ข่าว
เสื่อมหนัก!! สอนเด็กดูดยา

วันที่ 1 พ.ค. 56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกสังคมออนไลน์ขณะนี้ ได้มีการนำคลิปวีดีโอที่ใช้ชื่อว่า "สอนเด็กดูดยา!" ผู้ที่นำมาเผยแพร่มีชื่อว่า TheAssMincgsโดยคลิปดังกล่าวมีความยาว 1:17 น.ถูกโพสต์ลงเมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2013 ซึ่งเนื้อหาในคลิปดังกล่าวพบว่า เป็นการถ่ายวีดีโอเด็กชายตัวน้อยอายุราว 4-5 ขวบ โดยเด็กน้อยดังกล่าวพูดในคลิปว่าอยากดมเค โดยมีผู้หญิงในคลิปอีกคน กำลังถืออุปกรณ์การเสพ และกระดาษห่อใส่ผงสีขาว ก่อนที่จะสอนเด็กชายดังกล่าวสูดดมเคเข้าไปทางจมูก จนมีเสียงผู้ชายเข้ามาในคลิปว่า"ออตโต้เมายัง" เมื่อเด็กดังกล่าวได้สูดดมเข้าไป สร้างความถูกใจให้กับหญิงสาวที่เป็นคนสอนเป็นอย่างมาก ซึ่งทันทีที่คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมาต่างแสดงความเห็นถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสมในการสอนให้เด็กดมสิ่งเสพติด น่าจะสอนสิ่งดีๆให้กับเด็ก บ้างก็บอกผู้หญิงในคลิปเตรียมตัวงานเข้าได้เลย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดคลิปวีดีโอดังกล่าวได้ถูกลบออกไปแล้ว หลังจากที่สื่อได้นำเสนอข่าว ซึ่งคาดว่าเจ้าของคลิปดังกล่าวเป็นผู้ลบออกไป

"สุดารัตน์" เปิดบ้านฉลองวันเกิด 52 ปี

วันที่ 1พ.ค. เมื่อเวลา 17.00 น. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย จัดงานฉลองวันเกิดครบรอบ 52 ปี ที่บ้านซอยลาดปลาเค้า 60 ภายใต้ชื่องาน “21 ปี สายใยแห่งความผูกพัน” บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีแกนนำพรรคเพื่อไทย ส.ส.กทม. ส.ก. ส.ข. และชาวบ้านจากเขตต่างๆมาร่วมงานจำนวนมาก อาทิ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ว่าที่ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย นายเสนาะ เทียนทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย โดยมีการจัดโต๊ะจีน 200 โต๊ะ และซุ้มอาหารจำนวนมากเลี้ยงแขกที่มาร่วมงาน ทั้งนี้ผู้แทนพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์พระวรชายา และทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯอัญเชิญแจกกันดอกไม้พระราชทานอวยพรวันเกิดแก่คุณหญิงสุดารัตน์ด้วย

จากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า วันเกิดปีนี้อยากให้ประเทศไทยมีความเจริญรุ่งเรือง และหมดความขัดแย้ง และให้โครงการบูรณะลุมพินีสถานราบรื่น ส่วนการจัดงานวันเกิดปีนี้ไม่มีนัยยะอะไร เพราะเป็นการจัดประจำทุกปี โดยจัดเพื่อขอบคุณผู้สนับสนุนในช่วงปีที่ผ่านมา เมื่อถามว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีด้วยอวยพรวันเกิดปีนี้หรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ตนได้ไปร่วมประชุมคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบดอกไม้และอวยพรให้แข็งแรง มีความสุข สมหวัง และขอบคุณที่มาช่วยกันทำงาน

ส่วนกรณีที่ีข่าวว่า จะลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมส.ส.กทม. เขตดอเมือง หากศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งตัดสิทธิทางการเมืองนายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทยนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ไม่เป็นความจริงให้ไปถามคนที่ปล่อยข่าว ตนรู้สึกเสียใจที่มีข่าวให้เสียหายใครที่เคยทำงานร่วมกันมาก็เห็นอยู่แล้วว่าได้จัดงานอย่างนี้เป็นประจำทุกปี อยากให้ผู้ทำหน้าที่อยู่เมื่อประสบปัญหาอะไรก็ขอให้พ้นจากปัญหา ตนวางตัวในฐานะผู้สนับสนุนมีความสุขกับงานที่ทำคือเป็นผู้รับใช้ศาสนา ตนหวังว่าศาลจะให้ความเป็นธรรมกับผู้ร่วมงาน ส่วนอนาคตหลังจากเสร็จงานรับใช้ศาสนาแล้วจะกลับมาทำงานการเมืองหรือไม่ค่อยว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง

ข้องใจโซนนิ่งเกษตรฯรับเออีซี

เกษตรกรอีสานข้องใจ นโยบายโซนนิ่งลดพื้นที่เพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ ชี้ทุกอาชีพเลือกไม่ได้

รายงานข่าวแจ้งว่า สภาเกษตรกรแห่งชาติได้จัดการสัมมนาเกษตรไทยพร้อมรุกปรับรับเออีซี กับพื้นที่รายภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อเตรียมรับกับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 โดยการจัดสัมมนาที่ จ.อุบลราชธานี เมื่อเร็ว ๆ นี้ เกษตรกรไม่เห็นด้วยกับนโยบายการกำหนดโซนนิ่งการเพาะปลูก หรือการประกาศพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการปลูกพืช ปศุสัตว์ และประมง เพื่อให้ได้ผลที่เหมาะสมกับคุณภาพดิน น้ำ อากาศ อุณหภูมิ แสง และปริมาณน้ำฝนแต่ละพื้นที่

ทั้งนี้ได้กำหนดพื้นที่เหมาะสมสำหรับการปลูกพืชแล้ว 6 ชนิด คือ ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง อ้อย ยางพารา และปาล์มน้ำมัน และจะประกาศเพิ่มอีก 7 ชนิดในเร็ว ๆ นี้ ส่วนด้านปศุสัตว์ก็ประกาศแล้ว 5 ชนิด คือ โคเนื้อ โคนม ไก่เนื้อ ไก่ไข่ และสุกร โดยมีแผนจะประกาศสำหรับกลุ่มประมงอีก 3 ชนิดในเร็ว ๆ นี้

ผู้นำเกษตรกร จ.อุบลราชธานี รายหนึ่งกล่าวว่า การกำหนดโซนนิ่ง คงเป็นเพราะการผลิตได้ผลออกมามากทำให้ราคาตก เช่น ข้าวที่ขายแข่งกับต่างประเทศไม่ได้ แต่สำหรับเกษตรกรเห็นว่าทุกอาชีพเลือกไม่ได้ ที่ผ่านมาความผิดพลาดเกิดจากรัฐ เช่น นโยบายปลูกพืชเชิงเดี่ยว จนเกิดความเสียหาย ประชาชนก็หันมาใช้แนวพระราชดำริทฤษฎีใหม่ นอกจากนี้ กรมวิชาการเกษตร เคยบอกภาคอีสานปลูกยางพาราไม่ได้ แต่เมื่อนำมาปลูกก็ได้ผลดี หากจะห้ามก็จะเกิดความเสียหาย

อนึ่ง กำหนดโซนนิ่งจะกำหนดตามสภาพที่เหมาะสมสำหรับการปลูกพืช เช่น การปลูกข้าวในที่เหมาะสมจะให้ผลผลิต 700 กิโลกรัมต่อไร่ แต่ในพื้นที่ไม่เหมาะสมจะได้เพียง 300 กิโลกรัมต่อไร่ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ระบุว่า ไม่ได้ห้ามเกษตรกรที่ปลูกพืชเดิมอยู่แล้ว เพียงแต่แจ้งให้ทราบว่าพื้นที่ใดมีความเหมาะสม ปลูกแล้วได้กำไรสูงกว่าในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมเท่านั้น.

สิ้นแล้ว ปราชญ์ชาวบ้าน"ครูชบ ยอดแก้ว" ผู้จุดประกาย"สัจจะวันละบาท"

รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลาเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ที่วัดน้ำขาวนอก ตำบลน้ำขาว อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ญาติๆ และชาวบ้านในจังหวัดสงขลา ร่วมกันประกอบพิธีรดน้ำศพนายชบ ยอดแก้ว ปราชญ์ชาวบ้านครูภูมิปัญญาไทย โดยมีนายวิเชียร สุคนธาภิรมย์ อดีต ผวจ.สงขลา เป็นประธานในพิธี นายชบ เป็นผู้ริเริ่มแนวคิดเศรษฐศาสตร์ชุมชนหรือเศรษฐศาสตร์พื้นบ้าน โดยนำความคิดรวบยอดจากกลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์และสวัสดิการชุมชนมาผนวกกับการใช้การศึกษาเข้ามาเป็นฐานเพื่อการพัฒนาชุมชนให้ภายใต้โครงการสัจจะวันละบาท ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ ดร.ครูชบ-ปราณี ยอดแก้วสถาบันพัฒนาองค์กรการเงินและสวัสดิการภาคประชาชนสงขลาจนมีโครงการสัจจะออมทรัพย์วันละบาท กระจาย 140 ตำบลของจังหวัด

นายครูชบเสียชีวิตอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งเมื่อเช้าวันนี้ ในวัย 78 ปี ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ภายหลังเข้ารับการรักษาตัวเมื่อ 5 เมษายนที่ผ่านมา นับเป็นการสูญเสียปราชญ์ชาวบ้านผู้มีแนวคิดในการพัฒนา โดยให้ชาวบ้านร่วมเรียนรู้เศรษฐศาสตร์ชุมชนก็คือ กลุ่มออมทรัพย์อันเกิดขึ้นจากการเรียนรู้ของชาวบ้านในเรื่องการจัดการเงินทุนของตนเองและครอบครัว โดยประสานเชื่อมโยงกับสังคม วัฒนธรรม จิตใจ และสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน การออมทรัพย์นอกจากทำให้สามารถกอบกู้เศรษฐกิจในครัวเรือนได้แล้ว ยังสามารถนำมาซึ่งการกอบกู้เศรษฐกิจของประเทศชาติได้อีกด้วย

โดยพิธีรดน้ำศพนั้นนอกจากจะมีประชาชนในพื้นที่แล้ว ยังมีตัวแทนกลุ่มสัจจะวันละบาทจากทั้ง 16 อำเภอของจังหวัดเข้าร่วม โดยจะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้ที่ฌาปนสถานวัดน้ำขาวนอก