เมื่อวันที่ 9 พ.ค.2567 ที่ จ.ภูเก็ต นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ร่วมกันแถลงผลการดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพล โดย นายอนุทิน กล่าวว่า ตนมอบหมายให้นายชาดา รับผิดชอบในการจัดระเบียบสังคม และปราบปรามผู้มีอิทธิพล โดยให้สามารถสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และกรมการปกครอง ในฐานะหน่วยงานที่สนับสนุนเรื่องความเรียบร้อย และความมั่นคง เพื่อให้ช่วยสนับสนุนภารกิจอย่างเต็มที่ โดยอธิบดีกรมการปกครองได้ส่งทีมปฏิบัติการพิเศษลงมาช่วยรมช.มหาดไทย ในการดำเนินการเรื่องนี้ นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมืออย่างดีจากฝ่ายความมั่นคง ทั้งตำรวจ ทหาร ตลอดจนหน่วยงานที่สนับสนุนต่างๆ
รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงการกระทำที่ผิดกฎหมาย เช่น ธุรกิจโรงแรมหากไม่มีใบอนุญาตจะมีโทษจำคุกด้วยไม่ใช่แค่โทษปรับ วันนี้พบว่ามีโรงแรมประมาณ 21 แห่ง ไม่มีใบอนุญาต และอีกหลายแห่งเป็นลักษณะนอมินี คือมีนายทุนเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เมื่อตรวจสอบแล้วผิดกฎหมายเราก็จะติดตามดำเนินคดี ส่วนกรณีคนต่างชาติที่เข้ามาแย่งอาชีพคนไทย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจรถเช่าหรือธุรกิจอื่นๆ ขณะนี้ได้รับรายงานว่า ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้ระดมเร่งจับดำเนินคดีคนเหล่านี้อย่างเต็มที่ เราไม่ได้ต้องการปิดโอกาสใคร แต่ทุกอย่างต้องทำภายใต้กฎหมาย ตอนนี้ถ้าเราไม่มาดูแลเต็มที่ก็จะเกิดลักษณะแบบทัวร์ศูนย์เหรียญ ที่คนต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจทุกอย่าง โดยที่คนไทยไม่ได้อะไรเลย ทั้งนี้ จะเริ่มนำร่องในจ.ภูเก็ต และขยายผลไปในจังหวัดใกล้เคียงในการดำเนินการปราบปราม และดำเนินคดีกับคนที่ทำผิดกฎหมายเหล่านี้ในระดับประเทศต่อไป
“ผมขอย้ำอีกครั้งว่า ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพมาก เป็นจุดหมายปลายทางที่คนทั่วโลกอยากท่องเที่ยว แต่เราต้องทำให้เขารู้สึกมีความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของเขา หากมีบุคคลเพียงกลุ่มเดียวพยายามมาบล็อกโอกาสของคนส่วนใหญ่ ตรงนี้เราก็ต้องช่วยกันปราบปรามอย่างไรก็ตาม กระทรวงมหาดไทยได้มีการทำความตกลงกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และฝ่ายปกครอง ที่จะดำเนินการอย่างเต็มที่ไม่ให้การกระทำที่ผิดกฎหมายได้ดำเนินต่อไป เรามั่นใจว่าทุกอย่างจะเป็นไปในทางที่ดีขึ้น” นายอนุทิน ระบุ
ด้านน.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวในรายละเอียดว่า ในการตรวจสอบ ทางทีมงานได้รับข้อมูลจากที่ทำการปกครอง อำเภอกะทู้ ว่า บริเวณ มาลีน พลาซ่า ป่าตอง และบริเวณอื่น ๆ ในพื้นที่ อ.กะทู้ มีโรงแรมที่ลักลอบเปิดให้บริการโดยไม่มีใบอนุญาต จึงได้ทำการลงพื้นที่ สืบค้นข้อมูลเพิ่มเติม พบว่ามีสถานประกอบการที่มีการโฆษณาและเปิดให้บริการ ห้องพักแบบรายวันในลักษณะโรงแรม เก็บค่าเช่าห้องพักเป็นรายวัน แต่ไม่มีใบอนุญาต ประกอบธุรกิจโรงแรม และเจ้าของ/ผู้ดูแล จำนวนมากเป็นชาวต่างชาติ โดยตรวจสอบพบ เป้าหมาย จำนวน 19 แห่ง รวมกว่า 800 ห้อง ซึ่งหลังจากนี้จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้มีกลุ่มนักลงทุนต่างชาติที่ผิดกฎหมายบางราย จะมีพฤติกรรมผูกขาดดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติจากชาติเดียวกันกับตนมาพัก จะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการท้องถิ่นและผู้ประกอบการที่มีใบอนุญาตที่ถูกต้อง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย กรมการปกครองจึงได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำหรับ การกระทำความผิดกฎหมายในเรื่องอื่น เช่น การดัดแปลงอาคารและการใช้อาคาร ผิดประเภท การหลบเลี่ยงภาษี การฟอกเงิน ซึ่งจะดำเนินการขยายผลและดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป
9 พฤษภาคม 2567 จากกรณี น.ส.เอ (นามสมมติ) ภรรยานายตำรวจยศ ร.ต.อ. สังกัดกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 (บก.สอท.3) พร้อมด้วย นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” เดินทางมาที่ บก.สอท.3 เพื่อเจรจาข้อตกลงในการดูแลบุตร 5 คน ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค่าเรียนหนังสือ และค่ารักษาพยาบาลของลูก หลังจากเมื่อวานนี้ (8 พ.ค.67) เข้าไปยื่นเรื่องร้องเรียนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า ถูกสามีตำรวจทำร้ายร่างกาย และทอดทิ้งไปนาน 2 เดือน
อย่างไรก็ตาม กรณีนี้อาจไม่ใช่ประเด็นเรื่องของปัญหาครอบครัวเพียงอย่างเดียว หลังจากที่ “กัน จอมพลัง” มีการเปิดเผยข้อมูลเรื่อง “สมุดโดเรม่อน” ที่ทางด้านภรรยาของนายตำรวจพบอยู่ที่บ้าน ซึ่งวันนี้ “กัน จอมพลัง” เปิดเนื้อหาบางส่วน ตามที่ประกาศเอาไว้ว่าหากไม่ติดต่อมาจะเปิด “สมุดโดเรม่อน” ที่เปิดแล้วจะมีคนเดือดร้อนนับร้อยคน โดยที่เรียกว่าสมุดโดเรม่อน เพราะมีข้อมูลทุกอย่างอยู่ในสมุดเล่มนี้
“กัน จอมพลัง” อ้างว่า ในสมุดโดเรม่อนนี้เกี่ยวกับธุรกิจสีเทาที่เป็นลักษณะคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในการดำเนินการทางธุรกิจ เบื้องต้นได้ส่งข้อมูลให้กับตำรวจท้องที่ตรวจสอบ นอกจากนี้ในสมุดดังกล่าวยังมีบุคคลที่เกี่ยวข้องนับ 100 รายชื่อ ซึ่งในนั้นมีระดับบิ๊กที่ใครก็รู้จัก ขนาดตัวเองเห็นแล้วยังตกใจ ข้อมูลดังกล่าวยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมด และจะเก็บไว้ในที่ที่ปลอดภัย เพราะมองว่าหากข้อมูลในสมุดเล่มนี้ตกไปอยู่ในมือคนที่ไม่ดี อาจมีการแสวงหาผลประโยชน์ในทางที่ไม่ถูกต้อง และประเมินว่าอาจมีการนำรายชื่อของบุคคลที่อยู่ในสมุดไปรีดไถ ซึ่งมูลค่าที่ตัวเองประเมินจะได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
“กัน จอมพลัง” ย้ำว่า ตัวเองเป็นนักช่วยไม่ใช่นักแฉ มันใจว่าจะไม่นำข้อมูลในสมุดเล่มนี้ไปหาผลประโยชน์ให้ตัวเองอย่างแน่นอน โดยสมุดโดเรม่อน มีข้อมูลสถานีตำรวจกว่า 80 แห่งทั่วประเทศ มีตัวเลขอะไรไม่รู้เต็มไปหมด ก่อนจะบอกตัวอย่างว่ามีเบอร์โทร.เบอร์หนึ่ง ซึ่งได้เอาเบอร์ไปค้นแล้วขึ้นว่า “ลูกน้อง สจ.” และ “ชุดเคลียร์ตำรวจ”
สำหรับหลักฐานที่ “กัน จอมพลัง” นำมาเปิดเผยวันนี้มีใบเสร็จ ที่เขียนระบุประเภท เช่น มวย , ตู้ , บ่อตกกุ้ง , บอลตู้ออนไลน์ และไฮโล ซึ่งมีทั้งเบอร์โทร. และยอดเงินระบุชัด ตั้งแต่หลักพัน ถึงหลักหมื่น โดยบางตัวอย่างยอดสูงสุดคือ 30,000 บาท ซึ่งเป็นการเคลียร์พนันประเภทตู้ ทั้งตู้บอลออนไลน์ เคลียร์ 20,000 บาท ไฮโลเคลียร์ 10,000 บาท เป็นต้น
วันที่ 9 พ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วิหารองค์อริยะเจ้ากวนอู เลขที่ 86 หมู่ 5 ซอยราษฎร์ทูลเกล้า ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี มีสาธุชนที่มีจิตศรัทธานำเหล้าบรั่นดีชื่อดังของไทยเดินทางมาแก้บนองค์อริยะเจ้ากวนอู โดยวิหารองค์อริยะเจ้ากวนอู ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1 ไร่ ที่ผ่านมามีประชาชนเดินทางมาสักการะขอพรกับองค์เทพเจ้ากวนอูที่ประดิษฐานอยู่ที่วิหารแห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย
ผู้สื่อข่าวได้พบกับนายปาณรวัฐ ลิ่มรัตนอาภรณ์ หรือ "ริว จิตสัมผัส" นักจัดรายการโทรทัศน์และเป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิวิหารอริยะเจ้ากวนอูซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลประโยชน์ โดยกล่าวว่า ตนได้สร้างวิหารองค์อริยะเจ้ากวนอูแห่งนี้เข้าสู่ปีที่ 4 แล้วใช้เงินไปกว่า 60 ล้านบาท จากเดิมที่เคยไปสร้างอยู่ในศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง เนื่องจากยังมีทุนทรัพย์ไม่เพียงพอ
ต่อมาเริ่มมีผู้คนหลั่งไหลไปทำบุญ ไปขอพรกันเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ตนเริ่มมองหาสถานที่ก่อสร้างวิหารหรือวัดอย่างเป็นทางการ จนกระทั่งมาได้ที่ดินผืนนี้ มีเนื้อที่ 1 ไร่ได้รับบริจาคมาจากผู้ที่มีจิตศรัทธาและไม่ประสงค์ออกนาม โดยใช้เวลาในการก่อสร้างวิหารจนแล้วเสร็จประมาณ 6 เดือน พร้อมกับสร้างองค์กวนอูขนาดใหญ่สูง 6 เมตรอยู่บนอาคาร สร้างจากวัสดุทองเหลืองที่ผ่านการออกแบบจากซินแสทั้ง 3 แผ่นดิน เพื่อให้ได้ลักษณะขององค์กวนอูที่สูงใหญ่และสง่างาม พร้อมกับสร้างวิหารเจ้าแม่กวนอิมและหอพระพุทธเมตตาตามมา
ในตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาจนเข้าสู่ปีที่ 4 ตนเองมีความตั้งใจสร้างสถานที่แห่งนี้มาก็เพื่อยกให้เป็นสมบัติของแผ่นดินต่อไปในอนาคต เพราะได้ทำหนังสือขออนุญาตจดทะเบียนเป็นมูลนิธิกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยจดทะเบียนเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ซึ่งที่วิหารอริยะเจ้ากวนอูแห่งนี้จะไม่มีการทรงเจ้าเข้าผี ไม่มีการประทับทรง ไม่มีการดูดวงทำนายโชคชะตาใดๆ เป็นสถานที่จัดให้ผู้คนที่มีความเชื่อความศรัทธาต่อองค์เทพเจ้ากวนอูได้เดินทางมาไหว้สักการะขอพรเท่านั้น ทำให้ในแต่ละวันจะมีผู้คนเดินทางมาที่วิหารแห่งนี้เป็นจำนวนมาก ถ้าเป็นวันธรรมดาเฉลี่ยประมาณ 500 คนต่อวัน
ส่วนวันเสาร์-วัตอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์จะมีสาธุชนเพิ่มขึ้นประมาณ 1,500 คนต่อวัน ซึ่งมีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งคนส่วนใหญ่ที่เดินทางมายังวิหารแห่งนี้ จะมาขอพรหลักๆ 3 เรื่องคือเรื่องการงาน การเงิน และสุขภาพ ถ้าเรื่องที่บนบานสานกล่าวเอาไว้สำเร็จแล้วตามเป้าหมายเขาก็จะเดินทางกลับมาแก้บนกับองค์เทพเจ้ากวนอูด้วยเหล้าบรั่นดีของไทย จนกลายเป็นความเชื่อที่ส่งต่อกันว่า หากจะมาขอพรหรือบนบานสานกล่าวให้สำเร็จ ต้องบนด้วยเหล้าบรั่นดียี่ห้อดังของไทย ซึ่งจะได้ผลดีและรวดเร็วกว่าการบนบานด้วยเหล้ายี่ห้ออื่นๆ จนทำให้ปัจจุบันที่วิหารแห่งนี้มีเหล้าบรั่นดีมากกว่า 2 แสนขวดแล้ว
ซึ่งที่มาที่ไปของการบนบานด้วยเหล้าบรั่นดีนั้น เกิดมาจากการที่มีคนมาบนบานขอพรที่วิหารแห่งนี้ในตอนแรกไม่ประสบผลสำเร็จ จึงมาสอบถามกับตนว่าจะต้องบนบานขอแก้บนด้วยอะไรจึงจะได้ผลสำเร็จ จึงถามเขากลับไปว่าในตอนแรกที่มาบน บอกว่าจะเอาอะไรมาแก้บน ซึ่งเขาบอกว่าเขาบนด้วยเหล้าจีน แต่ไม่ได้ผล ตนจึงแนะนำไปว่าให้ลองเปลี่ยนมาบนด้วยเหล้าไทยดู เขาจึงเลือกบนบานด้วยเหล้าบรั่นดียี่ห้อแทน จนสิ่งที่บนบานขอเอาไว้ก็ประสบความสำเร็จในระยะเวลาเพียง 3 วัน
จากนั้นเขาก็มาลองบนขอด้วยเหล้าบรั่นดีไทยอีกครั้ง ก็ประสบความสำเร็จสมหวังในระยะเวลาอันรวดเร็ว จนทำให้กลายเป็นธรรมเนียมที่ยึดถือกันต่อเนื่องว่า หากจะมาบนบานขอพรกับองค์เทพเจ้ากวนอูที่วิหารแห่งนี้ จะต้องบนบานด้วยเหล้าบรั่นดีไทยเท่านั้น ถึงจะสมหวังและรวดเร็วมากกว่าการบนบานด้วยเหล้ายี่ห้ออื่นๆ เท่าที่เห็นไวสุดคือ 3 วันและล่าสุดไม่เกิน 6 เดือน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องที่บนบานขอจะต้องไม่เกินกว่ากำลังของตัวเอง ซึ่งที่ผ่านมาสถิติที่มีคนนำเหล้าบรั่นดีมาแก้บนที่วิหารแห่งนี้สูงที่สุด คือ เฮียนพพร เซียนพระเครื่องคนดังที่บนบานขอในเรื่องธุรกิจแล้วประสบความสำเร็จจนต้องนำเหล้าบรั่นดีไทยมาแก้บนจำนวน 150 ลัง
ริว จิตสัมผัส เปิดเผยอีกว่า ที่ผ่านมาหลังจากมีข่าวออกไปว่ามีผู้คนแห่นำเหล้าบรั่นดีไทยมาแก้บนที่นี้เป็นจำนวนมาก ทำให้มียี่ปั้ว ซาปั้ว หลายรายติดต่อเข้ามาเพื่อจะขอซื้อเหล้าทั้งหมดเพื่อนำไปขายต่อ แต่ตนได้ประกาศชัดเจนไปแล้วว่า เหล้าทั้งหมดในวิหารแห่งนี้เป็นเหล้าแก้บนที่ผู้คนนำมาถวายแก้บน ไม่สามารถนำไปขายต่อให้ใครได้ เนื่องจากต้องเปิดเหล้าแก้บนเหล่านี้ถวายกับองค์กวนอูในแต่ละวันไปเรื่อยๆ และจะนำเหล้าที่ถวายแล้วลาออกมาให้ผู้คนที่เดินทางมาที่วิหารแห่งนี้ได้จิบเป็นยา เพื่อเช็คสุขภาพร่างกายในเบื้องต้น
จากการสัมผัสที่ได้จิบเหล้าแก้บนเข้าไป ซึ่งหากจิบเหล้าแก้บนเข้าไปแล้วรู้สึกว่าเหล้ามีรสจืดแสดงว่าคนคนนั้นมีปัญหาระบบเลือด ลิ่มเลือดอุดตันหรือเลือดหนืด หากจิบแล้วมีรสหวานบ่งบอกว่าคนนั้นเป็นภูมิแพ้ แพ้อากาศ หรือมีกรดในเลือดสูง หากจิบเข้าไปแล้วรสชาติขม ซึ่งเป็นรสชาติของเหล้าเพียงอย่างเดียวแสดงว่าร่างกายเป็นปกติ แข็งแรงดี แต่ถ้าหากจิบเข้าไปแล้วได้กลิ่นหอมของเหล้าเพียงอย่างเดียวแสดงว่าไขมันในเลือดสูงหรือไขมันพอกตับ
จากเรื่องราวที่มีผู้คนทยอยนำเหล้าบรั่นดีไทยยี่ห้อดังกล่าวเดินทางมาแก้บนในแต่ละวันอย่างไม่ขาดสาย จนทำให้ที่วิหารแห่งนี้ถูกมองว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เหล้าบรั่นดียี่ห้อดังขาดตลาดเพราะถูกผู้คนกว้านซื้อมาแก้บน ถึงขนาดมีคนแซวว่า ทางเจ้าของโรงงานผู้ผลิตเหล้าบรั่นดียี่ห้อนี้ต้องแอบมาดูว่า เหล้าที่ผลิตออกมาจำหน่ายทางวิหารได้นำมากักตุนไว้ที่แห่งนี้จริงหรือไม่
เมื่อวันที่ 9 พ.ค.2567 ที่ จ.ภูเก็ต นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีเหตุเพลิงไหม้ถังเก็บวัตถุดิบสารไพโรไลสีส แก๊สโซลีน ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ว่า ตนได้รับรายงานตั้งแต่เกิดเหตุ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดระยองได้มีการประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยระดับสอง และผู้ว่าราชการจังหวัดระยองเป็นผู้บัญชาการพื้นที่ ซึ่งได้มีการระดมอุปกรณ์เข้าไปในพื้นที่ ทั้งนี้มาบตาพุดก็เป็นพื้นที่อุตสาหกรรม ซึ่งมีมาตรการบริหารจัดการเหล่านี้อยู่แล้ว และล่าสุดได้รับรายงานจากผู้ว่าราชการจังหวัดระยองว่าควบคุมเพลิงได้แล้ว
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ส่วนรายละเอียดความเสียหาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือมีผู้เสียชีวิตหรือไม่ คาดว่าจะมีการรายงานมาอีกครั้ง โดยตนได้สั่งให้รายงานกลับมาโดยด่วน แต่ถึงอย่างไรแม้จะดับเพลิงได้แล้วแต่ต้องอยู่ในสถานการณ์เฝ้าระวัง เพราะเหตุดังกล่าวเป็นโรงงานปิโตรเลียมเคมี ซึ่งมีสารวัตถุไวไฟ ฉะนั้นต้องมีการเฝ้าระวังอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าจะมีการเยียวยาและฟื้นฟูทรัพยากรในพื้นที่อย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเป็นพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมโรงงานปิโตรเคมี ซึ่งตนมั่นใจว่าบริษัทดังกล่าวมีความปลอดภัยชั้นหนึ่งอยู่แล้ว เพราะเป็นโรงงานที่ใช้เทคโนโลยีสูง
เมื่อถามถึงการติดตามว่าจะสร้างมลภาวะมากน้อยเพียงใด นายอนุทิน กล่าวว่า กำลังรอรายงานจากผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง แต่ตนเชื่อว่าโรงงานเหล่านี้มีแผนเผชิญเหตุอยู่แล้ว ยืนยันว่า ช่วงนี้ต้องมีมาตรการเฝ้าระวังโรงงานอื่นๆ ด้วย เพราะมีเหตุเพลิงไหม้เยอะ ซึ่งตนเชื่อว่าจากสภาพอากาศอบอ้าวอาจมีส่วนด้วย โดยขณะนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้แจ้งไปยังทุกหน่วยงานทุกจังหวัด คอยตรวจตราเฝ้าระวังและให้ข้อมูลกับคนในจังหวัดเหล่านั้นให้ระมัดระวัง
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2024 ที่ Rancho Bernardo,San Diego สภาหอการค้าไทยอเมริกันแห่งแซนดิเอโก นำโดย ประธานสภาหอการค้าฯ นิกกี้ สัมมาวดี มาร์ และคณะกรรมการ จัดงานแสดงอาหารไทยและวัฒนธรรมไทย ร่วมเฉลิมฉลอง Asian American and Pacific Islander Heritage Month
โดยได้รับเกียรติจาก วุฒิสมาชิกรัฐแคลิฟอร์เนีย Senator Brian Jones , Office of Congressman Scott Petter , San Diego Police Department, เดินทางมาร่วมงาน รวมทั้งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส , การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครลอสแอนเจลิส,สภาวัฒนธรรมไทยSan Francisco, Poway Chamber of Commerce, สมาคมนวดไทยและสปาแห่งสหรัฐอเมริกา สภาไทยทาวน์ลอสแอนเจลิส, PDC Associates , Samakkee สมาคม, ร้านอาหาร ธุรกิจไทย และอาสาสมัคร อีกจำนวนมากมาย
(เครดิตภาพ : ดอน เจริญสุดใจ)
8 พฤษภาคม 2567 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน อายุ 71 ปี เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดี สมัยที่ 5 ภายในพระราชวังเครมลิน ในกรุงมอสโก โดยไม่มีผู้แทนจากสหรัฐฯ และชาติตะวันตกบางประเทศเข้าร่วมพิธี เนื่องจากรัสเซียทำสงครามในยูเครน และมองว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีนั้นไร้ซึ่งสิทธิเสรีและความยุติธรรม
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ชนะเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น ซึ่งก็มีผู้สมัครอีก 3 คนเพื่อชิงชัยแต่ก็ถูกมองว่านั่นเป็นเพียงไม้ประดับเท่านั้น ขณะที่ผู้สมัครพรรคฝ่ายค้านส่วนใหญ่เสียชีวิต ถูกจำคุก ลี้ภัย หรือ ถูกห้ามลงสมัคร
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กล่าวหลังสาบานตนด้วยว่า รัสเซียยังคงเปิดกว้างเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีกับทุกประเทศที่มองรัสเซียในฐานะหุ้นส่วนที่มีเกียรติและไว้ใจได้ และรัสเซียไม่ปฏิเสธการเจรจากับชาติตะวันตก แต่ขึ้นอยู่กับว่าชาติเหล่านั้นจะเลือกแนวทางใดระหว่างเดินหน้าหยุดยั้งการพัฒนาของรัสเซีย รุกรานและกดดันรัสเซียต่อไป หรือ เลือกเส้นทางสู่ความร่วมมือและสันติภาพ เขายังเตือนชาวรัสเซียด้วยว่า ไม่ให้ลืมเลือนบทเรียนเกี่ยวกับความสูญเสียภายในประเทศ และย้ำว่าระบบการเมืองและภาครัฐจะต้องเข้มแข็งและต้านทานความท้าทายและภัยคุกคาม เพื่อปกป้องการพัฒนาเอกราชของประเทศได้
โดยหลังจากเสร็จสิ้นพิธีสาบานตนแล้ว ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ได้ตรวจแถวทหารกองเกียรติยศที่จัตุรัสด้านนอกพระราชวังเครมลิน และไปร่วมพิธีมิสซาที่โบสถ์ต่อไป
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กุมอำนาจบริหารในรัสเซียทั้งในตำแหน่งประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีรวมระยะเวลา 24 ปีแล้ว และหากเขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครบวาระอีก 6 ปี จะทำให้เขาครองอำนาจยาวนานถึง 30 ปี
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012