เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม เพจเฟซบุ๊ก His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck เพจเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรภูฏานได้เผยแพร่ภาพถ่ายกษัตริย์ภูฏานทรงต้อนรับการเสด็จฯ เยือนของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในพระราชพิธีต้อนรับ ณ ป้อมตาชิโซซอง เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ระหว่างการเสด็จฯเยือนราชอาณาจักรภูฏานเป็นเวลา 4 วัน

กษัตริย์จิกมีพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงร่วมสวดมนต์และจุดตะเกียงไฟ 1,000 ดวงภายในป้อมตาชิโซซองเพื่อถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ทรงมีพลานามัยที่แข็งแรงและมีพระชนมพรรษายืนนาน

วันเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีแห่งภูฏาน พระราชทานเลี้ยงพระกระยาหารค่ำ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

สำหรับการเสด็จฯ เยือนครั้งนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะทอดพระเนตรการดำเนินงานของโรงเรียนต่างๆ ตามโครงการความร่วมมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนในโรงเรียนราชอาณาจักรภูฏาน ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นอกจากนี้ จะทรงเยี่ยมสถานที่สำคัญต่างๆ อาทิ วัดคิชู พิพิธภัณฑ์สิ่งทอแห่งชาติ ป้อมปราการทิมพู ป้องปราการพูนาคา และสวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติภูฏาน

“นายกฯ” ยันรบ.เร่งพัฒนาศก.ดิจิทัลยกระดับปชช.รายได้น้อยทันต่อสังคมโลก ลั่นทำปท.ก้าวสู่ปชต.ที่มั่นคง พร้อมปราบโกงให้หมดไป

เมื่อเวลา09.40 น. วันที่ 26 พฤษภาคมที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานเปิดงานสัมมนาและแสดงนิทรรศการนานาชาติ “ดิจิทัลไทยแลนด์ 2016”

โดยนายกฯ กล่าวปาฐกถาตอนหนึ่งว่า การพัฒนาประเทศเราต้องให้มีการพัฒนาเทคโนโลยี พัฒนาการสื่อสารในภาคธุรกิจ

รวมถึงขับเคลื่อนประเทศตามยุทธศาสตร์ ไทยแลนด์ 4.0 เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศด้านสารสนเทศและการสื่อสาร ทั้งการสร้างการรับรู้ และเรียนรู้ของประชาชน ท่ามกลางการแข่งขันของเวทีโลก ซึ่งก็ต้องพัฒนาร่วมกับประชาคมอาเซียน และสังคมโลก โดยเราต้องวางรากฐานอย่างจริงจัง 2 ปีเราดำเนินการมาโดยตลอด ภายในปีนี้เราต้องเร่งขับเคลื่อนให้จับต้องได้ นอกจากนี้ รัฐบาลได้เสนอปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ เศรษฐกิจดิจิทัลจำนวน 7 ฉบับ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)โดยมีเป้าหมาย เพื่อยกระดับรายได้ของประชาชนจากผู้มีรายได้น้อย ให้มีรายได้ปานกลาง และสูง ในอนาคต ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก

“ปัญหาความสามารถในการพัฒนาการเกษตรเป็นเรื่องที่ท้าทาย เพราะเรายังต่ำ เราน่าจะทำได้ดีกว่านี้ วันนี้ไม่ต้องกลัว เราฟ่าฟันได้แน่นอน อย่าตื่นตระหนก ยืนยันเราพร้อมพัฒนาทุกด้านทั้งการเกษตร การบริการ และการท่องเที่ยว เรายืนยันว่าปัญหาคอรัปชั่นเราจะลดและปราบปราม ถ้ามีการเรียกรับผลประโยชน์ขอให้บอกผม แต่ผมยืนยันว่าไม่มี และไทยต้องเป็นประเทศโปร่งใสในทุกเรื่อง ถ้ามีต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ ที่ผมเข้ามาไม่ได้ตั้งใจทำลายระบอบประชาธิปไตย ด้วยสถานการณ์จำเป็นต้องเข้ามา ยืนยันจะดูแลเศรษฐกิจให้ดีที่สุด ทำให้ประเทศไทยก้าวไปสู่ประชาธิปไตยที่มั่นคง”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวเตือนถึงการใช้เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียของคนรุ่นใหม่ ให้ใช้อย่างระมัดระวัง และเลือกใช้ให้เป็นประโยชน์ โดยขอให้กระทรวงศึกษาธิการนำเทคโนโลยีไปใช้ร่วมในการศึกษา ขณะเดียวกันยอมรับว่าตนเป็นคนในยุคเบบี้บูมเมอร์ มีความอดทนต่ำในการใช้เทคโนโลยีและถูกล่อลวงได้ง่าย

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เดินเยี่ยมชมนิทรรศการนานาชาติดิจิตอลไทยแลนด์ 2016 ซึ่งแบ่งรูปแบบการจัดงานออกเป็นโซนต่างๆ อาทิ โซนเทคโนโลยีดิจิทัล เช่นการนำเสนอการจัดทำแผนพัฒนารัฐบาลดิจิตอลของประเทศไทยระยะ 3 ปี 2559-2561 เพื่อกำหนดทิศทางการยกระดับขีดความสามารถเชิงดิจิตอลของภาครัฐไทย ในการแข่งขันของประเทศอีกด้วย โดยงานนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 – 28 พ.ศ. 2559

เมื่อเวลา 17.30 น. อ.ปักธงชัย จ.นครราชศรีมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ออกหมายจับพระธัมมชโย ซึ่งมีกำหนดให้มารับทราบข้อกล่าวหาภายในวันที่ 26 พฤษภาคมนี้ ว่า ให้กระทรวงยุติธรรมว่ากันไป กฎหมายว่าอย่างไร ก็ต้องว่าตามนั้น แต่ตนไม่รบกับพระอยู่แล้ว เพราะถือว่าเป็นไทยพุทธ ดังนั้นอย่าทำให้เกิดความแตกแยกในเหล่าพุทธศาสนิกชน เรื่องดังกล่าวมีสองอย่างคือผิดกับถูก ดังนั้นจึงอยู่ที่กฎหมาย และการบังคับใช้ ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ซึ่งพระสงฆ์เอง นอกจากจะต้องเคารพกฎหมายแล้ว ยังมีเรื่องของวินัยสงฆ์ที่ต้องเคารพด้วย เรื่องนี้ยืนยันว่าไม่เข้าข้างใครอยู่แล้ว การบังคับใช้กฎหมายก็มีวิธีการอยู่ และขออย่างเดียวคืออย่าปลุกระดมให้คนออกมาต่อสู้กัน ถ้าคนต้องสู้กันเรื่องศาสนา ตนจะไม่ช่วยใครทั้งสิ้น โดยต้องปล่อยให้กลไกรัฐทำงาน ถ้าอยากจะตีกันก็ตีไป ตนจะดูรอบนอกให้ เพื่อไม่ให้คนอื่นเข้ามาตีกันด้วย

เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 59 นายแทนทอง ธรรมวัฒนะ ลูกชายนายห้างทอง ธรรมวัฒนะ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทายาทตลาดยิ่งเจริญเดินทางมาศาลแพ่งรัชดา หลังศาลนัดพร้อมคู่ความเพื่อตรวจพยานหลักฐานในคดีที่นายแทนทองเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางสาวณฤมล ธรรมวัฒนะ และนางสาวคณึงนิตย์ ธรรมวัฒนะ ซึ่งเป็นอาแท้ๆ ในข้อหาผิดสัญญาตัวแทนเรียกคืนหุ้น ที่ได้มีการยื่นฟ้องกับศาลแพ่งเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2559 เพื่อขอคืนหุ้นในตลาดยิ่งเจริญ เกือบ 1 ล้านหุ้น มูลค่ากว่าเกือบพันล้านบาท

นายแทนทอง เปิดเผยว่าหลังนายห้างทองเสียชีวิต นายจังหวัด ธรรมวัฒนะ ซึ่งเป็นพี่ชายต่างมารดา ได้ขายหุ้น ทั้งหมดให้นายปริญญา ธรรมวัฒนะ เนื่องจากในขณะนั้นนายแทนทอง ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แต่เมื่อนายแทนทอง บรรลุนิติภาวะ จึงได้ให้นางสาวณฤมล กับนางสาวคณึงนิตย์ ธรรมวัฒนะ ซึ่งเป็นอาแท้ๆ ซื้อหุ้นทั้งหมดของนายห้างทองคืนจากนายปริญญา เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2549

นายแทนทอง ระบุอีกว่า ที่ผ่านมาพยายามทวงถามนางสาวณฤมล และนางสาวคณึงนิตย์ เพื่อขอคืนหุ้น ซึ่งทั้งคู่ถือครองแทน แต่ทั้งคู่ก็ยังเพิกเฉยจนถึงทุกวันนี้ มีเพียงนางสาวคนึงนิตย์ ที่พยายามส่งสัญญาณว่าจะคืนให้ แต่ติดที่นางสาวณฤมลที่ไม่ยินยอม พร้อมสั่งปลดนายแทนทอง ออกจากกรรมการบริษัทในเครือธรรมวัฒนะอีกด้วย

ล่าสุด ศาลแพ่งเลื่อนตรวจพยานเป็นวันที่ 4 ก.ค. 59