ข่าว
มลภาวะทำพิษกบกลายพันธุ์ตัวใสเห็นถึงเครื่องใน

เว็บไซต์ข่าวอังกฤษ “เดลิเมล”รายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ว่า นักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียค้นพบกบกลายพันธุ์กว่า 60 ชนิดใกล้เมืองครัสนัวรัลสค์ ในเขตทยูเมน ออบลาสต์ ทางตอนกลางของประเทศ โดยหนึ่งในกบที่พบมีลักษณะร่างกายโปร่งใสจนเห็นกระดูก อวัยวะภายในหรือแม้แต่หัวใจของมันที่กำลังเต้นอยู่ ขณะที่กบตัวอื่นๆก็พบมีอวัยวะเช่นนิ้วเท้าเกินออกมาหรือการเติบโตช่วงหัวไหล่ผิดปกติไป

ดร.วลาดิเมียร์ เวอร์ชินิน หัวหน้าภาควิชาสัตววิทยาของสถาบันวิทยาศาสตร์ธรรมชาติแห่งมหาวิทยาลัยอูรัลเฟดเดอรัล ดิสทริคต์ กล่าวว่า กบพันธุ์โปร่งใสที่พบเป็นเพราะกระบวนการย้อมสีของมันผิดปกติ ดวงตาของมันดำสนิท และลำตัวโปร่งใสจนสามารถมองเห็นอวัยวะภายในบริเวณลำตัวได้ นักวิจัยคาดว่า สาเหตุที่พวกมันกลายพันธุ์เป็นเพราะสิ่งแวดล้อมที่เป็นมลพิษในบริเวณนั้น เนื่องจากไข่ของกบไม่ได้มีเยื่อบุผิวที่จะสามารถปกป้องตนเองจากการแทรกซึมของสารพิษได้

ดร. เวอร์ชินินกล่าวต่อไปว่า สารเคมีร้ายแรงในบริเวณดังกล่าวรั่วไหลออกจากถังเก็บจนกลายเป็นทะเลสาบสีส้มซึ่งคาดว่าจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ อีกสาเหตุที่พอจะเป็นไปได้คือ ตัวอ่อนของปรสิตอาจเจาะเข้าไปในไข่กบและส่งผลต่อลูกกบที่เกิดออกมา ทั้งนี้ ในเขตดังกล่าวเคยเป็นเขตที่มีการทำเหมืองเป็นจำนวนมากเพราะมีการค้นพบแร่มีค่าเช่น ทอง เหล็ก ทองแดง แพลตินัมและถ่านหิน แต่ปัจจุบันหลายโรงงานถูกทิ้งร้าง

วีระ สมความคิด ซัด สุเทพ คำพูดเชื่อถือไม่ได้ ไม่ขอรับประชาธิปไตยจากทหาร

วันนี้ (25 มิ.ย.) นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ได้โพสต์ความเห็นลงเฟซบุ๊ก “Veera Somkwamkid”กรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อีดตแกนนำ กปปส.เฟสบุ๊กไลฟ์ นำเสนอข้อดีของรัฐธรรมนูญ และประกาศรัฐร่างรัฐธรรมนูญ นายวีระ ระบุว่า “นี่แหละสันดานนักการเมือง คำพูดเชื่อถือไม่ได้ ทำอะไรก็ตามจะคำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องก่อน ผลประโยชน์ของชาติและประชาชนมาทีหลัง คุณสุเทพไม่ใช่หรือที่เผลอไปเปิดเผยอย่างหมดเปลือกในงานเลี้ยงแห่งหนึ่งด้วยความคึกคนองและลิงโลดใจ ว่า การรัฐประหารที่เกิดขึ้นมีการวางแผนโดยตนก็มีส่วนรู้เห็นด้วย” ข้ออ้างที่สำคัญของ คสช.คือบอกว่าต้องการเข้ามาเพื่อปฏิรูปประเทศ และต้องการหยุดยั้งการออกมาไล่ล่าฆ่ากันของกลุ่มเหลืองและแดง ความจริงถ้าจะหยุดยั้งความรุนแรงที่อาจนำไปสู่สงครามกลางเมือง ทหารใช้เพียงกฎอัยการศึกทั้งประเทศและเข้ามาควบคุมความสงบ ทำการปลดอาวุธทั้งสองฝ่าย และยังสามารถใช้อำนาจตามกฎอัยการศึกขอให้รัฐบาลลาออก(บีบ) เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยไม่จำเป็นต้องไปฉีกรัฐธรรมนูญเลย “เมื่อฉีกรัฐธรรมนูญก็ต้องมาเสียเงินเสียเวลาร่างกันใหม่ แล้วจะมาบังคับให้ประชาชนที่เขาไม่ได้เป็นคนฉีกรัฐธรรมนูญต้องมายอมรับรัฐธรรมนูญ ซึ่งคนฉีกรัฐธรรมนูญเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังการร่างทั้งหมด ใครที่ไม่เห็นด้วยก็ถูกคุกคามข่มขู่ นี่คือประชาธิปไตยที่ทหารยัดเยียดให้ ทุกวันมีแต่ทวงบุญคุณกับประชาชน ทั้งที่มีแต่สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติและประชาชน 2 ปีที่ผ่านมามันได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรที่ดีขึ้นในส่วนของนักการเมือง ไม่ต้องไปพูดถึงการปฏิรูปประเทศในทุกๆเรื่อง เสียของ เสียโอกาสของประเทศในการแข่งขันกับนานาประเทศ เศรษฐกิจวิบัติย่อยยับ” นายวีระระบุ


ตร.บุกจับ"บรรยิน"คารีสอร์ต โดยมี"น้องป้อนข้าว"อยู่ด้วย

เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 28 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบควบคุมตัวพ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรมช.พาณิชย์ ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์ อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่นเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ มาสอบปากคำที่กองปราบ พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1บก.ป. นำกำลังตำรวจพร้อมหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง จ 401/59 ลงวันที่ 27 มิ.ย. จับกุมพ.ต.ท.บรรยินได้ที่รีสอร์ททาวน์ สแคว สวีทที่เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ขณะอยู่กับ น.ส.อุรชา หรือน้องป้อนข้าว วชิรกุลฑล สาวโบรกเกอร์คนสนิท การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากชุดคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ กระทั่งศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าควรพิจารณาออกหมายจับ พ.ต.ท.บรรยิน ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์ อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่นเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้


นักบิน-นกเงือก-อ.จุฬาฯ ประเทศคนบ้าหรืออภิสิทธิ์ชนจิตหลุด

เข้มข้นและคึกคักเสียเหลือเกิน หากประเมินข่าวเด่นที่สังคมเทความสนใจให้ในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มนักบิน ‘เม้าธ์’ อดีตนายก พร้อมแซวให้เครื่องบินโหม่งโลกจนเป็นที่ฮือฮา ตามมาด้วยนกเงือกลึกลับที่ปรากฏบนภาพถ่ายคู่เคียงมหาเศรษฐี วิกรม กรมดิษฐ์ ซึ่งกลุ่มคนรักสิ่งแวดล้อมออกมาจี้ให้ภาครัฐตรวจสอบที่มาที่ไป ไหนจะเพลง 7 สิงหาประชามติ ที่ถูกตั้งคำถามว่า ดูถูกชาวบ้านเกินไปหรือเปล่า ? ปิดท้ายด้วยเฟซบุ๊กอาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬา ฯ ที่โพสต์ข้อความติติงหน้าตาเฟรชชี่อย่าง เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล ว่า “จะทำให้อัตลักษณ์ของชาวจุฬาฯเป็นที่เคลือบเเคลงต่อสาธารณชน” ทั้งหมดนี้ ทำให้สังคมลุกขึ้นมาตั้งคำถามว่า เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ? เริ่มจาก ศิโรฒน์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการอิสระ ที่ ‘จัดเต็ม’ พร้อมบทวิเคราะห์เสร็จสรรพ โดยเชื่อมโยงกับประเด็น “ชนชั้น” และสถานะทางสังคมที่ผูกเงื่อนปมอภิสิทธิ์ชน ข้อความมีดังนี้ นักบินนกแอร์เรียกอดีตนายกเป็น “เหยื่อ”, มหาเศรษฐีอ้างสัตว์ที่กฎหมายคุ้มครองนั้นมาอยู่กับตัวเองเฉยๆ และล่าสุดอาจารย์จุฬาโพสท์รังเกียจหนังหน้าเนติวิทย์ สามเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องดราม่า แต่สามเรื่องนี้สะท้อนวัฒนธรรมเหยียดคนและอภิสิทธิ์ชนของชนชั้นอภิสิทธิ์จน ถึงขีดสุด เพราะทั้งนักบิน/มหาเศรษฐี/อาจารย์จุฬา มีปัญหากับการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบของสังคมหมด นักบินเอาการเมืองไปเล่นผู้โดยสารกรณียิ่งลักษณ์, มหาเศรษฐีเลี้ยงนกที่กฎหมายให้เลี้ยงไม่ได้ ส่วนอาจารย์จุฬาก็เอาการเมืองไปเล่นนักศึกษาร่วมสถาบัน นักบิน/มหาเศรษฐี/อาจารย์จุฬา เข้าใจว่าอาชีพตัวเองทำให้ตัวเองมีสถานะสูงกว่าคนกลุ่มอื่น นักบินไม่เข้าใจตัวเองเป็นลูกจ้างบริษัทขายบริการการบิน มหาเศรษฐีไม่เข้าใจว่าตัวเองเป็นคนพัฒนาที่ทำโรงงานเท่านั้น ส่วนจุฬาไม่เข้าใจว่าตัวเองเป็นแค่ลูกจ้างสอนหนังสือของมหาวิทยาลัย แต่นอกกรอบอาชีพแล้ว พวกคุณไม่ได้ใหญ่กว่าคนธรรมดา คุณไม่ได้อยู่เหนือกฎหมาย และคุณไม่ได้เหนือประชาชน ทำไมอภิสิทธิ์ชนจึงแสดงอาการจิตหลุดแบบนี้ คำตอบคือชนชั้นและการเหยียดหยามทางชนชั้นในสังคมไทยไม่เคยจบ การพยายามยกตัวเองและกดคนอื่นไม่เคยหยุดยิ่ง ประชามติรัฐธรรมนูญกำลังสร้างแรงกระเพื่อมในสังคมแบบที่อภิสิทธิ์ชนรับไม่ ได้ และการคุกคามระดับปลีกย่อยที่เกิดกับยิ่งลักษณ์ถึงเนติวิทย์เป็นการแสดงออก ของความพร้อมในการปิดล้อมอีกฝ่ายโดยกลุ่มปลายแถวของชนชั้นอภิสิทธิ์ที่ดันคิดว่าตัวเองเป็นอภิสิทธิ์ชนไปเอง


หนุ่มยุ่นเบื่อมนุษย์หน้าเงิน! นอกใจเมียอยู่กิน"ตุ๊กตายาง"

เว็บไซต์ข่าวอังกฤษ “เดลิเมล”รายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ว่า นายเซนจิ นากาจิมา หนุ่มใหญ่ชาวญี่ปุ่นวัย 61 ปี ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่เมืองนากาโนะ นอกใจภรรยาที่ไม่ได้รับการระบุชื่อ ทั้งที่มีลูกด้วยกันแล้วสองคน มาอยู่กินกับ “ซาโอริ”ตุ๊กตายางสาวสวยที่เขาซื้อมาเมื่อหกปีก่อน โดยเปิดตัวอยู่กินกันฉันสามีภรรยา โดยเขาได้พาเธอไปช้อปปิ้งซื้อเสื้อผ้าราคาแพงจำนวนมาก

นายเซนจิเผยว่า เขาซื้อซาโอริมาเมื่อหกปีก่อน ตอนที่ต้องย้ายมาทำงาน และอาศัยอยู่คนเดียวในอพาร์ทเม้นต์กรุงโตเกียว ตอนแรกซาโอริเป็นเพียงตุ๊กตาเพื่อสนองความต้องการทางเพศสำหรับเขา แต่เมื่ออยู่กับเธอไปเรื่อยๆ ความสัมพันธ์แบบโรแมนติกของทั้งสอง ก็เริ่มพัฒนาขึ้น เขากล่าวว่า เขาเริ่มค้นพบบุคลิกภาพที่แท้จริงของซาโอริ และเธอไม่เคยทรยศเขา ไม่หน้าเงิน เขาเหนื่อยเหลือเกินแล้วกับความเป็นเหตุเป็นผลในสมัยนี้ มนุษย์ไร้หัวใจเอามากๆ

นายเซนจิปฏิบัติกับซาโอริเหมือนเป็นมนุษย์คนหนึ่ง เขาจะเลือกชุดให้เธอใส่ จับเธอนั่งเก้าอี้รถเข็นแล้วพาไปเดินเล่นในที่ต่างๆ พร้อมเผยว่า เธอต้องการความช่วยเหลือมากเพราะต้องคอยอาบน้ำและแต่งตัวให้ แต่ก็เป็นคู่ชีวิตที่สมบูรณ์แบบซึ่งมาแบ่งปันช่วงเวลาอันมีค่าและทำให้ชีวิตของเขามีคุณค่ามากขึ้น


ตุรกีเชื่อไอเอสอยู่เบื้องหลังบึ้มสนามบินอิสตันบูล

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ว่าประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกัน ผู้นำตุรกี ร่วมพิธียืนสงบนิ่งที่ศูนย์ราชการในกรุงอังการา เมื่อวันพุธ เพื่อไว้อาลัยให้แก่ผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 42 ศพ จากเหตุกราดยิงและระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีท่าอากาศยานนานาชาติอตาเติร์ก ในนครอิสตันบูล เมื่อวันอังคาร พร้อมทั้งประกาศกร้าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็น "จุดเปลี่ยน" ของประชาคมโลกในการทำสงครามต่อต้านกลุ่มก่อการร้าย โดยยังไม่กล่าวอย่างเจาะจงว่ากลุ่มใดน่าจะอยู่เบื้องหลัง ในขณะที่ยังไม่มีกลุ่มก่อการร้ายรายใดออกมารับสมอ้างเป็นผู้ก่อเหตุ

ด้านนายกรัฐมนตรีบินาลี ยิลดิริม กล่าวถึงจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บว่า ยังคงเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลอีก 128 คน โดยมีชาวต่างชาติทั้งชาวซาอุดีอาระเบีย อัฟกานิสถาน ปากีสถาน ยูเครน อุซเบกิสถาน และสวิตเซอร์แลนด์รวมอยู่ด้วย ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นชาวตุรกี แต่มีชาวต่างชาติรวมอยู่ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ คนร้ายมีทั้งหมด 3 คน และเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นสมาชิกกลุ่มไอเอส กราดยิงบริเวณจุดตรวจความปลอดภัย ก่อนแยกกันไปจุดชนวนระเบิดฆ่าตัวตายที่อาคารผู้โดยสารขาออก อาคารผู้โดยสารขาเข้า และด้านนอกสนามบิน

เหตุก่อการร้ายที่สนามบินในนครอิสตันบูลซึ่งได้ชื่อว่าเป็น "ประตู" เชื่อมระหว่างยุโรปกับเอเชีย จากการเป็นสนามบินที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของยุโรป ถือเป็นการก่อการร้ายครั้งที่ 6 ของตุรกีแล้วในปีนี้ โดยส่วนใหญ่พุ่งเป้าโจมตีกรุงอังการาและนครอิสตันบูล ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจของตุรกีที่กำลังย่ำแย่อย่างหนัก แม้สนามบินกลับมาให้บริการภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ แต่เตอร์กิช แอร์ไลน์ส ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติ ยกเลิกเที่ยวบินแล้วมากกว่า 350 เที่ยว

ขณะที่นายจอห์น เบรนแนน ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางของสหรัฐ ( ซีไอเอ ) กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่าคือสัญญาณบ่งชี้ "มาตรฐานในการทำลายล้าง" ของกลุ่มไอเอส ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายไม่สามารถชะล่าใจได้อีกต่อไป และกล่าวเรียกร้องให้รัสเซียเพิ่มความร่วมมือในการคลี่คลายวิกฤตการณ์ในซีเรีย

อ้างตนเป็นพระสงฆ์ สวมชุดคล้ายพระ เดินเรี่ยไรเงินในไทมสแควร์

สำนักข่าวเอบีซี 7 นิวยอร์ค รายงานเผยแพร่ภาพ ชายแต่งกายด้วยเครื่องนุ่มห่มสีเหลืองคล้ายจีวร คล้องลูกประคำ อ้างตัวเป็นพระสงฆ์ กำลังเดินเรี่ยไรขอสนับสนุนเงินบริจาค บริเวณย่านไทมสแควร์ ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งกลุ่มชายเหล่านี้อ้างว่าจะนำบริจาคมาช่วยสร้างวัดในประเทศไทย หลังจากนั้น ได้มีการสอบถามไปยัง ทีเค นาคากาคิ ประธานสมาคมพุทธในนิวยอร์ก กล่าวว่า กำลังเป็นปัญหาที่ลุกลาม เนื่องจากผู้ที่อ้างตนเป็นพระสงฆ์เกือบ 30 คน มักจะมาเรี่ยไรเงินผู้คนในนิวยอร์ก ทั้งยังใช้ภาพที่อ้างว่าจะมาช่วยวัดต่าง ๆ รวมถึงเรียกร้องเงิน 10-20 ดอลลาร์ สมาคมพุทธในนิวยอร์กได้พยายามติดป้ายแจ้งเตือนไปตามท้องถนนในจุดที่มีนักท่องเที่ยวในนิวยอร์กซิตี้ รวมถึงช่องทางบนโลกออนไลน์ ให้ระมัดระวังผู้อ้างตนเหล่านี้ เพราะกลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอันใดกับวัดพุทธในนิวยอร์ก ผู้ที่อ้างตนเป็นพระสงฆ์เหล่านี้ ปฏิเสธจะให้ข้อมูลวัดที่จะนำเงินไปช่วยบริจาค และไม่ยอมบอกชื่อแก่ผู้สื่อข่าวที่เข้าไปสอบถาม