ข่าว
ข่าวเด่นรอบโลกแห่งปี 2556

ตลอดปี 2556 ที่ผ่านมา นับว่าเป็นปีที่มีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์เกิดขึ้นมากมายทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการเมือง อุบัติเหตุ หรือข้อพิพาทระหว่างประเทศ แต่ข่าวใดจะเป็นข่าวเด่นรอบโลกแห่งปี ซึ่งได้รับความสนใจจากคนไทยมากที่สุดกันบ้าง

1.ไฟไหม้ไนต์คลับในบราซิล เซ่น 232 ชีวิต

เป็นโศกนาฏกรรมสุดสลดรับต้นปี เมื่อเกิดไฟไหม้ไนต์คลับในเมืองซานตามาเรีย รัฐริโอ แกรนด์ ดู ซูล์ ของบราซิล เมื่อเวลา 02.00 น. ของวันที่ 27 มกราคม หลังจากที่ภายในคลับได้มีการแสดงคอนเสิร์ตของวงดนตรีวงหนึ่ง และหนึ่งในสมาชิกวงได้จุดพลุไฟนานกว่า 10 นาที ก่อนที่จะเกิดความผิดพลาด ไฟเริ่มลุกไหม้บนเวทีอย่างรวดเร็ว แม้นักดนตรีจะพยายามช่วยกันใช้น้ำและถังดับเพลิงดับไฟแล้ว แต่ไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ จนในที่สุดก็เกิดความชุลมุนขึ้น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 235 ราย

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ เจ้าของคลับ 2 ราย และนักดนตรีผู้จุดพลุไฟ 2 ราย ได้ถูกจับกุมในฐานะผู้เกี่ยวข้องกับเหตุไฟไหม้ในครั้งนี้

2. ระเบิดงานบอสตัน มาราธอน

เหตุการณ์สุดสลดที่สะเทือนกรุงบอสตันนี้ เกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ขณะที่มีการแข่งขันวิ่ง บอสตัน มาราธอน ที่มีผู้เข้าร่วมงานนับร้อยชีวิต แต่จู่ ๆ ก็มีระเบิด 2 ลูกระเบิดขึ้น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บอีกนับร้อย

อย่างไรก็ดี หลังเกิดเหตุไม่นานนัก ตำรวจก็สามารถตามจับกุมมือปืนพี่น้อง 2 ราย ได้หลังจากทั้งคู่ก่อเหตุดวลปืนกับตำรวจในสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ หรือ เอ็มไอที โดยทาเมอร์ลัน ซาร์นาเยฟ มือระเบิดคนพี่ถูกตำรวจสังหารจับตาย ขณะที่โซการ์ ซาร์นาเยฟ คนน้องถูกจับกุมในสภาพได้รับบาดเจ็บ

3. คดีข่มขืนระบาดหนักในอินเดีย

ประเด็นนี้กลายเป็นข่าวใหญ่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว หลังจากเกิดคดีช็อกโลก เมื่อนักศึกษาอินเดียวัย 21 ปี ได้ใช้บริการรถเมล์กับเพื่อนชายหลังจากดูหนังเสร็จ แต่กลับถูกแก๊งคนร้ายรุมข่มขืนบนรถเมล์แล้วโยนลงจากรถพร้อมกับเพื่อนชายด้วย เหตุการณ์นี้ทำให้นักศึกษาสาวรายนี้อาการสาหัสก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะที่เพื่อนชายของเธอนั้นรอดชีวิต แต่อย่างไรก็ดี ต่อมาตำรวจก็สามารถตามล่าคนร้ายทั้ง 5 คนมาดำเนินคดีได้ ปัจจุบันคนร้ายทั้ง 5 เสียชีวิตหมดแล้ว โดยรายหนึ่งฆ่าตัวตายในเรือนจำ ขณะที่อีก 4 รายถูกสั่งประหารชีวิต

ทั้งนี้ หลังจากเกิดคดีข่มขืนนี้ขึ้น ประชาชนชาวอินเดียก็ออกมาประท้วงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจริงจังกับคดีข่มขืน เพื่อให้คดีนี้ลดน้อยลงหรือหมดไป แต่ก็ยังมีคดีข่มขืนอีกหลายคดีเกิดขึ้นตามมาติด ๆ ซึ่งก็มีเหยื่อหลายรายเสียชีวิต บางรายก็บาดเจ็บสาหัส บางรายก็เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้ในช่วงปีนี้อินเดียมีนักท่องเที่ยวลดลงมากจากความไม่ปลอดภัยดังกล่าว

4.อียิปต์ ก่อรัฐประหารอีกรอบ

หลังจากที่ประชาชนกลุ่มต่อต้านรัฐบาลออกมาชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่หลายล้านชีวิต เพื่อขับไล่ประธานาธิบดี โมฮัมเหม็ด มอร์ซี ในที่สุดเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อกองทัพอียิปต์ได้ก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากนายโมฮัมเหม็ด มอร์ซี หลังครองตำแหน่งประธานาธิบดีมาได้เพียง 1 ปี แต่หลังจากยึดอำนาจแล้ว ก็เกิดความวุ่นวายและนองเลือดรุนแรงขึ้น เมื่อกลุ่มผู้สนับสนุนมอร์ซีได้ออกมาเคลื่อนไหว แสดงพลังสนับสนุนมอร์ซีเต็มที่ จนทำให้ทหารต้องสลายการชุมนุม และมีผู้เสียชีวิตรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 2,000 คน ส่งผลให้ทั่วโลกออกมาประณามการใช้ความรุนแรงดังกล่าว

อย่างไรก็ดี แม้ว่าการประท้วงเริ่มปะทุรุนแรงมาหลายเดือนแล้ว แต่ปัจจุบันอียิปต์ก็ยังคงมีการชุมนุมอย่างต่อเนื่องจนถึงวันนี้ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตก็เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน

5.เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน แฉข้อมูลลับสหรัฐฯ

นับว่าเป็นประเด็นที่โด่งดังเขย่าโลกเลยทีเดียว เมื่อเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตลูกจ้างสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (CIA) ได้ออกมาเปิดโปงว่า สหรัฐฯ ได้ลอบดักฟังโทรศัพท์และจารกรรมข้อมูลจากระบบจัดเก็บเอกสาร บัญชีผู้ใช้และรหัสผ่านอีเมลของทูตกว่า 38 ประเทศในกรุงวอชิงตัน ซึ่งนั่นทำให้รัฐบาลหลายประเทศไม่พอใจอย่างมาก เพราะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล จึงทำให้เกิดความบาดหมางกลาย ๆ ขึ้นระหว่างสหรัฐฯ กับนานาประเทศ และจากการออกมาเปิดเผยข้อมูลลับสุดยอดดังกล่าว ทำให้สหรัฐฯ ตามล่าตัวสโนว์เดน ขณะที่เจ้าตัวเองก็ได้หลบหนีออกนอกประเทศไปลี้ภัยต่างประเทศต่าง ๆ ซึ่งหลายประเทศก็ให้การต้อนรับแถมยกย่องเขาในฐานะผู้หาญกล้าออกมาแฉการละเมิดสิทธิของสหรัฐฯ เช่นนี้ ส่วนเขาเองนั้นล่าสุดก็ได้ออกมาเปดเผยว่า เขาทำภารกิจสำเร็จแล้ว ที่เขาทำไปก็เพื่อเป็นการให้โอกาสสังคมได้พิจารณาว่าควรเปลี่ยนแปลงตัวเองหรือไม่

6.เครื่องบินสายการบินเอเชียน่าตก

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา เครื่องบินโบอิ้ง 777 ของสายการบินเอเชียน่า ได้ประสบอุบัติเหตุร่อนลงกระแทกรันเวย์ในสนามบินนานาชาติซานฟรานซิสโก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย โดย 2 ศพเสียชีวิตจากการกระเด็นออกจากตัวเครื่อง ส่วนอีกศพถูกรถดับเพลิงแล่นทับ นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกหลายราย ซึ่งหลังจากสืบสวนหาสาเหตุก็พบว่า เป็นความผิดพลาดของนักบินเอง โดยเป็นนักบินที่มีชั่วโมงบินเครื่องบินโบอิ้ง 777 น้อยมาก และเพิ่งเคยคุมเครื่องบินลงจอดที่สนามบินซานฟรานซิสโกเป็นครั้งแรกด้วย

7.รถไฟบรรทุกน้ำมันตกรางในแคนาดา

เป็นอีกหนึ่งโศกนาฏกรรมที่สร้างความเสียหายกว้างขวางในปีนี้ เมื่อรถไฟบรรทุกน้ำมันไร้คนขับ ที่บรรทุกน้ำมันมากว่า 72 ถัง ได้เกิดเคลื่อนตัวไปเองตามทางลาดจากเมืองน็องต์ ก่อนจะตกรางสร้างความเสียหายหนักในเมืองแลค เมแกนติก เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้เกิดระเบิดเพลิงลุกไหม้เป็นวงกว้างในย่านชุมชน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 47 ราย บ้านเรือนหลายสิบหลังพังเสียหาย และประชาชนกว่า 2,000 คนต้องอพยพออกจากพื้นที่หลายวันเพื่อสืบสวนและฟื้นฟูบริเวณดังกล่าว โดยอุบัติเหตุครั้งนี้ นับเป็นโศกนาฏกรรมทางรถไฟที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 100 ปีของแคนาดาเลยทีเดียว

8.เจ้าหญิงเคทประสูติเจ้าชายจอร์จ

หลังจากมีข่าวลือเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเจ้าหญิงแคทเธอรีนต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปีก่อน ในที่สุดช่วงต้นปีนี้ทางสำนักพระราชวังก็ได้ออกมายืนยันข่าวดีว่า เจ้าหญิงแคทเธอรีนทรงครรภ์จริง ก่อนที่ผู้คนทั่วโลกจะพากันคาดเดาถึงขั้นพนันเพศของทารกในครรภ์ จนในที่สุด เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม เจ้าหญิงแคทเธอรีนก็ประสูติพระโอรสหนัก 3.8 กิโลกรัม ซึ่งได้รับการตั้งพระนามในเวลาต่อมาว่า เจ้าชายจอร์จ อเล็กซานเดอร์ หลุยส์

9.ฟ้าผ่าแกรนด์แคนยอน

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา ดร.อารัมภ์ กวีวงศ์ และทันตแพทย์หญิงรัชยา ตันตรานนท์ สองสามีภรรยาชาวไทยที่เพิ่งจะแต่งงานกันได้ไม่ถึง 2 สัปดาห์ ได้ถูกฟ้าผ่าในบริเวณจุดชมวิวที่โล่งแจ้ง อุทยานแห่งชาติแกรนด์ แคนยอน รัฐแอริโซนาของสหรัฐฯ ซึ่งข่าวนี้เป็นข่าวที่สร้างความสลดใจให้กับคนไทยเป็นอย่างมาก เพราะผู้เสียชีวิตทั้งเป็นคนเก่งและเพิ่งจะแต่งงานกันใหม่ ๆ อย่างไรก็ดี หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ก็ทำให้คนไทยได้ระมัดระวังเกี่ยวกับการเที่ยวแกรนด์แคนยอนมากขึ้น

10.อาวุธเคมีในซีเรีย

ประเด็นนี้กลายเป็นประเด็นดังระดับโลกในช่วงเดือนสิงหาคม หลังจากที่มีการเปิดเผยภาพของประชาชน ไม่เว้นเด็ก ในประเทศซีเรีย ถูกสังหารโดยไร้บาดแผลบนร่างกาย ซึ่งภาพถ่ายดังกล่าวนำมาซึ่งการวิพากษ์วิจารณ์จากทั่วโลก ก่อนที่สหรัฐฯ จะออกมาประณามซีเรียเกี่ยวกับเรื่องการใช้อาวุธเคมีฆ่าประชาชนเช่นนี้ พร้อมกับเริ่มเดินหน้าส่งกองทัพมายังซีเรียจ่อเปิดศึกลงโทษ ขณะที่ทางซีเรียเองก็ปฏิเสธมาตลอดว่าไม่ใช่ฝีมือของตน พร้อมกับโบ้ยความผิดไปให้ทางฝั่งประชาชนฝ่ายต่อต้านรัฐบาลอัสซาด โดยกล่าวหาว่าพวกเขาฆ่าประชาชนเองเพื่อเปิดทางให้สหรัฐฯ เข้ามาแทรกแซงการเมืองภายในประเทศ

อย่างไรก็ดี ในที่สุดแล้วสหรัฐฯ ก็ยอมถอยทัพ หลังจากที่ทางรัสเซียเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย กระทั่งซีเรียยอมส่งมอบอาวุธเคมีภายในประเทศให้อยู่ในการครอบครองของนานาชาติ ซึ่งการเข้ามาไกล่เกลี่ยครั้งนี้ ทำให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ได้รับการยกย่องจากฟอร์บส์ให้เป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลของโลกปี 2013 แทนที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งดูเหมือนการสั่งเดินหน้ากองทัพจะทำให้ชาวอเมริกันไม่ปลื้มกันเสียเยอะ

11.พบหลักฐานเจ้าหญิงไดอาน่าอาจถูกฆาตกรรม

คดีเจ้าหญิงไดอาน่าถูกฟื้นขึ้นมาสืบสวนกันอีกครั้งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังจากมีภรรยาของทหารในหน่วยรบพิเศษกองทัพอากาศ (SAS) ได้ออกมาเปิดเผยว่า ทหารนายนี้ได้เล่าให้ฟังว่าคดีอุบัติเหตุของเจ้าหญิงไดอาน่านั้นเป็นการฆาตกรรม โดยฝีมือของหน่วย SAS ที่ใช้เทคนิคส่องไฟใส่หน้าคนขับรถระหว่างกำลังขับหนีปาปารัสซี ส่งผลให้รถเสียหลัก

อย่างไรก็ดี หลังจากสืบสวนคดีนี้มานานกว่า 3 เดือน ในที่สุดเมื่อเดือนธันวาคม ทางตำรวจอังกฤษก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า ไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่า SAS เกี่ยวข้องกับการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอาน่า

12.ก่อการร้ายห้างเคนยา

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา กลุ่มก่อการร้ายได้บุกเข้าไปในห้างเวสต์เกต แล้วกราดยิงผู้คนและจับตัวประกันหลายชีวิต ขณะที่ผู้คนมากกว่า 1,000 คน กำลังเดินช้อปปิ้งอยู่ภายในห้าง และเหตุการณ์ก็ลุกลามหนักจนเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจต้องปิดล้อมพื้นที่เพื่อโจมตีโต้ตอบกับกลุ่มก่อการร้ายซึ่งคร่าชีวิตคนบริสุทธิ์ไปไม่ต่ำกว่า 62 ราย บาดเจ็บอีกนับร้อย และเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานเกือบ 3 วัน กว่าจะสามารถเข้ายึดพื้นที่ทั้งหมดภายในห้างได้

13. Government Shutdown ในสหรัฐฯ

ไม่นานนักหลังจากการเคลื่อนทัพบุกซีเรีย สหรัฐฯ ก็กลายเป็นที่สนใจของคนทั่วโลกอีกครั้งเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา เมื่อรัฐบาลเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์เป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี หลังสภาคองเกรสไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณได้ทันเที่ยงคืนวันที่ 1 ตุลาคม ทำให้รัฐไม่สามารถจ่ายเงินเดือนข้าราชการได้ ซึ่งหลังจากประกาศภาวะชัตดาวน์แล้ว หน่วยงานรัฐบาลหลายแห่งก็ต้องหยุดให้บริการ ยกเว้นหน่วยงานหรือบริการที่สำคัญเท่านั้น

ภาวะชัตดาวน์นี้ได้ดำเนินต่อมากินเวลานานถึง 16 วัน ก่อนกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เมื่อมีการบังคับใช้กฎหมายอนุมัติงบประมาณชั่วคราวถึงวันที่ 15 มกราคมปีหน้า ขณะที่ภาวะชัตดาวน์ครั้งนี้ได้ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เสียศูนย์ เสียหายกว่า 7.2 แสนล้านบาทเลยทีเดียว

14.พอล วอล์คเกอร์ เสียชีวิต

นับเป็นข่าวช็อกวงการฮอลลีวูดที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจของแฟนหนังมากที่สุดในปีนี้ เมื่อจู่ ๆ พอล วอล์คเกอร์ พระเอกสุดหล่อจากภาพยนตร์เรื่อง Fast & Furious ก็มาด่วนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เขานั่งไปกับเพื่อน โดยระหว่างที่กำลังมุ่งหน้าไปยังงานการกุศลช่วยเหลือผู้ประสบภัยใต้ฝุ่นไฟ่เยี่ยน ย่านซานตาคลาริตา รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ รถก็เกิดเสียหลักพุ่งชนต้นไม้จนเกิดไฟไหม้ลุกท่วมรถอย่างรวดเร็ว เสียชีวิตทั้งพอลและเพื่อน โดยไม่มีใครสามารถเข้าไปช่วยเหลือได้เลย

15.เนลสัน แมนเดลา

ถึงแก่อสัญกรรม หลังจากมีการปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับอาการป่วยของเนลสัน แมนเดลา อดีตประธานาธิบดีของแอฟริกาใต้ ออกมาเป็นระลอก ๆ ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะป่วยหนักจนหายใจเองไม่ได้ ป่วยหนักจนมีสภาพเป็นเจ้าชายนิทรา ในที่สุด เนลสัน แมนเดลา ก็ถึงแก่อสัญกรรมในวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา ด้วยวัย 95 ปี ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของชาวแอฟริกาใต้และครอบครัวที่รักยิ่ง รวมถึงผู้คนทั่วโลกที่ได้ยินชื่อของเขามาหลายสิบปี จึงไม่แปลกที่พิธีศพของเนลสัน แมนเดลา จะเต็มไปด้วยผู้นำจากชาติต่าง ๆ มากมาย