ข่าว
ไอเอ็มเอฟปรับเพิ่มคาดหมาย การขยายตัวทางเศรษฐกิจโลก

วอชิงตัน (เอพี/รอยเตอร์ส) - กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ ปรับเพิ่มการคาดหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจของโลกในปี 2024 จากร้อยละ 3.1 ที่คาดหมายไว้ในเดือนมกราคมเป็นร้อยละ 3.2 โดยให้เหตุผลว่า อัตราเงินเฟ้อลดลงและเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งมากขึ้น

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่ากองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ปรับเพิ่มการคาดหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจของโลกในปี 2024 จากร้อยละ 3.1 ที่คาดหมายไว้ในเดือนมกราคมเป็นร้อยละ 3.2 โดยให้เหตุผลว่า อัตราเงินเฟ้อลดลงและเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งมากขึ้น โดยในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เศรษฐกิจสหรัฐฯ ดูคึกคักมากที่สุด โดยไอเอ็นเอฟคาดหมายว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเติบโตถึงร้อยละ 2.7 ในปีนี้ จากการคาดหมายครั้งก่อนที่ร้อยละ 2.1 ไอเอ็มเอฟ กล่าวในรายงานภาวะเศรษฐกิจโลกฉบับล่าสุดที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ว่า หลายประเทศสามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อไว้ได้ โดยจากอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยที่ร้อยละ 6.8 ในปี 2023 ไอเอ็มเอฟคาดหมายว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกจะลดลงเหลือร้อยละ 5.9 ในปี 2024 และร้อยละ 4.5ในปี 2025

ไอเอ็มเอฟ ยังกล่าวในรายงานที่เผยแพร่ก่อนการประชุมรัฐมนตรีคลังจากทั่วโลกที่จะมารวมตัวกันที่กรุงวอชิงตันเพื่อประชุมประจำปีสำหรับฤดูไบไม้ผลิของไอเอ็มเอฟและธนาคารโลก ว่า เศรษฐกิจโลกยังคงมีความสามารถในการฟื้นตัว การขยายตัวทางเศรษฐกิจยังมั่นคงและเงินเฟ้อกลับไปอยู่เป้าหมายที่กำหนดไว้ อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกในปี 2025 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 3.2 ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากที่คาดหมายไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ไอเอ็มเอฟ กล่าวว่าอัตราการขยายตัวยังถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานในอดีตและยังมีความเสี่ยงหลายด้านรวมถึงสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสและความตึงเครียดทางด้านภูมิรัฐศาสตร์อื่นๆ การดำเนินการผิดพลาดของจีนในภาคอสังหาริมทรัพย์และผลกระทบอื่นๆ ที่เกิดจากอัตราดอกเบี้ยสูง

การจัดงานสงกรานต์วัดไทยแอลเอปี 2024 ได้รับความสำเร็จเกินคาด

การจัดงานสงกรานต์ประจำปีของวัดไทยแอลเอเมื่อวันที่ 13 และ 14 เมษายน 2024 มีพี่น้องประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมากถึงแม้จะมีฝนโปรยลงมาทั้งสองวัน

ประเพณีสงกรานต์ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของไทยการจัดกิจกรรมในงานวันสงกรานต์มุ่งเน้นทางด้านความกตัญญู ความสนุกสนานรื่นเริง ความสามัคคีและความสัมพันธ์ของชุมชนไทยกับชาวต่างชาติ มีการแสดงนาฎศิลป์ฟ้อนรำ การแสดงดนตรีไทยและดนตรีสากล การประกวดเทพีสงกรานต์และหนูน้อยสงกรานต์ซึ่งเป็นการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยอันสวยงามในต่างแดน มีพิธีรดน้ำดำหัวของชาวเหนือโดยสมาคมล้านนา มีพิธีทางด้านศาสนาเช่นการทำบุญตักบาตร การทำบุญอัฐิ การทำบุญสะเดาะเคราะห์ การถวายสังฆทานอุทิศให้ผู้ล่วงลับไปแล้ว การสรงน้ำพระพุทธรูป การสรงน้ำพระสงฆ์และรับพรจากพระสงฆ์ถือเป็นศิริมงคลแด่ขีวิตในโอกาสวันขึ้นปีใหม่

การจัดงานสงกรานต์ในปีนี้ทางวัดไทยฯ ได้เรียนเชิญคุณสมใจนึก เองตระกูล อดีตปลัดกระทรวงการคลังมาเป็นประธานจัดงานฯ เรียนเชิญคุณสัณณ์ชัย เองตระกูลและคุณธัญญเรศ เองตระกูล ดารานักแสดงมาเป็นประธานถวายผ้าป่าในงานสงกรานต์ โดยประธานทั้งสามท่านได้ร่วมกันบริจาคและยังนำเงินบริจาคจากสาธุชนในเมืองไทยมามอบให้แก่ทางวัดเป็นจำนวนมากอีกด้วยซึ่งทำให้การจัดงานสงกรานต์ของวัดไทยแอลเอในปีนี้ได้รับความสำเร็จด้วยดีเกินคาดมีรายได้รวมถึง 156,806 เหรียญ

ในนามของคณะกรรมการอำนวยการและคณะกรรมการบริหารวัดไทยแอลเอขอกราบนมัสการขอบพระคุณ คณะสงฆ์วัดไทยฯ ที่สละเวลาจัดเตรียมสถานที่และเวทีการแสดงหลายวันก่อนวันงานฯ ขอขอบคุณท่านกงสุลใหญ่ต่อ ศรลัมภ์และภรรยาที่ให้เกียรติมาร่วมพิธีเปิดงานฯ ขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญต่อท่านประธานจัดงานสงกรานต์และท่านประธานถวายผ้าป่า และรองประธานถวายผ้าป่าทั้ง 5 ท่านคุณโอภาส มะลิพันธ์ คุณเจริญพร แฮกเกอร์ คุณตัน พัฒนะ คุณจีน่า ปรีชา และคุณยุพินพักตร์ เตโชภาส ที่มีจิตเป็นกุศลร่วมถวายผ้าป่าให้แก่ทางวัดฯ ขอขอบคุณคุณศรีวงค์ อาญาสิทธิ์ประธานประกวดเทพีสงกรานต์และคุณครูวาสินี ธรรมปัญญา ประธานประกวดหนูน้อยสงกรานต์ที่รับงานหนัก ขอขอบคุณคุณวรินทร์ทิพย์ แจ้งดีที่รับงานด้านผ้าห่มพระพุทธรูป ขอขอบคุณคุณริชาร์ดและคุณตุ๊กตา มาร์ที่ดูแลเรื่องรดน้ำดำหัวของสมาคมล้านนา ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ที่ปฎิบัติงานด้วยความเหน็ดเหนื่อย ขอขอบคุณการให้บริการเครื่องเสียงฟรีจากวงอัปสรศรีโดยคุณต่อศักดิ์ ผดุงโยธี และคุณประณตพร วงสาโรจน์และเครื่องเสียงจากวงธารน้ำใจโดยคุณอารียา ชิม ศิริพจน์และนักร้องนักแสดงทุกท่าน ขอขอบคุณแม่ครัววัดไทยที่ให้บริการอาหารแก่พระสงฆ์และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ขอขอบคุณพ่อค้าแม่ค้าตลาดวัดไทยฯ ให้บริการอาหารแก่ผู้มาร่วมงาน ขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญต่อพี่น้องประชาชนทุกท่านที่มาร่วมงานและร่วมบริจาคให้แก่ทางวัด

สุดท้ายนี้ขออำนาจคุณพระศรีรัตนไตรและหลวงพ่อแก้วศักดิ์สิทธ์ จงคุ้มครองปกป้องรักษา พี่น้องประชาชนทั้งหลายให้มีความสุขความเจริญในหน้าที่การงาน มีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรงปราศจากโรคภัย และคิดสิ่งใดให้สมความปรารถนาทุกประการตลอดปี 2024 ด้วยเทอญ สาธุ

นายสมชาย ไทยทัน

ประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์และ กรรมการอำนวยการวัดไทยแอลเอ

04/16/2024

เตือน! ทานยาครอบจักรวาล CDS เสี่ยงหัวใจเต้นผิดจังหวะ อันตรายถึงชีวิต

วันที่ 18 เมษายน 2567 ศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี หรือหมอหมู แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว. โพสต์ข้อความผ่านเพจ “หมอหมู วีระศักดิ์” ระบุว่า เตือน! ทานยาครอบจักรวาล CDS เสี่ยงชีวิต หัวใจเต้นผิดจังหวะ ชัก

Chlorine Dioxide Solution (CDS) เป็นสารที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรคและได้รับการกล่าวถึงในสื่อสังคมออนไลน์ว่าสามารถรักษาโรคต่างๆ ได้ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานด้านสุขภาพได้เตือนว่า CDS ไม่ควรนำมาบริโภคหรือใช้เป็นยา เนื่องจากไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เพียงพอที่จะสรุปได้ว่ามีประสิทธิภาพในการรักษาโรค และอาจมีผลข้างเคียงที่อันตรายถึงชีวิต

CDS มีการใช้ในหลายรูปแบบ เช่น

1. การฟอกน้ำ: ใช้ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสในน้ำ

2. การฆ่าเชื้อพื้นผิว: ใช้ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสบนพื้นผิว

3. การฟอกอากาศ: ใช้ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสในอากาศ

ผลข้างเคียงของ CDS อาจรวมถึง:

1. ความเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้รุนแรง

2. การเสียชีวิตจากการใช้งานที่ไม่ถูกต้องหรือในปริมาณที่มากเกินไป

CDS มีความเสี่ยงและผลข้างเคียงหลายประการ ดังนี้

1. อันตรายต่อร่างกาย:

การสูดดม: อาจทำให้เกิดอาการแสบจมูก ไอ หายใจลำบาก ปอดอักเสบ และอาจถึงแก่ชีวิตได้

การกลืน: อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง กระเพาะอาหารอักเสบ และอาจถึงแก่ชีวิตได้

การสัมผัส: อาจทำให้เกิดระคายเคืองผิวหนัง ตา และอาจเกิดแผลไหม้ได้

2. การกัดกร่อน:

CDS มีฤทธิ์กัดกร่อนสูง อาจกัดกร่อนผิวหนัง เยื่อบุตา และอุปกรณ์ต่างๆ ได้

3. ปฏิกิริยากับสารเคมีอื่น:

CDS อาจทำปฏิกิริยากับสารเคมีอื่นๆ เช่น กรด ด่าง น้ำยาทำความสะอาด น้ำยาฟอกขาว ฯลฯทำให้เกิดก๊าซพิษ เช่น คลอรีน ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

4. ผลข้างเคียงอื่นๆ: ปวดศีรษะ เวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย อ่อนเพลีย ความดันโลหิตต่ำหัวใจเต้นผิดจังหวะ และ ชัก

วิธีแก้ไขหากได้รับ CDS ในปริมาณสูง มีดังนี้

1. ห้ามล้วงคอ หรือ กระตุ้นให้อาเจียน

2. หากเกิดอาการบวมแดง หรือ ระคายเคืองใด ๆ ให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน เพื่อทำการประเมินอาการและรักษาต่อไป

3. รีบล้างบริเวณร่างกายที่สัมผัสผ่านน้ำสะอาดมาก ๆ

4. รีบไปพบแพทย์ ปริมาณที่สัมผัส รวมไปถึงอาการที่เกิดขึ้น เพื่อให้แพทย์ใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการวินิจฉัยตรวจประเมินและรักษาคุณ

สรุป

CDS เป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ แต่มีอันตรายต่อร่างกาย ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ไม่ควรใช้ CDS เพื่อรักษาโรค เพราะยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สนับสนุน และอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

อ้างอิงข้อมูลจาก: คณะกรรมการอาหารและยา

เรียบเรียงโดย: รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี #หมอหมูวีระศักดิ์ #ตีแผ่ทุกความจริงด้วยวิทยาศาสตร์


‘สุวรรณภูมิ’ทะยานขึ้นสู่อันดับ 58 'ดอนเมือง'ติด Top 10 ขวัญใจสายการบินต้นทุนต่ำ

วันที่ 18 เมษายน 2567 นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตั้งเป้าหมายการผลักดันท่าอากาศยานของไทยให้ติดอันดับ 1 ใน 50 สนามบินที่ดีที่สุดในโลกภายใน 1 ปี และติดอันดับ 1 ใน 20 ของโลกภายใน 5 ปี ซึ่งนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ได้ดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายในการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว สร้างรายได้ฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศนั้น

ล่าสุด ในปี 2024 นี้ เว็บไซต์ Skytrax ซึ่งเป็นเว็บไซต์จัดอันดับการให้บริการของสนามบินได้ประกาศสนามบินที่ดีที่สุดในโลก (World’s Best Airport) ประจำปี 2024 ซึ่งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ติดอันดับที่ 58 ขยับขึ้นจากอันดับที่ 68 โดยขึ้นมา 10 อันดับจากปี 2023 ขณะที่ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ติดอันดับ 10 ของสนามบินสำหรับสายการบินต้นทุนต่ำที่ดีที่สุดในโลก (World’s Best Low-Cost Airline Terminals)

สำหรับผลการจัดอันดับดังกล่าวมาจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้เดินทางด้วยเครื่องบินทั่วโลก ภายใต้การสำรวจที่ชื่อว่า World’s Airport Survey จัดทำโดยบริษัท Skytrax ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยและที่ปรึกษาด้านการบินชั้นนำของประเทศอังกฤษที่มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์คุณภาพการให้บริการของสายการบินและสนามบินทั่วโลก โดยคำนึงถึงหมวดการให้บริการสนามบิน เช่น การเดินทาง สภาพแวดล้อมและการออกแบบ เจ้าหน้าที่สนามบิน สิ่งอำนวยความสะดวก และการให้บริการ เป็นต้น

ทั้งนี้ ทอท. มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและผลักดันให้บริการท่าอากาศยานเพื่อให้ท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของ ทอท. เป็นท่าอากาศยานที่มีมาตรฐานสากล มีความสะดวกสบาย ผู้โดยสารได้รับการบริการที่รวดเร็ว และปลอดภัย โดยอาคารเทียบเครื่องบินหลังที่ 1 (Satellite 1: SAT-1) ทสภ.ได้รับการประเมิน 4 ดาว จากด้านสถาปัตยกรรม ความสะอาด บรรยากาศโดยรวม และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ตลอดจนมีการนำเทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติมาอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร

อีกทั้งได้รับความร่วมมือจากสายการบินในการใช้เครื่องเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (Common Use Self Service: CUSS) เครื่องโหลดกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (Common Use Bag Drop: CUBD) ระบบประตูทางออกขึ้นเครื่องอัตโนมัติ (Self-Boarding Gate: SBG) และระบบตรวจสอบยืนยันตัวตนผู้โดยสาร (Passenger Validation System: PVS)

นอกจากนี้ ทสภ.ได้มีการปรับปรุงกระบวนการ ณ จุดตรวจค้น และเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ ณ จุดตรวจหนังสือเดินทาง ทำให้สามารถลดระยะเวลารอของผู้ใช้บริการลง โดยระยะเวลาการใช้บริการในกระบวนการผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศในภาพรวมเฉลี่ย 26 นาทีต่อคน (เป้าหมายที่ AOT กำหนดไว้ที่ 40 นาทีต่อคน) และกระบวนการผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศในภาพรวมเฉลี่ย 37 นาทีต่อคน (เป้าหมายที่ ทอท.กำหนดไว้ที่ 55 นาทีต่อคน)

ขณะที่กระบวนการผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศในภาพรวมเฉลี่ย 15 นาทีต่อคน (เป้าหมายที่ ทอท. กำหนดไว้ที่ 35 นาทีต่อคน) และกระบวนการผู้โดยสารขาออกภายในประเทศในภาพรวมเฉลี่ย 25 นาทีต่อคน (เป้าหมายที่ ทอท. กำหนดไว้ที่ 40 นาทีต่อคน) สำหรับ ทดม. มีให้บริการด้วยการใช้เทคโนโลยีทำให้การเดินทางปลอดภัยและสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ตั้งแต่ระบบ CUSS CUBD SBG และ PVS ทำให้ผู้โดยสารไม่ต้องรอคิวนาน ตามคอนเซ็ป “Fast and Hassle Free Airport”


อินโดฯเฝ้าระวังระดับสูงสุดหลังภูเขาไฟปะทุ สั่งปิดท่าอากาศยาน-อพยพคนแล้ว

18 เม.ย.67 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการอินโดนีเซียประกาศเนื่องจากภูขาไฟรูอางปะทุรุนแรงเมื่อวานนี้ พ่นลาวาสีแดงเพลิง หินร้อน และเถ้าละอองภูเขาไฟสูงขึ้นไปในอากาศถึง 3 กิโลเมตร คลิปที่เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เห็นฟ้าผ่าเป็นแสงสีม่วงเหนือภูเขาไฟที่กำลังปะทุ

ภูเขาไฟลูกนี้ตั้งอยู่บนเกาะห่างไกลของจังหวัดสุลาเวสีเหนือ ทางการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่มากกว่า 800 คน และได้ขยายเขตอพยพให้กว้างขึ้นอีก หลังจากสำนักภูเขาไฟวิทยายกระดับเตือนภัยภูเขาไฟเพราะมีแนวโน้มสูงที่ภูเขาไฟจะปะทุต่อ นอกจากนี้ยังมีการอพยพคนในโรงพยาบาลใกล้เคียงด้วย

ด้านท่าอากาศยานในเมืองมานาโด ที่เป็นเมืองเอกของจังหวัดสุลาเวสีเหนือได้ปิดทำการเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากภูเขาไฟได้พ่นเถ้าละอองมาถึง สายการบินแอร์เอเชียได้ยกเลิกเที่ยวบินเข้าออกท่าอากาศยาน 9 แห่งในบรูไนและหลายรัฐของมาเลเซียที่ตั้งอยู่บนเกาะบอร์เนียว

สำนักงานบรรเทาภัยพิบัติของอินโดนีเซียแจ้งว่า ได้ปิดกั้นพื้นที่ 6 กิโลเมตรรอบภูเขาไฟ และอพยพประชาชนเพิ่มเติม โดยระบุว่าประชาชนในพื้นที่เสี่ยง 1,500 คนจะต้องได้รับการอพยพทันที และมีประชาชนอีกเกือบ 12,000 คน เสี่ยงจะได้รับผลกระทบ

นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดสึนามิ หากภูเขาไฟบางส่วนถล่มลงไปในมหาสมุทรที่อยู่ด้านล่าง เนื่องจากเคยปะทุใหญ่ในปี 2414 แล้วทำให้เกิดสึนามิคร่าชีวิตคนบนเกาะใกล้เคียงไปมากกว่า 400 คน


น้ำท่วมปากีฯ-อัฟกานิสถานดับเป็นร้อย

อิสลามาบัด/คาบูล/ดูไบ (รอยเตอร์ส/อาหรับนิวส์) - ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมปากีสถานและอัฟกานิสถานตั้งแต่กลางเดือน เพิ่มเป็นกว่า 100 ศพ บาดเจ็บเกือบ 40 คน ปากีสถานประกาศภาวะฉุกเฉินน้ำท่วมเตือนสภาพอากาศรุนแรงกว่าเดิมถล่มซ้ำ ด้านนครรัฐดูไบในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออีเผชิญสภาพอากาศแปรปรวนจากพายุฝนฟ้าคะนอง จนเกิดน้ำท่วมทั่วเมือง

รัฐบาลปากีสถานประกาศภาวะฉุกเฉินในภาคตะวันตก หลังพายุถล่มมาตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย.และยังถล่มอัฟกานิสถานประเทศเพื่อนบ้านด้วย ทำให้เกิดฝนตกหนัก ฟ้าผ่าและน้ำท่วมในทั้ง 2 ประเทศ ยอดผู้เสียชีวิตใน 2 ประเทศล่าสุดวันที่ 17 เม.ย. เพิ่มเป็นกว่า 100 ศพ โดยในปากีสถาน เพิ่มเป็นกว่า 50 ศพ จากน้ำท่วมและดินถล่มในหลายจังหวัด รวมถึงกรุงอิสลามาบัด เมืองหลวง เกิดฝนกระหน่ำ แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต

สำหรับผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ 21 ศพ อยู่ในจังหวัด ไคเบอร์ปัคตูนควา ทางตะวันตกของปากีสถาน ติดกับชายแดนอัฟกานิสถาน เกิดฝนมรสุมตกกระหน่ำหนักจนเกิดน้ำท่วมฉับพลันดินถล่ม ต้นไม้ถอนราก บ้านเรือนเสียหายจำนวนมาก ส่วนในจังหวัดปัญจาบเสียชีวิตจำนวนมาก บ้านถล่มหลายสิบหลัง และคาดว่าจะเกิดฝนตกซ้ำเติมในสัปดาห์นี้ ส่วนในจังหวัดบาโลชิสถาน เสียชีวิต 7 ศพ และน้ำท่วมเมืองเปชวาร์ และเมืองเก็ตตา เมืองเอกของแคว้นบาโลชิสถาน

ด้านสำนักบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติปากีสถาน ขอให้ทีมกู้ภัยฉุกเฉินตื่นตัวขั้นสูงต่อไปก่อน หลังพยากรณ์อากาศเตือนว่า สภาพอากาศรุนแรงกว่าเดิมกำลังจะมาซ้ำเติมปากีสถานรวมถึงจังหวัดปัญจาบ จะทำให้เกิดฝนตกหนักระลอกใหม่ในสัปดาห์นี้

ส่วนอัฟกานิสถาน รัฐบาลตาลิบันแถลงว่า เกิดน้ำท่วมฉับพลันใน 20 จังหวัดจากทั้งหมด 34 จังหวัดนอกจากยอดผู้เสียชีวิต 50 ศพแล้ว ยังรายงานความเสียหายต่อบ้านเรือนประชาชนกว่า 600 หลัง พื้นที่เพาะปลูกเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ถนนหลายสายเสียหายเป็นระยะทางรวมกว่า 100 กิโลเมตร

ขณะเดียวกัน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี เผชิญภาวะสภาพอากาศแปรปรวน และพายุฝนฟ้าคะนอง ในหลายพื้นที่ของประเทศตั้งแต่เมื่อวานนี้โดยที่นครรัฐดูไบ 1 ใน 7 นครรัฐของยูเออีฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมผิวการจราจรบนถนนหลายสาย ทำให้การจราจรไม่คล่องตัว บริเวณที่ราบต่ำบางจุด น้ำท่วมสูงเกือบถึงครึ่งคันรถ ชาวดูไบหลายคนใช้เรือยางในการสัญจรไปมาบนถนนที่ถูกน้ำท่วมสูงเป็นการชั่วคราว

สภาพอากาศแปรปรวนที่เกิดขึ้น ทำให้สนามบินนานาชาติดูไบ ต้องแจ้งให้เที่ยวบินขาเข้าเปลี่ยนไปลงจอดสนามบินอื่นก่อนเนื่องจากน้ำท่วมทางวิ่ง กระทั่งสภาพอากาศเอื้ออำนวยจึงให้เที่ยวบินลงจอดได้ตามเดิม ขณะที่สำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของยูเออี เตือนสภาพอากาศแปรปรวน ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันอังคารจนถึงตลอดทั้งวันที่ 17 เม.ย. จากพื้นที่ด้านตะวันตกไล่ไปในพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ พร้อมแจ้งเตือนประชาชนระวังเรื่องสภาพอากาศในช่วงนี้

จีนยืนยัน'สุสานอู่หวังตุน'จากรัฐฉู่โบราณ ระดับสูงสุด-ขนาดใหญ่สุด

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สำนักบริหารมรดกวัฒนธรรมแห่งชาติจีนยืนยันว่าสุสานอู่หวังตุน ซึ่งขุดพบในเมืองหวยหนาน มณฑลอันฮุยทางตะวันออกของจีน เป็นสุสานระดับสูงสุดและขนาดใหญ่ที่สุดจากรัฐฉู่โบราณที่สามารถสืบย้อนความเก่าแก่ได้มากกว่า 2,200 ปี

สำนักบริหารฯ ประกาศการยืนยันข้างต้นที่งานแถลงข่าวในเมืองหวยหนาน พร้อมเสริมว่าสุสานดังกล่าวถือเป็นสุสานจากรัฐฉู่โบราณที่มีโครงสร้างสลับซับซ้อนมากที่สุด โดยคณะนักโบราณคดีเผยว่าหลุมดินฝังศพแนวตั้งหลุมหลักเป็นโครงสร้างขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ฝังศพแบบห้องไม้

คณะนักวิจัยดำเนินการปกป้องพื้นที่สุสานและศึกษาโบราณวัตถุที่ค้นพบแบบข้ามสาขาวิชา รวมถึงเสริมแรงและสกัดวัตถุบอบบางอย่างไม้กระดานของห้องสุสาน เสื่อไม้ไผ่ และเครื่องเขิน โดยการวิเคราะห์ครอบคลุมการหาอายุด้วยวิธีคาร์บอน-14 จำแนกพันธุ์ไม้ วิเคราะห์คำจารึกด้วยรังสีอินฟราเรด และศึกษาวัสดุและการผลิตเครื่องเขินและสิ่งทอ

สำนักบริหารฯ จะเดินหน้างานโบราณคดี การอนุรักษ์โบราณวัตถุ และการวิจัยแบบสหวิทยาการที่สุสานอู่หวังตุน โดยมีเป้าหมายทำความเข้าใจพิธีกรรม งานฝีมือ และความสำเร็จทางวัฒนธรรมของรัฐฉู่ในยุคจ้านกั๋วหรือยุครณรัฐ (475-221 ปีก่อนคริสต์ศักราช)