เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เสนอให้รัฐบาลกำหนด 3 ประเด็นที่จะไม่แก้ไขในรัฐธรรมนูญ ได้แก่พระมหากษัตริย์ หมวดศาลและองค์กรอิสระ และลบล้างคดีความ ว่านายอภิสิทธิ์ใจร้อนเกินไป 1.ยังไม่มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เลย 2.ได้ ส.ส.ร.มาแล้วเขาก็จะคิดอย่างไรก็ยังไม่รู้ 3.ถ้า ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้งแล้วนักการเมืองจะไปเสนออะไรได้ เราต้องให้เกียรติกับ ส.ส.ร. ถ้ายกร่างไม่ดีประชาชนก็ลงประชามติไม่รับเอง

เมื่อถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะทำให้สถานการณ์การเมืองวุ่นวายหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า พูดยากยังไกลไป ถ้าพูดได้ก็เป็นพหูสูต ต้องดูว่า ส.ส.ร.และประชาชนคิดอย่างไร ยืนยันไม่มีรัฐบาลไหนอยากให้เกิดความวุ่นวาย ใครจะมาชุมนุมเชิญเลย จะไม่มีใครบาดเจ็บล้มตาย ที่กลุ่มสยามสามัคคีจะชุมนุมค้านแก้รัฐธรรมนูญที่สวนลุมพินี เย็นวันที่ 2 มี.ค.นี้ ตนบอกตำรวจไปแล้วอย่าไปยุ่ง คนจะไปชุมนุมโดยสงบ จะไปทุบตีไม่ได้ บ่ายวันนี้ตนจะเชิญ ผบช.น.มาทำความเข้าใจ ส่วนผู้ชุมนุมขอร้องอย่ายืดเยื้อ อย่าปิดถนน เพราะทำเช่นนี้ประชาชนจะสาปส่ง

“ถ้าตำรวจไม่เอาด้วยก็จบ ยิ่งไปทำอะไรจะยิ่งเป็นการเรียกแขก ในฐานะที่เล่นการเมืองมานาน เห็นว่ายังไม่มีเหตุชุมนุมเลย เชื่อว่าประชาชนยังไม่เอาด้วย เรื่องม็อบไม่ใช่สร้างง่ายๆ เว้นแต่บางครั้งประชาชนเข้าใจผิด อย่างตนยังเคยถูกกล่าวหาว่าไปร่วมลอบปลงพระชนม์ เมืองไทยเวลากล่าวหากันน่ากลัว แต่ธรรมย่อมชนะอธรรม เวลานี้บ้านเมืองยังสงบอย่าไปคิดทำอะไรไม่ดี” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

ส่วนความคืบหน้าในการเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองเพื่อนิรโทษกรรมให้กับทุกฝ่าย ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เขียนเสร็จแล้วแต่ยังไม่ถึงเวลา ขนาดภรรยายังไม่ให้ดู ทั้ง 6 ข้อ ตนเขียนเอง เก็บไว้ในตู้เซฟ ช่วงเวลาเสนอต้องทำประโยชน์ให้ประชาชนก่อน ยืนยันว่าถ้าร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่าน ทุกภาคส่วนจะได้ประโยชน์หมด ทุกอย่างจะย้อนกลับไปวันที่ 18 ก.ย.2549 ทั้งนี้ ไม่แน่ใจว่าจะเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวให้สภาพิจารณาได้ในปีนี้หรือไม่ มั่นใจแค่ 50:50 ส่วนจะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับประเทศได้หรือไม่ ตนยังไม่บอก เดี๋ยวถึงเวลาจะไม่ตื่นเต้น

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ความเห็นส่วนตัวในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ควรจะแก้ไขทั้งฉบับ และควรต้องคงไว้ในหมวดของสถาบันพระมหากษัตริย์ ส่วนในเรื่องอื่นๆ นั้นต้องอยู่ที่กระบวนการของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) จะทำหน้าที่พิจารณา

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อกรณีการยกเลิกองค์กรอิสระ แต่รับทราบว่าพรรคเพื่อไทยได้มีมติในการรณรงค์ไม่ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวดของสถาบันพระมหากษัตริย์

ส่วนที่จะมีการเพิ่มจำนวน ส.ส.ร.เป็น 150 คน หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คงต้องเป็นหน้าที่ของสภาที่จะพิจารณา

สำหรับการเรียกประชุม ครม.ชุดเล็กเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นการเชิญรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจมารับทราบ และเห็นชอบต่อ พ.ร.ก.กู้เงินทั้ง 2 ฉบับที่ผ่านการวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญแล้ว เพื่อเตรียมจะนำเข้าเสนอให้สภาพิจารณาในการประชุมช่วงบ่ายวันนี้