ข่าว
'ชูวิทย์' ออกมาเปิดเผยข้อมูลลับ 'กำนันเป๊าะ'

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ออกมาเปิดโปงความจริงถึงแหล่งกบดานกำนันเป๊าะ ผ่านเฟซบุ๊ค ชูวิทย์ I'm No.5

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวกำนันเป๊าะ หรือนายสมชาย คุณปลื้ม ได้สำเร็จนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊ค ชูวิทย์ I'm No.5 โดยนายชูวิทย์กล่าวว่าตนทราบข้อมูลแหล่งกบดานของกำนันเป๊าะจากวงในมานานแล้วว่ากำนันเป๊าะไม่เคยหนีออกนอกประเทศแต่อาศัยอยู่ที่บ้านพักของตัวเองในเขตพื้นที่จังหวัดชลบุรีซึ่งมีอิทธิพลอยู่ เพราะยังมีคนคอยเป็นหูเป็นตาให้และสามารถหลบหนีออกทะเลได้ง่าย แถมยังใช้ชีวิตราวกับคนปกติ

นอกจากนั้นนายชูวิทย์ยังได้บอกว่าเหตุที่กำนันเป๊าะถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้นั้นเพราะประมาทเกินไปทั้งที่สามารถหนีคดีได้นานถึง 10 ปี

'จตุพร'เตือน'เจ๊ดา'ระวังใช้ถ้อยคำ

'จตุพร'เตือน'เจ๊ดา'ระวังใช้ถ้อยคำสื่อสารระหว่างเสื้อแดง ชี้ความเห็นต่างไม่ใช่เรื่องแปลก พร้อมตั้งคำถามอยากกลายเป็นเหยื่ออันโอชะของฝ่ายตรงกันข้ามหรือ

6 ก.พ. 2556 นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ กล่าวในรายการชูธง ทางสถานีโทรทัศน์เอเซียอัพเดท ถึงปัญหาความขัดแย้งกันแกนนำนปช.ระหว่างนางดารุณี กฤตบุญญาลัย แกนนำแนวร่วมกลุ่ม 29 มกราฯ กับนพ.เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) ที่วิจารณ์กลุ่ม 29 มกราฯ ที่ไปยื่นร่างรัฐธรรมนูญนิรโทษกรรมให้นายกรัฐมนตรี และได้มีการระบุคนเสื้อแดงไม่ใช่ควายว่า เรื่องนี้ตนเห็นว่าคงจะเป็นเหยื่ออันโอชะของฝ่ายตรงกันข้ามกับเรา ปมของเรื่องนี้ไม่มีอะไร เพราะหลักคิดตนเห็นว่าเราควรจะต้องทำใจให้เป็นทะเล ปัญหาของเราในวันนี้หากไม่สามัคคีกันเราจะไปรอดกันหรือเปล่า วันนี้ไม่ใช่ปัญหาเรื่องหน้าตาของใคร

ที่ผ่านมาตนได้พยายามพุดอยู่เสมอๆว่ากระบวนการที่เราต่อสู้กันมาจนถึงในวันนี้ เราควรจะต้องข้ามไปให้หมด ซึ่งในแนวความคิดอาจจะมีความแตกต่างกันได้ ซึ่งความคิดที่แตกกันก็ไม่สิ่งที่ผิด และการที่จะพยายามช่วยให้พี่น้องเสื้อแดงของเราออกจากเรือนจำได้อย่างไรก็ขอให้คิดกัน แต่จะต้องไม่มองคนที่ไม่เห็นด้วยว่าเป็นความคิดที่ผิด และที่สำคัญจะต้องมองข้ามเรื่องของวีรบุรุษวีรสตรีกันเสียที เราไม่สมควรเอานิสัยของกลุ่มพันธมิตรฯมาใช้

"ในโลกของความเป็นจริงในวันนี้ ไม่มีใครล่วงรู้ว่าในวันข้างหน้าจะเกิดอะไรเกิดขึ้น แล้วจะมีชะตากรรมอย่างไร ดังนั้นขบวนการประชาชนเราสมควรจะต้องเคารพความคิดเห็นที่แตกต่าง อย่างที่ผมเคยกล่าวว่าจงเป็นผู้เสียสละ แต่อย่าคิดว่าตนเองเป็นผู้เสียสละ เพราะทำอะไรแล้วเมื่อมีคนอื่นไม่ทำตามใจตัวเองจะไปมองคนอื่นว่าเป็นคนผิดไปหมด ขบวนการนี้ยังมีหนทางที่อีกยาวไกลและจะต้องยอมรับความแตกต่างระหว่างทาง ดังนั้นถ้อยคำหลังจากนี้ควรจะต้องมีความระมัดระวังในการสัมภาษณ์ และสื่อสารระหว่างมิตรกัน เราก็ผ่านกันมาจึงถึงขนาดนี้แล้ว ไม่รู้ว่าวันข้างจะเกิดอะไรเกิด สิ่งที่เกิดขึ้นเราได้กลายเป็นเหยื่ออาหารอันโอชะไปแล้ว การออกมาช่วยให้พี่น้องเราออกจากจากเรือนจำถือว่าเป็นแนวทางของนปช.อยู่แล้ว ดังนั้นหากแนวทางไหนที่จะสามารถช่วยพี่น้องเราก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งไม่เห็นจะต้องมามีปัญหาอะไร การที่ไปเขียนว่าเลือดเย็นอะไรนั้น ผมเห็นว่าเป็นเรื่องที่ใช้ไม่ได้ การแสดงความคิดเห็นต่างที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ผมอยากเตือนให้ระมัดระวังถ้อยคำกันหน่อย แต่หากชอบที่จะให้เป็นเหยื่อของฝ่ายตรงกันข้ามก็ขอให้ทำกันต่อไป " นายจตุพร กล่าว


ปปง.′ อายัดที่ดิน "บ่อนเตาปูน-โรงเรียนปอเน๊าะญีฮาด" เล็งอายัดอีก 3 บ่อนใหญ!!!

วันที่ 6 ก.พ. 56 พันตำรวจเอกสีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน แถลงถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 2/2556 ว่าที่ประชุมมีมติให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในรายคดีสำคัญไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน90วัน โดยสรุปรายละเอียดได้ 2 รายการดังนี้

1.โฉนดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง เลขที่156026 เนื้อที่ 2 งาน 40 ตารางวา ราคาประเมิน10 ล้าน 8 แสนบาท ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งสำหรับเปิดบ่อนลักลอบเล่นการพนัน ( ที่รู้จักในนาม "บ่อนเตาปูน" ) โดยมีชื่อ นายสามารถ สิงห์จำนงค์เป็นเจ้าของที่ดิน ความผิดดังกล่าวเป็นการกระทำผิดเกี่ยวกับการพนัน ตามมาตรา 3(9) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542

2.อายัดที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เลขที่ หมู่4 เล่ม4 หน้า140 เนื้อที่14ไร่ 1 งาน 42 ตารางวา ราคาประเมิน 5 แสนเก้าหมื่นหนึ่งพันเก้าสิบบาทถ้วน ซึ่งเป็นสถานที่ใช้ในการสนับสนุนการก่อความไม่สงบของกลุ่มผู้ก่อการร้าย โดยใช้เป็นสถานที่ปลูกฝังแนวความคิด ฝึกกำลังติดอาวุธ เพื่อเตรียมก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือโรงเรียนปอเน๊าะญีฮาด อำเภอยะริน จังหวัดปัตตานี จึงเป็นทรัพย์สินเกี่ยวกับความผิดมูลฐานตามาตร 3(8) แห่งพระรชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542

ทั้งนี้ หลังปปง.ประกาศอายัดแล้วจะไม่มีใครเข้าไปในสถานที่ได้ ยกเว้นจะได้รับการอนุญาตจาก เลขาฯ ปปง.ที่จะมีหน้าที่บริหารทรัพย์สินที่ถูกอายัดจากการกระทำความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน

โดยทรัพย์สินดังกล่าวปปง.มีอำนาจในการบริหารจัดการตามกฎหมาย ซึ่งจะส่งหนังสือแจ้งไปยังเจ้าของที่ดินดังกล่าวโดยหากผู้ที่ถูกอายัดทรัพย์สินประสงค์จะขอให้มีการเพิกถอนคำสั่งอายัดทรัพย์สินดังกล่าวนั้น สามารถยื่นคำร้องต่อเลขาธิการ ปปง. พร้อมแสดงหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าเงินหรือทรัพย์สินดังกล่าวนั้นมิใช่ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดภายใน30 วันนับตั้งแต่ได้รับคำสั่ง

นอกจากนี้พันตำรวจเอกสีหนาทกล่าวว่าอีกไม่นานจะมีการดำเนินการอายัดทรัพย์สินและที่ดินของบ่อนการพนันใหญ่ๆที่มีผู้เล่นมากกว่า 100 รายและมีทรัพย์สินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาทอีก 2-3 ราย พร้อมย้ำว่าการดำเนินการดังกล่าวไม่มีธงทางการเมือง แต่ดำเนินการตามหลักฐานที่ปรากฎ ส่วนการดำเนินคดีอาญาเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทาง ปปง.มีอำนาจในการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินเท่านั้น

"พงศ์เทพ"บินหารือสู้คดีปราสาทพระวิหาร

วันที่ 6 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ศึกษาธิการ ในฐานะที่ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรีให้ดูแลการต่อสู้คดีปราสาทพระวิหาร พร้อมทีมกฎหมายจากกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไปยังประเทศอังกฤษ เพื่อหารือกับทีมที่ปรึกษากฎหมายต่อสู้คดีดังกล่าว

โดยนายพงศ์เทพ กล่าวออกเดินทางว่า ที่ผ่านมา ไทยได้ส่งข้อมูลเอกสารจำนวนมากยื่นต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ(ศาลโลก)ไปแล้ว สำหรับการเดินทางไปอังกฤษครั้งนี้ จะหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับประเด็นที่ไทยจะใช้แถลงต่อสู้คดีด้วยวาจาในเดือนเม.ย.นี้ เพื่อย้ำความน่าเชื่อถือและโน้มน้าวตุลาการศาลโลก โดยจะลงลึกในรายละเอียดของเอกสารในแต่ละประเด็น ซึ่งคณะทำงานกฎหมายทุกคนตั้งใจทำงาน และจะทำอย่างดีที่สุด ส่วนผลการตัดสินคดีขึ้นอยู่กับดุลพินิจการตัดสินของตุลาการ ซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมของฝ่ายไทย

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่หนักใจในการทำหน้าที่ เพราะทุกคนทำเต็มที่แล้ว ส่วนการต่อสู้เรื่องขอบเขตอำนาจศาลโลกที่ไม่สามารถตัดสินเรื่องเขตแดนได้นั้น คณะทำงานพร้อมที่จะรับฟังข้อเสนอแนะและจะนำทุกความเห็นไปพิจารณาต่อสู้ แต่รายละเอียดคงไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะหากข้อมูลถูกเปิดเผยและฝ่ายตรงข้ามรู้ จะไม่เป็นประโยชน์ในการต่อสู้คดี และไม่จำเป็นต้องเจรจาไกล่เกลี่ยกับกัมพูชา เนื่องจากเรื่องได้ขึ้นสู่การพิจารณาของศาลแล้ว ดังนั้นแต่ละฝ่ายต่างต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด