14 กุมภาพันธ์ 2567 เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอะแลสกา ของสหรัฐฯ รายงานว่าพบผู้ป่วยฝีดาษอะแลสกาเสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าผู้เสียชีวิตรายนี้ (ไม่มีการเปิดเผยอายุที่แน่ชัด) ซึ่งมาจากคาบสมุทรคีนาย ทางตอนใต้ของรัฐอะแลสกา ได้รับการรักษาอาการป่วยในโรงพยาบาล หลังจากติดเชื้อฝีดาษอะแลสกา และเขาได้เสียชีวิตช่วงปลายเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ขณะที่มีรายงานว่าชายสูงอายุผู้นี้มีประวัติระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องอีกด้วย
เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ระบุว่า ผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่ตามลำพังในพื้นที่ป่าและรายงานว่าไม่มีการเดินทางและไม่มีการสัมผัสใกล้ชิดกับใครแต่มีรายงานว่า เขาเคยดูแลแมวจรจัดที่บ้านของเขา โดยแมวทดสอบไวรัสเป็นลบ แต่ก่อนหน้านี้แมวข่วนผู้เสียชีวิตบ่อยครั้ง แถลงการณ์ระบุ ทำให้มีความเป็นไปได้ที่แมวอาจจะมีไวรัสติดอยู่ที่เล็บเมื่อมันข่วนผู้เสียชีวิต โดยพบว่า พบรอยขีดข่วนที่เห็นได้ชัดเจนใกล้บริเวณรักแร้ซึ่งเป็นจุดแรกที่ผู้เสียชีวิตแสดงอาการป่วยด้วย
เจ้าหน้าที่สาธารณสุข กล่าวว่า ยังไม่มีรายงานกรณีการแพร่เชื้อฝีดาษอะแลสกาจากคนสู่คน แต่แนะนำให้ผู้ที่มีอาการทางผิวหนังซึ่งอาจเกิดจากฝีดาษอะแลสกาใช้ผ้าพันแผลปิดบริเวณที่ได้รับผลกระทบ ทางแพทย์ก็ยังได้แนะนำอีกว่า ประชาชนทุกคนควรล้างมือให้สะอาด หลีกเลี่ยงการใช้เสื้อผ้าที่อาจสัมผัสกับผื่นแผล
14 ก.พ.67 พ.ต.อ.หญิงศิริกุล ศรีสง่า โฆษกโรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยถึงขั้นตอนการปล่อยตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ถูกคุมขังบนชั้น 14 ของรพ.ตำรวจว่า ขึ้นอยู่กับกรมราชทัณฑ์ หากแจ้งมาว่าจะขอรับตัวออก ทางโรงพยาบาลก็มีหน้าที่ออกใบรับรองแพทย์ให้ พร้อมแนบความเห็นแพทย์ ถึงอาการของผู้ป่วย ว่าควรรักษาตัวต่อหรือไม่ ถือว่าหมดหน้าที่ของโรงพยาบาลตำรวจแล้ว
"สำหรับขั้นตอนการรับตัวกลับ ระหว่างผู้ต้องขังกับบุคคลทั่วไปที่มารักษาตัวจะแตกต่างกันเพียงบุคคลที่มารับตัวเท่านั้น ซึ่งกรณีนายทักษิณญาติไม่สามารถมารับตัวได้แม้มีคำสั่งพักโทษแล้วก็ตาม ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มารับไปเท่านั้น ส่วนรับออกไปแล้วจะส่งมอบให้ญาติหรือมีขั้นตอนต่อไปอย่างไร เป็นหน้าที่ของราชทัณฑ์"พ.ต.อ.หญิงศิริกุล กล่าว
พร้อมระบุว่า ส่วนระยะเวลาการขอรับตัว ที่ผ่านมาไม่มีหลักเกณฑ์ว่าต้องแจ้งโรงพยาบาลก่อนกี่วัน เพราะผู้ต้องขังที่ถูกส่งตัวมารักษาจะมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เฝ้าตลอด 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว สามารถประสานโรงพยาบาลได้ตลอดเวลา นั่นหมายถึงเที่ยงคืน 1 นาที ของวันที่มีการพักโทษ ก็สามารถแจ้งขอออกจากโรงพยาบาลได้หากมีความประสงค์ สำหรับกรณีนายทักษิณจนถึงวันนี้ (14 ก.พ.) ยังไม่ได้รับประสานว่าจะออกวันใด แม้ รมว.ยุติธรรม จะระบุว่านายทักษิณเข้าเกณฑ์ได้รับการพักโทษแล้วก็ตาม
กรุงเทพมหานครรายงาน สถิติการจดทะเบียนสมรส ทะเบียนการหย่า และจดแจ้งคู่ชีวิต ของกรุงเทพมหานคร ในวันวาเลนไทน์ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 มีคู่รักมาจดทะเบียนสมรส รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,762 คู่ จดทะเบียนการหย่า จำนวน 38 คู่ และ จดแจ้งคู่ชีวิต (LGBTQ) จำนวน 164 คู่
โดยเขตที่มีผู้มาจดทะเบียนสมรสมากที่สุด 5 อันดับ คือ เขตบางรัก จำนวน 879 คู่ รองลงมา เขตบางขุนเทียน จำนวน 102 คู่ , เขตบางซื่อ จำนวน 93 คู่ , เขตลาดกระบัง จำนวน 88 คู่ และ เขตหนองจอก จำนวน 86 คู่ ส่วนเขตที่มีผู้มาจดทะเบียนสมรสน้อยที่สุด คือ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย จำนวน 10 คู่ รองลงมา เขตคลองสาน-เขตปทุมวัน-เขตวัฒนา-เขตสาทร จำนวน 11 คู่ , เขตคลองเตย-เขตพญาไท จำนวน 15 คู่ และ เขตสัมพันธวงศ์ จำนวน 16 คู่
เขตที่มีผู้มาจดทะเบียนการหย่ามากที่สุด จำนวน 4 คู่ มี 1 เขต ได้แก่ เขตหลักสี่ รองลงมา จำนวน 2 คู่ มี 6 เขต , จำนวน 1 คู่ มี 22 เขต และเขตที่ไม่มีการจดทะเบียนหย่า จำนวน 21 เขต
สำหรับเขตที่มีผู้มาร่ามกิจกรมจดแจ้งคู่ชีวิต (LGBTQ) มากที่สุด 5 อันดับ เขตดุสิต จำนวน 24 คู่ รองลงมา เขตปทุมวัน จำนวน 20 คู่ , เขตบางคอแหลม จำนวน 11 คู่ , เขตทวีวัฒนา จำนวน 10 คู่ และ เขตบางกอกน้อย จำนวน 9 คู่
14 ก.พ.67 เพจเฟซบุ๊ก Drama-addict โพสต์ระบุข้อความว่า มีการคำนวนพบว่าปริมาณฝุ่นควัน pm 2.5 ใน กทม. หากคน กทม. สูดเข้าไปโดยไม่ป้องกัน จะเทียบเท่ากับการสูบบุหรี่ประมาณ 1,200-1,400 มวนต่อปี หรือ ตกวันละ 4-5 มวน แบบต่อเนื่องทุกวัน ไม่เว้นตั้งแต่ลูกเด็กเล็กแดงยันคนแก่ ดังนั้น อนาคต มะเร็งปอด ไม่ก็ถุงลมโป่งพอง ความดัน เส้นเลือดในสมอง บลาๆ ทุกคนแน่นอน
"ตอนนี้ปริมาณ pm 2.5 ใน กทม. ขึ้นระดับโคตรอันตรายแล้ว และมีประกาศ WFH แล้ว ท่านใดทำงานหรือเรียนที่บ้านได้ ขอให้หยุดอยู่บ้าน อย่าออกมานอกบ้าน อันตรายมากๆ
ใครที่มีโรคประจำตัวโรคเรื้อรังความดันเส้นเลือดในสมอง ขอให้อย่าออกนอกบ้าน และใส่หน้ากากถ้าต้องออกนอกบ้าน"
13 กุมภาพันธ์ 2567 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุกราดยิงที่สถานีรถไฟแห่งหนึ่งของกรุงนิวยอร์ก สหรัฐฯ เสียงปืนดังขึ้นบริเวณชานชาลารถไฟยกระดับในย่านบรองซ์ ในช่วงเวลาเร่งด่วนที่กำลังประชาชนกำลังเดินทางกลับจากโรงเรียน กลับจากทำงาน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บอีก 5 คน โดยผู้เสียชีวิตเป้นชายวัย 30 ปี ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในเหตุการณ์นี้ แต่ระบุว่า อยู่ระหว่างการตามล่าหามือปืนที่หลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ
พยานในที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ขณะที่รถไฟกำลังมามีเด็กคนตะโกนและมีเสียงปืนอย่างน้อย 6 นัดและพบว่ากระสุนกระทบผนังของสถานีรถไฟจนเกิดประกายไฟ
เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 เว็บไซต์นิตยสาร India Today ของอินเดีย เสนอข่าว Tear gas fired again as protesting farmers resume march, approach barricades ระบุว่า กลุ่มเกษตรกรที่ชุมนุมประท้วงและเกิดปะทะกับตำรวจชุดควบคุมฝูงชน (คฝ.) เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2567 ล่าสุดยังคงเดินขบวนจากรอยต่อระหว่างรัฐปัญจาบ-หรยาณา สู่กรุงนิวเดลีของอินเดีย ขณะที่ฝ่ายตำรวจมีการนำแท่งแบริเออร์คอนกรีตมาวางปิดกั้นเส้นทาง และยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมที่พยายามฝ่าแนวกั้น ขณะที่ในรัฐเดลีและเมืองใกล้เคียง การจราจรบนทางด่วนกลายเป็นอัมพาต จากการตั้งแนวรักษาพื้นที่ของตำรวจ
สื่ออินเดียลำดับเหตุการณ์การปะทะครั้งล่าสุดไว้ดังนี้ โดยเกษตรกรจากปัญจาบปะทะกับตำรวจ คฝ. ของรัฐหรยาณาที่จุดเชื่อมต่อระหว่างรัฐสำคัญสองแห่ง มีการใช้โดรนปล่อยแก๊สน้ำตา ใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง และวิธีการอื่นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ประท้วงรุกคืบไปยังรัฐเดลี เบื้องต้นมีตำรวจบาดเจ็บ 24 นาย ผู้ชุมนุมบาดเจ็บ 60 คน เจ้าหน้าที่ตั้งแนวกั้นแบริเออร์ทั้งที่เป็นแท่งคอนกรีตและกระสอบทราย และเครื่องดูดลมยาง เพื่อหยุดยั้งผู้ชุมนุม แต่สถานการณ์รุนแรงขึ้นเมื่อผู้ชุมนุมเริ่มขว้างก้อนหินและพยายามรื้อเครื่องกีดขวาง
ฝ่ายผู้ชุมนุมซึ่งเป็นเกษตรกรมีการเตรียมตัวหวังปักหลักประท้วงยาว พบการเตรียมเสบียงอาหารรวมถึงน้ำมันดีเซล สำหรับดำรงชีพอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน อนึ่ง มีความเคลื่อนไหวจากคณะผู้บริหารรัฐปัญจาบ แจ้งเตือนโรงพยาบาลใกล้จุดเชื่อมกับรัฐหรยาณา และเพิ่มจำนวนรถพยาบาล อีกทั้งยังเรียกร้องไปยังคณะผู้บริหารของรัฐหรยาณา งดเว้นจากการใช้กำลังเกินกว่าเหตุกับผู้ประท้วง
ความวุ่นวายในการจราจรปกคลุมกรุงเดลีในวันที่ 13 ก.พ. 2567 เนื่องจากมีสิ่งกีดขวางหลายชั้นและการตรวจสอบรอยต่อพื้นที่อย่างเข้มงวด เนื่องจากการประท้วงของเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เส้นทางถูกปิดกั้นและความแออัดครั้งใหญ่ใกล้จุดเชื่อมบริเวณหมู่บ้านสิงห์ , กาซีปูร์ และชิลลา สถานการณ์ดังกล่าวคาดว่าจะยังคงมีอยู่ในวันที่ 14 ก.พ. 2567 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดลีทางตอนเหนือและตะวันออก โดยการจราจรจำกัดไว้เพียง 2 ช่องทางบนทางด่วน DND ชายแดนสิงห์และติครีมีแนวโน้มที่จะยังคงปิดในวันที่ 14 ก.พ. 2567 ตามคำแนะนำของตำรวจจราจรเดลี
มาตรการรักษาความปลอดภัยกำลังเข้มข้นขึ้นในเดลีเพื่อรอรับมือม็อบเกษตรกร เครื่องกีดขวางและลวดหนามซึ่งถูกสร้างขึ้นที่ชายแดนเดลี กำลังได้รับการเสริมกำลัง หลังจากเห็นผู้ประท้วงพยายามฝ่าวงล้อมรักษาความปลอดภัยที่ชายแดนปัญจาบ-หรยาณาด้วยการยกบล็อกซีเมนต์ออกไป ขณะที่รัฐหรยาณา ประกาศตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตมือถือ การส่ง SMS จำนวนมาก ใน 7 เขตของรัฐ ตั้งแต่วันที่ 11-15 ก.พ. 2567
ในวันที่ 14 ก.พ. 2567 อรชุน มุณฑะ (Arjun Munda) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตรและสวัสดิการเกษตรกรของอินเดีย ย้ำถึงความพร้อมของรัฐบาลที่จะมีส่วนร่วมในการเจรจากับเครือข่ายเกษตรกร และเรียกร้องให้เกษตรกรรักษาสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยสำหรับการเจรจาที่สร้างสรรค์ และเกษตรกรควรเข้าใจว่าการประท้วงไม่ควรสร้างปัญหาให้กับใครและไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตปกติ
ด้านสำนักข่าว BBC ของอังกฤษ เสนอรายงานพิเศษ Why India farmers are protesting again ว่าด้วยเหตุผลของการชุมนุมประท้วงครั้งล่าสุดของเกษตรกรชาวอินเดีย ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่วันที่ 13 ก.พ. 2567 ว่า ก่อนหน้านี้ในปี 2563 กลุ่มเกษตรกรในอินเดียเคยปักหลักประท้วงใหญ่ตลอดทั้งปี ต่อต้านความเคลื่อนไหวของรัฐบาลที่จะแนะนำการปฏิรูปการเกษตรที่เป็นข้อขัดแย้ง ผู้ชุมนุมหลายพันคนตั้งค่ายพักอยู่ที่จุดรอยต่อกับกรุงนิวเดลี ในจำนวนนี้หลายสิบรายเสียชีวิตจากอากาศร้อน อากาศหนาวเย็น และการติดเชื้อไวรัสโควิด-19
กระทั่งในปี 2564 การชุมนุมจึงได้ยุติลง เมื่อรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี (Narendra Modi) ได้ยกเลิกร่างกฎหมายเกษตรกรรมที่เตรียมนำเสนอ และตกลงที่จะหารือเกี่ยวกับข้อเรียกร้องอื่นๆ ของเกษตรกร รวมถึงมาตรการประกันราคาขั้นต่ำผลผลิตทางการเกษตร และยุติการดำเนินคดีต่อผู้ประท้วง กระทั่งล่าสุดเกษตรกรได้กลับมาชุมนุมประท้วงอีกครั้ง เพื่อทวงสัญญาที่รัฐบาลเคยให้คำมั่นไว้
รายงานของสื่ออังกฤษ สรุปข้อกังวลของเกษตรกรจนนำไปสู่การประท้วงใหญ่ในปี 2563 นั่นคือการที่รัฐบาลเตรียมออกกฎหมาย 3 ฉบับ ที่ผ่อนปรนกฎระเบียบเกี่ยวกับการขาย การกำหนดราคา และการจัดเก็บผลิตผลทางการเกษตร ซึ่งเป็นกฎที่ปกป้องเกษตรกรจากตลาดเสรีมานานหลายทศวรรษ ทำให้เครือข่ายเกษตรกรมองว่า กฎหมายเหล่านี้จะทำให้เกษตรกรเสี่ยงต่อการทำลายวิถีชีวิตและต้องตกอยู่ภายใต้กลุ่มทุนใหญ่ และแม้ในตอนแรก รัฐบาลเชื่อว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะเป็นประโยชน์กับเกษตรกร แต่สุดท้ายก็ต้องถอนร่างทั้งหมดออกไปหลังเกิดการประท้วง
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้รับการยกย่องว่าเป็นชัยชนะของเกษตรกร และยังเป็นตัวอย่างอันทรงพลังว่าการประท้วงครั้งใหญ่ยังคงท้าทายรัฐบาลได้สำเร็จ แต่เกษตรกรไม่ได้ออกจากสถานที่ประท้วงทันทีและยังคงประท้วงต่อไปจนกว่ารัฐบาลจะส่งหนังสือยืนยันอย่างเป็นทางการให้พวกเขา โดยยอมรับข้อเรียกร้องอื่นๆ มากมาย ซึ่งรัฐบาลยังตกลงที่จะจ่ายค่าเยียวยาให้กับครอบครัวเกษตรกรที่เสียชีวิตระหว่างการประท้วงด้วย ส่วนเรื่องประกันราคาผลผลิต รัฐบาลสัญญาว่าจะจัดตั้งคณะกรรมการซึ่งจะรวมถึงตัวแทนจากรัฐบาลกลางและรัฐบาลของมลรัฐ นักวิชาการด้านการเกษตร และตัวแทนเครือข่ายเกษตรกร
อย่างไรก็ตาม กลุ่มเกษตรกรยังคงกังวลว่ารัฐบาลจะไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้ระหว่างการประท้วงปี 2563-2564 เกษตรกรยังเรียกร้องมาตรการบำนาญ ให้ยกหนี้สิน ดำเนินคดีกับผู้ขายเมล็ดพันธุ์พืช ยาฆ่าแมลง และปุ๋ยปลอม ตลอดจนเพิ่มจำนวนวันทำงานภายใต้โครงการประกันการจ้างงานในชนบทเป็นสองเท่าเป็น 200 วัน รวมถึงให้อินเดียถอนตัวจากองค์การการค้าโลก (WTO) และยกเลิกข้อตกลงการค้าเสรีทั้งหมด
รายงานข่าวยังกล่าวอีกว่า เกษตรกรเป็นกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในอินเดีย และนักวิเคราะห์กล่าวว่า รัฐบาลไม่ต้องการจัดการพวกเขาในทางที่ผิดเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่อินเดียจะจัดการเลือกตั้งทั่วไป การเดินขบวนของเกษตรกรได้หวนรำลึกถึงความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงของอินเดียระหว่างการประท้วงหนก่อนหน้า ส่งผลให้ชีวิตบริเวณรอยต่อของรัฐเดลีต้องหยุดชะงักเป็นเวลาหลายเดือนติดต่อกัน จนถึงขณะนี้ รัฐบาลของนายกฯ โมดี ได้เจรจารอบใหม่กับแกนนำม็อบเกษตรกร แล้ว 2 รอบ อย่างไรก็ตาม เกษตรกรเรียกการเจรจาดังกล่าวว่าเป็นเพียงการซื้อเวลา และปฏิเสธที่จะยุติการประท้วง
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012