การบินไทยเปลี่ยนเวลาบินใหม่ จาก LAX-BKK เป็นออกเที่ยวดึก เพื่อความสะดวกของผู้โดยสาร ส่วนขากลับจากเมืองไทยเปลี่ยนไปออกเดินทางตอนบ่าย เริ่ม 30 มีนาคมนี้ จะมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น
เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2557 นายสุดเสวต เศวตะโศภน ผู้จัดการการบินไทยประจำภาคพื้นอเมริกา เปิดแถลงข่าวที่บ้านพัก เมืองทอร์แรนซ์ว่า ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคมนี้เป็นต้นไป จะเปลี่ยนเวลาการบินใหม่ในเส้นทาง แอล.เอ.-โซล-กรุงเทพฯ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารทั้งขาไปและขากลับให้มากขึ้น
โดยจะเปลี่ยนเวลาออกจากแอล.เอ.เป็นเวลา 1.25 น. มีเที่ยวบินทุก จันทร์-พุธ-ศุกร์ และอาทิตย์ ซึ่งจะถึงโซล 6.00 น. พักหนึ่งชั่วโมงครึ่ง เดินทางถึงกรุงเทพฯ เวลา 11.15 น. ส่วนขากลับจากกรุงเทพฯจะเปลี่ยนมาออกเวลา 14.20 น. ทุกวันอังคาร-พฤหัสฯ-เสาร์ และอาทิตย์ ถึงเกาหลี 21.45 น. ออกจากเกาหลี 23.15 น.ถึงแอล.เอ. 18.50 น.
นายสุดเศวต กล่าวว่า ที่ผ่านมา ตนได้รับความเห็นของผู้โดยสาร ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติตลอดเวลาว่าเวลาการบินของการบินไทย สู้สายการบินคู่แข่งไม่ได้ เพราะไม่ให้ความสะดวกกับผู้โดยสารเลย ทำให้ตนพยายามเสนอขอเปลี่ยนเวลาบินกับทางสำนักงานใหญ่เมื่อประมาณสองปีที่ผ่านมา
"อย่างกรณีผู้โดยสารขาออก ส่วนใหญ่เขาอยากจะเดินทางตอนกลางคืนมากกว่า แต่ของเราออกเที่ยงวัน แปลว่าเขาต้องเสียเวลาทำงานไปหนึ่งวันแล้ว และไปถึงเมืองไทยก็ไม่สะดวก เพราะถึงเกือบเที่ยงคืน จะต่อไปต่างจังหวัด เชียงใหม่ ภูเก็ต อุบล อุดร ไม่ได้เลย เพราะเที่ยงคืนแล้ว เขาก็ต้องเสียเงินนอนโรงแรมคืนหนึ่งก่อนจะบินต่อไปยังที่หมายของเขาในวันรุ่งขึ้น เราทำการบ้านประมาณ 2 ปี ก็เสนอสำนักงานใหญ่ไปว่าถ้าเราเปลี่ยนเวลาบิน ให้ถึงสุวรรณภูมิเที่ยงวัน เราก็ขายสายการบินในประเทศต่อได้ หรือจะขายต่อไปอินโด ไชน่า สิงคโปร์ มาเลย์ หรือ Indian subcontinent อย่างอินเดีย กาลาจี บังคลาเทศได้อีก ก็เสนอไป สุดท้ายสำนักงานใหญ่ก็ตกลงให้เปลี่ยนเวลา"
ส่วนการเดินทางกลับมาลอสแอนเจลิสนั้น นายสุดเศวต กล่าวต่อว่า ผู้โดยสารก็จะได้รับความสะดวกมากขึ้นเช่นกัน
"เราออกตอนบ่ายสองเศษๆ นะครับ แปลว่าผู้โดยสารเดินทางมาจากที่ไหนก็ได้ในวันนั้น ภูเก็ต เชียงใหม่ มาลงที่สุวรรณภูมิเพื่อต่อไฟล์ทกลับแอล.เอ. ในวันเดียวกัน หรือกระทั่งจากประเทศอื่นก็ได้ สะดวกมากถึงแอล.เอ. ก็ตอนประมาณเกือบทุ่ม จะบินต่อไปต่างรัฐก็ทำได้ เพราะไม่ดึก ซึ่งที่ผ่านมาคนไทยบ่นมาก เขาอยากสนับสนุนการบินไทย แต่เวลามันไม่ดี จะกลับแอล.เอ. ก็ต้องตื่นตีสามตีสี่ เพราะเครื่องออกแต่เช้า ส่วนใหญ่บอกว่านอนไม่หลับ เพราะระแวงว่านาฬิกาจะไม่ปลุกบ้าง อะไรบ้าง คนมาส่งก็ลำบาก คนมารับก็ลำบาก เพราะฉะนั้น เวลาบินใหม่ของเรานี่ ถือว่า วิน วิน ทั้งขาไปและขากลับครับ"
อย่างไรก็ดีการบินไทยยังคงใช้เครื่องบินโบอิ้ง 777-200ER ในการให้บริการตามเดิม แต่เปลี่ยนผังที่นั่งในชั้นบิซิเนสใหม่ โดยจะมีทั้งหมด 30 ที่นั่งเป็นแบบคู่ และไม่ได้ปรับเอน 180 อาศา ลดลงเหลือ 170 องศา แต่ถือว่านอนหลับสบาย ส่วนชั้นอีโคโนมี มี 262 ที่นั่ง
สมาคมไทยปักษ์ใต้ เตรียมจัดแข่งขันโบว์ลิ่ง ในวันที่ 2 มีนาคมนี้ ที่ Shatto Lane โดยมี กิจจา คุณาธรรม เป็นประธานในการจัดแข่งขันครั้งนี้ ชิงถ้วยรางวัลกงสุลใหญ่ และนำเงินเข้าสมทบทุนซื้อคอมพิวเตอร์ให้น้องๆ โรงเรียน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2557 นางจุฑาภรณ์ ไชยรัตน์ติเวช นายกสมาคมไทยปักษ์ใต้ ได้ประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษา และสมาชิก ถึงข่าวความคืบหน้าในการเตรียมจัดแข่งขันโบว์ลิ่ง ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 2 มีนาคมนี้ ที่ Shatto Lane เลขที่ 3255 W.4th St. Vermont Ave., LA, CA 90028 ตั้งแต่เวลา 11 โมงเช้าเป็นต้นไป จนถึงเวลา 4 โมงเย็น โดยมีกิจจา คุณาธรรม อดีตนายกสมาคมฯ เป็นประธานการแข่งขันในครั้งนี้ ชิงถ้วยรางวัลจาก กงสุลใหญ่ เจษฎา กตเวทิน
จุดประสงค์ของการแข่งขันครั้งนี้ เพื่อนำรายได้ไปสมทบสำหรับโครงการต่อไป ในการซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์โรงเรียน 3 จังหวัดภาคใต้ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ซึ่งมีหลายท่านให้ความสนใจ และได้มอบคอมพิวเตอร์มาแล้ว 3 เครื่อง
นายกิจจากล่าวว่า ในการแข่งขันโบว์ลิ่งครั้งนี้ ถึงเล่นไม่เป็นก็ไม่เป็นไร จะโยนลงรางข้างๆ บ่อยๆ ก็มีสิทธิได้ถ้วยรางวัลบู้บี้ที่เตรียมไว้อย่างสวยงาม และช่วยกันไปเชียร์เพื่อชิงถ้วยรางวัลเช่นกัน
นางจุฑาภรณ์กล่าวว่า สมาคมไทยปักษ์ใต้ขอเชิญชวนพี่น้องมือโปรโบว์ลิ่ง เข้าร่วมสนุกกันในวันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคมนี้ สำหรับทีมที่จะเข้าแข่งขัน ตอนนี้มีสมัครมาแล้ว 12 ทีม รับรองว่าสนุกแน่ๆ ขอให้กองเชียร์ เตรียมตัวให้พร้อม มีทั้งบันเทิงและกีฬา อาหารการกินเต็มที่ จะสมัครในวันแข่งขันก็ได้เช่นกัน
ติดต่อสอบถามรายละเอียดและสมัครเข้าแข่งขันได้ที่ กิจจา 310-293-3311, จุฑาภรณ์ 818-982-3029, วราลักษณ์ เอกสกุล 818-239-9634, พูนศิริ ลิมพะสุต 909-680-5150
กปปส.แอล.เอ. สนับสนุนกำนันเทือก ไล่รัฐบาลปู จัดรายการผลุบๆ โผล่ๆ เพื่อชาติในวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์นี้ นั่งรถไฟใต้ดิน เพื่อแสดงสัญลักษณ์ให้ทั่วเมืองนางฟ้า
นายบุญชู ศรีพลอยรุ่ง แกนนำพันธมิตรฯ ในฐานะผู้ประสานงานกลุ่มเชิญชวนร่วมรายการผลุบๆ โผล่ๆ เพื่อชาติ ในวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์นี้ โดยพาพี่น้องที่รักชาติทุกๆ ท่าน นั่งรถไฟฟ้า แสดงสัญลักษณ์เพื่อให้ชาวต่างชาติได้เห็นถึงจุดยืนของกลุ่ม
นายบุญชู กล่าวว่า เรามีรายการผลุบๆ โผล่ๆ เพื่อชาติ กิจกรรมนี้จะมีการจัดพิมพ์เอกสารภาษาอังกฤษ และแผ่นดีวีดี เพื่อให้ชาวต่างประเทศได้รู้ความจริงและข้อมูลที่ถูกต้องต่อคนทั่วไป จุดแรกของการนัดพบคือตรงหัวมุมถนนเวสเทิร์น ตัดกับฮอลลีวูด บริเวณสถานีรถไฟใต้ดิน หลังจากนั้นจะเปลี่ยนเสื้อเป็นทีมนกหวีด จะต้องช่วยกันซื้อ ราคา 10 เหรียญ ซึ่งทุกคนต้องใส่เหมือนกันหมด
เสร็จแล้วจะเดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดิน โดยจะต้องซื้อตั๋วแบบ 1 วัน แล้วเราจะเดินทางไปโผล่ที่ ยูนิเวอร์แซล ถ่ายรูปเสร็จ สร้างสัญลักษณ์เสร็จก็จะลงใต้ดินต่อ และจะไปโผล่ที่ดาวทาวน์ ทำเช่นเดิม
จากนั้นก็จะลงใต้ดินต่อไปที่ไชนีสเทียเตอร์ แล้วกลับมาที่ฮอลลีวูดเหมือนเดิม
นายบุญชูกล่าวว่า "คงใช้เวลาหลายชั่วโมง เราจะเริ่มตั้งแต่เวลา 9.00 น. คาดว่าจะสิ้นสุดเวลา บ่าย 3 โมง งานนี้สนุกแน่ครับ เตรียมตัวมาให้พร้อมครับพี่น้อง สำหรับสิ่งที่ผู้ที่จะร่วมเดินทางจะต้องเตรียมตัวมาคือ น้ำดื่ม และอาหารเที่ยง หรือหากไม่เตรียมมาก็จะต้องซื้อกินกันในภายหน้า หากผู้ไปสามารถจะเดินทางโดยรถไฟมาจากที่บ้านเลยก็ได้เช่นกัน Norwalk Station หรือที่อื่นๆ ที่เราสามารถจอดรถได้ ซื้อตั๋วมาจากต้นทางแล้วเดินทางมารวมกันที่ Hollywood หรือผู้ที่ขับรถมาก็จะต้องมาหาที่จอดรถที่ถนนฮอลลีวูด หรือบริเวณไทยทาวน์ และจะต้องแน่ใจว่าจอดได้หลายชั่วโมงสำหรับกิจกรรมนี้"
ซึ่งหากใครมีความสามารถที่จะจัดพิมพ์เอกสารเป็นภาษาอังกฤษ และแผ่นดีวีดี กรุณาจัดพิมพ์มาด้วย นายบุญชูกล่าวในที่สุด ส่วนกลุ่มเครือข่ายประชาชนไทยในต่างประเทศ The Network of Thais Overseas (NTO) ได้ให้ข้อมูลว่าจากการเรียกร้องกดดันรัฐบาลยิ่งลักษณ์ผ่าน เว็บไซต์ Change.org ตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมแสดงรายชื่อสนับสนุนกว่า 14,400 คน จาก 60 ประเทศ ซึ่งมีทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ รวมอยู่ด้วย
การเจ็บป่วยของคนในประเทศในปีนี้พบว่ามีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากเชื้อไวรัส H1N1 - โรคเดียวกับ "ไข้หวัดหมู" สายพันธุ์ที่ทำให้เกิดการระบาดในปี 2009 ในสัปดาห์ที่ยังเหลืออยู่กับช่วงแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ กรมสาธารณสุขแห่งสหรัฐอเมริกากระตุ้นให้ประชาชนทุกคนไปรับการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะเด็กทารกที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไป รวมถึงหญิงที่ตั้งครรภ์
แม้เจ้าหน้าที่กล่าวว่า การเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับโรคไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนี้ดูเหมือนจะต่ำกว่าในปี 2009 แต่รายงานเบื้องต้นก็ยังชี้ให้เห็นว่ามีการเสียชีวิตและการเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในกลุ่ม ผู้ใหญ่หนุ่มสาวและวัยกลางคนมากขึ้นกว่าปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีปัญหาสุขภาพอยู่ก่อนแล้ว
"ไข้หวัดใหญ่สามารถทำให้คนป่วยอย่างรวดเร็วและทำให้ผู้ป่วยถึงแก่ชีวิตได้ ดังนั้นการฉีดวัคซีนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเพียงอย่างเดียวที่คุณสามารถทำได้เพื่อป้องกันตัวเอง."ดร. ทอมผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกากล่าว วันพฤหัสบดี ผลการวิจัยจากการเก็บตัวอย่างจาก เมือง 122 แห่งในสหรัฐอเมริกา พบว่า 61% ของผู้ป่วยจากไข้หวัดใหญ่นั้นมีอายุระหว่าง 18 และ 64 ปี แต่ในหลายปีที่ผ่านมานั้นอัตรานี้ถือว่าต่ำกว่าปีอื่นๆ ระหว่าง 35% ถึง 43% และในรายงานที่เน้นเฉพาะในรัฐแคลิฟอร์เนีย ทางสาธารณสุขรายงานว่า พบผู้ป่วย 405 รายมีอายุน้อยกว่า 65 ปี ถ้าไม่เสียชีวิตก็ต้องได้รับการเข้ารักษาอย่างเร่งด่วน ในช่วงระหว่าง 29 กันยายนและ 18 มกราคม ซึ่งพบว่ามีจำนวนเพิ่มมากขึ้นกว่าฤดูกาลใด ๆ ตั้งแต่พบการระบาด
มี 94 ราย ที่เสียชีวิตในแคลิฟอร์เนีย, และใน 85% พบว่าเป็นบุคคลที่มีปัญหาโรคประจำตัวอยู่ก่อนแล้ว ทำให้พวกเขาเจอความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้น เช่น โรคเบาหวานเรื้อรัง โรคปอดอุดตัน โรคหอบหืดและโรคอ้วน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้พบว่ามีเพียง 34% ของคนระหว่าง 18 ปีและ 64ปีเท่านั้นที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันประจำปีในขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนสำหรับคนที่มีอายุมากกว่า 65 ปีมี 62% และอัตราการฉีดวัคซีนสำหรับเด็กอายุ 6 เดือนถึง 17 ปีเป็น 41%
ในฤดูกาลนี้ไข้หวัดใหญ่มุ่งการโจมตีไปที่คนในช่วงวัยกลางคนและวัยรุ่นอย่างหนัก และมีแนวโน้มที่จะดำเนินการต่อไปอีกสักพัก แต่ก็ยังไม่สายเกินไปที่จะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน" ในแต่ละปีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้เพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงวัคซีนสำหรับป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ รวมถึงวัคซีนป้องกันสายพันธุ์ของเชื้อไวรัส H1N1 ที่มีแนวโน้มจะกลับมาแม้ว่าเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าการฉีดวัคซีนสามารถป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ดีที่สุด แต่ก็ยังมีบางรายที่ได้รับวัคซีนแล้ว ก็ยังคงได้รับเชื้อและล้มป่วยอยู่ " วัคซีนไข้หวัดใหญ่ในปีนี้ได้ผลดี แม้มันจะไม่ได้ดีที่สุดตามที่เราคาดหวังไว้" ดร. ทอมกล่าวไว้ตามรายงานที่ออกมาเมื่อวันพฤหัสบดีนั้นพบว่าวัคซีนนี้ให้ประสิทธิภาพอยู่ที่ประมาณ 62% นั่นหมายความว่าถ้าคุณได้รับการฉีดวัคซีนคุณมีแนวโน้มจะได้รับการป้องกันจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่แพร่ระบาดอยู่ในฤดูกาลนี้"
ในกรณีที่พบว่าตัวคุณเองมีอาการคล้ายการเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ และไม่ว่าจะเคยได้รับการฉีดวัคซีนหรือไม่นั้นเจ้าหน้าที่เสนอให้ใช้ยาต้านไวรัสที่ได้รับการจ่ายจากแพทย์ และ ดร.ทอม ยังได้ฝากข้อความไปยังแพทย์อีกด้วยว่า "หากพบผู้ป่วยที่มีอาการหนักไม่ต้องรอผลการตรวจหรือหากผลออกมาแล้วว่าไม่ได้เป็นแต่ทางแพทย์คิดว่าผู้ป่วยมีแนวโน้มสูงที่จะเป็นไข้หวัดใหญ่แพทย์ควรให้การรักษาสำหรับไข้หวัดใหญ่ทันที”
(แปลและเรียบเรียงโดย ธัญญา บราวน์)
เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2557 มูลนิธิธารน้ำใจสหรัฐอเมริกา ได้ออกจดหมายแถลงถึงผลงานประจำปี และโครงการที่จะช่วยเหลือชุมชนไทย และเด็กด้อยโอกาสในประเทศไทย โดยมีข้อความดังนี้
มูลนิธิธารน้ำใจสหรัฐอเมริกาเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรตามกฎหมายสหรัฐอเมริกา จัดตั้งเมื่อปี 2010 มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยในต่างแดน และสนับสนุนองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรอื่น ๆ ได้กระทำกิจกรรมตามโครงการที่กำหนดไว้ในปี 2556 เสร็จสิ้นแล้วสามารถระดมทุนได้รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 29,182 เหรียญ และได้ส่งมอบให้ผู้รับตามโครงการต่างๆ เรียบร้อยแล้วตามรายละเอียดที่แนบมานี้ จึงขอขอบคุณมายังพี่น้องประชาชนทั้งหลายที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อสังคมของมูลนิธิธารน้ำใจสหรัฐอเมริกาด้วยดีตลอดมา และในวันเสาร์ที่ 22 มีนาคม 2014 ทางมูลนิธิธารน้ำใจฯ จะจัดงาน ราตรีธารน้ำใจครั้งที่ 3 ขึ้นที่ Recreation and Services Center เมือง Arcadia โดยจะนำรายได้มอบให้ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมไทยแอล.เอ. เพื่อเป็นทุนในการจัดงานวันวัฒนธรรมไทยครั้งที่ 22 ในเดือนกันยายน 2557 ณ บาลสดอร์พาร์ค และอีกส่วนหนึ่งจะมอบให้วัดไทยแอล.เอ. เพื่อสมทบทุนซื้อที่ดินและจัดสร้างอาคารศูนย์วัฒนธรรมไทย ณ วัดไทยแอล.เอ. จึงเรียนมายังท่านบรรณาธิการฯ ช่วยประชาสัมพันธ์ให้ด้วยจักเป็นพระคุณยิ่ง
1. วันที่ 22 มีนาคม 2557 จัดงานราตรีธารน้ำใจช่วยชุมชนครั้งที่ 3 ณ คอมมูนิตี้ เซอร์วิตเซ็นเตอร์ เมืองอาร์เคเดียมอบรายได้ให้ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมไทยแอล.เอ. เพื่อเป็นทุนในการจัดงานวันวัฒนธรรมไทยครั้งที่ 22 ในเดือนกันยายน 2557 ณ บาลสดอร์พาร์คแอล.เอ. และสมทบทุนซื้อที่ดินถวายวัดไทยแอล.เอ.
2. วันที่ 12-13 เมษายน 2557 สนับสนุนการจัดงานสงกรานต์วัดไทยแอล.เอ. โดยมูลนิธิธารน้ำใจฯ เป็นประธานจัดงานฯ สมาชิกมูลนิธิธารน้ำใจฯ รัมภา มหากายี ริชาร์ด มาร์ และอารียา ชิว เป็นประธานผ้าป่าฯ รสสุคนธ์ วรศรี ประธานประกวดนางสงกรานต์ และตุ๊กตา มาร์ ประธานประกวดมิสซิสนานาชาติ
3. วันที่ 3 พฤษภาคม 2557 คณะมูลนิธิธารน้ำใจฯ จะนำเครื่องเสียง นักร้อง นักดนตรีไปช่วยงานไทยกาล่าไนท์ ที่ปาชังก้าแซนดิเอโก้ จัดโดยสมาคมไทยอเมริกันแอนด์เอเชี่ยนอไลแอนซ์ แห่งแซนดิโก้
4. วันที่ 9 สิงหาคม 2557 ช่วยงานฮาวายไนท์วัดพระธาตุดอยสุเทพสหรัฐอเมริกา โดยสมาชิกมูลนิธิธารน้ำใจฯ ตุ๊กตา มาร์ ได้รับเชิญให้เป็นประธานจัดงานฯ
5. วันที่ 13 กันยายน 2557 จัดการแข่งขันโบว์ลิ่งเชื่อมสัมพันธ์ไมตรี 5 เมือง ครั้งที่ 2 ณ ชาโต้เลน ถนนเวอร์มอนท์ แอล.เอ. และงานราตรีสายสัมพันธ์ ณ รีครีเอชั่นเซ็นเตอร์ เมืองอาร์เคเดีย รายได้มอบเป็นทุนการศึกษาเด็กนักเรียนในสหรัฐอเมริกา
หมายเหตุ โครงการประจำปี 2557 อาจมีเพิ่มเติมตามการร้องขอให้ช่วยสนับสนุนจากองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรต่าง ๆ ทั้งในและนอกประเทศ