วันที่ 3 เม.ย. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เปิดใช้เฟซบุ๊กเป็นช่องทางใหม่ในการสื่อสาร ภายใต้ชื่อ www.facebook.com/thaksinofficial โดยระบุว่าไม่ได้ใช้เฟสบุ๊กเป็นช่องทางพูดคุยกับพี่น้องมานานเพราะไม่อยากให้รบกวนการเมืองของรัฐบาล แต่นับวันการเดินทางที่มากขึ้น ได้พบเห็นอะไรมากขึ้น กลัวว่าความรู้เหล่านั้นจะหายไป ไม่ได้ แชร์ กับพี่น้องก็เลยปรึกษากับโอ๊ค (นายพานทองแท้ ชินวัตร) ว่าพ่อควรจะมีเกร็ดความรู้มาเล่าให้พี่น้องฟัง โอ๊คก็เลยบอกให้พี่น้องทราบผ่านเฟซบุ๊ก ผมจึงขอโอกาสใช้วันที่ 3/4/56 ให้เป็นวันดีที่ตัวเลขต่อเนื่องกับเพื่อความก้าวหน้าของชีวิตของผู้สนับสนุนทุกท่าน ได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆ วันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากนั้นพ.ต.ท.ทักษิณ ได้เล่าเรื่องที่ได้รับเชิญจากประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐทาจิกิสถานให้เข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศในกลุ่ม ACD ( Asia Cooperation Dialogue ) ในฐานะเป็นผู้ก่อตั้ง ACD ก่อนทิ้งท้ายว่า จากนี้จะมาเล่าความคืบหน้าของการรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับซาอุดิอาระเบียให้ฟัง เพราะนักธุรกิจซาอุฯเริ่มคิดหาโปรเท็นเชียลในเมืองไทยแล้ว เพราะได้รับสัญญาณจากผู้ใหญ่ในประเทศว่าการรื้อฟื้นความสัมพันธ์จวนจะเป็นจริงแล้ว..
เมื่อเวลา 19.40 น.วันที่ 3 เม.ย. ที่รัฐสภา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการนำคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย(กบอ.) เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อกราบบังคมทูลรายงานความก้าวหน้าเกี่ยวกับการวางระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและขอพระราชทานแนวพระราชดำริในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ที่โรงพยาบาลศิริราช ว่า พระองค์ทรงห่วงใยและสนพระทัยในการดูแลเรื่องของน้ำ ทรงอยากให้เรื่องของน้ำมีความสมดุลย์ รวมถึงการดูแลประชาชนทั้งภาวะน้ำท่วมและน้ำแล้ง ทางคณะที่เข้าเฝ้าฯก็รับสนองแนวทางพระราชดำริ และนำโครงการต่างๆมาปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และรัฐบาลได้ดำเนินการอยู่แล้วคือการดูแลประชาชน โดยเฉพะช่วงนี้ที่มีปัญหาภัยแล้งเกิดขึ้น รวมทั้งต้องเตรียมการสำหรับฤดูฝนที่จะมาถึง เมื่อถามว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงพื้นที่ใดเป็นพิเศษหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ไม่มีคะ”
ผู้สื่อข่าวรายงานมาด้วยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงตรัสถามคณะกรรมการน้ำ และมีพระกระแสรับสั่งใจความสำคัญว่า แผนที่ที่นำมาเสนอนั้นมีมาตราส่วนเล็กเกินไป ควรจะทำให้ใหญ่กว่านี้ และมีระดับความสูง-ต่ำของพื้นที่ด้วย อีกทั้งควรอยู่ในแผ่นเดียวกันทั้งหมด และภาษาที่ปรากฏอยู่ในแผนที่นั้นมีภาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น สื่อความหมายยาก เป็นแผนที่ที่ใช้งานยาก เป็นของเล่นที่ยาก อยู่โรงพยาบาลมา 3 ปี ไม่ได้ไปไหน แต่ถ้าได้ไปไหนบ้างก็จะช่วยได้บ้าง เวลาที่ไปภาคเหนือโดยเฮลิคอปเตอร์ไปภาคเหนือ จะมีแผนที่ติดตัวตลอด ซึ่งมีแผ่นเดียวสามารถพับทบไปมาได้ ไม่แยกชิ้นส่วนเช่นแผ่นที่นี้ พับไม่ได้ ถ้าออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไหร่ก็คงจะช่วยได้มากกว่านี้
รายงานข่าวจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยแจ้งว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ คาดว่าคนกรุงเทพฯ จะมีการจับจ่ายใช้สอยคิดเป็นวงเงินกว่า 31,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.5% หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แบ่งเป็นการใช้จ่ายในประเทศ 25,500 ล้านบาท และต่างประเทศ 6,000 ล้านบาท โดยเม็ดเงินดังกล่าวน่าจะกระจายไปยังธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจร้านจำหน่ายของฝาก/ของที่ระลึก รวมไปถึงธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งผู้ประกอบการแต่ละธุรกิจไม่ควรพลาดโอกาสทำยอดขายเพิ่มขึ้น โดยการออกโปรโมชั่นหรือแคมเปญต่างๆ เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายของคนกรุงเทพฯ
“เทศกาลสงกรานต์ที่มีวันหยุดยาวติดต่อกัน 5 วันในปีนี้ น่าจะทำให้บรรยากาศในการจับจ่ายและทำกิจกรรมต่างๆ ของคนกรุงเทพฯ คึกคักกว่าปีที่ผ่านมา แม้ว่าปัจจัยในเรื่องของค่าครองชีพ และความไม่สะดวกในการเดินทาง ยังคงสร้างความกังวลให้กับคนกรุงเทพฯ บางส่วน แต่โดยรวมแล้วคนกรุงเทพฯ ก็ยังคงให้ความสำคัญ และมีกำลังซื้อเพียงพอที่จะตั้งงบประมาณในการจับจ่าย และเตรียมตัวสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้เพิ่มขึ้น”
โดยกิจกรรมหลักที่คนกรุงเทพฯ ที่เลือกอยู่ในกรุงเทพฯ นิยมทำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้แก่ การช็อปปิ้งจับจ่ายใช้สอยสินค้าตามห้างสรรพสินค้าและดิสเคาน์สโตร์ต่างๆ 77.9% รองลงมาคือ การเข้าวัดทำบุญ 77.2% การเลี้ยงสังสรรค์ในกลุ่มเพื่อนฝูงและครอบครัว 71.2% ขณะที่การท่องเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ จังหวัดที่ได้รับความนิยมจากคนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ยังเป็นจังหวัดใกล้เคียงที่สามารถเดินทางไปกลับภายในวันเดียวได้ เช่น ชลบุรี เพชรบุรี อยุธยา และประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น
ทั้งนี้คนกรุงเทพฯ 41 % เลือกเดินทางออกนอกกรุงเทพฯ ทั้งเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดมากสุด รองลงมาคือท่องเที่ยวในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งอาจจะเป็นผลมาจากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ ประกอบกับวันหยุดยาวที่เอื้อต่อการวางแผนโปรแกรมท่องเที่ยว รวมไปถึงนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาครัฐและเอกชน ที่ยังเป็นอีกแรงกระตุ้นให้คนกรุงเทพฯ เดินทางไปเที่ยวมากขึ้น ส่วนกิจกรรมหลักที่คนกรุงเทพฯ เดินทางกลับต่างจังหวัด นิยมทำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้แก่ การเลี้ยงสังสรรค์ในกลุ่มเพื่อนฝูงและครอบครัว 81.6 % การเข้าวัดทำบุญ 73.5% การซื้อของฝากสำหรับครอบครัวในต่างจังหวัด และการซื้อของกลับมาฝากเพื่อนที่อยู่กรุงเทพฯ 62.8 %
เริ่มส่งสัญญาณในเชิงลบแล้วสำหรับนโยบายรถคันแรกของรัฐบาล
โดยเฉพาะในแง่ของ "กำลังซื้อผู้บริโภคหดหาย" ในกลุ่มที่มีรายได้ระดับ 1.5-2 หมื่นบาท
เพราะผู้ประกอบการสินค้าในหลายๆ ธุรกิจต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคหายไป และส่อแววกันตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วต่อเนื่องมาจนถึงไตรมาสแรก ปีนี้
กลุ่มสินค้าที่ได้รับผลกระทบอันดับแรกๆ คงหนีไม่พ้นสินค้าแฟชั่น ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า แว่นตา ที่กำลังซื้อหายไปตั้งแต่ปีที่แล้ว
และกำลังทยอยตามมาอีกปีนี้อย่างกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นปีที่ดีของสินค้ากลุ่มนี้เลยทีเดียว เนื่องจากน้ำท่วมช่วงปลายปี 2554 ทำให้ผู้บริโภคต้องซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่เกือบทั้งหมด แม้แต่โรงงานเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ถูกน้ำท่วมยอดขายก็ยังไม่ลดลง แถมยังเติบโตในระดับที่น่าพอใจอีกต่างหาก
นายสมศักดิ์ จิตติพลังศรี กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ซัยโจ เด็นกิ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องปรับอากาศ แบรนด์ "ซัยโจ เด็นกิ" ยอมรับว่า เริ่มเห็นผลกระทบจากนโยบายรถคันแรกของรัฐบาลที่ดึงกำลังซื้อสินค้าจากกลุ่มอื่นๆ เพราะต้องผ่อนรถยนต์ ทำให้ไม่มีเงินเหลือที่ซื้อหรือผ่อนสินค้าอื่นได้อีก ซึ่งกลุ่มเครื่องปรับอากาศเริ่มได้รับผลกระทบแล้ว
นี่เพิ่งจะผ่านไปแค่ไตรมาสแรกปี 2556
คงต้องจับตามองกันทั้งปีว่าจะมีกลุ่มสินค้าใดจะได้รับพิษตามมาอีก
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012