ข่าว
โควิดโลกป่วยทะลุ 51.8 ล. สหรัฐฯติดวันเดียว 2 แสน มองโกเลียพบคนแรกในปท.

ยอดคนติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกป่วยกว่า 51.8 ล้าน ตายกว่า 1.2 ล้าน “สหรัฐ”ยังหนักติดเชื้อทะลุ 10.4 ล้านวันเดียวป่วยใหม่ทะลุ 2 แสน ขณะที่ “วานูอาตู”สุดต้าน พบติดโควิดคนแรกกลับจากสหรัฐฯ เป็นประเทศที่ 3 ในกลุ่มปท.แถบมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ที่พบคนติดเชื้อ ส่วนมองโกเลียพบติดเชื้อในปท.รายแรก หลังที่ผ่านมาพบแต่คนเดินทางมาจากต่างประเทศ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ยังไม่มีทีท่าจะลดระดับความรุนแรงลง ตรงข้ามกลับมีการระบาดลามไปอีกหลายประเทศที่ยังไม่เคยพบผู้ติดเชื้อมานาน เริ่มพบผู้ติดเชื้อครั้งแรก โดยศูนย์ข้อมูลโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาแห่งมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์ ที่เมืองบัลติมอร์ ในรัฐแมริแลนด์ รายงานสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯรอบ 24 ชั่วโมง โดยยืนยันมีผู้ติดเชื้อใหม่ 201,961 คน เป็นสถิติสูงสุดครั้งใหม่ และเป็นครั้งแรกตั้งแต่มีการแพร่ระบาดเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ที่สหรัฐยืนยันผู้ป่วยมากกว่า 200,000 คนภายในวันเดียว

ทั้งนี้ สถิติดังกล่าวเพิ่มจำนวนของผู้ป่วยโควิด-19 เฉพาะในสหรัฐเป็นอย่างน้อย 10,238,243 คน โดยรัฐเท็กซัสเป็นรัฐที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดในประเทศ 1,030,227 ราย ขณะที่รัฐแคลิฟอร์เนียตามมาเป็นที่ 2 มีจำนวนผู้ติดเชื้อ 983,371 ราย ส่วนรัฐฟลอริดามีผู้ติดเชื้อ 847,821 ราย และรัฐนิวยอร์กมีผู้ติดเชื้อ 569,378 ราย อย่างไรก็ดี รัฐนิวยอร์กมีผู้เสียชีวิตสูงสุดในสหรัฐฯ 33,853 ราย

ขณะที่วันเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขของวานูอาตูออกแถลงการณ์ยืนยันผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 คนแรกของประเทศ เป็นพลเมืองอายุ 23 ปี เดินทางกลับจากสหรัฐฯและเปลี่ยนเครื่องบินที่ท่าอากาศยานนานาชาติออกแลนด์ ในนิวซีแลนด์เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ผลตรวจยืนยันว่าติดเชื้อ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งเข้าสัปดาห์ที่สองของการเฝ้าระวังในสถานกักตัวของรัฐ โดยผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการ ทั้งนี้ ถือได้ว่า วานูอาตูเป็นประเทศที่ 3 ในกลุ่มหมู่เกาะมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ซึ่งพบผู้ติดเชื้อ โดยหมู่เกาะโซโลมอน เป็นประเทศแรกที่พบผู้ป่วยเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เป็นพลเมืองซึ่งเดินทางกลับจากฟิลิปปินส์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประเทศหมู่เกาะตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิกพร้อมใจปิดพรมแดนเพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่เดือนมีนาคม แม้ต้องแลกด้วยผลกระทบทางเศรษฐกิจใหญ่หลวง เนื่องจากพึ่งพาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นแหล่งรายได้หลัก ปัจจุบันในภูมิภาคนี้เหลือประเทศคิริบาตีหรือคิริบาส ไมโครนีเซีย นาอูรู ปาเลา ซามัว ตองกา และตูวาลู ที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ

เช่นเดียวกับ รัฐมนตรีสาธารณสุขมองโกเลีย แถลงว่า พบผู้ติดเชื้อในประเทศคนแรก เป็นหญิงสาวที่ติดเชื้อจากสามี ซึ่งเป็นคนขับรถบรรทุกสินค้าจากรัสเซีย สามีตรวจพบเชื้อหลังจากกักโรค 21 วัน ทำให้ทางการกักโรค 24 คนที่ใกล้ชิดสามีภรรยาคู่นี้แล้ว พร้อมสั่งปิดกรุงอูลานบาตอร์ 3 วัน และขอให้ผู้ที่ไปชมคอนเสิร์ตรอบเดียวกับสามีภรรยาคู่นี้ไปรับการตรวจหาเชื้อด้วย ขณะนี้มองโกเลียมีผู้ป่วยสะสม 376 คน ทั้งหมดเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ และยังไม่มีผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ มองโกเลียมีพรมแดนทางเหนือติดรัสเซีย ทางใต้ติดจีน และปิดพรมแดนด้านจีน ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม เพราะเกรงว่าจะไม่สามารถรับมือกับการติดเชื้อครั้งใหญ่ได้

นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะของญี่ปุ่นยืนยันจะจัดหาวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ให้เพียงพอสำหรับคนทั้งประเทศให้ได้ในครึ่งปีแรกของปี 2021 หลังบริษัทยาสหรัฐเผยว่าผลทดลองวัคซีนระยะสุดท้ายให้ผลกว่าร้อยละ 90 โดยนายซูงะแถลงต่อสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนว่า จะเดินหน้าเจรจากับบริษัททั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าญี่ปุ่นจะซื้อได้เพียงพอ ขณะเดียวกันจะอนุมัติวัคซีนที่อ้างอิงความรู้ทางวิทยาศาสตร์ล่าสุด เน้นเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพเป็นอันดับแรก

ทั้งนี้ เว็บไซต์สำนักข่าวเกียวโดนิวส์รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นทำข้อตกลงซื้อวัคซีนจากไฟเซอร์ บริษัทยาสหรัฐและแอสตราเซนเนกา บริษัทอังกฤษรายละ 120 ล้านโดสหากพัฒนาสำเร็จ และอีก 50 ล้านโดสจากโมเดอร์นา บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพสหรัฐ เพื่อให้เพียงพอฉีดให้ประชาชนทั้งประเทศกว่า 120 ล้านคนจำนวนคนละ 2 โดส

ส่วนสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงระบาดต่อเนื่อง มีรายงานเมื่อวันพุธตามวันเวลาในไทยระบุ เชื้อไวรัสลุกลามไปแล้ว 217 ประเทศ ส่งผลให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้น 51,902,313 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1,281,161 ราย และผู้ป่วยที่รักษาจนหายสะสม 36,452,587 ราย

โดยสหรัฐอเมริกายังคงเป็นประเทศอันดับ 1 ที่มีผู้ป่วยสะสมสูงสุด 10,568,174 ราย มีผู้เสียชีวิตสูงสุด 245,943 ราย อันดับ 2 อินเดีย มีผู้ป่วยสะสม 8,636,011 ราย เสียชีวิต 127,615 ราย อันดับ 3 บราซิล มีผู้ป่วยสะสม 5,701,283 ราย เสียชีวิต 162,842 ราย อันดับ 4 รัสเซีย มีผู้ป่วยสะสม 1,836,960 ราย เสียชีวิต 32,025 ราย และอันดับ 5 ฝรั่งเศส มีผู้ป่วยสะสม 1,829,659 ราย เสียชีวิต 42,207 ราย ขณะที่ไทยอยู่ในอันดับที่ 149

เยอรมนียืนยันอย่างเป็นทางการ ไม่พบหลักฐานกษัตริย์ไทยทรงละเมิดกฎหมาย

12 พ.ย. 63 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า สำนักข่าว DPA ของเยอรมันเผยโดยอ้างคำแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศของเยอรมนีโดยกระทรวงการต่างประเทศแถลงการณ์เป็นลายลักษณ์อักษรอย่างเป็นทางการว่า "รัฐบาลเยอรมันไม่มีหลักฐานที่เชื่อถือได้ว่ากษัตริย์ไทยทรงกระทำผิดกฎหมายระหว่างประทับอยู่ในเยอรมนี"

เอกสารชี้แจงของกระทรวงต่างประเทศ ระบุด้วยว่า ทางกระทรวงเชื่อว่า "พระมหากษัตริย์ของไทยไม่ได้ทรงตัดสินพระราชหฤทัยที่เป็นการแทรกแซงระบบกฎหมายของเยอรมนี กฎหมายระหว่างประเทศ หรือ หลักสิทธิมนุษยชนที่ได้รับการรับรองระหว่างประเทศ ขณะทรงประทับอยู่บนแผ่นดินเยอรมนี"

หลังจากที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลเยอรมัน เคยออกมาเผยว่า ไม่พบหลักฐานว่าพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงบริหารราชแผ่นดินไทยที่ขัดต่อกฎหมายเยอรมัน เนื่องจากมีผู้ประท้วงชาวไทยหลายพันคนยื่นจดหมายต่อสถานทูตเยอรมันในกรุงเทพมหานคร เพื่อเรียกร้องให้เจ้าที่ตรวจสอบว่ามีการใช้พระราชอำนาจที่ละเมิดกฎหมายเยอรมันหรือไม่

บลูมเบิร์ก ยังรายงานด้วยว่า เป็นเวลาเกือบ 4 เดือนแล้วที่ประเทศไทยมีการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยและทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก, ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ จนถึงขณะนี้รัฐบาลยังไม่สามารถระงับการประท้วงได้ และผู้ชุมนุมยืนยันว่าจะเคลื่อนไหวต่อไปจนกว่าจะบรรลุข้อเรียกร้องทั้งหมด


อาลีบาบาขายกระจายวันคนโสด

ปักกิ่ง (รอยเตอร์/ซีซีทีวี) - อาลีบาบา ทำยอดขายได้หลายหมื่นล้านดอลลาร์ในมหกรรมช็อปปิ้งเนื่องในวันคนโสดของจีน แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของประเทศ หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง บริษัท อี-คอมเมิร์ซ ยักษ์ใหญ่ของจีน เปิดเผยว่า ยอดคำสั่งซื้อในช่วงมหกรรมช็อปปิ้งเนื่องในวันคนโสด มียอดทะลุ56,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.6 ล้านล้านบาทในเช้าวันพุธ หลังผู้บริโภคแห่ช็อปกันอย่างมโหฬารเพื่อรับส่วนลด โดยมียอดสั่งซื้อ 583,000 รายการ ภายในระยะเวลาวินาทีเดียวบน Tmall ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ของยอดช็อปปิ้งออนไลน์ ก่อนหน้านั้น อาลีบาบาได้จัดงานนับถอยหลังสู่วันคนโสดที่เมืองหางโจวมณฑลเจ้อเจียง โดยในวันคนโสดเมื่อปีที่แล้วอาลีบาบามียอดขายมากกว่า 38,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นยอดขายรวมภายในวันเดียวที่สูงที่สุดของบริษัท

อาลีบาบาระบุด้วยว่า ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 2 ล้านรายการ หรือเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของปีที่แล้ว ขณะที่บริษัทอื่นๆ เช่น โต่วอิน ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นภาษาจีนของติ๊กต๊อก (TikTok) เจดีดอทคอม และ พินตัวตัว ก็จัดกิจกรรมช็อปปิ้งของตนเองในวันคนโสดเช่นกัน โดย JD.com เปิดเผยว่า ทำยอดขายได้ถึง 200,000 ล้านหยวนหรือประมาณ 934,000 ล้านบาท ภายในเก้านาทีหลังเที่ยงคืน ขณะที่ซูหนิงดอทคอม ผู้ค้าปลีกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาลีบาบา ทำยอดได้ 5,000 ล้านหยวน หรือประมาณ 23,350 ล้านบาท ใน 19 นาทีแรกของวัน

นักวิเคราะห์คาดว่าปีนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับแบรนด์หรู เนื่องจากผู้บริโภคชาวจีนที่คุ้นเคยกับการเดินทางไปต่างประเทศเพื่อซื้อสินค้าระดับไฮเอนด์ในช่วงนี้ ล้วนต้องอยู่แต่ในประเทศ เพราะการปิดพรมแดนจากการระบาดของโควิด-19 ขณะที่การสำรวจความเห็นในเวยปั๋ว หรือทวิตเตอร์ของจีน ซึ่งมีผู้ร่วมแสดงความคิดเห็น 174,000 คน พบว่า76,000 คน ตั้งเป้าจะซื้อของไม่ถึง 1,000 หยวนหรือไม่ถึง 4,670 บาท ขณะที่มี 7,341 คน ที่วางแผนจะซื้อของมากกว่า 10,000 หยวน หรือมากกว่า 46,700 บาท ในวันคนโสด ทั้งนี้ การใช้จ่ายของผู้บริโภคถือเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่เพิ่งฟื้นตัวจากผลกระทบของการระบาดของโควิด-19

ทั้งนี้ มหกรรมลดราคาในวันที่ 11 พฤศจิกายน เริ่มต้นขึ้นแล้วเช่นเดียวกับทุกปี โดยวันที่ 11 พฤศจิกายน หรือวันที่ 11 เดือน 11ที่มีเลขหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของคนโสด เรียงกันถึง 4 ตัว ถูกยกให้เป็นวันคนโสดของจีน


ไบเดนเฉ่ง‘น่าละอาย’ ที่ทรัมป์ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง

วิลมิงตัน/วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์/บีบีซี นิวส์) -นายโจ ไบเดน ผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ระบุว่าการไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นเรื่องน่าละอาย แต่ยืนยันจะไม่มีอะไรหยุดยั้งการถ่ายโอนอำนาจในรัฐบาลสหรัฐได้ แม้ทรัมป์จะกล่าวหาโดยไม่มีหลักฐานว่า มีการโกงการเลือกตั้งในการเลือกตั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า เขาคิดว่ามันน่าละอาย กรณีที่ทรัมป์ปฏิเสธยอมรับความพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี เพราะเขาคิดว่ามันจะไม่ช่วยการสืบทอดตำแหน่งประธานาธิบดีเลย เมื่อถามว่า ถ้ามีโอกาสเขาจะพูดอะไรกับทรัมป์ ไบเดนตอบว่า เขาตั้งตาคอยจะพูดกับทรัมป์อยู่ พร้อมกับยืนยันว่าจะไม่มีอะไรหยุดยั้งการถ่ายโอนอำนาจในรัฐบาลสหรัฐได้ ทีมของเขากำลังมุ่งไปข้างหน้าด้วยการฟอร์มทีมรัฐบาลใหม่ เพื่อเข้ารับหน้าที่ในวันสาบานตนเข้ารับตำแหน่งที่จะมีขึ้นในวันที่ 20 มกราคมปีหน้า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

นายไบเดนได้รับคะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้งมากกว่า 270 คะแนน ซึ่งเป็นเกณฑ์ในการชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี หลังชนะการเลือกตั้งที่เพนซิลเวเนียในวันเสาร์ ซึ่งต้องใช้เวลานับคะแนนอย่างตึงเครียดถึง 4 วันเนื่องจากมีการลงคะแนนทางไปรษณีย์เป็นจำนวนมากในช่วงการระบาดของโควิด-19 ขณะที่ทรัมป์ได้อ้างโดยไม่มีหลักฐานว่ามีการโกงการเลือกตั้ง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รวมถึงผู้นำเสียงข้างมากของพรรครีพับลิกันในวุฒิสภา ต่างส่งสัญญาณว่าสนับสนุนให้ทรัมป์ใช้สิทธิตามกฎหมาย ค้านผลการเลือกตั้งในรัฐสมรภูมิหลายรัฐ เช่น รัฐเพนซิลเวเนีย

คำกล่าวของนายไบเดน มีขึ้นในวันเดียวกับที่เขากับบรรดาผู้นำชาติพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับสหรัฐ ทั้งเยอรมนี ฝรั่งเศส อังกฤษ อิสราเอล และซาอุดีอาระเบีย ได้พูดคุยทางโทรศัพท์และสัญญาว่าจะทำงานร่วมกัน อย่างไรก็ดี นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่าจะมีการเปลี่ยนผ่านอย่างราบรื่น หลังศึกเลือกตั้ง แต่ปฏิเสธรับรองชัยชนะของนายไบเดน โดยบอกว่าทรัมป์ จะยังอยู่ในอำนาจต่อไป และอ้างว่าทันทีที่บัตรดีทุกใบถูกนับก็จะนำไปสู่รัฐบาลทรัมป์สมัยที่สอง ถือเป็นการแสดงความคิดเห็นอย่างเปิดเผยต่อผลการเลือกตั้งเป็นครั้งแรกของนายปอมเปโอเพียงหนึ่งวันหลังจากทรัมป์ ไล่นายมาร์ค เอสเปอร์ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม

ขณะเดียวกัน ทีมงานของนายไบเดนเปิดเผยว่า ทีมงานด้านการถ่ายโอนอำนาจกำลังพิจารณาว่าจะดำเนินการทางกฎหมาย กรณีสำนักงานบริหารบริการทั่วไป หรือ GSA ซึ่งเป็นของหน่วยงานของรัฐบาลกลาง ยังคงชะลอที่จะรับรองชัยชนะที่นายไบเดนจากพรรคเดโมแครตมีเหนือทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยปกติGSA จะรับรองผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อมีความชัดเจนว่าใครชนะการเลือกตั้ง เพื่อให้กระบวนการถ่ายโอนอำนาจเริ่มต้นขึ้น แต่จนถึงขณะนี้ GSA ก็ยังไม่รับรอง แม้เครือข่ายโทรทัศน์และข่าวของสหรัฐ จะประกาศให้ไบเดนเป็นผู้ชนะไปตั้งวันเสาร์ หลังจากที่เขาได้รับคะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้งมากเพียงพอที่จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

อย่างไรก็ตาม กฎหมายไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า GSA จะต้องประกาศรับรองเมื่อใด ขณะที่ทีมงานด้านการถ่ายโอนอำนาจของไบเดนชี้ว่า ชัยชนะของไบเดนเป็นสิ่งที่ชัดเจน และการชะลอออกไปเป็นสิ่งไม่เป็นธรรมแม้ว่าทรัมป์จะยังคงปฏิเสธที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ก็ตาม

‘ธรรมนัส’โกยอ้าว! ‘ครม.’หลายคนไม่รู้ใครตั้งหวานใจ‘จุ๊บจิ๊บ’นั่งขรก.การเมือง

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.)หรือพีมูฟ ปรากฏว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้หลบสื่อออกไปยังประตูด้านหลังของตึกสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หรือ สปน. โดยให้รถยนต์ส่วนตัว วนไปรับทางด้านหลัง

ขณะที่มีสื่อมวลชนปักหลักรอเพื่อสัมภาษณ์จำนวนมากทั้งประเด็นเรื่องการแต่งตั้ง นางสาวธนพร ศรีวิราช หรือ จุ๊บจิ๊บ ภรรยาเป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และกระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณีลงนามแก้ไขการใช้ประโยชน์ในที่ดิน สปก. เช่นการตั้งโรงงานน้ำตาล โรงงานผลไม้กระป๋อง และโรงงานน้ำมันพืชรวมถึงการสร้างหอพักได้ด้วย