สหราชอาณาจักรออกเสียงลงประชามติ แยกตัวออกจากสหภาพยุโรป(อียู) ผลการนับคะแนนระบุในวันที่ 24 มิ.ย. นับเป็นการหวดกระหน่ำอย่างรุนแรงใส่อียู อีกทั้งกำลังแพร่กระจายความตื่นตระหนกไปยังตลาดการเงินต่างๆ ทั่วโลก โดยที่เงินปอนด์สเตอร์ลิงลดค่าวูบลงมาสู่ระดับต่ำที่สุดในรอบ 31 ปี ขณะที่นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ประกาศจะขอลาออกจากตำแหน่ง
บรรดานักลงทุนพากันวิ่งวุ่นอลหม่านเทขายเงินปอนด์, น้ำมัน, และหุ้น ขณะที่สหราชอาณาจักรเดินซวนเซเข้าสู่ดินแดนซึ่งไม่เคยเป็นที่รู้จักมาก่อน เมื่อกลายเป็นชาติแรกที่ลาออกจากในประวัติศาสตร์ 60 ปีของอียู
ภายหลังเขตรวมคะแนนทั้ง 382 เขตประกาศผลการนับคะแนนในเขตของพวกตนครบถ้วน ปรากฏว่า ผู้ออกเสียงที่เลือก “แยกตัว” ชนะผู้ที่ต้องการ “คงอยู่” ในอียู 51.9% ต่อ 48.1% โดยผู้โหวตให้ออกจากอียูมี 17.4 ล้านคน ส่วนผู้ลงคะแนนให้เป็นสมาชิกต่อไปมี 16.1 ล้านคน
“ขอให้วันที่ 23 มิถุนายนได้รับการจารึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์ของเราว่าเป็นวันประกาศเอกราชของเราเถิด” ไนเจล ฟาราจ หัวหน้าพรรคยูเค อินดิเพนเดนซ์ ปาร์ตี้ กล่าวอย่างปลาบปลื้ม เขาเป็นหนึ่งในผู้นำนักรณรงค์ต่อต้านอียู ซึ่งให้สัญญาแก่ชาวสหราชอาณาจักรว่า นี่เป็นโอกาสที่จะยึดอำนาจคืนมาจากบรัสเซลส์ (สำนักงานใหญ่ของอียูตั้งอยู่ในกรุงบรัสเซลส์, เบลเยียม) และจำกัดควบคุมผู้อพยพที่เข้าประเทศมาอย่างมากมาย
“ถ้าการทำนายผลเท่าที่เห็นกันอยู่ในตอนนี้ถูกต้องแล้ว นี่ก็จะเป็นชัยชนะสำหรับประชาชนอย่างแท้จริง เป็นชัยชนะสำหรับประชาชนคนสามัญ เป็นชัยชนะสำหรับประชาชนผู้มีเกียรติน่ายกย่องนับถือ” เขากล่าวกับกลุ่มผู้สนับสนุนของเขตในย่านเวสต์มินสเตอร์ ของลอนดอน
ขณะที่ฝูงชนซึ่งอยู่ในอาการลิงโลด ตะโกนตอบรับเขาว่า “ออก! ออก! ออก!” ออกจากสหภาพยุโรป
ทางด้านจุดรวมพลของฝ่าย “อยู่ต่อ” ใน รอยัล เฟสติวัล ฮอลล์ ของลอนดอน กลุ่มผู้สนับสนุนที่มีท่าทีเซื่องซึม ถูกดึงดูดติดแน่นอยู่กับจอทีวีที่กำลังรายงานผลการลงประชามติ ในมือหลายต่อหลายคนกำกระป๋องเบียร์เอาไว้แน่น ขณะที่บางคนเอามือปิดปาก
กระแส “ไม่เอาอียู” โหมแรง
เงินปอนด์อังกฤษดำดิ่งลงกว่า 9% สู่ระดับ 1 ปอนด์แลกได้ 1.33 ดอลลาร์ ถือเป็นมูลค่าต่ำที่สุดในรอบ 31 ปี ขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกก็ไหลรูดลงกว่า 6% ดัชนีสำคัญของตลาดหุ้นโตเกียวหล่นหายกว่า 8%
ชาวสหราชอาณาจักรดูเหมือนไม่แยแสกับคำเตือนอันน่าหวาดหวั่นที่ว่า การออกจากกลุ่มพันธมิตรยุโรป 28 ชาติเช่นนี้ จะทำให้เกิดรูโหว่เบ้อเริ่มทางด้านงบประมาณ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องอุดด้วยการตัดลดรายจ่ายและเพิ่มการจัดเก็บภาษี ในทันทีที่พวกเขาสูญเสียช่องทางการทำการค้าอย่างเสรีไร้ข้อผูกมัดกับอียู
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการตัดสินใจของพวกเขายังจะเป็นการปลุกความหวาดกลัวที่ว่า จะเกิดกระแสเรียกร้องให้จัดการลงประชามติในรัฐอียูรายอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกชาติสมาชิก ซึ่งกลุ่มข้องใจการรวมอยู่ในสหภาพยุโรป กำลังมีความเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ และนั่นย่อมเป็นอันตรายต่อความเป็นหนึ่งเดียวของอียู ในยามที่ต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์หนักหนาสาหัสถึง 2 อย่างพร้อมๆ กันอยู่แล้ว อันได้แก่ วิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ และวิกฤตการณ์ผู้อพยพลี้ภัย
“ยักษ์จินี่แห่งความข้องใจไม่เอาอียู ได้หลุดออกมาจากขวดที่ขังมันไว้แล้ว และตอนนี้มันจะไม่ยอมถูกนำลงไปในขวดอีก” ฟาราจ ประกาศ
ขณะที่ ส.ส.ขวาจัดของเนเธอร์แลนด์ กีร์ต วิลเดอร์ส และ มารีน เลอ เปน หัวหน้าพรรคเนชั่นแนลฟรอนต์ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นพรรคแนวทางขวาจัด ได้ออกมาเรียกร้องในทันที ให้ประเทศของพวกตนจัดการลงประชามติว่าจะยังเป็นสมาชิกอียูต่อไปหรือไม่
ทางด้านนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ผู้นำการต่อสู้ที่พ่ายแพ้ในการชักชวนเกลี้ยกล่อมผู้ออกเสียงชาวสหราชอาณาจักรให้ยึดมั่นอยู่กับบรัสเซลส์ต่อไป ก็เผชิญกับแรงบีบคั้นให้เขาลาออกจากตำแหน่งในทันที
พวกบ่อนพนันถูกกฎหมายในสหราชอาณาจักรต่างให้แต้มต่อรองซึ่งชี้ว่า ตัวเต็งที่จะเข้าดำรงตำแหน่งแทนคาเมรอน ได้แก่ อดีตนายกเทศมนตรี บอริส จอห์นสัน คู่ปรับคนสำคัญที่สุดภายในพรรคคอนเซอร์เวทีฟของเขา และเป็นเสมือนหัวหน้าของฝ่าย “แยกตัว” คราวนี้
ลำปาง - ผู้ปกครองนักเรียนหญิงในลำปางหวาดผวากันหนัก หลังได้รับคลิปเหตุสลดในวงการศึกษา นักเรียนหญิงในชุดเนตรนารีรุมจับเพื่อนให้นักเรียนชายในชุดลูกเสือข่มขืนคาพื้นห้องเรียน เร่งส่งต่อให้เพื่อนผู้ปกครอง ญาติพี่น้องช่วยหาตัว-โรงเรียนที่เกิดเหตุ กลัวลูกหลานตัวเองตกเป็นเหยื่อ
(24 มิ.ย.) ขณะนี้ผู้ปกครองที่มีลูกหลานในวัยเรียนกำลังหวาดผวา หลังได้รับคลิปเหตุการณ์เด็กนักเรียนหญิงในชุดเนตรนารีช่วยกันรุมจับเพื่อนนักเรียนหญิงให้เด็กนักเรียนชายที่อยู่ในชุดลูกเสือข่มขืน จึงพยายามส่งคลิปต่อๆ กันเพื่อให้ช่วยกันตรวจสอบหากลุ่มเด็กนักเรียน-โรงเรียนในคลิป
โดยระบุว่า “ขอให้จับนักเรียนกลุ่มนี้ให้ได้สาธุๆ นี่คือภัยร้ายในโรงเรียน ขอให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ว่า คุณครู ผอ. โรงเรียนสหทั้งหลาย ผู้ปกครอง และพ่อ-แม่ทุกท่าน ช่วยกันดูแล และระวังอย่าให้มันเกิดเรื่องเลวร้ายเช่นนี้กับลูกหลานและสังคมไทยต่อไปอีกเลย ชั่วร้ายมากๆ โดยเฉพาะพวกนักเรียนหญิงที่ช่วยกันจับและบังคับให้อ้ายสัตว์นักเรียนชายข่มขืน..”
จากการตรวจสอบคลิปวิดีโอดังกล่าวพบว่าเป็นการบันทึกโดยใช้มือถือของเด็กนักเรียนหญิงความยาวเกือบ 3 นาที โดยเริ่มต้นเด็กชายสั่งให้เด็กนักเรียนหญิงถ่ายอย่างเดียว ในคลิปปรากฏภาพเด็กนักเรียนหญิง ซึ่งคาดว่าจะมีทั้งหมด 3 คน คือคนถ่ายคลิป 1 คน และอีก 2 คนช่วยกันจับเพื่อนนักเรียนหญิงในชุดเนตรนารีสีเขียว ผ้าพันคอสีเหลืองให้นอนกับพื้นห้องเรียน คนหนึ่งนั่งคร่อมที่หน้าอก พร้อมกับใช้มือปิดปากไม่ให้ร้อง อีกมือจับแขนข้างหนึ่งของนักเรียนหญิงไว้ อีกคนก็ช่วยจับแขน พร้อมช่วยกันถลกกระโปรง และถอดกางเกงชั้นในของเพื่อนออก
จากนั้นเด็กนักเรียนชายอยู่ในชุดลูกเสือได้ถอดกางเกง และพยายามข่มขื่น โดยเพื่อนผู้หญิงช่วยกันกางขานักเรียนหญิงออก ซึ่งนักเรียนหญิงที่ตกเป็นเหยื่อพยายามร้อง และดิ้นแต่ก็สู้แรงไม่ไหว ขณะที่คนถ่ายคลิปพยายามถ่ายให้เห็นใบหน้าเพื่อนนักเรียนที่ตกเป็นเหยื่อซึ่งถูกปิดปาก และภาพการข่มขืนของเด็กหญิงโชคร้ายตลอดเวลา
โดยคนถ่ายคลิปได้พูดว่า “อยากได้ภาพสวยๆ ไหม” แล้วก็หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน ขณะที่เด็กหญิงโชคร้ายพยายามดิ้น และร้องแต่ก็ถูกมือปิดปาก ขณะที่เด็กผู้ชายได้พยายามจะข่มขืนหลายครั้งแต่ก็ยังไม่สำเร็จ พร้อมสบถออกมาว่า “ดันแล้วไม่เข้าไอ้สัตว์”
หลังจากนั้นเด็กนักเรียนหญิงได้บอกให้เพื่อนออกไปดูข้างนอกเนื่องจากคล้ายจะมีคนมา พร้อมกับพยายามอ้าขาเด็กนักเรียนหญิงที่ตกเป็นเหยื่อออก จนเด็กชายสามารถสอดใส่อวัยวะเพศเข้าไปได้ โดยเด็กนักเรียนชายบอกว่า “เข้าแล้ว”
ต่อมาคาดว่าน่าจะมีคนมานอกห้องเรียนกลุ่มเด็กนักเรียนหญิงจึงรีบปล่อยตัวเหยื่อ แต่เด็กชายยังไม่ยอมหยุด เด็กนักเรียนหญิงจึงเรียกชื่อเด็กชายว่า “ไอ้...พอแล้ว” แต่เสียงเพื่อนอีกคนกลับบอกว่า จากนี้เป็นเรื่องของมันแล้ว หลังจากนั้นเด็กนักเรียนชายคนดังกล่าวก็ขึ้นไปนอนคร่อมร่างเด็กหญิงอีกครั้ง ขณะที่กลุ่มเด็กนักเรียนหญิงคนอื่น ก็บอกว่า “กลับบ้านดีกว่า” ก่อนที่คลิปวิดีโอก็ถูกตัดลง ทำให้ไม่ทราบว่าหลังจากนั้นเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ปกครองในลำปางต่างพยายามช่วยกันหาว่าเด็กกลุ่มนี้อยู่โรงเรียนไหน ทำไมถึงได้กล้าทำได้ขนาดนี้และทำในโรงเรียนด้วย ซึ่งไม่มีความปลอดภัย โดยเฉพาะเด็กนักเรียนหญิง ทำไมถึงได้ทำกับเพื่อนนักเรียนหญิงด้วยกันได้ จึงอยากให้เร่งหาตัวเด็กกลุ่มนี้และโรงเรียนให้พบ เพื่อจะได้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งก่อนที่ลูกหลานโดยเฉพาะเด็กหญิงจะตกเป็นเหยื่อจนเกิดเป็นตราบาปไปตลอดชีวิต
ไฟป่าแถบตอนกลางของมลรัฐแคลิฟอร์เนียที่ทำลายสิ่งปลูกสร้างไปแล้วกว่า 100 หลัง ได้ลุกลามอย่างรวดเร็วมากกว่า 2 เท่าในวันศุกร์ (24มิ.ย.) ขณะที่เจ้าหน้าที่เผยจะต้องขยายคำสั่งอพยพในพื้นที่ห่างไกลแห่งนี้
เจ้าหน้าที่เผยว่าเหตุไฟป่าปะทุขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี (23มิ.ย.) ในแถบตีนเขาในเคิร์น เคาน์ตี ห่างจากเบเคอร์สฟิวด์ ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 68 กิโลเมตร และมีหน่วยดับเพลิง 3 นายต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลหลังสำลักควันไฟ "ไฟไหม้เป็นเหตุให้ต้องอพยพชาวบ้านหลายร้อยคน" เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวระบุ
สถานการณ์ดูเลวร้ายไปอีก เมื่อดูเหมือนว่าอุณหภูมิจะพุ่งเหนือ 32 องศาเซลเซียสในวันศุกร์(24ม.ย.) โดยพืชผักที่แห้งเหี่ยวตายจากภัยแล้งในแคลิฟอร์เนียนานกว่า 5 ปี กลายเป็นเชื้อไฟชั้นดีที่โหมกระพือเพลิงป่าให้ลุกลามอย่างรวดเร็ว
เปลวเพลิงที่แผ่ลามอย่างรวดเร็วห่างจากลอสแองเจลิส ไปทางเหนือราว 240 กิโลมตร ได้ทำลายสิ่งปลูกสร้าง ในนั้นรวมถึงบ้านเรือ สิ่งปลูกสร้างภายนอกและโรงรถ กว่า 100 หลัง ขณะที่อีกราว 1,500 หลังตกอยู่ในความเสี่ยง
คาดหมายว่าขนาดของไฟป่าจะขยายวงจาก 20,000 ไร่ในตอนเช้าวันศุกร์(24มิ.ย.) เป็นมากกว่า 47,500 ไร่ในช่วงก่อนเที่ยงตามเวลาท้องถิ่น
เหตุอุทกภัยในมลรัฐเวสต์เวอร์จิเนียของสหรัฐฯ ได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อบ 14 ศพและทำชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่งติดค้าง เจ้าหน้าที่ต้องพาตัวลงจากหลังคาและช่วยเหลือให้พ้นจากกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก จากการเปิดเผยของผู้ว่าการรัฐในวันศุกร์(24มิ.ย.)
"เกิดความเสียหายอย่างกว้างขวาง เป้าหมายสำคัญของเรายังเป็นการค้นหาและช่วยเหลือ" เอิร์ล เรย์ ทอมบลิน ผู้ว่าการรัฐเวสต์เวอร์จิเนียเปิดแถลงข่าวเกี่ยวกับภัยพิบัติน้ำท่วมที่มีต้นตอจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดทั้งวัน
"ผมมีแผนบินสำรวจรอบๆพื้นที่ได้รับผลกระทบด้วยตนเองในวันนี้ แต่ยังไม่สามารถทำได้เพราะว่าปัจจุบันเครื่องบินของรัฐทุกลำถูกใช้ในปฏิบัติการช่วยเหลือ"เขากล่าว
ในบรรดาผู้เสียชีวิตรวมไปถึงเด็กชายวัย 8 ขวบซึ่งถูกน้ำซัดหายไประหว่างเดินอยู่ริมตลิ่งคลองแห่งหนึ่งพร้อมกับแม่ของพี่สาว ขณะที่สำนักข่าว WSAZ รายงานว่าศพของหนูน้อยรายนี้ถูกพบหลังจากใช้เวลาในการค้นหานาน 3 ชั่วโมง
แรงงานชาวพม่าแห่รับอองซานซูจีกันแน่นขนัดในการเดินทางเยือนไทยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยชนะการเลือกตั้งในเดือนพ.ย.
เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามอย่างมากที่จะควบคุมกลุ่มแรงงานชาวพม่าหลายพันคน ที่รอต้อนรับและหวังจะได้เห็นอองซานซูจี หลายคนชูกรอบรูปอองซานซูจี พร้อมร้องตะโกนว่า "แม่ซู แม่ซู"
"ผมมีความสุขมาก ผมรักอองซานซูจี วันนี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นเธอ" ชาวพม่าอายุ 32 ปี ที่ทำงานในโรงงานแปรรูปปลาทูน่า กล่าว
ประเทศไทยเป็นบ้านของแรงงานชาวพม่าราว 2-3 ล้านคน ซึ่งการเยือนของซูจีครั้งนี้จะเป็นการเรียกร้องการคุ้มครองที่ดีขึ้นต่อบรรดาแรงงานเพื่อนร่วมชาติอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งกลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนระบุว่าแรงงานเหล่านี้มีความเสี่ยงที่จะถูกล่วงละเมิดสิทธิ
"เราหวังว่าซูจีจะกดดันรัฐบาลไทยให้เห็นอกเห็นใจพวกเรา" แรงงานพม่าที่ทำงานในโรงงานเหล็ก กล่าว ขณะรวมกลุ่มกับชาวพม่าคนอื่นๆ ที่ตลาดทะเลไทย ในมหาชัย
การเยือนของซูจีช่วยเติมเต็มความหวัง ที่แรงงานชาวพม่าอายุ 50 ปีรายหนึ่งกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า แรงงานพม่าในไทยประสบกับปัญหาต่างๆ และหวังให้ซูจีช่วยเหลือเกี่ยวกับสิทธิแรงงาน
อองซานซูจี และนายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา จะลงนามข้อตกลงในวันศุกร์ (24) ที่จะช่วยเหลือแรงงานพม่าให้
กลุ่มแรงงานชาวพม่ายังคงยืดหยัดรอคอยอองซานซูจีท่ามกลางสายฝน หลังซูจีที่แต่งกายในชุดประจำชาติสีฟ้าเข้าพบปะหารือกับแรงงานส่วนหนึ่ง
ซูจีให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนแรงงานชาวพม่าในการหารือระหว่างการเยือนไทยครั้งนี้
"ฉันต้องการได้ยินเสียงจากคนในชาติของเรา ได้โปรดพูดโดยไม่ต้องปิดบังว่าเราสามารถทำอะไรเพื่อคุณได้บ้างและอะไรคือสิ่งที่คุณคาดหวัง" ซูจี กล่าว
ในเมืองมหาชัย ชาวพม่าจำนวนมากทำงานในเรือประมงและในโรงงานแปรรูปอาหารทะเล ด้วยไทยเป็นหนึ่งในประเทศผู้จัดส่งอาหารทะเลชั้นนำของโลก แต่ชื่อเสียงของอุตสาหกรรมนี้ต้องมัวหมองจากกรณีการค้ามนุษย์และการบังคับใช้แรงงาน
การเยือนไทย 3 วัน เป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการครั้งที่ 2 ของซูจี นับตั้งแต่พรรค NLD เข้าทำหน้าที่เป็นรัฐบาลบริหารประเทศเมื่อวันที่ 30 มี.ค.