ข่าว
ญี่ปุ่นเผชิญหิมะตกหนัก ยกเลิกเที่ยวบินกว่า300เที่ยว พบมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย

25 มกราคม 2566 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระแสลมหนาวและความกดอากาศต่ำทำให้มีหิมะตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วญี่ปุ่น ส่งผลให้อุณหภูมิลดลงเกือบทำสถิติต่ำที่สุดในรอบ 10 ปีทั่วประเทศ โดยในเมืองซัปโปโรวัดได้ -12.8 องศาเซลเซียสในเช้าวันพุธ เมืองเซนได -7.5 องศา และเมืองนีงาตะ -5.8 องศา หิมะปกคลุมในพื้นที่แถบชายฝั่งทะเลญี่ปุ่นจากทิศตะวันตกไปจนถึงทิศเหนือ และในเมืองมานิวะ จังหวัดโอกายามะ มีหิมะตกวัดได้ 93 เซนติเมตร ใน 24 ชั่วโมง จนถึงเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย และเจ้าหน้าที่กำลังตำรวจสอบรายงานผู้เสียชีวิตอีก 2 รายว่ามีสาเหตุจากพายุหิมะหรือไม่

มีรายงานผลกระทบต่อระบบคมนาคม โดยสายการบินแจแปน แอร์ไลน์ และออล นิปปอน แอร์เวย์ ยกเลิกเที่ยวบินรวมกว่า 300 เที่ยวในวันพุธ และผู้โดยสารรถไฟหลายพันคนตกค้างในจังหวัดเกียวโตและจังหวัดชิงะในภาคตะวันตก นอกจากนี้ในจังหวัดนางาซากิ มีพาหนะเกือบ 100 คันติดค้างบนทางหลวงยาวเกือบ 9 กม. ตั้งแต่คืนวันอังคารจนถึงวันพุธ

พยากรณ์อากาศคาดจะยังมีหิมะตกหนักและลมหนาวเย็นในภาคเหนือของญี่ปุ่นทั้งในภูมิภาคโฮคุริคุ, จังหวัดนีงาตะ และภูมิภาคคันโต จนถึงวันพฤหัสบดี และคาดว่า โทโฮคุจะมีหิมะตกวัดได้ 80 เซนติเมตร และโฮคุริคุ 60 เซนติเมตร

กรมควบคุมโรคเผยยอดป่วย-ตายโควิดลดต่อเนื่อง ความเสี่ยงจากนทท.ยังระดับปกติ

วันที่ 25 มกราคม 2566 นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (15-21 ม.ค.2566) รายงานผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 627 ราย เฉลี่ยวันละ 90 ราย ผู้ป่วยปอดอักเสบ 277 ราย ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 178 ราย ผู้เสียชีวิต 44 ราย เฉลี่ยวันละ 6 ราย ลดลงจากสัปดาห์ก่อนร้อยละ 32.3 โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 มีผู้หายป่วยสะสม 2,593 ราย เสียชีวิตสะสม 167 ราย

นพ.ธเรศ กล่าวว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อชาวต่างชาติทุกสัญชาติที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 8-21 ม.ค.2566 พบผู้ติดเชื้อ 8 ราย โดยมีอาการต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพียง 1 ราย และที่เหลือส่วนใหญ่ไม่มีอาการ สัญชาติที่ตรวจพบเชื้ออันดับ 1 คือ จีน 3 ราย เมียนมา กัมพูชา ญี่ปุ่น อังกฤษและเกาหลีใต้ อย่างละ 1 ราย อัตราการพบผลบวกต่อโรคโควิด-19 ในช่วงสัปดาห์ที่ 2 (8-14 ม.ค. 2566) พบร้อยละ 1.7 สัปดาห์ที่ 3 (15-21 ม.ค. 2566) พบเพียงร้อยละ 0.5 จากการเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด-19 ในประเทศไทย โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รายงานขณะนี้สายพันธุ์ที่พบในไทยมากที่สุดเป็นสายพันธุ์โอไมครอน BA.2.75 (86%) ที่เหลือเป็นสายพันธุ์อื่นที่เคยพบในต่างประเทศ และจากการเฝ้าระวังในกลุ่มผู้ที่ต้องเดินทางไปประเทศที่กำหนดให้ตรวจ RT-PCR เป็นลบก่อนขึ้นเครื่องนั้น ห้องปฏิบัติการต่างๆ รายงานข้อมูลการติดเชื้อโควิด-19 เข้าระบบโคแล็บ (Co-Lab) พบติดเชื้อประมาณ 300-400 ราย มีทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ โดยพบผลบวกในนักท่องเที่ยวชาวจีนเพียง 10 กว่าราย (ประมาณร้อยละ 4 ของผู้เดินทางสัญชาติเดียวกัน)

ทั้งนี้ ประเทศไทยมีมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยไม่ต้องกักตัวหรือมีผลตรวจโควิด-19 และขณะนี้หลายประเทศส่วนใหญ่ในทวีปยุโรปก็ใช้มาตรการเปิดประเทศแบบไม่ต้องกักตัวเช่นกัน อย่างไรก็ตาม บางประเทศมีมาตรการแตกต่างออกไป เช่น นักท่องเที่ยวต้องได้รับวัคซีนครบ 2 โดส อย่างน้อย 14 วัน ภายในระยะเวลาไม่เกิน 180-270 วัน หรือผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 และรักษาหายดีแล้ว หลักฐานการตรวจ RT-PCR ไม่เกิน 72 ชม. ก่อนเดินทาง หรือมีผลการทดสอบ Rapid Antigen Test ไม่เกิน 24 ชม. ก่อนเดินทาง เป็นต้น

“ขอให้ประชาชนยังคงดูแลตัวเอง และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ เลี่ยงที่แออัด สังเกตอาการตนเอง หากมีไข้ ไอ จาม คัดจมูก มีน้ำมูก จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรสชาติ ให้ตรวจ ATK ทันที เพื่อป้องกันการนำเชื้อโควิด-19 หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422” นพ.ธเรศ กล่าว


‘นอท กองสลากพลัส’งัดเอกสารรัฐสู้! ชี้‘ล็อตเตอรี่’พนันถูกกฎหมาย-โฆษณาได้เหมือนชิงโชคทั่วไป

วันที่ 25 มกราคม 2566 “นอท กองสลากพลัส” นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ โพสต์ข้อความระบุว่า สลากคือการพนันตามพรบ.พนัน แต่เป็นการพนันที่ขออนุญาตแล้วตาม พรบ.สลากฯ การพนัน-ชิงโชค ที่ขออนุญาติแล้ว โฆษณาได้เหมือนกับชิงโชคต่างๆ ในทีวีนั่นละ สนง.สลากและเป๋าตังค์ ยังทำตาม อย่าบอกว่าไม่โฆษณานะ เลียนแบบทุกอย่าง

ในเวลาต่อมา นายพันธ์ธวัช ยังโพสต์ภาพหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ด่วนที่สุด) ที่ นร 0505/10339 ลงวันที่ 11 ก.ค. 2551 เรื่อง ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2549 พร้อมข้อความว่า

สนง. สลาก นายบ้งอีกแล้วนะ นายร่อนหนังสือนี้ไปทั่วบีบให้หน่วยงานต่างๆ แบนเรา แต่นายเองก็ไม่ทำตามมติครม. นะ “เพื่อระงับการดำเนินกิจการใด ๆ ที่จะส่งผลเป็นการกระตุ้นส่งเสริมให้ประชาชนซื้อสลาก เช่น การถ่ายทอดผลการออกสลากทางสถานีโทรทัศน์ เป็นต้น” ว่าแค่เค้า!!! อิเหนาเป็นเอง อุ่ย!!! (เสียงพี่หนุ่ม)

ข้อเท็จจริงเพิ่มเติม จุดหมายของสนง.สลากคือ อ้างหนังสือฉบับนี้ว่า ครม. ห้ามโฆษณา แต่ถ้าอ่านให้ละเอียด มติฉบับนี้คือให้ยกเลิกมติที่ “ห้ามโฆษณา” นะ รายละเอียดประมาณว่า ครม. มีมติห้ามโฆษณาเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 49 กระทรวงการคลังไม่เห็นด้วย เลยแย้งไปวันที่ 4 ก.ค. 51 ต่อมาในวันที่ 8 ก.ค. 51 คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามกระทรวงการคลัง เลยมีคำสั่งให้ยกเลิกมติวันที่ 28 พ.ย. 49 โฆษณาได้ตามปกติจ้า

เพิ่มเติมอีกนิด สถานะของมติคณะรัฐมนตรี มติคณะรัฐมนตรี หรือมติของคณะรัฐมนตรี คือ ผลการพิจารณาตัดสินใจของคณะรัฐมนตรีหรือรัฐบาล ซึ่งเป็นองค์กรสูงสุดทางการเมืองในฝ่ายบริหารเพื่อให้ ส่วนราชการ หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องรับไป ดำเนินการหรือถือปฏิบัติต่อไป มติคณะรัฐมนตรีมิได้มีสถานะเป็นกฎหมาย แต่เป็นเพียงคำสั่งการในทางบริหารเท่านั้น

ทั้งนี้ ก่อนหน้าการโพสต์ข้อความของ นายพันธ์ธวัช เพียงไม่กี่ชั่วโมง มีรายงานข่าว กรมการขนส่งทางบก ชี้แจงประเด็นการถอดป้ายโฆษณาแพลตฟอร์มของเอกชนที่จำหน่ายสลากกินแย่งรัฐบาล ว่า ทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ยืนยันไม่สามารถโฆษณาจูงใจประชาชนให้ซื้อสลากได้ เนื่องจากสลากกินแย่งรัฐบาลเป็นการพนันชนิดถึง โดยอ้างถึงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2551 ให้สลากกินแบ่งรัฐบาลสามารถดำเนินกิจกรรมในการโฆษณาประชาสัมพันธ์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจนและเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน โดยมิได้เป็นไปเพื่อจูงใจให้ซื้อสลาก

อีกทั้งตามปรระกาศของกรมการขนส่งทางบก เรื่อง ตัวอักษร ภาพ หรือเครื่องหมายที่ตัวถังรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสารและรถที่ใช้ในการขนส่งสัตว์ หรือสิ่งของ พ.ศ. 2564 ข้อ 4 ระบุว่า รูปภาพประจำรถหรือรูปภาพเพื่อการโฆษณาต้องไม่มีลักษณะดังต่อไปนี้ (4) รูปภาพประจำรถ หรือรูปภาพเพื่อการโฆษณาต้องไม่มีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อย ศีลธรรม หรือวัฒนธรรมอันดีของประชาชน เช่น รูปภาพ หรือข้อความที่ส่อไปในทางลามก อนาจาร หรือเป็นการส่งเสริมโดยตรงหรือโดยอ้อม ให้มีการเล่นการพนัน เป็นต้น


ศาลสั่งฟ้อง'หงษ์ทอง'ลอตเตอรี่ประกอบธุรกิจขายตรง ค้าหวยเกินราคา

วันที่ 25 มกราคม 2566 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานอัยการสำนักงานเศรษฐกิจและทรัพยากร 1 ได้เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง บริษัท หงษ์ทอง ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด และ น.ส.กรกนก อนุกูลกิจชัย กรรมการผู้มีอำนาจ เป็นจำเลยที่1- 2 ตามลำดับ ใน ความผิดฐานร่วมกันประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงโดยไม่ได้จดทะเบียนการประกอบธุรกิจแบบตรง และร่วมกันขายสลาก ในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล

อัยการ โจทก์ จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลย ตาม พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 และฉบับที่ 3 พ.ศ.2560 พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 และฉบับที่ 2 พ.ศ.2562 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา 83,91

ศาลอาญา พิจารณาแล้วมีคำสั่งประทับฟ้องคดีไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.191/2566

ต่อมาทนายความของน.ส.กรกนก จำเลยที่ 2 ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เงินสดขอปล่อยชั่วคราวชั้นพิจารณา

ศาลอาญา พิเคราะห์แล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว น.ส.กรกนก โดยตีราคาประกัน 10,000 บาท.


'ผู้นำยูเครน'สั่งปลดกราวรูด จนท.ระดับสูงเอี่ยวทุจริต-รับสินบนโยงรัสเซียรุกราน

25 ม.ค.66 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ประกาศปลดเจ้าหน้าที่ระดับสูงสิบกว่าคน เป็นการยกเครื่องทางการเมืองครั้งใหญ่ที่สุด หลังจากมีการเปิดโปงคดีทุจริตอื้อฉาวครั้งใหญ่ครั้งแรกที่โยงกับการที่รัสเซียรุกรานยูเครน โดยกล่าวว่า จำเป็นต้องมีการกวาดล้าง และจะดำเนินมาตรการเพิ่มเติม เพื่อการปกป้องประเทศและเพื่อการสร้างสายสัมพันธ์ในการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ในยุโรป ด้านนายไมไคโล โปโดลยัก ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครนทวีตว่า ประธานาธิบดีปลดเจ้าหน้าที่ทุจริตโดยคำนึงถึงผลประโยชน์หลักของประเทศ ในจำนวนนี้มีผู้ว่าการแคว้นที่กำลังสู้รบอย่างหนักหน่วงกับรัสเซีย และรัฐมนตรีช่วยหลายคน

ก่อนหน้านี้ ชาติตตะวันตกที่ให้ความช่วยเหลือทางการเงินและทางทหารในการทำสงครามกับรัสเซียตั้งเงื่อนไขให้ยูเครนปฏิรูปเพื่อกวาดล้างการทุจริตที่เป็นปัญหาเรื้อรังมานาน ส่งผลให้รัฐบาลยูเครนประกาศปลดเจ้าหน้าที่ระดับสูงครั้งใหญ่ หลังจากนายวาซิล โลซินสกี รัฐมนตรีช่วยการพัฒนาชุมชนและโครงสร้างพื้นฐานถูกจับกุมฐานต้องสงสัยยักยอก และถูกปลดจากตำแหน่งเมื่อไม่กี่วันก่อน นายโลซินสกีวัย 36 ปี ถูกกล่าวหาว่ารับสินบน 400,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 13.12 ล้านบาท) เพื่อเปิดทางให้แก่การจัดซื้อเครื่องปั่นไฟในราคาที่สูงเกินจริง ในช่วงที่ประชาชนไม่มีไฟฟ้าเพราะรัสเซียถล่มโรงไฟฟ้าจนใช้งานไม่ได้

ส่วนเมื่อวันอังคาร นายไครีโล ทีโมเชนโก วัย 33 ปี รองหัวหน้าทำเนียบประธานาธิบดียูเครนที่ทำงานกับเซเลนสกีมาตั้งแต่ได้รับเลือกตั้งในปี 2562 ได้ประกาศลาออก พร้อมกล่าวขอบคุณผู้นำยูเครนสำหรับความเชื่อมั่นและโอกาสในการทำงานเพื่อรับใช้ประเทศชาติ

อย่างไรก็ดี นายไทโมเชนโกไม่ได้เปิดเผยถึงสาเหตุที่ตัดสินใจลาออก แต่สื่อยูเครนรายงานว่า เขาพัวพันกับเรื่องอื้อฉาวหลายเรื่อง เช่น นำรถที่ได้รับบริจาคมาใช้ด้านมนุษยธรรมไปใช้เป็นการส่วนตัว

นอกจากนี้ รัฐบาลยูเครนยังมีคำสั่งปลดผู้ว่าการ 5 แคว้น รัฐมนตรีช่วย 4 คน และมีรองอัยการสูงสุดลาออก หลังจากมีข่าวนำรถของบริษัทเอกชนไปใช้พักผ่อนในสเปน ขณะที่นายเซเลนสกีเองเคยถูกระบุในรายงานชื่อแพนดอราเปเปอร์ส (Pandora Papers) ในปี 2564 ว่า ใช้บริษัทโพ้นทะเลซื้ออสังหาริมทรัพย์ราคาแพงในกรุงลอนดอนของอังกฤษ ทางการยูเครนชี้แจงในเวลานั้นว่า เขาทำไปเพื่อปกป้องตนเองจากรัฐบาลสมัยประธานาธิบดีวิคเตอร์ ยานูโควิช ที่สนับสนุนรัสเซีย

'จัสติน บีเบอร์'ขายลิขสิทธิ์เพลงให้'Hipgnosis' มูลค่ากว่า 6,500 ล้านบาท

25 มกราคม 2566 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า Hipgnosis Songs Fun บริษัทลงทุนด้านลิขสิทธิ์ศิลปินรายใหญ่ ประกาศเมื่อวันอังคารตามเวลาในสหรัฐว่า จัสติน บีเบอร์ วัย 28 ปี ได้ตัดสินใจขายสิทธิในการเผยแพร่และจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ในการใช้ผลงานเพลงทั้งหมดของเขาให้แก่ฮิปโนซิสแล้ว ขณะที่บิลบอร์ด (Billboard) นิตยสารเพลงชื่อดังของสหรัฐ ระบุว่า ข้อตกลงระหว่างบีเบอร์กับฮิปโนซิส มีมูลค่าสูงถึง 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่โรลลิงสโตน (Rolling Stone) นิตยสารดนตรีของสหรัฐ เผยว่า สัญญาดังกล่าวมีมูลค่าสูงสุดในกลุ่มนักร้องที่อยู่ในช่วงวัยเดียวกันกับบีเบอร์

ด้านสำนักข่าวต่างประเทศรายงานต่ออีกว่า มีนักร้องรุ่นใหญ่หลายคนที่ตัดสินใจขายสิทธิในการเผยแพร่และจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ในการใช้ผลงานเพลงทั้งหมดไปก่อนหน้านี้ เช่น บ็อบ ดีแลน, บรูซ สปริงส์ทีน, นีล ยัง, สตีวี นิคส์ และสติง อย่างไรก็ดี แนวทางดังกล่าวเริ่มกลายเป็นที่นิยมในกลุ่มนักร้องที่มีอายุน้อยมากขึ้น เช่น อิแมจิน ดรากอนส์ (Imagine Dragons) วงดนตรีแนวอัลเทอร์เนทีฟร็อกชาวอเมริกัน จัสติน ทิมเบอร์เลค นักร้องชื่อดังเจ้าของเพลงฮิตอย่าง ‘คราย มี อะ ริเวอร์’ (Cry Me a River) และ ชากีรา นักร้องหญิงชาวโคลอมเบีย เจ้าของเพลงดังอย่าง ‘เวนเนเวอร์, แวร์เอเวอร์’ (Whenever, Wherever) ยกเว้น เทย์เลอร์ สวิฟต์ นักร้องหญิงชื่อดังชาวอเมริกัน ที่ยังคงยืนหยัดต่อสู้ในทางตรงกันข้าม เพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิในการเผยแพร่และจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ในการใช้ผลงานเพลงของตนเอง