ข่าว
'เจ้าหญิงชาร์ลอตต์'แย้มพระสรวลงดงาม ก่อนเสด็จโรงเรียนวันแรก

9 ม.ค.61 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน สำนักพระราชวังอังกฤษ ได้เผยแพร่พระฉายาลักษณ์เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ พระธิดาในเจ้าชายวิลเลียม ดยุคแห่งเคมบริดจ์ และดัชเชส เคท แห่งเคมบริดจ์ ทรงแย้มพระสรวลอยู่หน้าพระตำหนัก ก่อนเสด็จไปโรงเรียนเป็นวันแรกเมื่อวันจันทร์ที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยพระฉายาลักษณ์เหล่านี้ถ่ายโดยดัชเชส เคท

สำหรับโรงเรียนเตรียมอนุบาล วิลคอกส์ เนิร์สเซอรี เป็นโรงเรียนเอกชนเก่าแก่ในพื้นที่ทางตะวันตกของกรุงลอนดอน เป็นโรงเรียนระดับดีเยี่ยม สามารถเดินจากพระราชวังเคนซิงตันไปถึงได้โดยใช้เวลาไม่นาน ค่าเทอมนั้นอยู่ที่ เทอมละ 14,550 ปอนด์ หรือราว 636,000 บาท

เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ที่จะทรงมีพระชันษาครบ 3 พรรษาในเดือนพฤษภาคมนี้ ทรงเป็นลำดับที่ 4 ในพระราชสันตติวงศ์อังกฤษ รองจากพระบิดา เจ้าชายจอร์จ พระเชษฐาและเจ้าชายชาร์ลส์ เสด็จปู่

หนุน'บิ๊กตู่'เล่นการเมือง! 'ป๋าเหนาะ'ชี้ถึงเวลาหันหน้าเข้าหากัน

10 ม.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น.นายเสนาะ เทียนทอง แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศตัวเป็นนักการเมืองที่เคยเป็นทหาร ว่า ก็ดีชอบเลย ตนเชียร์เต็มที่ ถ้านายกฯ พร้อมเป็นนักการเมือง เพราะจะได้ไม่ด่านักการเมือง ส่วนในอนาคตจะมีนายกฯ คนนอกหรือคนใน ไม่สำคัญเท่าปัญหาบ้านเมือง

"เพราะตอนนี้บ้านเมืองแตกแยกมากพอแล้ว ที่ผ่านมาเล่นเอาเป็นเอาตายกัน คนดีแท้ๆ ก็เอามาปูยี้ปู้ยำด่ากัน เพราะฉะนั้นเลิกสักทีปีใหม่แล้ว ส่วนคนที่จะอาสาดูแลบ้านเมืองก็เข้ามาเป็นสิทธิ ขอให้เข้ามาถูกต้อง ไม่ว่าทหารหรือตำรวจ ถอดเครื่องแบบมาลงเล่นการเมืองได้ ทุกคนมีสิทธิเข้ามาเล่นการเมือง เพราะเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ผ่านงานบริหารมา”นายเสนาะ กล่าว

นายเสนาะ กล่าวอีกว่า ไม่มีความห่วงใยอะไรให้ คสช.ทั้งสิ้น เป็นยุคที่ต้องหันหน้าเข้าหากัน ปรึกษาหารือกัน ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ต้องเทิดทูน และต้องรักษาประชาธิปไตยไว้ให้ได้ ประเทศอื่นไปไกลแล้ว ส่วนจะมีการเลือกตั้งตามโรดแมปนั้น เป็นเรื่องอนาคต ตนไม่ขอวิจารณ์อะไรทั้งสิ้น นักการเมืองรุ่นน้องหรือรุ่นใหม่ต้องช่วยกัน ถึงเวลาที่ต้องหันหน้าเข้าหากัน ถ้าเอาแต่ทะเลาะกัน ประเทศไทยจะเป็นประเทศล้าหลัง อาสามาดูแลบ้านเมือง แต่มาทะเลาะกันก่อนแล้วบ้านเมืองจะเจริญได้อย่างไร รวมทั้งสื่อมวลชนต้องช่วยกันอะไรถูกอะไรผิดก็ต้องว่าตามนั้น แต่ไม่ควรเสี้ยมให้ทะเลาะกัน


85 เจ้าหนี้โวยกระทบ จี้ดีเอสไอปลดล็อคเงินเกือบ 4 พันล.สหกรณ์ฯคลองจั่น

10 ม.ค.61 ที่ห้องประชุมชั้น 3 อาคารยูทาวเวอร์ สหกรณ์เจ้าหนี้ของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น ประมาณ 50 แห่ง ร่วมกันเปิดประชุมด่วนเพื่อปรึกษาหารือปัญหาอุปสรรคที่ทำให้การชำระหนี้ติดขัดในงวดที่ 4/2560 ที่ไม่เป็นไปตามแผนฟื้นฟูกิจการ เมื่อเดือนธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยมี นายทอง วิริยะจารุ ประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา ในฐานะประธานกรรมการเจ้าหนี้ เป็นประธานในการจัดการประชุม ร่วมกับนายประกิต พิสังกาสา ประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ฯคลองจั่น

ทั้งนี้ มีการเชิญสหกรณ์เจ้าหนี้ และนิติบุคคลเจ้าหนี้ของสหกรณ์ฯคลองจั่นรวม 85 แห่งทั่วประเทศ เข้าร่วมประชุม 3 หัวข้อสำคัญ คือ 1.อุปสรรคปัญหา ข้อติดขัด การชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ และทางแก้ไข 2.การสนับสนุนแหล่งเงินทุนจากภาครัฐ ในโครงการบัญชีร่วมเพื่อรักษาเสถียรภาพของสหกรณ์ และ 3.การปลดอายัดทรัพย์ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ยึดอายัดไว้กว่า 3,811 ล้านบาท ที่สหกรณ์ฯคลองจั่นฟ้องชนะคดีแล้ว แต่บังคับคดีไม่ได้

นายประกิต กล่าวภายหลังการประชุมกว่า 4 ชั่วโมง ว่า ที่ประชุมวันนี้ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องสภาพคล่องของสหกรณ์ฯที่จะชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูไม่เป็นไปตามประมาณการทางการเงินที่จัดเตรียมเอาไว้ในงวดที่ 4 ที่ต้องชำระจำนวน 500 กว่าล้านบาท ทางสหกรณ์มีเงินไม่เพียงพอ จึงได้หารือกับคณะกรรมการเจ้าหนี้ สรุปได้ว่ามีเท่าไรก็แบ่งจ่ายไปตามนั้นก่อน ขณะส่วนที่เหลือจะชำระให้หมดภายในไตรมาสแรกของปีนี้

ส่วนในงวดที่ 3 ทางสหกรณ์ฯได้ชำระไปแล้วแต่ไม่ครบตามจำนวน จึงทำให้กระทบในงวดต่อไป ฉะนั้นเราต้องขายที่ดินให้ได้ 2 แปลง คือ ที่ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี และใน ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ขณะนี้มีผู้ซื้อแล้วหากเป็นไปตามนั้น จะได้รับเงินทันทีภายในปี 2560 ที่ผ่านมา

ด้านนายจุมพล พูลภัทรชีวิน ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬา ในฐานะเจ้าหนี้ กล่าวว่า เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทางสหกรณ์ฯคลองจั่นไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามแผนฟื้นฟู จากเดิมที่ตกลงกันว่าจะชำระหนี้ทั้งหมด 1,431 ล้านบาท เฉลี่ยปีละประมาณ 100 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 10 ปี แต่งวดล่าสุดกลับชำระได้เพียง 30% หรือประมาณ 30 ล้านบาทเท่านั้น ส่วนสาเหตุทางสหกรณ์ฯจุฬาเข้าใจดีว่ามาจากดีเอสไอยังไม่ปลดล็อคทรัพย์สิน จำนวน 3,811 ล้านบาท ที่ยึดมาจากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯคลองจั่น คืนให้กับสหกรณ์ฯคลองจั่น

“ส่วนตัวยังเคลือบแคลงใจว่าดีเอสไอติดขัดอะไร จึงไม่ยอมปลดล็อคเงินก้อนนี้ ทั้งที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ได้ตอบกลับมาแล้วว่าไม่มีปัญหาอะไร จึงฝากไปยังดีเอสไอให้ทบทวนเรื่องนี้ เพราะขณะนี้บรรดาสหกรณ์ต่างๆ รวม 85 แห่ง ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง” นายจุมพล กล่าว


สมองเดือด! อากาศออสซี่ร้อนจัด‘ฝูงค้างคาว’ร่วงตายเป็นเบือ

9 ม.ค.61 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ว่า ออสเตรเลียกำลังเผชิญกับภาวะอากาศร้อนจัด เนื่องจากคลื่นความร้อนแผ่ปกคลุม ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นถึง 45 องศาเซลเซียส ซึ่งไม่เพียงมีผลกระทบต่อคนเท่านั้น แต่อากาศที่ร้อนจัดดังกล่าวยังส่งกระทบต่อสัตว์ต่างๆด้วย โดยเฉพาะในเมืองแคมป์เบลล์ทาวน์ แถบชานเมืองฝั่งตะวันตกของเมืองใหญ่ซิดนีย์ ปรากฏว่า ค้างคาวแม่ไก่หลายร้อยตัว ได้หล่นลงจากต้นไม้ที่เกาะ เนื่องจากทนต่อความร้อนระอุไม่ไหว โดยค้างคาวแม่ไก่เป็นค้างคาวขนาดใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย และถูกจัดอยู่ในประเภทเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ด้วย

เจ้าหน้าที่หน่วยคุ้มครองสัตว์ป่าท้องถิ่น กล่าวว่า ความร้อนจัดส่งผลกระทบต่อ “สมอง” ของค้างคาวแม่ไก่ โดยส่งผลให้สมองของพวกมัน “เดือด” จนถึงขั้นหมดสติ และเสียชีวิต

ขณะที่ สำนักงานข้อมูลกู้ภัยและการศึกษาสัตว์ป่า รัฐนิวเซาท์เวลส์ ระบุว่า จำนวนค้างคาวที่ตายสังเวยอากาศร้อนทารุณอาจเพิ่มขึ้นเป็นหลายพันตัว โดยเจ้าหน้าที่พยายามช่วยเหลือตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งก็มีที่ช่วยชีวิตไว้ได้จำนวนมาก แต่ก็มีที่ยื้อชีวิตช่วยไม่ทันอีกมากเช่นกัน


จีนหวั่นเรือบรรทุกน้ำมันอับปาง

ปักกิ่ง (เอเอฟพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) - ทางการจีนเกรงว่า เรือบรรทุกน้ำมันของอิหร่านที่ยังคงไม่สามารถดับไฟได้หลังชนกับเรือบรรทุกสินค้าจีนนอกชายฝั่งจีนตั้งแต่วันเสาร์เสี่ยงระเบิดหรือจม ขณะที่ยังไม่พบสัญญาณของลูกเรือ 32 คน ที่ยังสูญหาย

กระทรวงคมนาคมจีนแถลงว่า เรือบรรทุกน้ำมันของอิหร่านจดทะเบียนในปานามาความยาว 264 เมตร ลำนี้เสี่ยงระเบิดหรืออับปาง เพราะไฟยังคงลุกไหม้อย่างหนักบนเรือซึ่งบรรทุกแก๊สธรรมชาติเหลว 136,000 ตัน หรือไม่ถึง 1 ล้านบาร์เรล ขณะที่กลุ่มควันดำหนาทึบเป็นอุปสรรคต่อเจ้าหน้าที่ในการค้นหาลูกเรือที่เป็นชาวอิหร่าน 30 คน ชาวบังกลาเทศ 2 คน เรือของทางการจีนและเรือประมงกำลังช่วยกันกู้ภัยและทำความสะอาดน่านน้ำโดยรอบ นอกจากนี้ยังมีเรือหน่วยยามฝั่งเกาหลีใต้ และเครื่องบินกองทัพเรือสหรัฐมาร่วมกู้ภัยด้วย ล่าสุด มีรายงานพบร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ศพ

กระทรวงน้ำมันอิหร่านแถลงว่า เรือลำนี้เป็นของบริษัทเรือบรรทุกน้ำมันแห่งชาติ เกิดเหตุชนกับเรือบรรทุกสินค้าจีน ขณะอยู่ห่างจากปากแม่น้ำแยงซีใกล้นครเซี่ยงไฮ้ประมาณ 200 กิโลเมตร เมื่อเย็นวันเสาร์ตามเวลาจีน ขณะกำลังนำแก๊สธรรมชาติเหลวมูลค่า 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,930 ล้านบาท) ไปส่งให้บริษัทในเกาหลีใต้ ทั้งเรือและสินค้ามีการประกันภัย ด้านเจ้าหน้าที่บริษัทเกาหลีใต้ที่เป็นลูกค้าเผยว่า อาจต้องใช้สต๊อกที่มีอยู่ หรือสั่งซื้อจากกาตาร์ไปก่อน เรือของบริษัทอิหร่านแห่งนี้เคยชนกับเรือบรรทุกสินค้าลำหนึ่งในช่องแคบสิงคโปร์เมื่อเดือนสิงหาคม 2559 ครั้งนั้นเสียหายหนักทั้งสองลำ แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บและไม่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าน้ำมันรั่วไหลออกจากเรือลำดังกล่าวมากน้อยเพียงใด แต่หลายฝ่ายกังวลว่าอาจมีความเสี่ยงที่น้ำมันจำนวนมากจะรั่วไหลลงทะเล เช่นเดียวกับครั้งที่เกิดเหตุเรืออับปางนอกชายฝั่งแองโกลาเมื่อปี 2534 และทำให้น้ำมัน 260,000 ตัน รั่วไหลลงทะเล


รักต้องห้าม! รบ.บังกลาเทศไม่อนุญาตให้ปชช.แต่งงานกับโรฮิงญา

9 ม.ค. 2561 สำนักข่าว BBC ของอังกฤษ รายงานว่า ศาลบังกลาเทศให้การรับรองกฎหมายห้ามชาวบังกลาเทศแต่งงานกับชาวโรฮิงญา ซึ่งมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2557 โดยรัฐบาลบังกลาเทศให้เหตุผลว่าการแต่งงานนั้นถูกใช้ไปเพื่อให้ชาวโรฮิงญาได้รับสัญชาติ ทั้งนี้ชาวโรฮิงญาหลายแสนคนเป็นผู้อพยพหนีตายจากการกวาดล้างของกองทัพรัฐบาลเมียนมา (พม่า) ข้ามพรมแดนเข้าไปยังบังกลาเทศ ในปี 2560

รายงานข่าวระบุว่า นาย Shoaib Hossain Jewel อายุ 26 ปี หลบหนีการไล่ล่าของตำรวจเนื่องจากแต่งงานกับหญิงชาวโรฮิงญาวัย 18 ปีรายหนึ่ง ก่อนจะถูกจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา ซึ่งนาย Jewel ให้การว่า เขาพบหญิงชาวโรฮิงญารายนี้เมื่อครั้งที่ครอบครัวของเธอพักอยู่ในชุมชนมุสลิมในท้องถิ่น และต่อมาเขาต้องใช้ความพยายามเดินทางหลายร้อยกิโลเมตรไปพบเธอที่ค่ายผู้ลี้ภัยที่ไกลออกไปจากหมู่บ้านของฝ่ายชาย ก่อนที่จะตกลงใจแต่งงานกันในที่สุด

ท่ามกลางสถานการณ์ความรุนแรงที่ชาวโรฮิงญาถูกขับไล่ออกจากเมียนมา รัฐบาลบังกลาเทศกล่าวว่า มีการใช้ใบรับรองการแต่งงานเพื่อเรียกร้องเอกสารทางกฎหมายอื่นๆ รวมถึงหนังสือเดินทางของบังกลาเทศ จึงต้องมีกฎหมายดังกล่าว โดยผู้ฝ่าฝืนอาจถูกจำคุกได้สูงสุดถึง 7 ปี ขณะที่นาย Babul Hossain ซึ่งเป็นบิดาของนาย Jewel ยืนยันว่า ตนสนับสนุนการแต่งงานของบุตรชาย และจะยื่นเรื่องคัดค้านกฎหมายฉบับนี้ต่อไป

"ถ้าชาวบังกลาเทศสามารถแต่งงานกับชาวคริสต์ หรือแม้แต่คนของศาสนาอื่นๆ ได้ แล้วลูกชายผมผิดอะไรที่แต่งงานกับชาวโรฮิงญา" บิดาของนาย Jewel กล่าว

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ศาลสูงบังกลาเทศได้ยกคำร้องของนาย Babul Hossain และสั่งให้เขาต้องจ่ายค่าธรรมเนียมศาลเป็นเงิน 1 แสนตากา หรือ 1,200 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 38,400 บาท นอกจากนี้ ยังยกคำร้องที่ขอให้ใช้มาตรการคุ้มครองชั่วคราวกับ นาย Jewel อีกด้วย ทั้งนี้ไม่เป็นที่แน่ชัดว่า คู่รักระหว่างหนุ่มบังกลาเทศกับสาวโรฮิงญาคู่นี้ จะต้องเผชิญชะตากรรมอย่างไรต่อไปในอนาคต ภายใต้กฎหมายฉบับนี้

ไฟไหม้ยอดตึก'ทรัมป์ ทาวเวอร์'สูง 68 ชั้น บาดเจ็บ 2 ราย

9 ม.ค.61 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เกิดเหตุเพลิงไหม้ชั้นดาดฟ้าอาคารทรัมป์ ทาวเวอร์ สูง 68 ชั้น ในย่านแมนฮัตตัน นครนิวยอร์กของสหรัฐ เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. ของวันที่ 8 ม.ค.ตามเวลาท้องถิ่น มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 คน ส่วนอีก 1 คนเป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย หลังเวลาผ่านไปกว่า 90 นาที กำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 84 คนจาก 26 หน่วยก็ยังอยู่ในที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบความปลอดภัย

โดยนายอีริค ทรัมป์ หนึ่งในบุตรชายของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวว่า เป็นเพลิงไหม้ขนาดไม่รุนแรงมากนัก ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจากกระแสไฟฟ้าภายในหอทำความเย็นบนหลังคาของอาคารทรัมป์ ทาวเวอร์ลัดวงจร แต่หน่วยดับเพลิงของนิวยอร์กมาถึงที่เกิดเหตุภายในเวลาไม่กี่นาทีและสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้