ข่าว
"ยิ่งลักษณ์" ช่วย "แซม"หาเสียง เข้ากราบเจ้าอาวาสวัดดอนเมือง

(7 มิ.ย.) นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ เขตดอนเมือง ช่วย นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ผู้สมัครรรับเลือกตั้งซ่อม สส. เขตดอนเมือง หาเสียงเลือกตั้ง โดยเมื่อเดินทางมาถึงยังวัดดอนเมือง นายกรัฐมนตรี ได้เข้ากราบพระประธานอุโบสถ และกราบนมัสการพระราชวิสุทธิมงคล เจ้าอาวาสวัดดอนเมือง

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมายังบริเวณหน้าวัดดอนเมือง และได้พบปะกับพี่น้องประชาชน โดย นายยุรนันท์ ผู้สมัคร พร้อมกับ นายกฯ ได้แถลงเปิดตัวนโยบายเพื่อคนดอนเมือง คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ-ดอนเมือง-รังสิต โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอคะแนนเสียงต่อพี่น้องประชาชนที่มาฟังการปราศรัย

ช่วงหนึ่ง ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงการแถลงข้อมูลเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว ที่มี นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.กระทรวงพาณิชย์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.กระทรวงพาณิชย์ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าไม่ได้ชมการแถลง เพราะติดภาระกิจการประชุมทั้งวัน

"เอนก"แจงปิดร้านจีนชื่อดัง ค้างค่าเช่า-
ไม่ดูแลอาคาร

"เอนก" แจงหนังสือพิมพ์ลงข่าวคลาดเคลื่อน กรณีสั่งปิดเอ็มเพรสพาวิลเลี่ยน ร้านอาหารจีนชื่อดังในไชน่าทาวน์ที่มีกิจการยืนยาวมานานถึง 25 ปี ยันเจ้าของร้านไม่ดูเลรักษาร้านให้อยู่ในสภาพดีถูกต้องตามกฎหมาย ค้างค่าเช่านับแสนเหรียญ เตือนมาหลายครั้ง จนต้องสั่งปิดกิจการ

LA Times หนังสือพิมพ์ชื่อดังใน นครลอสแอนเจลิส ได้เสนอข่าว การปิดกิจการของร้านอาหารจีนชื่อดังในไชน่าทาวน์ แอล.เอ. โดย Betty Hollock สาเหตุของการเสนอข่าวครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก การปิดกิจการของ Empress Pavillion Restaurant ในไชน่าทาวน์ซึ่งเป็นร้านอาหารจีนที่รู้จักกันดีสำหรับคนในนครลอสแอนเจลิส ที่ดำเนินกิจการมายาวนาน 25 ปี และยังส่งผลไปถึงพนักงานนับร้อยคนในร้านอาหารแห่งนี้

Stephanie Chan ลูกสาวของ Ricky Chan หุ้นส่วนและเชฟใหญ่ของร้านอาหารแห่งนี้ ได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าว LA Times โดยได้ระบุสาเหตุของการปิดกิจการครั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก การค้างค่าเช่า บันไดเลื่อนหน้าอาคารถนน บรอดเวย์ ไม่ทำงานมานาน ร้านค้าหลายแห่งเริ่มย้ายออก จึงทำให้ร้านอาหารดังกล่าวรายได้ลดลง พร้อมทั้งได้เปิดเผยถึงการเจรจากับเจ้าของอาคาร นายเอนก พลอยแสงงาม ไม่เป็นผลสำเร็จ

ซึ่งนักข่าวจาก LA Times ก็ได้โทรศัพท์มาสอบถามจาก นายเอนก พลอยแสงงาม ซึ่งก็ได้บอกไปถึงสาเหตุและปัญหาของร้านอาหารแห่งนี้ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของสถานที่ แต่เนื่องจากการพูดสอบถามใช้เวลาไม่นาน ข้อมูลที่ออกมาจึงคลาดเคลื่อนและทำให้คนอ่านเข้าใจผิดถึงปัญหาระหว่างผู้เช่าและผู้ให้เช่า ในขณะเดียวกัน ได้มีหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นหลายสำนัก ทั้งภาคภาษาอังกฤษ ภาษาจีน รวมทั้งหนังสือพิมพ์ไทยบางฉบับ ได้นำเสนอข่าวนี้

นายเอนก พลอยแสงงาม ได้โทรสอบถาม Betty Hollock จาก LA Times ถึงข่าวที่ได้ลงใน LA Times ฉบับวันที่ 3 มิถุนายน 2013 โดยได้แจ้งว่าข่าวที่ได้ลงไปนั้น ไม่ถูกต้อง เพราะทำให้คนอ่านเข้าใจผิดในตัวเจ้าของอาคาร เนื่องจากเนื้อข่าวที่ลงไป ไม่ได้บอกเนื้อหาของเรื่องทั้งหมด

Betty Hollock เมื่อได้ฟังเรื่องราวความเป็นมาของเรื่อง ได้กล่าวว่าจะพยายามหาวิธีแก้ไขเรื่องนี้ให้ และได้กล่าวว่าสาเหตุที่ข่าวที่ออกมาเนื้อหาไม่มากพอเนื่องจากพื้นที่ใช้เสนอข่าวนี้มีค่อนข้างจำกัด

พร้อมกันนี้ได้มีสมาคมพัฒนาธุรกิจคนจีนในไชน่าทาวน์ ได้ขอเข้าพบและสอบถามถึงปัญหานี้ นายเอนกได้ชี้แจงว่า เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างผู้เช่ากับเจ้าของอาคาร Bamboo Plaza นี้มันมีมานานแล้ว ก่อนที่ผมจะมาซื้ออาคารนี้ เพราะว่าผมเพิ่งจะเป็นเจ้าของอาคารนี้ได้เพียง ปีกว่า ประมาณ 15 เดือนเท่านั้น ปัญหาที่ผู้เช่ามี ก็มีอยู่ก่อนที่ผมจะมาเป็นเจ้าของ มีมานานมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง บันไดเลื่อน ลิฟท์ ท่อน้ำ ระบบป้องกันอัคคีภัย อาคารจอดรถ การรักษาความปลอดภัย ต่างๆ นา เมื่อผมมาดูแลอาคารนี้ ก็ได้ว่าจ้าง บริษัท รักษาความปลอดภัย ดูแลความปลอดภัยให้กับผู้เช่า จัดระเบียบการรักษาความสะอาดในอาคาร และได้ว่าจ้างสถาปนิกทำแบบ แผนงาน ที่จะปรับปรุงทุกพื้นที่ในอาคารให้เป็นอาคารเกรด เอ ในไชน่าทาวน์

ตั้งแต่ผมรับช่วงมา ช่วงระยะเวลาแค่ปีกว่า ได้ใช้งบประมาณในการซ่อมแซมอาคารไปมากกว่า สองแสนเหรียญ โดยตั้งงบประมาณไว้ที่ประมาณ หนึ่งล้านเหรียญ ผู้เช่าก็ยอมรับถึงการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นกว่าเดิมมาก จากที่เจ้าของเก่าไม่เคยเหลียวแล

ส่วนปัญหาของร้านอาหาร Empress Pavillion นั้น ผมขอพูดถึงในส่วนระหว่างผู้เช่าและผู้ให้เช่าดังนี้ การจ่ายค่าเช่าได้ค้างชำระเป็นเวลาหลายเดือน ค่าเช่าค้างชำระตัวเลขนับแสน ปัญหาของร้านที่ต้องทำก็ไม่แก้ไข ไม่ทำ จนกระทั่งผมต้องจ้างบริษัทรับเหมา เข้าไปตรวจและช่วยแก้ไข ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ จนกระทั่งผมได้รับจดหมายจาก หัวหน้า Fire Department กำหนดวันที่ต้องเสร็จโดยให้แก้ไขเรียบร้อย

หนึ่งในปัญหานี้ก็อยู่ในร้านอาหารแห่งนี้ เพราะทางร้านได้ดัดแปลง จนเป็นเหตุให้หน่วยงานนี้เข้า และได้ให้ใบสั่ง Violation Ticket โดยเฉพาะใบสั่งนี้ได้มาก่อนผมจะมาดูแลอาคารนี้ แต่ในเมื่อปัจจุบันผมเป็นคนดูแล หน้าที่นี้จึงมาอยู่ที่ผม เวลาล่วงเลยไปเดือนกว่าก็ยังไม่มีวี่แววว่าทางร้านจะรีบจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จ และปัญหานี้ทางหน่วยงานนี้ก็ไม่ยอมผ่อนผันอีก

เมื่อไม่มีทางเลือกอื่นใดก็ต้องแจ้งทางหน่วยงานนี้ ทางหัวหน้าหน่วยดับเพลิงจึงได้เข้ามาที่อาคารและได้แจ้งให้กับทางร้านทราบ ทางร้านจึงเริ่มที่จะแก้ปัญหานี้ แต่ก็ยังไม่เสร็จ

อีกปัญหาที่เป็นปัญหาใหญ่เพราะว่าทางครัวของร้านอาหารอยู่ชั้น 2 น้ำในห้องครัวได้ไหลลงมาที่ห้องชั้นล่าง จนเกิดแอ่งน้ำ และส่งกลิ่นเหม็นในห้องเช่าข้างล่างมาก ห้องเช่าข้างล่างนี้เป็นห้องใหญ่ในอาคารนี้มีเนื้อที่ประมาณ 15,000 Sq.Ft มีผู้สนใจติดต่อเช่ามาหลายรายรวมทั้งบริษัทใหญ่ๆ ของอเมริกา แต่ก็ไม่สามารถเปิดห้องนี้ให้เช่าได้เพราะปัญหาน้ำที่มาจากห้องครัวของร้านอาหารนี้ ร้านอาหารนี้ผมพยายามช่วยเขาให้อยู่ได้แต่เขาต้องช่วยตัวเองให้มากกว่านี้ ไม่ว่าเรื่องของท่อน้ำอุดตันในตัวอาคาร ผมก็จ้างบริษัทมืออาชีพมาทำ Hydro Jet Cleaning Etc. สิ่งต่างๆ ที่ได้ทำอยู่เวลานี้ก็เพื่อผู้เช่าวันข้างหน้าจะได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ผมเองคิดเสมอว่าผู้เช่า ก็คือคนสำคัญของสถานที่เพราะเขาก็คงรักและห่วงใยสถานที่ที่ตัวเองได้เช่าอยู่ สำนักข่าว World Journal หนังสือพิมพ์จีนได้พยายามขอสัมภาษณ์เพื่อหาสาเหตุของการปิดตัวร้านอาหารแห่งนี้ แต่เนื่องจากผมเองได้ชี้แจงให้กับสมาชิกของสมาคมพัฒนาธุรกิจคนจีน รวมทั้งนักข่าว Betty Hollock จาก LA Times ก็คิดว่าเพียงพอแล้ว

“แม่” หัก เวิร์คพ้อยท์ ยันลูกผิดปกติทางจิต

“เวิร์คพ้อยท์ฯ” หน้าแตก “แม่ของสิทธัตถะ” ยืนยันว่าลูกชายผิดปกติทางจิต แต่ที่ตอนแรกบอกว่าปกติก็เพราะทีมงานเวิร์คพ้อยท์ฯ มาขอร้องให้พูดแบบนี้ สุดโกรธคณะกรรมเหยียดหยามศักดิ์ศรีลูกชาย เรียกร้องให้เปลี่ยนตัวคณะกรรมการใหม่

ปีที่แล้วเอาผู้หญิงมาใช้หน้าอกวาดรูปในรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ซีซั่น 3 จนดังระเบิดมาแล้ว ล่าสุดเวิร์คพ้อยท์ผู้ผลิตรายการดังกล่าว ก็นำเอา “สิทธัตถะ เอมเมอรัล” มาเข้าประกวด ผลก็คือถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะถูกคณะกรรมการในรายการพูดจาในลักษณะเหยียดหยาม จนหลายฝ่ายออกมาต่อต้านและเรียกร้องให้ยุบรายการนี้ไปซะ

ล่าสุดบริษัทเวิร์คพ้อยท์ เอนเทอร์เทนเมนท์ จำกัด(มหาชน) ผู้ผลิตรายการก็ทนไม่ไหวส่งจดหมายชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าสิทธัตถะได้ผ่านการคัดเลือกเข้ารอบเหมือนคนอื่นๆ ทั่วไป โดยระบุว่าคุณแม่ของสิทธัตถะก็ยืนยันว่าลูกไม่มีความผิดปกติทางจิต เพียงแต่เป็นคนพูดน้อยเท่านั้น สวนทางกับคำพูดของคุณแม่สิทธัตถะที่ยืนยันว่าลูกชายตนเองผิดปกติ แต่ยังไม่เคยพาไปพบจิตแพทย์เพราะลูกบ่ายเบี่ยง

ส่วนข้อสงสัยที่ว่ามีการเตี๊ยมกับทางรายการหรือไม่ คุณแม่บอกว่าไม่มี แต่เห็นว่าพฤติกรรมของคณะกรรมการทั้ง 3 คนไม่เหมาะสมจะเป็นผู้ตัดสิน เพราะเหยียดหยามศักดิ์ศรีลูกชายเกินไป คณะกรรมการควรมีความอดทนมากกว่านี้ ไม่ใช่ยังไม่ทันร้องเพลงก็กดเครื่องหมายไม่ให้ผ่านแล้ว ตรงนี้เป็นสิ่งที่ทำให้แม่ของสิทธัตถะไม่พอใจแต่ไม่กล้าต่อว่า และอยากจะเรียกร้องให้เปลี่ยนคณะกรรมการตัดสิน

เผยสิทธัตถะเป็นคนที่ชอบร้องเพลง และตนเป็นคนพาไปออดิชั่นในรายการเอง ตอนแรกก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมผ่านการคัดเลือก แต่ก็ไม่ได้สอบถามทีมงาน พร้อมทั้งเผยว่า เมื่อวานมีทีมงานผู้หญิงจากเวิร์คพ้อยท์มาที่บ้าน ก่อนจะพูดในทำนองขอร้องว่า อย่าไปเอาเรื่อง เห็นว่าพูดจาดีก็เลยยกโทษให้ เขาให้บอกว่ายอมรับว่าลูกชายเป็นปกติก็เลยเออออตามเขาไป

นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีผู้ใช้เฟซบุ๊ครายหนึ่งอ้างว่า เคยเป็นอาจารย์สอนสิทธัตถะสมัยเรียนชั้นมัธยมศึกษา ได้กล่าวยืนยันว่า สิทธัตถะมีอาการผิดปกติทางจิตไม่ค่อยพูดคุยกับใคร ชอบไปซ่อนตัวในห้องน้ำและแบกทรายใส่กระเป๋าไปโรงเรียน

"ความจริงบางประการที่เกี่ยวกับ สิทธัตถะ เอมเมอรัล ก่อนที่จะอ่านต่อไป ขอให้ผู้อ่านจินตนาการว่าถ้าเป็นตัวเองจะเป็นอย่างไรตื่นเช้ามาเจอแม่พูดอยู่ตลอดเวลา บ่นทุกเรื่อง ไปโรงเรียนที่ได้ชื่อว่าเป็นโรงเรียนที่ดีมากแห่งหนึ่งของประเทศไทยและด้วยความคิดนี้เอง ทำให้ผู้ปกครองทั้งที่มีฐานะบ้างแต่ไม่มากพอที่จะส่งลูกไปโรงเรียนระดับอินเตอร์ หรือไม่ค่อยมีฐานะ ใช้ความพยายามทุกวิถีทางให้ลูกเข้าเรียนที่นี่ให้ได้ จึงทำให้ในห้องเรียนมีนักเรียน 55-60 คน (บางห้องมีเกินกว่านี้)”

“เมื่อครูเข้าห้องสอนก็ต้องเจอหน้าถึง 55-60 หน้า ถ้า 1 วัน สอน 4 ห้อง ครูต้องเจอนักเรียน 220-240 คน ความสามารถในการจำหน้าคน จะมีกันสักแค่ไหน คนที่ห้อมล้อมเราแยะขนาดนี้ คนละพ่อคนละแม่ ยุ่งด้วยก็เรื่องมากอีก ฉะนั้น เราอย่าไปพูดกับพวกมันเลยดีกว่าไหม กินข้าวในโรงอาหารก็ไม่ได้ เดี๋ยวต้องเอ่ยปากพูด ส่วนเพื่อน ๆ เมื่อเห็นว่ามีคนไม่ยอมพูดอะไรกลายเป็นตัวประหลาด และด้วยความเป็นเด็กที่ไม่เคยเห็นว่าบนโลกนี้มีอะไรที่ไม่เหมือนตัวเองตั้งอีกมากมาย ทำให้เพื่อน ๆ คอยแหย่คอยแกล้งอยู่เป็นประจำ ขนาดไม่พูดด้วย พวกมันยังคอยแกล้งอีก”

“ฉะนั้น อย่าพูดเลยดีกว่า จากการที่ผู้เขียนได้มีโอกาสรู้จักกับเอมเมอรัล ในช่วง 3 ปีสุดท้ายที่เรียนมัธยม และการที่ได้คุยกับพ่อ ได้เคยแนะนำว่าลองพาทั้งแม่และเอมเมอรัลไปพบจิตแพทย์ แต่ก็ได้รับคำตอบว่าเคยจะพาไป แต่แม่ไม่ยอม เพราะไม่ยอมรับว่ามีอาการผิดปกติ แต่ก็ยังพูดไม่หยุดตลอดเวลา โดยไม่เข้าใจว่าลูกมีปัญหาที่ EQ แต่กลับเข้าใจว่า IQ ดี เพราะเรียนหนังสือได้ปกติ (แต่ก็ยังไม่ยอมพูด)”

“ช่วงก่อนจบ ม.6 พฤติกรรมเริ่มรุนแรงขึ้นทั้ง ๆ ที่ไม่ปรากฏเมื่ออยู่ ม.4-5 เช่น การไปซ่อนตัวในห้องน้ำ การเอาทรายใส่กระเป๋านักเรียนแล้วแบกไปโรงเรียน ทุกวันนี้ผู้เขียนก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไปทำไม หลังจบ ม.6 ไม่มีเพื่อนคนไหนได้พบเห็น หรือได้ข่าวอะไรเลย ไม่มีใครรู้ว่าได้เรียนต่อที่ไหนหรือไม่ แต่ทุกคนต่างตกใจเมื่อเห็นมาออกรายการ TGT และได้รับการปฏิบัติเช่นนั้นจากรายการนี้ ผู้เขียนเข้าใจว่าคนที่จะได้ขึ้นเวทีควรมีการ audition รอบแรกก่อน เพราะถ้ามีทุกคนก็จะได้เห็นพฤติกรรมที่แปลกประหลาด และความสามารถที่ไม่ผ่านแน่ๆ”

“ไม่ใช่ว่าอยู่ดี ๆ ก็ปล่อยให้ขึ้นไปแสดงอะไรก็ได้เดี๋ยวนั้นเลย (โดยส่วนตัวผู้เขียนเลิกดูรายการนี้ตั้งแต่มีการใช้ นมวาดรูปแล้วบอกว่ามันเป็นศิลปะ) รวมทั้งพฤติกรรมของกรรมการทั้ง 3 คน และอาการของผู้ประกาศทั้ง 2 คน ถ้ามีการพูดคุยตั้งแต่แรกก่อนขึ้นเวที ทุกคนก็จะรู้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น การปล่อยให้ขึ้นเวทีไปเลยนั้น เหมือนกับการปล่อยให้เกิดการฆาตกรรมบนเวที หรือเหมือนกับการปล่อยให้ หมา แมว ขึ้นไปแสดงอะไรที่มันน่ารักให้คนดู พอคนดูไม่พอใจก็โห่ไล่ซะ”

“โดยไม่ต้องคิดว่าเจ้าตัวจะคิดอย่างไร จะรู้สึกอย่างไร ไม่อยากขอร้องทางสถานี หรือบริษัทที่ทำรายการนี้ให้รับผิดชอบอะไร เพราะมันเป็นธุรกิจมันเป็นรายได้ ต้องพยายามทุกทางเพื่อให้เกิดรายได้แก่ตัวเองอยู่แล้ว แต่อยากร้องขอไปยังสถาบันต่าง ๆ ที่ผลิตบุคลากรทางสื่อสารมวลชน เป็นสาขาที่เด็กไทยนิยมมากในลำดับต้น ๆ ขอให้ช่วยสอนเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ความรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยอย่าสอนให้เห็นแก่รายได้มากเกินไป จนเห็นคนเป็นเพียงสัตว์ที่จะให้ทำอะไรก็ได้”

"ชูวิทย์" ยกกรณี"เท่ง เถิดเทิง" ร่ายยาวโยงคราวร่วมงานแต่ง

วันที่ 7 มิถุนายน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก "ชูวิทย์ I′m No.5" กล่าวถึงกรณีที่ ตลกชื่อดัง เท่ง เถิดเทิง ได้ขึ้นเวที เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครบรอบปีที่ 38 ของ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมพูดเอาใจเจ้าภาพ เชิงอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับบ้าน จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในอินเตอร์เน็ตอย่างมากในขณะนี้ จน ตลกดัง ต้องออกมาขอโทษ พร้อมระบุว่า แค่พูดเอาใจเจ้าภาพ ไปตามการแสดง จากนี้ไปจะไม่รับงานด้านการแสดงที่เกี่ยวกับการเมืองแล้ว

ทั้งนี้ ข้อความที่นายชูวิทย์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก นอกจากเรื่องของเท่ง เถิดเทิงแล้ว ยังโยงไปถึงเรื่องที่ตัวเอง เดินทางไปร่วมงานแต่งของลูกสาว นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ก่อนหน้านี้ โดยระบุ อย่าเอาไปเปรียบเทียบกับพรรคใหญ่ๆ อย่าง พรรคเพื่อไทย เพราะตนเป็นแค่พรรคการเมืองเล็กๆ ซึ่งที่ผ่านมา ได้ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ในการตรวจสอบผลงานของรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ในบ้านเมืองมาโดยตลอด ดังเนื้อหาต่อไปนี้

"เท่ง เถิดเทิง เป็นตลกดัง เมื่อเป็นตลกขึ้นเวทีก็ต้องพูดให้ตลกเอาใจเจ้าภาพ ใครที่ไหนจะไปพูดตลกไม่ถูกใจเจ้าภาพหรือคนฟัง เท่งไปพูดว่า "อยากให้ทักษิณกลับบ้าน" โดนด่าแทบตาย ต้องออกมาขอโทษขอโพย โอดว่าเข็ดแล้ว

ส่วนผมไปแค่งานแต่งงาน ที่ โรงแรมพลาซา แอททินี่ ถนนวิทยุ ยังมีคนบอกว่าผมไปถึงเขมร ผมจะไปเขมรทำไม? แล้วผมจะเปลี่ยนไปตรงไหนถ้าผมไปแค่งานแต่งงาน? งานแต่งงานมีคนเยอะแยะ ผมสามารถที่จะไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ จะให้ผมนั่งอยู่บ้านกินข้าวกับหมา แล้วผมจะไปรู้เรื่องอะไรภายนอก

งานที่ผมทำ หากจะต้องมาออกข่าวให้รู้ทุกอย่าง ก็เหมือนกับ "ทำงานเอาหน้า" แต่ผลงานเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา สรุปออกมาได้ดังนี้

1.บ่อนการพนัน (แหล่งกำเนิดของอาชญากรรม และคอรัปชั่นในวงการตำรวจ)

2.ลักลอบขนข้าวเถื่อนจากเขมรมาสวมสิทธิ์ ความเสียหายของงบประมาณ แทนที่จะช่วยเหลือชาวนาไทย ผลประโยชน์กลับไปตกอยู่กับนายทุน

3.แอร์พอร์ตลิงค์ขาดทุน โครงการกว่า 2 หมื่นล้าน ขาดทุนป่นปี้ กว่าจะคืนทุนพันปี ตอนนี้ถึงขนาดไม่มีจะจ่ายเงินเดือนพนักงาน

4.รถไฟ รัฐวิสาหกิจที่ขาดทุนสะสมเกือบแสนล้าน

5.โครงการต่างๆของกทม. บีอาร์ที, บีทีเอส, ตึกกทม.2, และอัปยศรถดับเพลิง

6.มหาอุทกภัยปี 2554 ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั่วประเทศ

7.โรงพัก 396 แห่ง แทนที่จะยกเลิกสัญญา กลับขยายต่อสัญญาถึง 4 ครั้ง ทั้งๆที่ผู้รับเหมาสร้างได้แค่เสา

8.ลักลอบขนแก๊สชายแดนเขมรเข้าไทย (รัฐบาลไทยอุดหนุนราคาแก๊สให้มีราคาถูก เขมรนำถังมาเติมที่ไทย แล้วขนกลับไปเขมร)

9.ลักลอบขนแรงงานเถื่อน (สายปอยเปต-อ่อนนุช)

10.ตม. เรียกรับเงินพิเศษผ่านแดน ด่านคลองลึก จ.สระแก้ว

และอื่นๆอีกมาก ทั้งในฐานะ ส.ส. รองประธานคณะกมธ.ตำรวจ และประธานคณะอนุกมธ.ตำรวจ ชุดที่ 1

เบาะๆ โครงการที่ผมพูดไปทั้งหมดหลายแสนล้าน ล้วนเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการคอรัปชั่นโดยทั้งสิ้น บางเรื่องผมยื่น ปปช. แล้ว เท่ากับทำหน้าที่ของผมเสร็จสิ้นกระบวนการ แม้แต่ลูกพรรคงูเห่าของผม 2 คน ผมยังดำเนินการยื่น กกต. และ ปปช.

ผมมี ส.ส. 4 คน สองคนเป็น "งูเห่า" เป็นความรับผิดชอบของผมในฐานะหัวหน้าพรรค ไม่หลีกเลี่ยงหรือปฏิเสธความผิด ผมต้องรับผิดชอบ ผมเป็นตัวยืนเพียงหนึ่งเดียว กรุณาอย่าเอาผมไปเปรียบเทียบกับพรรคใหญ่อย่าง พรรคเพื่อไทย หรือพรรคประชาธิปัตย์ เขามี ส.ส. เป็นร้อยคน การจัดสรรเวลาพูดในสภาฯหรือสิทธิโควต้าต่างๆมันเทียบกันไม่ได้ ผมมันพรรคเล็ก

ขอทวนอีกครั้ง พรรคผมมันเล็กจริงๆ ถ้าจะเอาผมไปเทียบ ก็เทียบกับพรรคเล็กด้วยกันเถอะครับ"