่วยเหลือเด็กที่ขาดแคลนโอกาสในด้านต่างๆ โดยในแชริตี้เซ็ต ประกอบด้วยกล่อง ที่มีลายภาพวาดจากฝีมือเด็กออทิสติก กลุ่ม Artstory by Autistic Thai นิตยสาร Love for All ที่รวบรวมภาพแฟชั่นเซ็ตสุดงดงาม จากการรวมทีมเฉพาะกิจ นิโคลีน มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018

พร้อมด้วยเพื่อนนางงามสวยแซ่บ เช่น แพรว แพรววนิต เรืองทอง รองอันดับ 1 มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2013, เลน่า เฮเลน่า บุช รองอันดับ 2 มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018, แคร์ ฉัตรฑริกา สิทธิพรม รองอันดับ 2 มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2014, เฟร้นฟราย ธันยชนก มูลนิลตา มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2015, ไดร์ จิณณ์ณิตา บุดดี มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2016, แซนดี้ ณัฐกมล สุวรรณศิลป์ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018

โปสการ์ดภาพนิโคลีนทำกิจกรรมการกุศล ที่อำเภออมก๋อย เชียงใหม่ จะขายแค่ 330 บาท รายได้หลังจากหักค่าใช้จ่าย มอบให้กองทุน Love For All by Nicolene มูลนิธิออทิสติกไทย และโครงการคืนรอยยิ้มสู่ถิ่นไกล อ.อมก๋อย เชียงใหม่อย่ารีรอ ด่วนเลย! สั่งซื้อจองไวๆ ไม่ต้องรีรอ Love for all Charity set ได้ตั้งแต่วันนี้โทรด่วน 02-262-3456 หรือ MTW Agency 06-3879-8719