ข่าว
'ไบเดน'ขู่คว่ำบาตร'ปูติน' หาก'รัสเซีย'เปิดฉากบุก'ยูเครน'

26 ม.ค.65 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน กล่าวถึงการออกมาตรการคว่ำบาตรโดยตรงต่อประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน กรณีที่รัสเซียบุกรุกยูเครน พร้อมทั้งยืนยันว่าสหรัฐฯ ไม่มีแผนที่จะส่งทหารเข้าไปในยูเครนแต่อย่างใด เนื่องจากไม่ได้อยู่ในองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO)

ประธานาธิบดีไบเดนเปิดเผยว่า การคว่ำบาตรประธานาธิบดีปูตินเป็นส่วนหนึ่งของผลลัพธ์อันใหญ่หลวงที่จะเกิดขึ้น หากผู้นำรัสเซียออกคำสั่งให้ทหารกว่าแสนนายที่ประจำการอยู่บริเวณชายแดน บุกเข้าสู่เขตแดนของยูเครน

ซึ่งมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่ผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันมาตลอดว่า เป็นวิธีการหลักที่จะใช้ในการตอบโต้ความก้าวร้าวของรัสเซีย และถึงแม้ว่าล่าสุดจะมีการออกคำสั่งให้ทหารสหรัฐฯ 8,500 นายอยู่ในสถานะเตรียมพร้อมที่จะถูกส่งเข้าไปในยุโรปตะวันออก แต่ก็เป็นเพียงการเข้าไปในดินแดนพันธมิตร NATO เท่านั้น ไม่ได้เป็นการส่งเข้าไปในยูเครนโดยตรง

นอกจากนั้น จะเป็นการสนับสนุนในด้านอาวุธ โดยมีรายงานว่าเครื่องบินของสหรัฐฯ ได้ขนอุปกรณ์ทางการทหารไปที่กรุงเคียฟในวันอังคาร (25 ม.ค.) นับเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่มีการส่งความช่วยเหลือเข้าไปในยูเครน ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวม 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (6.6 พันล้านบาท)

ขณะนี้ชาติตะวันตกยังพยายามหาทางออกของวิกฤตครั้งนี้ด้วยการเจรจา โดยประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง จะต่อสายถึงประธานาธิบดีปูตินในวันศุกร์นี้ เพื่อขอความชัดเจนถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ทั้งประธานาธิบดีมาครงและนายกรัฐมนตรี โอลาฟ โชลซ์ ของเยอรมนี ที่กล่าวแถลงร่วมกันในกรุงเบอร์ลินเมื่อวานนี้ (25 ม.ค.) ระบุว่ายังคงใช้วิธีทางการทูตต่อไป แต่ก็ยืนยันว่าได้เตรียมการตอบโต้ไว้เช่นกัน และรัสเซียจะต้องจ่ายราคาแพงหากบุกยูเครน

‘อนุทิน’ยื่นร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง‘ปธ.สภา’ดันบังคับใช้ปลดพ้นยาเสพติด

เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมกันลงชื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ. .... ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานรัฐสภา เพื่อพิจารณานำเข้าสู่กระบวนการตราเป็นพระราชบัญญัติ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป

โดยนายอนุทิน แถลงหลังจากที่ยื่นเรื่องว่า เหตุผลที่ต้องมีการเสนอร่างพรบ.กัญชา กัญชง ฉบับนี้ เพราะเมื่อวานนี้(25 มกราคม) คณะกรรมการป.ป.ส. ได้มีมติเห็นชอบให้กระทรวงสาธารณสุข โดยตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงนามในประกาศกำหนดชื่อยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ตามที่คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดเสนอ ซึ่งมีสาระสำคัญคือ การปลดกัญชาออกจากยาเสพติด ดังนั้นหลังจากที่ประกาศฉบับนี้ มีผลบังคับใช้ คือ 120 วัน หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา กัญชา กัญชง ที่ผลิตในประเทศไทย จะไม่เป็นยาเสพติดอีกต่อไป และจะไม่อยู่ในพ.ร.บ.ยาเสพติด เป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของกัญชา กัญชง ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้แถลงต่อรัฐสภา ว่าจะส่งเสริมให้มีการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีการใช้กัญชา กัญชง สมุนไพร เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชน และสร้างรายได้แก่ประชาชน อีกทั้งสอดคล้องเจตนารมณ์ของประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 ซึ่งได้ถอดกัญชา ออกจากยาเสพติดให้โทษประเภท 5 แล้ว

นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังคงมีความห่วงใยจากหลายภาคส่วน ทั้งนักวิชาการ ภาคประชาชน และ เจ้าหน้าที่รัฐ เกรงว่าจะมีการนำกัญชาไปใช้ทางที่เป็นโทษต่อประชาชนและเยาวชน ซึ่งจะเป็นการขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมาย และข้อตกลงนานาชาติ ในเรื่องการควบคุมการใช้กัญชา ซึ่งกำหนดให้ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ และวิทยาศาสตร์ เท่านั้น คณะกรรมการป.ป.ส. จึงเสนอให้มีการออกฎหมายมากำกับการใช้ประโยชน์จากกัญชา กัญชง เป็นการเฉพาะ เมื่อพ้นจากบัญชียาเสพติดแล้ว เช่นเดียวกับกฎหมายกระท่อม ที่สภาผู้แทนราษฎรได้มีมติเห็นชอบแล้ว

อย่างไรก็ตาม การมีกฎหมายเฉพาะกัญชา กัญชง จึงเป็นการยืนยันอีกครั้งว่า กัญชา กัญชง ได้พ้นจากความเป็นยาเสพติดแล้ว แต่มีความจำเป็นที่จะต้องมีการควบคุมการผลิต และการใช้ เพื่อให้เป็นประโยชน์กับประชาชน ตามนโยบายรัฐบาล หากมีการนำไปใช้ทางที่เป็นโทษ ก็ยังคงมีความผิดทางกฎหมายอยู่ หลักการและเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง ที่พรรคภูมิใจไทย นำเสนอฉบับนี้ คือ ส่งเสริมให้กัญชา กัญชง เป็นพืชที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยมีเป้าหมาย คือ 1) เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ พัฒนาภูมิปัญญาทางการแพทย์แผนไทย 2) ให้ประชาชนมีทางเลือกในการดูแลสุขภาพของตนเอง 3) ให้เกิดเป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ประชาชนจากการปลูก การผลิต และการขายผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา กัญชง รวมทั้งสารสกัด 4) ส่งเสริมให้มีการวิจัย และพัฒนานวัตกรรมทั้งพืช และผลิตภัณฑ์จากกัญชา กัญชง 5) คุ้มครองประชาชน ซึ่งอาจจะได้รับอันตรายจากการบริโภคกัญชา กัญชง และป้องกันการใช้กัญชา กัญชง ในทางที่ผิด

“พรรคภูมิใจไทย ในฐานะที่เป็นพรรคการเมือง ซึ่งได้นำเสนอนโยบายการปลดกัญชาออกจากยาเสพติด เพื่อให้ประชาชนนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ เข้าถึงกัญชาทางการแพทย์ และเพื่อสุขภาพ โดยได้รับความสะดวกมากที่สุด และสามารถนำไปใช้เป็นพืชเศรษฐกิจ สร้างรายได้ ให้แก่ประชาชนได้ และต่อมาได้ผลักดันนโยบายนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ถึงวันนี้ การปลดกัญชาออกจากยาเสพติด ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และ คณะกรรมการป.ป.ส. ได้แสดงให้เห็นว่านโยบายนี้ เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ถือได้ว่า มีมติผ่านเป็นเอกฉันท์” หน.พรรคภท. ระบุ

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า พรรคภูมิใจไทย ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า พรรคภูมิใจไทย เป็นพรรคการเมืองที่พูดแล้วทำ เพื่อประโยชน์ของประชาชน และเป็นพรรคการเมืองที่รับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน พร้อมนำข้อห่วงใย มาหาแนวทางแก้ไข เพื่อให้การปฏิบัติตามนโยบาย ไม่เกิดผลกระทบ ไม่เป็นปัญหาต่อสังคม จึงนำมาสู่การยื่นร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง ในวันนี้ ยืนยัน ขอให้ทุกท่านสบายใจ และมีความเชื่อมั่นต่อการทำงานของพรรคภูมิใจไทย และยังทำให้เห็นได้ถึงการทำงานในรูปแบบของพรรคภูมิใจไทย คือ ทำทันที ไม่ทำให้ประชาชนต้องเสียโอกาสเสียเวลาแม้แต่วันเดียว

ทั้งนี้ ขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกสภาฯ ทุกพรรคการเมือง และ สมาชิกวุฒิสภา ได้ร่วมกันศึกษาพิจารณาร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่พรรคภูมิใจไทย เสนอ เพื่อให้พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ออกมาใช้โดยเร็วที่สุด และ เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด และขอให้ทุกท่าน ได้ระลึกถึงเจตนารมณ์ของท่านในการตราประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 ที่รัฐสภามีมติเป็นเอกฉันท์ 476 ต่อ 0 ซึ่งมีสาระสำคัญในมาตรา 29 ที่ได้ถอดกัญชาออกจากยาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 ไปแล้ว

“อย่างไรก็ตาม สำหรับประชาชนที่ประสงค์จะปลูกกัญชา เพื่อพึ่งพาตนเอง ด้านสุขภาพ ขอให้ รอ 120 วัน ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ส. กำหนดไว้ ทั้งนี้เพื่อให้สิ้นข้อสงสัย ว่ากัญชา ยังเป็นยาเสพติดหรือไม่ จะไม่ต้องตีความกันอีกต่อไป เพราะเมื่อครบ 120 วัน แล้ว หลังประกาศกระทรวงสาธารณสุข กำหนดชื่อยาเสพติด ออกมาแล้ว จะไม่มีการนำกฎหมายยาเสพติดมาใช้กับผู้ปลูกกัญชา เพื่อพึ่งพาตนเอง ได้อีกต่อไป” นายอนุทิน กล่าวทิ้งท้าย


บุกรวบ 5 แอดมินเว็บพนันออนไลน์ พบเงินหมุนเวียนมากกว่า 2 ล้าน/เดือน

วันที่ 26 ม.ค.65 เจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.2 บก.ปอท.ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา จํานวน 5 ราย ประกอบด้วย1. น.ส เกสิเว อายุ 26 ปี 2.น.ส.ชิดชนก อายุ 23 ปี 3.นายเฉลิมพล (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี 4. นายบพิตร (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี 5. นายพรเทพ (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปีโดยกล่าวหาว่ากระทําความผิดฐาน “ร่วมกันประกาศ โฆษณา ชักชวนให้มีการเล่นการพนันไพ่ป๊อกเด้ง ออนไลน์ โดยเป็นเจ้ามือ รับกินรับใช้พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต

นอกจากนี้ ยังตรวจยึดของกลาง ประกอบด้วย 1.จอคอมพิวเตอร์ จํานวนรวม 26 เครื่อง 2.ซีพียู จํานวนรวม 15 เครื่อง 3.สมุดบัญชีพร้อมด้วยบัตรกดเงินสดธนาคารต่างๆ รวมจํานวน 35 รายการ 4.โทรศัพท์มือถือ รวม 7 เครื่อง 5.อุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ อีกกว่า 19 รายการ รวมของกลางกว่า 102 รายการ จับกุมได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งบริเวณ ซอยสามัคคี ถ.ประชาชื่น ต.ท่าทราย อ.เมือง จว.นนทบุรี และ ห้องพักอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่ง ภายในซอย รพ.เจ้าพระยา ถนนบรมราชชนนี แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม.

สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือน มกราคม 2565 เจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.2 บก.ปอท. ได้รับเรื่อง ร้องเรียนว่ามีผู้ลักลอบเปิดเว็บไซต์การพนันออนไลน์ โฆษณา ชักชวน หรือจัดให้ผู้เข้าใช้เว็ปไซต์ทั่วไปลักลอบเล่น การพนันออนไลน์พนันเอาทรัพย์สินกันโดยผิดกฎหมาย

เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงทําการสืบสวนจนทราบว่า เว็บไซต์ที่ เปิดให้มีการลักลอบเล่นพนันออนไลน์มีแอดมินประจําออฟฟิศ จํานวน 2 จุด คือ บริเวณบ้านพักแห่งหนึ่งบริเวณ ซอยสามัคคี ถ.ประชาชื่น ต.ท่าทราย อ.เมือง จว.นนทบุรี และ ห้องพักอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่ง ภายในซอย รพ.เจ้าพระยา ถนนบรมราชชนนี แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม. โดยแอดมินจะทําหน้าที่ให้บริการ ลูกค้าและรับแทงการพนันออนไลน์ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเว็บไซต์ดังกล่าวมีสมาชิกเข้ามาเล่นพนัน ออนไลน์จํานวนหลายราย พบมีเงินหมุนเวียนกว่า 2,000,000 บาทต่อเดือน

เช้าวันนี้ (26 ม.ค.)เจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.2 บก.ปอท. ขอหมายค้นศาลอาญา ก่อนนํากําลังเข้าตรวจค้นจับกุมเครือข่ายเว็บไซต์พนัน ออนไลน์ บริเวณ ห้องพักภายในอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่ง ซอย รพ.เจ้าพระยา ถ.บรมราชชนนี แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม. และ บ้านพักภายในซอยสามัคคี ถ.ประชาชื่น ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี

ผลการตรวจค้นพบแอดมิน 5 คน นั่งประจําคอมพิวเตอร์อยู่ภายในห้อง กําลังตอบแชทลูกค้าพนันออนไลน์ เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม จากนั้นนําตัวผู้ต้องหาพร้อมตรวจยึดของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอท. ดําเนินคดีตามกฎหมาย โดยจะได้ทําการขยายผลตรวจสอบเงินหมุนเวียนภายใน ขบวนการของผู้ต้องหาเพื่อดําเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินต่อไป

จากการสอบถามผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ โดยรับว่าตนกับพวกรวม 5 คน ทําหน้าที่เป็นแอดมินเว็บพนันออนไลน์ ส่งข้อมูลชักชวนบุคคลอื่นให้มาร่วมเล่นพนันหวยออนไลน์และอํานวยความ สะดวกลูกค้าที่เล่นการพนันออนไลน์จริง


คาดอีก 2 วัน! 'คราบน้ำมันดิบ'ลอยถึงหาดแสงจันทร์-หาดแม่รำพึง เตือนนทท.ห้ามลงเล่นน้ำ

26 มกราคม 2565 เกิดเหตุมีน้ำมันดิบของบริษัทสตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) รั่วไหลจากท่อใต้ทะเลบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึก หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) ซึ่งรั่วไหลลงทะเลจำนวน 160,000 ลิตร โดยห่างจากฝั่งประมาณ 12 ไมล์ทะเล โดยมีคาดการณ์ว่าจะพัดเข้าฝั่ง เวลา 17.00 น.ของวันที่ 28 มกราคม 2565 นี้ ชายหาดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบมีหาดแสงจันทร์ไปจนถึงหาดแม่รำพึง อ.เมืองระยอง

นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้ประกาศเตือนให้ประชาชน นักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการนำเที่ยว ได้เฝ้าระวังและใช้ความระมัดระวัง หรือหลีกเลี่ยงในการลงเล่นน้ำทะเลบริเวณที่มีคราบน้ำมันโดยเด็ดขาด ทั้งนี้หากพบคราบน้ำมันดังกล่าวให้รีบแจ้งหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทราบทันทีที่กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดระยอง โทร. 0-3869-4129/0-3869-4134

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางบริษัทสตาร์ ปิโตรเลี่ยมฯ ได้ออกมาชี้แจง เกี่ยวกับข้อมูลจำนวนน้ำมันที่รั่วไหลของนำมันดิบเป็นจำนวน 128 ตัน (160,000 ลิตร) ในการนี้ได้มีการใช้สารเคมีชื่อ dispersant ในกำจัดมวลคราบคราบน้ำมันให้ย่อยสลายไปแล้ว 80% คงเหลือคราบน้ำมันอีกประมาณ 21 ตัน และขณะนี้สถานการณ์สามารถควบคุมได้ โดยจะไม่มีการพัดพาเข้าฝั่ง

'แคนาดา'สั่งครอบครัวเจ้าหน้าที่สถานทูต เดินทางออกจากยูเครน

26 ม.ค.65 สำนักข่าวต่างประเทศรางานว่า แถลงการณ์จากกระทรวงต่างประเทศแคนาดา เมื่อวันอังคาร (25 ม.ค.) ระบุว่าแคนาดามีมติให้สมาชิกครอบครัวของคณะเจ้าหน้าที่ทางการทูตในยูเครนเดินทางออกจากยูเครนแล้ว

แคนาดาตัดสินใจสั่งให้บุตรหลานของเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตแคนาดา ซึ่งมีอายุต่ำกว่า 18 ปี และสมาชิกครอบครัวผู้ทำหน้าที่ดูแล เดินทางออกจากยูเครนเป็นการชั่วคราว เนื่องด้วยการตั้งกองกำลังทหารอย่างต่อเนื่องของรัสเซีย และสถานการณ์ที่ไม่มั่นคงทั้งในและรอบยูเครน

ก่อนหน้านี้เมื่อวันจันทร์ (24 ม.ค.) แคนาดาปรับแก้คำแนะนำการเดินทางของประเทศ โดยแนะนำชาวแคนาดาที่ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในส่วนงานที่จำเป็นเดินทางออกจากยูเครน

มติของแคนาดาครั้งนี้มีขึ้นหลังจากสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร เริ่มสั่งให้เจ้าหน้าที่ทางการทูตและเจ้าหน้าที่สถานทูตเดินทางออกจากยูเครนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่อาจเกิดขึ้นได้