ข่าว
จีนคาดเทศกาลตรุษจีนมียอดผู้เดินทางเข้า-ออกประเทศต่อวันเฉลี่ย 6 แสนครั้ง

19 มกราคม 2566 สำนักข่าวซินหัวไทย รายงานว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งชาติจีน คาดการณ์ปริมาณการเดินทางเข้า-ออกประเทศต่อวันเฉลี่ยอยู่ที่ 600,000 ครั้ง ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลตรุษจีน 7 วันปีนี้ เพิ่มขึ้นราวสองเท่าจากช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปี 2022

สำนักงานฯ กระตุ้นเตือนเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองทั่วจีนเตรียมพร้อมรับมือปริมาณการเดินทางพุ่งสูงในเทศกาลที่กำลังจะมาถึง และเพิ่มประสิทธิภาพพิธีการศุลกากร เพื่อจำกัดระยะเวลาการรอของพลเมืองจีนให้ไม่เกิน 30 นาที

ขณะเดียวกัน มีการคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารมากขึ้นเป็นพิเศษบริเวณด่านบกที่ติดกับเขตบริหารพิเศษฮ่องกงและเขตบริหารพิเศษมาเก๊าของจีน วันหยุดยาวเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นเทศกาลดั้งเดิมแห่งการรวมตัวของครอบครัวชาวจีน จะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 21-27 มกราคม นี้

‘บิ๊กป้อม’ชง ครม.ดันส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ 1.5 แสนตัน ปรับสูตรดีเซลเป็น B10

19 มกราคม 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ได้ลงนามเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบ 2 โครงการสำคัญ ดังนี้ 1. โครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 65-66 วงเงิน 6,128 ล้านบาท 2. โครงการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อลดผลผลิตส่วนเกิน ปี 66 วงเงิน 309 ล้านบาท ตามมติ กนป. ครั้งที่ 3/65 เมื่อวันที่ 19 ต.ค.65 ที่ ครม.รับทราบ พร้อมความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้วเมื่อ 17 ม.ค.66

นอกจากนี้ ยังให้ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะกรรมการ กนป. โดยตำแหน่ง รับข้อเรียกร้องจากเกษตรชาวสวนปาล์มที่ได้รับความเดือดร้อน ไปพิจารณาดำเนินการใช้มาตรการเพิ่มสัดส่วนไบโอดีเซลจาก บี7 (7%) เป็น บี10 (10%) โดยกำหนดให้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี10 กลับมาเป็นน้ำมันดีเซลฐานของประเทศ และสนับสนุนให้ใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 เป็นทางเลือก ตามมาตรการส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซลของ กนป. ซึ่งได้ดำเนินการมาก่อนหน้านี้แล้ว ตั้งแต่ 1 ม.ค.63 ก่อนวิกฤตโควิด-19 อีกครั้ง

พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ กล่าวต่อว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธาน กนป. มีความห่วงใยชาวสวนปาล์มที่ได้รับผลกระทบจากกรณีราคาปาล์มทะลายตกต่ำในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งมีโรงสกัดน้ำมันปาล์มปิดซ่อมบำรุงเครื่องจักรในปีนี้หลายแห่ง จนทำให้ปาล์มทะลายติดคิวหน้าโรงงานและลานเท โดยมีหยุดการรับซื้อ หรือรับซื้อในราคาที่ต่ำกว่าโครงสร้างราคาที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ซึ่งช่วงที่ผ่านได้แจ้งข้อสั่งการของ รองนายกรัฐมนตรี ให้ ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด พาณิชย์จังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัดที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นคณะทำงานขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมันในจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ พังงา

นอกจากนี้ ยังกำชับปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ผบก.ปคบ.) เร่งแก้ไขสถานการณ์ให้คลี่คลายโดยเร็ว จากผลดำเนินการของคณะทำงานระดับจังหวัด และตำรวจท้องที่ ในการเข้าตรวจสอบโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม และลานเทในพื้นที่ รวมทั้ง กระทรวงอุตสาหกรรมได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจตราการดำเนินงานตามมาตรการ กนป. ของโรงงานทุกแห่งในพื้นที่แล้ว โดยหากพบว่า การรับซื้อหน้าโรงงานและที่ลานเท โดยไม่ปิดป้ายราคารับซื้อ หรือรับซื้อต่ำกว่าโครงสร้างราคา หรือมีการฮั้วชะลอการรับซื้อ เช่น ปิดโรงงานโดยไม่มีการซ่อมบำรุงเครื่องจักรจริง หรือการกระทำอื่นใดในลักษณะอาจเข้าข่ายเพื่อสร้างความปั่นป่วนของราคา หรือกดราคารับซื้อ ให้เจ้าพนักงานพาณิชย์จังหวัดร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน

พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ กล่าวว่า มาตรการปรับสูตร บี7 เป็น บี10 ทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้นเดือนละ 5.2 หมื่นตัน กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ ปัจจุบัน สามารถเก็บเงินจากน้ำมันดีเซลได้ประมาณเดือนละ 10,000 ล้านบาท โดยในช่วงนี้จะใช้เงินกองทุนฯ ประมาณ 700 ล้านบาทต่อเดือน คาดว่าจะทำให้ระดับสต๊อกน้ำมันปาล์มในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม ปี66 ลดลง เตรียมรองรับผลผลิตปาล์มน้ำมันที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูปาล์มดกในเดือนเมษายนเป็นต้นไป เพื่อมิให้ระดับสต๊อกน้ำมันปาล์มสูงขึ้นมากเกินไปในช่วงกลางปี 66


เริ่มวันนี้! เปิดบริการ Shuttle Bus ฟรี เชื่อมต่อสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-หัวลำโพง

วันที่ 19 มกราคม 2566 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ปรับเปลี่ยนสถานีต้นทางปลายทางของขบวนรถไฟทางไกล สายเหนือ ใต้ อีสาน ทั้งขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน รถเร็ว จำนวน 52 ขบวน มาที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ โดยเริ่มจะจำหน่ายตั๋วโดยสารอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่ 19 มกราคม นี้ เป็นต้นไป

น.ส.รัชดา กล่าวว่า องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้จัดเดินรถ Shuttle Bus บริการฟรี! เส้นทาง “สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) (ทางด่วน)” รองรับการเปิดให้บริการรถไฟทางไกล จำนวน 52 ขบวน ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม เป็นต้นไป เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการเดินทาง เชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟทั้ง 2 แห่ง

สำหรับรถ Shuttle Bus ที่ให้บริการฟรีนี้ มีจำนวน 6 คัน เป็นรถโดยสารปรับอากาศ NGV แบบชานต่ำ (Low Floor) มีท่าต้นทาง 2 แห่ง คือ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ให้บริการตั้งแต่เวลา 04.30-23.00 น. โดยปล่อยรถคันแรกจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 04.30 น. ความถี่ในการปล่อยรถ ทุกๆ 30 นาที หรือตามจำนวนเที่ยวที่ขบวนรถไฟมาถึงสถานี ทั้งนี้ เฉพาะวันที่ 19 มกราคม 2566 จะให้บริการตั้งแต่ เวลา 12.00-23.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมทื่ สายด่วน ขสมก. โทร.1348

"รัฐบาลเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนให้มีประสิทธิภาพ และแก้ไขปัญหาด้านการจราจร เชื่อมต่อการเดินทางจากใจกลางกรุงเทพมหานครสู่ปริมณฑล รวมถึงเชื่อมโยงต่อไปยังทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ยกระดับคุณภาพชีวิต มุ่งพัฒนาประเทศอย่างบูรณาการ" น.ส.รัชดา ย้ำ


บุกค้นบ้านซีอีโอสาว 'เม พรีมายา' หลังศาลออกหมายจับ อ้างลงทุน 6 พัน ฟัน 15 ล้าน

บช.ไซเบอร์ เปิดยุทธการ”ผึ้งแตกรัง” บุกค้นบ้านซีอีโอสาว เม-พรีมายา หลังศาลออกหมายจับ กรณีอ้างลงทุน 6 พัน กำไร 15 ล้าน ในเวลา 3 เดือน รองต่อศักดิ์ จ่อแถลงบ่ายนี้

วันที่ 19 มกราคม 2566 เวลา 07.00 น. เวลา 07.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.สอท.2,พ.ต.อ. กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ รองผบก.ปคม. พ.ต.อ. อภิรักษ์ จำปาศรี รรท.ผกก.2 บก.สอท.2 นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้าน แถวตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นบ้านพักของ น.ส.พิชญ์นรี หรือ เม พรีมายา เจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 41/2566 ลงวันที่ 17 ม.ค. ในฐานความผิด โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ตามหมายค้นศาลอาญาที่ 62/2566 ลงวันที่ 18 ม.ค.

จากการตรวจค้นไม่พบเมย์ พรีมายา อยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวมีเพียงแม่บ้านเป็นผู้ดูแลและพักอาศัย จากการสอบถามเบื้องต้นทางแม่บ้านให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ว่าได้ออกเดินทางออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยไปกับแฟนหนุ่ม ซึ่งไม่ได้ระบุว่าจะเดินทางไปที่ใด เบื้องต้นได้ทำการตรวจค้นหาพยานหลักฐาน พร้อมตรวจยึดผลิตภัณฑ์อาหารเสริมไปทำการตรวจสอบด้วย

นอกจากนี้ได้เข้าตรวจค้น บ้านอีกหลัง ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัท ด้วยเช่นกัน

มีรายงานว่า สำหรับการตรวจค้นครั้งนี้มาจากการที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบว่าน.ส.พิชญ์นรี หรือ เม พรีมายา และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ใช้ข้อความอันเป็นเท็จ ลักษณะเชิญชวนอ้างว่าลงทุน 6,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ได้เงิน 15 ล้านบาท พร้อมโพสต์ภาพภาพหญิงคนหนึ่งคู่กับรถหรูในโชว์รูม ในลักษณะเชิญชวนแต่เมื่อตรวจสอบพบว่าไม่เป็นไปตามข้อความที่ปรากฎ

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าทางพล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนแบ่งงานกระจายกำลังเพื่อปิดล้อมอีก 9 จุด ทั่วประเทศ เพื่อหาพยานหลักฐานและจับกุมผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งไปตามยุทธการผึ้งแตกรัง อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าทางพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. จะแถลงสรุปผลปฎิบัติการครั้งนี้ ในเวลา 14.00 น. ที่บช.สอท. ต่อไป


นศ.อาชีวะรวมตัวกว่า 300 คน ไล่ผู้อำนวยการ บริหารงานไม่มีประสิทธิภาพ

19 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักศึกษาอาชีวะแห่งหนึ่ง พร้อมคณะครู กว่า 300 คน รวมตัวถือป้ายเรียกร้องการบริหารงานของ ผู้อำนวยการที่เข้ารับตำแหน่ง 3 เดือน แต่มีการบริหารงานที่ส่งผลกระทบกับการเรียนการสอนของนักศึกษาและคณะครู ทั้งเรื่องไม่จัดสรรวัสดุฝึกสอนของนักศึกษาและคณะครู พร้อมยกเลิกการเช่าระบบอินเตอร์เน็ตของเอกชนและหันมาใช้ระบบของรัฐบาลที่ไม่เสถียรและมีการเรียกเก็บค่าอินเตอร์เน็ตจากนักศึกษา คนละ 200 บาท รวมถึงการบริหารงานวิทยาลัยไม่มีประสิทธิภาพ

ซึ่งกลุ่มนักศึกษาทั้งหมด ต่างรวมตัวกันถือป้ายเรียกร้องภายในวิทยาลัยก่อนเดินออกจากวิทยาลัยไปยังศาลากลางจังหวัดพิจิตรเป็นระยะทางกว่า 4 กิโลเมตร เพื่อเรียกให้ทางจังหวัดพิจิตรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาแนวทางการช่วยเหลือ หลังจากที่นักศึกษาได้รับผลกระทบจากการบริหารงานของผู้อำนวยการคนปัจจุบัน

ซึ่ง ตัวแทนนักศึกษา กล่าวว่า " การที่นักศึกษามาเรียกร้อง เนื่องจากผู้อำนวยการยกเลิกการเช่าระบบอินเตอร์เน็ตของเอกชนและหันมาใช้ระบบของรัฐบาลที่ไม่เสถียร และมีการเรียกเก็บค่าอินเตอร์เน็ตจากนักศึกษา คนละ 200 บาท ในส่วนค่าวัสดุการเรียนการสอนที่ทางนักศึกษา เรียนมาจนถึง 14 สัปดาห์ เหลือเพียง 4 สัปดาห์ จะปิดภาคเรียนแต่ทางนักศึกษาและคณะครู ยังไม่มีการจัดสรรค่าวัสดุจากทางผู้อำนวยการรวมถึงงบประมาณในการทำกิจกรรมของวิทยาลัย "

ขณะที่ ผู้อำนวยการ กล่าวว่า "หลังจากที่เข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการ 3 เดือน พบหนี้สินของวิทยาลัยกว่า 1 ล้านบาทติดค้าง ทั้งระบบไฟฟ้า ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าจัดการเรียนการสอน รวมถึงการจัดการสิ่งปลูกสร้างภายในมหาวิทยาลัยที่ยังไม่แล้วเสร็จ ส่วนค่าวัสดุการเรียนการสอน เบื้องต้น ยังไม่มีเอกสาร การทำรายการค่าวัสดุ จากคณะครู อาจารย์ มาให้ผู้อำนวยการพิจารณาในการจัดสรรงบประมาณค่าวัสดุการเรียนการสอน ซึ่งหลังจากที่เข้าบริหารงาน พยามยามแก้ปัญหาที่สะสม จากสมัยก่อนหน้านี้ เพื่อให้วิทยาลัยอยู่ได้ ซึ่งต้องใช้เวลาเนื่องจากทางวิทยาลัยมีหนี้สินจำนวนมาก เชื่อว่าการร้องเรียน มาจากปัญหาภายในของวิทยาลัย

โดยล่าสุด ทางนักศึกษาได้ยื่นหนังสือให้กับทาง นายสิงหราช วงษ์เสงี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ซึ่งจะได้ประชุมกับ ผู้อำนวยการ คณะครู ตัวแทนนักศึกษา คณะกรรมการการอาชีวศึกษาเพื่อหาแนวทางการแก้ไขต่อไป

นักท่องเที่ยวแห่เดินทางเข้า'ญี่ปุ่น'ทะลุ 3.8 ล้านคน หลังผ่อนปรนมาตรการโควิด19

19 มกราคม 2566 สำนักข่าวซินหัวไทย รายงานว่า องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น รายงานจำนวนชาวต่างชาติเดินทางเยือนญี่ปุ่นในปี 2022 อยู่ที่ 3.83 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 15 เท่า ซึ่งเป็นผลจากการผ่อนปรนมาตรการจำกัดพรมแดนอันเกี่ยวข้องกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) แบบแบ่งระยะ

รายงานระบุว่าแม้จำนวนชาวต่างชาติเดินทางเยือนญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น ทว่าตัวเลขของปี 2022 ยังคงต่ำกว่าสถิติของปี 2019 อันเป็นช่วงก่อนเกิดโรคระบาดใหญ่ถึงร้อยละ 88 โดยปี 2019 มีชาวต่างชาติเดินทางเยือนญี่ปุ่นสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 31.88 ล้านคน

จำนวนชาวต่างชาติเดินทางเยือนญี่ปุ่นทยอยเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ญี่ปุ่นยกเลิกเพดานจำกัดการเข้าประเทศรายวัน และกลับมาต้อนรับนักเดินทางรายบุคคลเข้าประเทศโดยไม่ต้องใช้วีซ่าเมื่อเดือนตุลาคม 2022 โดยจำนวนชาวต่างชาติเดินทางเยือนญี่ปุ่น ช่วงเดือนธันวาคม 2022 อยู่ที่ 1.37 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 12,084 คนในปีก่อนหน้า

องค์การฯ ระบุว่าชาวต่างชาติที่เดินทางเยือนญี่ปุ่นใช้จ่ายเงิน ช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2022 รวม 5.95 แสนล้านเยน (ราว 1.53 แสนล้านบาท) ซึ่งคิดเป็นราวครึ่งหนึ่งของปริมาณการใช้จ่ายในช่วงเดียวกันของปี 2019