ข่าว
ทรัมป์เปิดทำเนียบขาวรับ 5 ผู้นำเอเชียกลาง ถกประเด็น ‘แร่หายาก’...

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ว่าการพบปะระหว่างผู้นำสหรัฐกับผู้นำคาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ทาจิกิสถาน เติร์กเมนิสถาน และอุซเบกิสถาน เมื่อวันพฤหัสบดี (6 พ.ย.) เกิดขึ้นในขณะที่รัฐบาลวอชิงตัน พยายามขยายอิทธิพลในภูมิภาคที่อุดมด้วยทรัพยากร ซึ่งถูกครอบงำโดยรัสเซียมายาวนาน และถูกจีนเข้ามาเกื้อหนุนมากขึ้นเรื่อย ๆ...

ทรัมป์เรียกเอเชียกลางว่า “ภูมิภาคที่มั่งคั่งอย่างยิ่ง” และย้ำว่า สหรัฐต้องการทำให้ความร่วมมือระหว่างอเมริกากับ 5 ประเทศเหล่านี้ “แข็งแกร่งยิ่งขึ้น”

ทรัมป์กล่าวว่า หนึ่งในประเด็นสำคัญในวาระการประชุม คือ “แร่ธาตุสำคัญ” และระบุว่า ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลวอชิงตันเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ด้วยการทำข้อตกลงกับพันธมิตร และมิตรสหายทั่วโลก เพื่อขยายห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุสำคัญ...

การเจรจาครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการแข่งขัน เพื่อแย่งชิงความมั่งคั่งทางแร่ธาตุอันมหาศาลของเอเชียกลาง ซึ่งรวมถึงแร่ยูเรเนียม ทองแดง ทองคำ และแร่ธาตุหายาก ในขณะที่ประเทศตะวันตกกำลังขยายห่วงโซ่อุปทานออกจากรัสเซียและจีน

นอกจากนี้ ทรัมป์เขียนผ่านแพลตฟอร์มทรูธ โซเชียล ว่า อุซเบกิสถานวางแผนที่จะซื้อและลงทุนกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.2 ล้านล้านบาท) ในภาคส่วนสำคัญของสหรัฐ ในช่วงทศวรรษหน้า ซึ่งรวมถึงแร่ธาตุสำคัญ ชิ้นส่วนยานยนต์ และการบิน

อนึ่ง การประชุมสุดยอด “ซี5+1” ซึ่งเปิดตัวเมื่อปี 2558 เป็นกรอบการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสหรัฐกับ 5 ประเทศในเอเชียกลาง เพื่อผลักดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ พลังงาน และความมั่นคง....

เครดิตภาพ : AFP... สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/5279909/

ถวายพระราชกุศล

ถวายพระราชกุศล…บริษัท LAX-C International โดย เอนก พลอยแสงงาม และครอบครัว เป็นเจ้าภาพพิธีสวดพระอภิธรรมอุทิศถวายพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อวันพุธที่ 5 พฤศจิกายน 2568 เวลา 18.00 น. บนพระอุโบสถวัดไทยลอส แองเจลิส ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ มีผู้นำชุมชนและพสกนิกรไทยเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัณรสมวาร (15 วัน) ถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 เวลา 17.19 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัณรสมวาร (15 วัน) ถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง

ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร และเจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี โดยเสด็จในการนี้ด้วย

ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี

สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ และท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง

เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงวางพวงมาลาที่หน้าพระโกศพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เจ้าพนักงานประโคมสังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่กลองชนะ ปี่พาทย์ ทหารกองเกียรติยศพระบรมศพถวายความเคารพ ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะทองลงยาราชาวดี และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะทองลงยารอง และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย

ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพานทองสองชั้นบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร ที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงกราบ แล้วประทับพระราชอาสน์ พระสงฆ์ 30 รูป สวดพระพุทธมนต์ จบแล้ว ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนดูหนังสือเทศน์พระราชทานแก่เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญไปปักที่โต๊ะข้างธรรมาสน์ ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยที่หน้าพระโกศ สำหรับพระบรมศพทรงธรรม ทรงศีล พระพรหมวชิรรังษี เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ถวายศีลและถวายพระธรรมเทศนา เรื่อง “ปิยกรณธรรมกถา” จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องบูชากระบะมุกที่หน้าพระแท่นมุก พระสงฆ์ 5 รูป สวดธรรมคาถา

จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ ทรงทอดผ้าไตรถวายพระสงฆ์ที่ถวายพระธรรมเทศนา และพระสงฆ์ที่สวดธรรมคาถา พระสงฆ์สดับปกรณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการหน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าพระโกศพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องบูชากระบะมุกที่หน้าพระแท่นเตียงพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมด้านตะวันออก และด้านตะวันตก ณ มุขเหนือพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท จากนั้น เสด็จลงจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินกลับ


งานบุญใหญ่ประจำปี

งานบุญใหญ่ประจำปี…งานบุญทอดผ้าพระกฐินประทาน สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน 2568 ที่ วัดพระธาตุดอยสุเทพยูเอสเอ เมืองชิโนฮิลส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยมี พงษ์เดช-รุจา ตุลาภรณ์ เป็นประธานทอดผ้าพระกฐินประทาน ตรีรัตน์ เอี่ยมอุไรรัตน์ เป็นประธานทอดผ้าป่าบริวารผ้าพระกฐิน ได้รับเกียรติจากกงสุลใหญ่ ณ นครลอส แอนเจลิส และภริยา ต่อ-สิริกมล ศรลัมพ์ มาเป็นประธานในพิธีฝ่ายฆราวาส พระครูวิเทศกัลยาณธรรม เจ้าอาวาส เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ มีผู้นำชุมชนและสาธุชนสายบุญ มาร่วมงานบุญใหญ่ประจำปีกันอย่างพร้อมเพรียง

พายุคัลแมกีถล่มเวียดนาม ลมแรงฝนหนัก ดับแล้ว 2 ศพ อพยพหนีกว่า 5 แสนคน

เวียดนามโดนไต้ฝุ่นคัลแมกีถล่ม เจอลมกระโชกแรงและฝนตกหนักต่อเนื่อง ต้นไม้โค่นล้ม อาคารบ้านเรือนเสียหายหลายจุด ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ศพ

สื่อของรัฐเวียดนามรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 2 คน ในจังหวัดซายลายและ ดั๊กลัก ขณะที่เจ้าหน้าที่ต้องเร่ง อพยพประชาชนมากกว่า 537,000 คน ออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย โดยบางหมู่บ้านต้องใช้เรือช่วยเคลื่อนย้ายประชาชนหนีน้ำท่วม หลังฝนตกหนักต่อเนื่องจนระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

พื้นที่ตอนกลางของเวียดนามหลายแห่งได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักเป็นสถิติใหม่ตั้งแต่ก่อนพายุจะขึ้นฝั่งอยู่แล้ว ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยคาดว่าไต้ฝุ่นคัลแมกีจะเทฝนเพิ่มอีกกว่า 60 เซนติเมตร ในบางพื้นที่ในช่วงสุดสัปดาห์นี้

กระทรวงสิ่งแวดล้อมเวียดนามระบุว่า คัลแมกีถือเป็นพายุหมุนเขตร้อนที่รุนแรงผิดปกติสำหรับเดือนพฤศจิกายน โดยมีความเร็วลมเฉลี่ยถึง 183 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และลมกระโชกสูงสุดถึง 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะเคลื่อนผ่านทะเลจีนใต้เข้าสู่แผ่นดิน

คลื่นสูงกว่า 3 เมตร ซัดเข้าชายฝั่งในเมืองท่องเที่ยว ดานังและสร้างความเสียหายในจังหวัด ดั๊กลัก ที่มีต้นไม้ใหญ่หักโค่นจำนวนมาก ขณะที่เมืองชายฝั่ง กวีเญินมีรายงาน ไฟฟ้าดับหลายชั่วโมง หลังพายุพัดถล่มอย่างหนักตลอดคืน

นักอุตุนิยมวิทยาชี้ว่า การเกิดไต้ฝุ่นคัลเมกีที่มีความรุนแรงระดับนี้ในช่วงปลายปี ถือเป็นสัญญาณของ ความผิดปกติทางสภาพภูมิอากาศ จากอุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก ซึ่งอาจทำให้พายุในภูมิภาคนี้เกิดบ่อยและรุนแรงขึ้นในอนาคต.

ที่มา : Channelnewsasia