เมื่อ 17 ส.ค. การแข่งขันมวยไทยรายการ "ไทยไฟต์ เอ็กซ์ตรีม อิน อิงแลนด์" ที่ สนามคิงพาวเวอร์สเตเดี้ยม เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เป็นการชกระหว่าง ทีมรวมนักชกไทยกับอังกฤษ กับ ทีมยุโรปกับนานาชาติ รวมทั้งหมด 6 คู่ โดยคู่เอก บัวขาว ป.ประมุข พบกับ อับดุล ตูเร่ แชมป์มวยไทยยุโรปจากฝรั่งเศส
ผลการชกปรากฏว่า บัวขาว เดินประเคนแข้งใส่คู่ต่อสู้ตั้งแต่ยกแรก ก่อนที่ยกที่ 2 จะวางแข้งขวากึ่งเข่าเข้าชายโครง อับดุล ตูเรย์ อย่างจัง ถึงกับทรุดลงไปกองกับเวที ให้กรรมการนับเอาชนะทีเคโอได้อย่างสวยงาม
ส่วน คู่รองของรายการนี้เป็นการชกระหว่าง สุดสาคร ส.กลิ่นมี กับ ริจจี้ อิสซาม นักมวยฝรั่งเศส โดยสุดสาคร คุมเกมและจังหวะได้ตลอด จนยกสุดท้าย ก็ส่งริจจี้ อิสซาม ให้กรรมการนับ 8 จากนั้นไม่มีปัญหา ครบยกกรรมการรวมคะแนนแล้วชูมือให้ สุดสาคร ส.กลิ่นมี เอาชนะ ริจจี้ อิสซาม นักมวยฝรั่งเศส
สรุปผลการชกของคู่อื่นๆ มีดังนี้ อามีน พุ่มพันธุ์ม่วง (ไทย) ชนะน็อค อับดุลลาห์ มาเบิ้ล (แคเมอรูน) ยกที่ 2, เลียม ฮาร์ริสัน (อังกฤษ) ชนะคะแนน ดีแลน ซัลวาดอร์ (สเปน)
สิงห์มณี แก้วสัมฤทธิ์ (ไทย) ชนะคะแนน ฮัดซัน เบนนุย (ฝรั่งเศส) และ ไทรโยค พุ่มพันธุ์ม่วง (ไทย) ชนะคะแนน จอร์จ เคร็ก (สกอตแลนด์)
เมื่อ 19.30 น. วันที่ 17 ส.ค. ที่ชั้น 8 ห้างสรรพสินค้าเซน นางเอกสาว พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช มาร่วมงานเดินแฟชั่นโชว์ ZEN BODY SENSE 2012 Stories of Seduction ก่อนให้สัมภาษณ์เปิดใจถึงกรณีอื้อฉาวล่าสุด จากคลิปเสียงสนทนา ระหว่างแม่ของพิ้งกี้ กับธัญญ่า ธัญญาเรศ เองตระกูล ดาราสาวรุ่นพี่ที่เคยพิพาทกัน เอ่ยถึงการที่พิ้งกี้ส่งเอสเอ็มเอสถึงเป๊ก สัญชัย เองตระกูล สามีของธัญญ่า
"วันนี้ที่มาไม่ได้เป็นการแถลงข่าวใดๆ เป็นการมาทำงานปกติ เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น กี้ไม่ได้มีอะไรกับใคร อยากให้เรื่องนี้จบสักที ขอยืนยันว่าเอสเอ็มเอสเป็นของกี้จริง เป็นเอสเอ็มเอสปกติไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น ไม่มีอะไรแอบแฝง" นางเอกสาวกล่าว ก่อนอธิบายต่อ
"เจตนาที่กี้ส่งไปไม่มีอะไร เพราะพี่เป๊กส่งมาหากี้ก่อน เบอร์โทรศัพท์เบอร์นี้กี้ไม่ได้ใช่มาเป็นปีแล้ว พอเปิดดูก็เห็นเอสเอ็มเอสที่พี่เป๊กส่งมาหากี้ เราก็ตอบไปโดยไม่ได้คิดอะไร ไม่มีเจตนาแอบแฝงอะไรทั้งสิ้น ไม่อย่างนั้นกี้คงไม่กล้าตอบไป เอสเอ็มเอสนั้นเป็นการส่งให้เพื่อนๆ ทุกคน ไม่มีใครอยู่ในสมองกี้ตอนนี้ นอกจากพ่อแม่และครอบครัว"
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าจากนี้จะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไร นางเอกสาวตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า "ปกติกี้ทำงานทุกวัน ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะเราไม่ได้ทำอะไรหรือว่าต้องเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งสิ้น ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นคือเรื่องคลิป เราไม่ได้ยุ่งอะไรกับคลิปเลย เราอยู่ของเราดีๆ และกับคุณแม่ท่าน (เสียงสั่น) ใครโทร.มาหาแบบนี้ แม่ก็ต้องมีอารมณ์เสีย หนูฝากขอโทษด้วย กับเอสเอ็มเอสที่ทำให้ใครไม่เข้าใจ หรือเข้าใจผิด ขอโทษด้วย ขอโทษที่คุณแม่พูดไม่ดี คุณแม่ไม่ได้มีเจตนาอะไรเลย พูดด้วยความจริงใจ ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมที่จะอัดหรือว่าอะไรต่างๆ นานา"
ต่อข้อถามว่าหลังจากนี้จะเลิกส่งข้อความหากันอีกหรือเปล่า พิ้งกี้ตอบว่า ไม่ได้ใช้เบอร์โทรศัพท์เบอร์นี้มานานแล้ว แค่พอมาเปิดแล้วเห็นข้อความที่พี่เป๊กส่งมาเท่านั้น ไม่เคยส่งข้อความไปหา กับครั้งนี้ที่ส่งเป็นแค่มารยาทที่เป็นมนุษย์ เป็นมิตรที่ควรจะส่งกันได้ ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ข้อความที่เป๊กส่งมาหาว่าอย่างไรบ้าง ดาราสาวเผยว่า คงไม่ต้องลงรายละเอียดขนาดนั้น กี้ว่าเป็นใครที่ได้ข้อความมาเราก็ต้องตอบในลักษณะความเป็นมิตร
ต่อข้อถามถามต่อว่าเรื่องนี้อยากให้ยุติลงใช่หรือไม่ พิ้งกี้ตอบเสียงสั่นอีกว่า "ทุกอย่างจบ กี้กับแม่ไปถ่ายละครทุกวัน และต้องไปเล่นคอนเสิร์ต ไม่มีเวลาที่จะนอน ต่อไปนี้กี้ขอร้องอย่ามาถามกี้เรื่องนี้อีก เพราะกี้จบอยู่แล้ว เรื่องเอสเอ็มเอสไม่ต้องกังวล กี้ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ไม่ทำให้ใครผิดหวัง ขอบอกพี่ๆ ทุกคน กี้รับประกัน (เสียงสั่น น้ำตาคลอ) ไม่มีเรื่องให้ต้องมาเครียด กับคนที่ปล่อยคลิป ขอร้องดูกันแล้ว สนุกกันแล้ว หัวเราะกันแล้ว ให้กลับไปทำอะไรที่เป็นประโยคต่อสังคมบ้าง"
ผู้สื่อข่าวถามถึงคุณแม่อ้อย ว่าเป็นอย่างไรบ้าง พิ้งกี้เผยเสียงสั่นพร้อมทั้งกลั้นน้ำตาไม่ไหว ว่า ตอนนี้คุณแม่ถือศีลอดอยู่ คุณแม่เลยไม่ได้ว่า วันนี้ขอแค่นี้ กี้ไม่อยากร้องไห้จริงๆ
นักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดัง นายชีวิน โกสิยพงษ์ หรือ "บอย-โกสิยพงษ์" ประสบอุบัติเหตุถูกรถเก๋งพุ่งชนข้างคนขับเมื่อกลางดึกของวันที่ 17 ส.ค. ที่เมืองลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ขณะพาลูกสาว "น้องดีใจ" ไปซื้ออาหารที่ซุปเปอร์มาเก็ตใกล้บ้าน แต่โชคดีที่แอร์แบคด้านข้างทั้ง 2 ข้างทำงาน ส่งผลให้ทั้งคู่ปลอดภัย รอดมาได้อย่างหวุดหวิด แต่สภาพรถพังยับ
"บอย-โกสิยพงษ์" ได้อัพรูปรถที่ประสบอุบัติเหตุ และเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า "เมื่อคืนผมและดีใจออกไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาเก็ตใกล้ๆ บ้าน เพื่อจะเตรียมไว้เป็นอาหารเช้า ขากลับเกิดอุบัติเหตุ ขณะขับรถอยู่ก็มีรถอีกคนพุ่งมาอย่างเร็ว ชนเข้าที่ข้างคนขับ (คือผมเอง) เข้าอย่างจัง ทำให้แอร์แบคด้านข้างทั้ง 2 ข้างทำงาน และประตูก็เสียหายจนเปิดไม่ได้ ขอบคุณพระเจ้าที่ผมและลูกสาว รวมถึงคู่กรณีปลอดภัยดี เราต่างตกลงกันได้ด้วยดี และคู่กรณีก็ยอมรับผิด และทางประกันก็รีบนำรถใหม่มาให้ใช้แทนภายในเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
ผมกับลูกสาวกลับถึงบ้านกันอย่าง งงๆ กับเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็รู้สึกเพลียมากจนนอนหลับไป หลังจากนั้นอีกไม่นาน ผมตื่นขึ้นมาทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ทำให้รู้สึกขนลุกอย่างไม่รู้ตัว เพราะรถที่เข้ามาชนรถของผมแรงมาก จนทำให้นึกถึงคำสอนในไบเบิลที่ว่า ชีวิตของคนเราคล้ายกับ A Puff Of Smoke แค่แว็บเดียวเราอาจจะต้องจากไป หรือคนที่เรารักอาจจะต้องจากเราไปอย่างไม่มีวันกลับมาก็เป็นได้ และเราอาจนึกเสียใจถ้ามีอีกหลายๆ อย่างที่ยังไม่ได้ทำให้กันและกัน บ่อยครั้งที่ผมหมดเวลาไปกับการเตรียมอนาคตของครอบครัวเรา และก็มักจะเป็นเหตุผลที่มีน้ำหนักมากสำหรับผมให้เป็นข้ออ้างในการไม่เข้าร่วมกิจกรรมในหลายๆ ครั้งของโรงเรียนของลูกสาว และการร่วมไป Shopping กับภรรยา รวมทั้งการดูแลสุขภาพโดยไม่รู้สึกผิด
แต่ถ้าเหตุการณ์เมื่อคืนไม่ได้จบสวยงามเหมือนที่เป็น ถ้าเกิดผมต้องเสียชีวิตไป ถ้าเกิดลูกสาวของผมเป็นอะไรไป ผมคงไม่มีโอกาสที่จะมาทบทวนและปรับปรุงแก้ไขเหมือนในตอนนี้ จึงอยากแบ่งปันเรื่องนี้ให้กับทุกคนที่ห่วงแต่ชีวิตในอนาคต แต่ลืมชีวิตข้างๆ เราในเวลาปัจจุบันเหมือนผมครับ ขอพระเจ้าอวยพรครับ"
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012