ข่าว
ผงะ ลิง 43 ตัว หลุดจากห้องแล็บวิจัยยา และวัคซีนในสหรัฐฯ จนท.เร่งตามจับ แนะปชช.อยู่แต่ในบ้าน

ชาวบ้านแตกตื่น ลิง 43 ตัวหลุดจากห้องทดลองยาและวัคซีนของบริษัทวิจัยทางการแพทย์ ในรัฐเซาท์ แคโรไลนา ของสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าลิงไม่ได้ป่วยหรือติดเชื้อแต่ต้องเร่งตามจับกลับมา วอนประชาชนอยู่แต่ในบ้านก่อนเพื่อความปลอดภัย และหากพบเห็นลิงอย่าเข้าไปใกล้ หรือพยายามให้อาหารลิง

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 สำนักข่าว BBC รายงานอ้างคำเปิดเผยของนายเกรกอรี อเล็กซานเดอร์ หัวหน้าตำรวจเมืองเยมาสซี ในรัฐเซาท์ แคโรไลนา ของสหรัฐฯ ที่ะระบุว่า ได้รับแจ้งเหตุ ลิง 43 ตัว หลุดออกมาจากบริเวณที่กักขังลิง ที่เรียกว่า "ฟาร์มลิง" (Monkey farm) ของห้องแล็บวิจัยยาและวัคซีน บริษัทวิจัยทางการแพทย์ "Alpha Genesis"

รายงานข่าวระบุว่า มีประชาชนแจ้งว่าพบเห็นลิงตัวหนึ่งท่าทางดูน่ากลัว นั่งอยู่บนเครื่องปรับอากาศบริเวณหน้าบ้านของเขา โดยเห็นได้ชัดว่า ลิงอยู่ในสภาพป่วยเป็นโรคและดูไม่มีความสุขเลย นอกจากนี้ยังดูเหมือนมีบางอย่างอยู่ในตาของลิงตัวนั้น จากนั้นเขาเลยรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ และมีการประสานไปยังห้องแล็บ ต่อมามีเจ้าหน้าที่สวมชุดป้องกันสารพิษมาจับลิงไป

เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ลิงหลุดออกไปหลังจากเจ้าหน้าที่ลืมปิดกรง และยังลืมปิดประตูห้องแล็บ โดยลิงที่หลุดออกไปเป็นลิงวอก พร้อมยืนยันว่าเป็นลิงที่ไม่ได้ป่วยหรือมีอาการติดเชื้อโรคใดๆ ซึ่งไม่น่าจะเป็นอันตรายกับประชาชน

ขณะที่ทางบริษัทวิจัยเปิดเผยว่า กำลังวางกับดักลิงตามแนวป่า และใช้กล้องถ่ายภาพความร้อนตามหาลิงที่อาจจะหลบเข้าไปในป่า พร้อมเตือนประชาชนหากพบเห็นลิงอย่าเข้าไปใกล้ อย่าให้อาหารหรือพยายามจับกลับไปเลี้ยง

ทั้งนี้ บริษัท Alpha Genesis เลี้ยงลิงจำนวนมากไว้ใช้ในการวิจัยวัคซีนและยาสำหรับโรคต่างๆ มากมาย โดยดร. เกร็ก เวสเตอร์การ์ด กล่าวว่า ฝูงลิงที่หลบหนีออกมาในปัจจุบันไม่ก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อการติดเชื้อในคน เพราะยังไม่ได้ถูกนำมาใช้ในการทดลอง ทางด้านดร.เวสเตอร์การ์ด ยังกล่าวว่า ลิงที่หลบหนีส่วนใหญ่เป็นลิงเพศเมียตัวเล็กที่มีลักษณะนิสัยขี้ตกใจ และไวต่อเสียงดังและการเคลื่อนไหวแบบฉับพลัน.

นายกรัฐมนตรีเยือนคนไทยในแอลเอ.

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปยังนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา เพื่อพบปะกับเอกอัครราชทูตและคนไทยในลอสแอนเจลิส ในวันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2567 เวลา 14.00-15.00 ที่วัดไทยลอสแองเจลิส ก่อนจะเดินทางเข้าร่วมการประชุม"ผู้นำเศรษฐกิจเอเปค" ครั้งที่ 31 (Asia-Pacific Economic Cooperation: APEC)ในวันพุธที่ 13 พฤศจิกายน 2567 ที่กรุงลิมา ประเทศเปรู ก่อนจะเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567


ทรัมป์ตั้ง "ซูซี่ ไวลส์" ผจก.ฝ่ายหาเสียงเป็น "แม่บ้านทำเนียบขาว" ผู้หญิงคนแรกที่รับตำแหน่งนี้

"โดนัลด์ ทรัมป์" ว่าที่ปธน.สหรัฐฯ เตรียมตั้ง "ซูซี่ ไวลส์" ผู้จัดการแคมเปญหาเสียงของเขาเป็น "หัวหน้าเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว" นับเป็นผู้หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ที่รับตำแหน่งนี้

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เขาจะตั้งนางซูซี่ ไวลส์ คนสนิทของเขา ที่เป็นผู้จัดการแคมเปญหาเสียงของเขามาดำรงตำแหน่ง "หัวหน้าเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว" ซึ่งนางไวล์ส จะเป็นผู้หญิงคนแรกในประวัติสาสตร์ของสหรัฐฯที่ได้รับตำแหน่งนี้

โดยตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว ถือเป็นตำแหน่งสูงสุดของสำนักงานบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในตำแหน่งที่ทรงอำนาจและมีอิทธิพลมากที่สุด เพราะต้องรับหน้าที่ติดต่อกับประธานาธิบดีทุกวัน รวมทั้งควบคุมสำนักงานบริหารของประธานาธิบดี

ที่ผ่านมา นางไวลส์ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นผู้ดำเนินการหาเสียงที่มีวินัยและทำงานได้ดีที่สุดของทรัมป์ และถือเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งนี้ ขณะที่เธอพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เป็นจุดสนใจ โดยปฏิเสธที่จะขึ้นเวทีในวันที่ทรัมป์เฉลิมฉลองชัยชนะ

การแต่งตั้งนางจ้างไวลส์ มารับตำแหน่งสำคัญในทำเนียบขาว ถือเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญครั้งแรกของทรัมป์ในฐานะว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ และอาจเป็นการทดสอบครั้งสำคัญของรัฐบาลชุดใหม่ เนื่องจากเขาต้องสร้างทีมขึ้นมาอย่างรวดเร็วเพื่อช่วยบริหารรัฐบาลกลาง.


‘ยานจู้หรง’ ของจีนพบหลักฐาน ที่อาจไขปริศนา ‘มหาสมุทรบนดาวอังคาร

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ว่า ทฤษฎีที่ว่ามหาสมุทรปกคลุม 1 ใน 3 ของดาวอังคารเมื่อหลายพันล้านปีก่อน เป็นประเด็นที่นักวิทยาศาสตร์ถกเถียงกันมานานหลายทศวรรษ แต่เมื่อไม่นานมานี้ นักวิจัยได้ค้นพบหลักฐานชิ้นใหม่ ซึ่งอาจช่วยคลี่คลายปริศนา

ในปี 2564 ยานสำรวจจู้หรงของจีน ลงจอดบนที่ราบในบริเวณยูโทเปีย บนซีกโลกเหนือของดาวอังคาร ซึ่งก่อนหน้านี้เคยพบสิ่งบ่งชี้ของแหล่งน้ำโบราณ

ดร.อู๋ โป๋ หัวหน้าคณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคฮ่องกง กล่าวว่า มีการพบปัจจัยต่าง ๆ ที่บ่งชี้ว่า เคยมีมหาสมุทรในอดีตบริเวณที่จู้หรงลงจอด ซึ่งรวมถึง “กรวยหลุม, แอ่งน้ำลายเหลี่ยม และกระแสน้ำที่กัดเซาะ”

งานวิจัยก่อนหน้านี้ตั้งข้อสังเกตว่า กรวยหลุมที่มีลักษณะคล้ายหลุมอุกกาบาต อาจมาจากภูเขาไฟโคลน และมักก่อตัวขึ้นในบริเวณที่เคยมีน้ำหรือน้ำแข็ง ขณะที่ข้อมูลจากยานสำรวจ รวมถึงข้อมูลและการวิเคราะห์จากดาวเทียมบนโลกบ่งชี้ว่า ครั้งหนึ่งอาจเคยมีแนวชายฝั่งใกล้กับบริเวณดังกล่าว

ทีมนักวิจัยคาดการณ์ว่า มหาสมุทรเกิดขึ้นจากน้ำท่วม เมื่อเกือบ 3,700 ล้านปีก่อน โดยหลังจากนั้น มหาสมุทรก็แข็งตัวและกัดเซาะแนวชายฝั่ง ก่อนจะหายไปเมื่อ 3,400 ล้านปีก่อน

ทั้งนี้ โป๋ย้ำว่า “ทีมวิจัยไม่ได้ยืนยัน” ว่าผลการค้นพบครั้งนี้ พิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่า เคยมีมหาสมุทรบนดาวอังคารจริง เนื่องจากต้องนำหินจากดาวอังคารกลับมายังโลก เพื่อศึกษาอย่างละเอียดยิ่งขึ้น....

เครดิตภาพ : AFP

ปูตินยินดี-พร้อมคุย “ทรัมป์” ว่าที่ผู้นำสหรัฐตั้งหัวหน้าทีมหาเสียง “คุมทำเนียบขาว”...

บีบีซี : รายงานวันที่ 8 พ.ย. ถึงความคืบหน้าหลังจาก นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คว้าชัยชนะเหนือ นางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ ผู้แทนจากพรรคเดโมเครติกหรือเดโมแครต ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 พ.ย. ด้วยผลคะแนนคณะผู้เลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการที่ 301 เสียงต่อ 226 เสียง

หลังจากซีบีเอสนิวส์และบีบีซี สหรัฐ คาดการณ์ว่านายทรัมป์จะชนะรัฐเนวาดา 1 ใน 7 รัฐสะวิงสเตต ส่งผลให้นายทรัมป์กวาดคคะแนนไปในรัฐสมรภูมิไปแล้ว 6 รัฐ และคาดว่าจะชนะรัฐสะวิงสเตตทั้งหมด รวมถึงรัฐแอริโซนาซึ่งนับคะแนนไปแล้วเกือบร้อยละ 75 โดยนายทรัมป์นำนางแฮร์ริสที่ร้อยละ 52.5 ต่อร้อยละ 46.6...

ขณะที่ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย แสดงความยินดีกับนายทรัมป์และเรียกว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 ว่าเป็น “ชายผู้กล้าหาญ” และตนประทับใจที่นายทรัมป์ผ่านช่วงเวลายากลำบากหลังมีความพยายามลอบสังหารระหว่างการหาเสียงก่อนหน้านี้ “ในความเห็นของผม เขาปฏิบัติตัวอย่างถูกต้อง กล้าหาญ และสมกับเป็นลูกผู้ชาย” นายปูตินย้ำก่อนตอบสื่อมวลชนว่าพร้อมที่จะหารือกับนายทรัมป์

ทั้งนี้ นายทรัมป์ซึ่งกล่าวในช่วงหาเสียงหลายครั้งว่าสามารถยุติสงครามในยูเครนได้ในวันเดียว ระบุเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 พ.ย. ว่าพร้อมจะพูดคุยกับนายปูติน “ผมคิดว่าเราจะคุยกัน”...

ก่อนหน้านี้รัสเซียถูกกล่าวหาว่าแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2559 เพื่อสนับสนุนนายทรัมป์ที่ลงชิงชัยกับนางฮิลลารี คลินตัน แต่ต่อมามีรายงานการตรวจสอบว่าไม่พบหลักฐานใดๆ ของการสมคบคิด...

วันเดียวกัน นายทรัมป์ประกาศเลือกนางซูซี่ ไวลส์ ฉายา “สตรีน้ำแข็ง” หัวหน้าทีมรณรงค์หาเสียงของนายทรัมป์ เป็นว่าที่หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งที่อาวุโสที่สุดในทำเนียบขาว รวมถึงมีบทบาทสำคัญในการให้คำปรึกษาแก่ผู้นำเกี่ยวกับนโยบายและการดำเนินงานประจำวัน

จากสุนทรพจน์ประกาศชัยชนะนายทรัมป์กล่าวถึงนางไวลส์ว่า “เธอช่วยให้ผมได้รับชัยชนะทางการเมืองครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์อเมริกา เธอเป็นคนเข้มแข็ง ฉลาด สร้างสรรค์ เป็นที่ชื่นชมและได้รับความเคารพนับถือจากทั่วโลก”

นางไวลส์เคยทำงานเป็นผู้จัดตารางงานในทีมรณรงค์หาเสียงของ อดีตประธานาธิดีโรนัลด์ เรแกน ในปี 2523 และจะสร้างประวัติศาสตร์ในฐานะผู้หญิงคนแรกที่ได้รับตำแหน่งหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวหลังนายทรัมป์ทำพิธีสาบานตนในเดือนม.ค.2568...