16 เม.ย. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.โรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ อดีตนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ออกมาตอบโต้ขบวนการล้มเจ้าถึงกับตั้งกลุ่ม “องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน” เพื่อต่อสู้ทุกรูปแบบอย่างเปิดเผย กับขบวนการ ที่จงใจใส่ร้ายสถาบันเบื้องสูงของประชาชนชาวไทย
ล่าสุด ในคืนวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา ผู้หญิงที่ชื่อ “โรส” สาวเสื้อแดง ซึ่งโพสต์ข้อความลงเฟสบุ๊คเพจชื่อว่า Chatwadee Rose Amornpat เผยแพร่ข้อมูลที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพฯ บ่อยครั้ง ได้เข้ามาโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คเพจของ พล.ต.นพ.เหรียญทอง ท้าทายกฎหมายอาญา ม.112 ด้วยการโพสต์ภาพและข้อความหมิ่นสถาบันเบื้อง
นอกจากนี้ยังโพสต์ข้อความคำพูดที่หยาบคายโจมตี พล.ต.นพ.เหรียญทองด้วยว่า “ หมอหมาหน้า .. แมว โดนโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคเข้าไป มึงกับพรรคพวกเปิดคลินิคมาแม่งนั่งตบยุง ดึงขน.... แค้นโครงการนี้มากเลยเนาะไอ้เหี้... ”
สำหรับ สาวเสื้อแดงที่ใช้ชื่อว่า โรส นั้น มีชื่อจริงว่า ฉัตรวดี อายุ 34 ปี เป็นช่างเสริมสวยอยู่ เลขที่ 18 ถนน Raymond Beckenham Kent BR3 4AP กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยมีสามีเป็นชาวอังกฤษ เจ้าของสถานีวิทยุออนไลน์ hot92.net โดยให้ Banpodj Thailand Clips เป็นผู้เผยแพร่คลิปหมิ้นสถาบันเบื้องสูง
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำลังเผชิญกับความท้าทายถึงท่าทีในการปกป้องสถาบัน เพราะการกระทำผิดกฎหมายอาญามาตรา 112 คดีหมิ่นเบื้องสูง ที่โกตี๋ ให้สัมภาษณ์แก่สื่อต่างประเทศพาดพิงถึงสถาบันเบื้องสูงและค่อนข้างชัดเจน จนกระทั่งมีการออกหมายจับแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ เหตุเพราะมีปัจจัยอยู่ 2-3 ประการคือ หนึ่งฝ่ายเจ้าหน้าที่ให้ความเกรงใจฝ่ายการเมืองเพราะผู้ต้องหาชัดเจนว่าสนับสนุนรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง สองสถานการณ์บ้านเมืองยังไม่แน่ชัดว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะในขณะที่ทั้งสองข้างเกิดการเผชิญหน้ามากขึ้นทุกที และประการต่อมาคือผู้กระทำผิดมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ให้การดูแลมาตั้งแต่ต้น ทั้งยังมีคดี ตั้ง อาชีวะ อีกคนที่ยังลอยนวลอยู่ทุกวันนี้ ถึงแม้ตัวนายกรัฐมนตรีพร้อมกับผบ.ตร. จะประสานเป็นเสียงเดียวกันว่าจะต้องเร่งรัดจับกุมให้ได้โดยเร็วแต่ยังไม่เห็นความคืบหน้าแต่อย่างใด
สิ่งสำคัญตอนนี้คือฝ่ายการเมืองโดยเฉพาะซีกของกองกำลังฝ่ายแดงบางส่วนยังมีความคิดเห็นว่าควรปกป้องโกตี๋ไว้หลังจากมีข่าวว่าผู้ถูกออกหมายจับเข้าไปซุกปีกพื้นที่อิทธิพลของแดงกลุ่มนี้ ขณะที่อีกฟากหนึ่งที่นั่งบริหารประเทศอยู่ก็พยายามโยนของร้อนออกจากตัวเพราะยังไงเสียเบี้ยตัวนี้ก็ใช้ไม่ได้แล้วในอนาคตและจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี แถมลึกๆ แล้วคนใหญ่ในรัฐบาลก็ไม่ค่อยชอบพฤติกรรมอยู่แล้วเพราะเป็นพวกควบคุมไม่ได้ จึงลงดาบเชือดตัดตอนไม่ให้เกิดภาพลักษณ์ที่กระทบต่อสถาบัน ลำพังรัฐบาลปัจจุบันก็ตกต่ำย่ำแย่อยู่แล้วยิ่งรุกเหมือนกับยิ่งถลำลึก กลายเป็นวัวพันหลัก คดีความต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับรัฐบาลก็เร่งเร้าใกล้เข้ามาทุกขณะ อาจต้องมีคดีทางอาญาติดตัวเสียด้วยซ้ำ เพาะฉะนั้นอะไรที่เป็นอุปสรรคหรือปมปัญหาก็ต้องจัดการเสียก่อน เรียกว่าเฉือนเนื้อเพื่อเอาตัวรอด
หน่วยงานด้านความมั่นคงเองโดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงรับของร้อนมาไว้แต่จนถึงขณะนี้การติดตามไล่ล่าดูจะยังห่างจากความเป็นจริง จนมีการตั้งข้อสังเกตว่าตำรวจพยายามดูทิศทางลมจากคนใหญ่ต่างประเทศก่อนเพราะหากจะมีการระดมกำลังจากทุกหน่วยทั่วประเทศสายข่าวของตำรวจทั้งหมดที่มีโกตี๋ คงไม่สามารถหลุดรอดเงื้อมมือไปได้ ยังไม่นับหน่วยงานด้านความมั่นคงอื่นๆ เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่แม้จะไม่ใช่ต้นเรื่องแต่คดีหมิ่นสถาบันก็คงต้องเข้ามามีส่วน เนื่องจากดีเอสไอเข้าไปขึ้นตรงอยู่กับศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ในตอนนี้ ยังไม่นับหน่วยงานด้านการข่าวของกองทัพที่มีกำลังพลอยู่ทั่วประเทศ มีสายข่าวถี่ยิบเต็มพื้นที่ ถ้าเอาเข้าจริงไม่มีทางหลบหนีไปได้ นี่คือความท้าทายและบ่งบอกถึงท่าทีของหน่วยงานรัฐทั้งหมดว่า ให้ความสำคัญกับคดีความผิดนี้อย่างไร เพราะหากข้าราชการไม่ปกป้องสถาบันหรือปล่อยปละละเลยผู้กระทำผิด ก็คงไม่ต้องเรียกว่าข้าราชการอีกต่อไป และนี่จะเป็นอีกบทพิสูจน์ว่าฝ่ายการเมืองมีบุญคุณล้นฟ้าล้นแผ่นดินต่อข้าราชการทั้งปวงจริงหรือไม่
เมื่อวันที่ 16 เม.ย.นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน หนึ่งในแกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.)ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ในขณะนี้มีวิวาทะ ว่า ด้วยการสถาปนารัฏฐาธิปัตย์อยู่ 6 สูตรแนวคิดและได้รับการถกเถียงในวงกว้างโดยเฉพาะหากการเมืองเข้าสู่สูญญากาศแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์การเมืองไทยมีความเป็นไปได้สูงใคร หน่วยงานใด องค์กรใดชอบธรรมที่สุดที่จะสถาปนารัฏฐาธิปัตย์เสนอรัฐบาลเฉพาะกาลซึ่งตนจะขอประมวลแนวคิดมาเบื้องต้นดังนี้สูตรที่ 1 เสนอโดยกปปส.บนเงื่อนไขศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานภาพรัฐบาลรักษาการสิ้นสุดลงเกิดสูญญากาศและเกิดขบวนการต่อต้านศาลรัฐธรรมนูญและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทางเลขาธิการกปปส.จะร่วมกับประชาชนรวมทั้งกองทัพ ข้าราชการประจำใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา3เสนอรัฐบาลเฉพาะกาลตามมาตรา 7 ในนามของการปฏิวัติประชาชนสูตรที่ 2 เป็นแนวคิดของนายชัยเกษม นิติศิริ รมว.ยุติธรรม ที่อ้างว่า เป็นแนวคิดส่วนตัวไม่เกี่ยวกับรัฐบาลน่าจะเป็นการโยนหินถามทางจากพ.ต.ท.ทักษิณชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะเสนอนายกฯพระราชทานตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 7 หากเกิดสูญญากาศการเมือง
นายสุริยะใส ระบุต่อว่า สูตรที่ 3 เสนอโดยคณะรัฐบุคคลที่เสนอให้ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษโดยขอให้มาทำหน้าที่รัฐบุรุษในการเจรจากับทุกฝ่ายเพื่อหาทางออกความขัดเเย้งในประเทศแล้วเสนอรัฐบาลเฉพาะกาลสูตรที่ 4ประธานวุฒิสภาจะเป็นผู้ทูลเกล้าฯขอนายกฯ มาตรา 7 แต่สูตรนี้กำลังถูกสกัดจากรัฐบาลโดยการไม่ขอทูลเกล้าฯขอพ.ร.ฎ.เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญฯเพื่อไม่ให้วุฒิสภาทำงานได้จนกว่าจะมีการเลือกตั้งส.ส.เรียบร้อยสูตรที่ 5กองทัพประกาศกฎอัยการศึกอาจฉีกรัฐธรรมนูญหรือไม่ก็ได้หรืออาจกระทำในรูปแบบของการรัฐประหารแบบที่ผ่านมาหรือกองทัพอาจร่วมกับปลัดกระทรวงทุกกระทรวงทูลเกล้าฯขอนายกฯ มาตรา 7 และสูตรที่ 6 ฝ่ายตุลาการโดยศาลยุติธรรมอาจรวมศาลรัฐธรรมนูญและศาลปกครองซึ่งเป็นอำนาจตุลาการเป็น 1 ใน 3 อำนาจที่ถือรัฏฐาธิปัตย์โดยชอบธรรมในขณะนี้และเป็นอำนาจเดียวที่เหลืออยู่หลังจาก2อำนาจคืออำนาจบริหารและอำนาจนิติบัญญัติพ้นสภาพไปโดยแนวคิดทั้ง 6สูตรนี้ตัวแปรสำคัญของความเป็นไปได้ที่สุดยังอยู่ที่กองทัพปลัดกระทรวงและจำนวนประชาชนที่สนับสนุนว่าจะเข้าร่วมกับสูตรๆไหนอย่างไร.
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012