ข่าว
จีนยื่นไมตรีการลงทุน กับทั้งญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ทั้งถกสามฝ่าย

เฉิงตู (เอเอฟพี/รอยเตอร์) - จีนยื่นไมตรีเรื่องการค้าและการลงทุนกับสองประเทศเพื่อนบ้านอย่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ หลังการเจรจสามฝ่ายที่เมืองเฉิงตู ด้านนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ ของญี่ปุ่น บอกกับนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อ เฉียง ของจีนว่า ความสัมพันธ์ทวิภาคีจะไม่ดีขึ้นอย่างแท้จริง หากทะเลจีนตะวันออกยังคงไร้เสถียรภาพ

นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อ เฉียง ของจีน เสนอระหว่างการเจรจานอกรอบกับนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ ของญี่ปุ่น ที่เมืองเฉิงตู เมืองเอกของมณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน นอกรอบการประชุมไตรภาคีกับประธานาธิบดีมุน แจอินของเกาหลีใต้ว่า จีนยินดีกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับญี่ปุ่นในตลาดประเทศที่สาม และจะเปิดตลาดภาคบริการให้แก่ญี่ปุ่น ส่วนในการเจรจานอกรอบกับประธานาธิบดีมุน แจ อิน ของเกาหลีใต้เมื่อวันจันทร์ นายกรัฐมนตรีหลี่กล่าวว่า จีนยินดีวางรางรถไฟเชื่อมเกาหลีกับจีนและยุโรป ผู้นำจีนยังได้ย้ำในวันนี้ว่า การค้าจีนญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ที่มีมูลค่าเมื่อปีก่อนกว่า720,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 21.7 ล้านล้านบาท) มีความสำคัญและมีมูลค่ามหาศาลเพราะทั้งสามประเทศร่วมกันปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค

ผู้นำทั้งสามออกแถลงการณ์ร่วมเมื่อคืนวันอังคาร หลังเสร็จสิ้นการประชุมสุดยอดไตรภาคีที่เมืองเฉิงตูว่า จะเร่งการเจรจาเรื่องข้อตกลงเขตการค้าเสรีหรือเอฟทีเอ ที่ดำเนินมาหลายปี จะทำให้บรรยากาศการค้าการลงทุนมีความเป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ โปร่งใส คาดการณ์ได้ และมีเสถียรภาพ โดยจะทำเอฟทีเอไตรภาคีนี้แยกจากความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรืออาร์เซ็ป (RCEP) ซึ่งเป็นข้อตกลงระดับเอเชียที่จีนให้การสนับสนุน ครองส่วนแบ่งร้อยละ 30 ของเศรษฐกิจโลก และครอบคลุมประชากรครึ่งโลก ประกอบด้วย 10 ชาติสมาชิกอาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ สมาชิกตั้งเป้าลงนามอาร์เซ็ปในปีหน้าหลังจากพิจารณาร่างข้อตกลงแล้วเสร็จ

ด้านกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นแถลงสรุปการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีอาเบะและนายกรัฐมนตรีหลี่ นอกรอบการประชุมไตรภาคีกับผู้นำเกาหลีใต้ ผู้นำญี่ปุ่นได้บอกกับผู้นำจีนว่า ความสัมพันธ์ทวิภาคีจะไม่ดีขึ้นอย่างแท้จริง หากสถานการณ์ในทะเลจีนตะวันออกยังไร้เสถียรภาพ ซึ่งหมายถึงเรื่องที่ทั้งสองประเทศอ้างสิทธิในน่านน้ำทะเลจีนตะวันออกห่างจากชายฝั่งของตนเองออกไป 200 ไมล์ทะเล ว่าเป็นเขตเศรษฐกิจจำเพาะของตนเอง แต่ทะเลจีนตะวันออกกว้างเพียง 360 ไมล์ทะเลเท่านั้น เขตเศรษฐกิจจำเพาะของทั้งสองประเทศจึงทับซ้อนกัน นอกจากนี้ผู้นำญี่ปุ่นยังขอให้จีนยกเลิกข้อจำกัดการนำเข้าสินค้าประเภทอาหารของญี่ปุ่นโดยทันทีด้วย

ระทึก เครื่องบินโดยสาร ‘เบค แอร์’ ผดส.-ลูกเรือนับ 100 ตกในคาซัคสถาน

เครื่องบินโดยสาร Bek Air (เบค แอร์) พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือนับ 100 คน ประสบเหตุตก หลังเพิ่งทะยานขึ้นจากสนามบินเมืองอัลมาตี เมืองใหญ่สุดในคาซัคสถาน เบื้องต้นยืนยันตายแล้ว 7

เมื่อ 27 ธ.ค.62 สำนักข่าวบีบีซีรายงานเกิดโศกนาฏกรรมอุบัติเหตุสลดก่อนถึงปีใหม่ เครื่องบินโดยสารของสายการบิน Bek Air (เบค แอร์) ซึ่งมีผู้โดยสารราว 95 คน และลูกเรือ 5 คน รวม 100 ชีวิต ประสบเหตุตกในประเทศคาซัคสถาน หลังจากเพิ่งทะยานออกจากท่าอากาศยาน อัลมาตี เมืองใหญ่สุดในประเทศ จะไปยังกรุงนูร์ซุลตัน เมืองหลวงใหม่ของคาซัคสถาน เมื่อช่วงเช้าของวันศุกร์ที่ 27 ธ.ค.ตามเวลาท้องถิ่น

ทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งรีบไปยังจุดเกิดเหตุทันที เบื้องต้น มีรายงานยืนยันมีผู้เสียชีวิตแล้ว 7 ราย แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดมีผู้โดยสารและลูกเรือรอดชีวิตหรือไม่


ชาวเอเชียเฝ้าชมสุริยุปราคา

เมื่อวันพฤหัสบดี 26 ธ.ค.ผู้คนในภูมิภาคเอเชียหลายประเทศไล่ตั้งแต่ซาอุดีอาระเบียมาจนถึงอินโดนีเซีย รวมถึงศรีลังกา อินเดีย เมียนมาและไทย ต่างพากันเฝ้าดูปรากฏการณ์ธรรมชาติสุริยุปราคา หรือดวงจันทร์บดบังแสงจากพระอาทิตย์อย่างคึกคัก โดยแต่ละพื้นที่จะเห็นปรากฏการณ์นี้ชัดเจนแตกต่างกันไปตามสภาพภูมิศาสตร์

กลุ่มเยาวชนในหลายประเทศต่างให้ความสนใจเฝ้าดูปรากฏการณ์นี้ หลายคนเพิ่งเคยพบเห็นปรากฏการณ์นี้ครั้งแรกในชีวิต ปรากฏการณ์นี้ตามปกติเกิดขึ้นปีละ 2 ครั้ง โดยปรากฏการณ์ครั้งก่อนหน้านี้เกิดขึ้นเมื่อ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา สามารถมองเห็นปรากฏการณ์ได้ชัดเจนที่สุดในพื้นที่แถบอเมริกาใต้

ส่วนปรากฏการณ์สุริยุปราคาแบบเต็มดวงครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นวันที่ 14 ธ.ค.ปีหน้า สามารถมองเห็นปรากฏการณ์ชัดเจนที่สุดในพื้นที่ตอนใต้ของประเทศชิลีและอาร์เจนตินา ทั้งยังมองเห็นได้ในแถบตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปแอฟริกาและแถบขั้วโลกใต้.


ช็อก อดีตพระสวามีเจ้าหญิงมาร์ธาแห่งนอร์เวย์ ปลิดชีพตนเอง ราชวงศ์เศร้า

เมื่อ 26 ธ.ค.62 สำนักข่าวบีบีซี และเว็บไซต์ เดอะ ซัน รายงานเกิดเหตุสะเทือนใจ นายอารี่ เบห์น อดีตพระสวามีของเจ้าหญิงมาร์ธา ลุยเซอ แห่งนอร์เวย์ ตัดสินใจกระทำอัตวินิบาตกรรม ปลิดชีพตนเอง ด้วยวัย 47 ปี สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้แก่ครอบครัว เพื่อน และสมาชิกในราชวงศ์นอร์เวย์อย่างยิ่ง

ผู้จัดการส่วนตัวของนายเบห์น ซึ่งเป็นทั้งนักเขียนและศิลปิน ได้ออกมายืนยันข่าวเศร้าในครั้งนี้ ขณะที่สมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 แห่งนอร์เวย์ พระชนมพรรษา 82 พรรษา พระราชบิดาของเจ้าหญิงมาร์ธา ได้แสดงความเสียพระทัยอย่างสุดซึ้งต่อการด่วนจากไปของอารี่ เบห์น

ทั้งนี้ เจ้าหญิงมาร์ธา ลุยเซอ เป็นพระราชธิดาองค์ใหญ่ในสมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 และสมเด็จพระราชินีซอนย่าแห่งนอร์เวย์ ทรงอภิเษกสมรสกับอารี่ เบห์น ซึ่งเกิดที่เดนมาร์ก เมื่อปี 2545 โดยมีพระธิดาด้วยกัน 3 องค์ ต่อมาทั้งคู่ได้แยกกันอยู่ในปี 2559 ก่อนจะหย่าร้างกันในปีต่อมา.


‘เหนือ-อีสาน’อากาศยังหนาว ‘กทม.’อุณหภูมิลด1-2องศาฯ

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป ประจำวันที่ 27 ธันวาคม 2562 ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาว “ภาคเหนือ-อีสาน” อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ขณะที่ “ภาคกลาง ตะวันออก กทม.” อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ด้าน “ภาคใต้” มีฝนเพิ่มขึ้น

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป ประจำวันที่ 27 ธันวาคม 2562 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือมีฝนบางพื้นที่ โดยประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาว ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ตอนกลางวันท้องฟ้าโปร่งและมีแดดจัด บริเวณพื้นราบของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิต่ำสุด 13-19 องศาเซลเซียส ยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-13 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย สำหรับภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

อนึ่ง พายุระดับ 5 (ไต้ฝุ่น) “ฟานทอง” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง คาดว่าจะอ่อนกำลังลงและสลายตัวในช่วงวันที่ 28-29 ธันวาคม 2562 โดยพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา เมื่อเวลา 04.00 น. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศเวียดนามตอนบนแล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและทะเลจีนใต้ในวันนี้ (27 ธ.ค. 62) ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนผ่านเข้าปกคลุมภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ซึ่งจะทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้

+ ภาคเหนือ บริเวณพื้นราบ อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้าโดยมีฝนบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 13-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอย มีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

+ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณพื้นราบ อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า โดยตอนบนของภาคอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภู มีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

+ ภาคกลาง มีเมฆบางส่วนกับมีอากาศเย็น และมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

+ ภาคตะวันออก มีเมฆบางส่วน กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

+ ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

+ ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต และกระบี่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม/ชม ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

+ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

"คิง เพาเวอร์"ชูสินค้าไทยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแห่งบ้านคีรีวง

คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ชูสินค้าไทยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ฝีมือ และภูมิปัญญาแห่งหมู่บ้านคีรีวง นครศรีธรรมราช ผ่าน From Leaves to Lively Thai Dye Collection ของที่ระลึกสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ประจำปี 2563 พร้อมยกระดับสินค้าโอทอปไทยให้ก้าวไกลสู่เวทีโลก

คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย เผยโฉมสินค้า Ready-to-wear รุ่น Limited Edition ของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ประจำปี 2563 ภายใต้ชื่อ From Leaves to Lively Thai Dye Collection ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความงดงามของธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ก่อเกิดเป็นสินค้าผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในคอลเลกชั่นพิเศษที่ผลิตโดยชุมชนหมู่บ้านคีรีวง ต. กำโลน อ. ลานสกา จ. นครศรีธรรมราช ร่วมกับทีมครีเอทีฟของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ และกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 ธันวาคมนี้ เป้นต้นไป ณ เดอะ ซิตี้ แฟนสโตร์ แอท คิง เพาเวอร์ สเตเดียม เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ, คิง เพาเวอร์ สาขารางน้ำ, พัทยา, ศรีวารี, ภูเก็ต, คิง เพาเวอร์ มหานคร และภายในสนามบินดอนเมือง, สนามบินสุวรรณภูมิ, สนามบินภูเก็ต และสนามบินอู่ตะเภา

From Leaves to Lively Thai Dye Collection ได้รับการออกแบบ และรังสรรค์งาน ภายใต้แนวคิด Enchanted Wonderland หรือมนต์เสน่ห์แห่งดินแดนมหัศจรรย์ เพื่อเชิดชูภูมิปัญญา และคุณค่าทางวัฒนธรรมของผ้ามัดย้อมธรรมชาติ ที่เลือกใช้วัสดุในการย้อมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของทางภาคใต้ที่เกิดจากฝีมือของชุมชนบ้านคีรีวง ต. กำโลน อ. ลานสกา จ. นครศรีธรรมราช กลายเป็นคอลเลกชั่นเสื้อผ้า และแอคเซสซอรี่ผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติสไตล์โมเดิร์น สีสันสดใส สามารถมิกซ์แอนด์แมทช์กับการแต่งกายในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว ทั้งเสื้อยืดแขนสั้น-แขนยาว เสื้อเชิ๊ต หมวก กระเป๋าสะพายหูรูด กระเป๋าสะพายไหล่ กระเป๋าใส่เอกสาร ลูกบอล และพวงกุญแจ รวม 17 แบบ

นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ เปิดเผยว่า “กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้ใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ และร่วมรณรงค์ให้ช่วยกันลด ละ การทำลายธรรมชาติ บริษัทฯ ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแสดล้อมที่ทั่วโลกกำลังประสบอยู่ จึงได้สนับสนุนสินค้าไทยที่ใช้สีธรรมชาติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาแล้ว จำนวน 3 คอลเลกชั่น และคอลเลกชั่นที่ 4 นี้ ‘คอลเลกชั่น From Leaves to Lively Thai Dye Collection’ ได้เกิดจากความร่วมมือระหว่างกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ภายใต้โครงการกิจกรรมเพื่อสังคม คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ด้านชุมชน, สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ และชุมชนบ้านคีรีวง จ. นครศรีธรรมราช นับเป็นปีที่ 3 คอลเลกชั่นที่ 4 ที่เราได้นำสินค้าชุมชนมาอวดสายตาชาวโลกอีกครั้ง ถือได้ว่า เป็นอีกหนึ่งผลงานแห่งความภาคภูมิใจที่เราได้ร่วมเป็นคู่คิด และคู่ค้ากับชุมชน เพื่อชูจุดแข็ง และภูมิปัญญาของชาวไทยที่เลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติมาสร้างสรรค์ให้เกิดเป็นผลงานอันงดงาม”

“เราตั้งใจผลิตคอลเลกชั่นพิเศษจากฝีมือคนไทยทุกปี หมุนเวียนเปลี่ยนชุมชนไปตามภาคต่างๆ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ดีไซน์ใหม่ๆ น่าสะสม โดยเข้ามาสนับสนุนชาวบ้านในเรื่องของการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ช่วยกันคิด ช่วยกันออกแบบ พัฒนาสินค้าให้ตรงใจผู้บริโภค และตอบโจทย์กับตลาดต่างประเทศ เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ในการช่วยเหลือชุมชนให้สามารถสร้างอาชีพได้อย่างยั่งยืนจากความถนัดของตัวเอง”

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเปิดตัวคอลเลกชั่นอย่างเป็นทางการ และประชาสัมพันธ์สินค้าฝีมือคนไทยให้เป็นที่ประจักษ์ในสายตาคนทั่วโลก กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จึงได้ออกแบบเสื้อแจ็กเก็ตรุ่นพิเศษเพื่อให้นักเตะสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ใส่ลงสนามในช่วงพิธีเปิดการแข่งขันในวัน Boxing Day คือ วันที่ 26 ธันวาคม ในศึกดวลแข้งกับสโมสรลิเวอร์พูล โดยเสื้อแจ็กเก็ตนี้เป็นการ Collaborate เทคนิคการย้อมสีระหว่างทางใต้จากชุมชนคีรีวง นครศรีธรรมราช (สีเหลืองทองช่วงล่าง) และทางเหนือจากชุมชนตะเคียนปม ลำพูน (สีฟ้าครามช่วงบน) ปักโลโก้สโสสรเลสเตอร์ ซิตี้ที่อกซ้าย พร้อมปักรูปธงชาติไทยที่แขนข้างซ้าย และธงชาติอังกฤษที่แขนข้างขวา นำพาความเป็นไทยไปสู่สากลตามเป้าหมายของกลุ่มบริษัทฯ ที่ต้องการให้ผลงานของคนไทยไปไกลถึงระดับโลกโดยแท้จริง โดยวันนี้ทางพรีเมียร์ลีกอนุญาตให้เป็นกรณีพิเศษให้นักเตะเลสเตอร์ใส่เสื้อคอลเลคชั่นภูมิปัญญาแห่งคีรีวง ใส่ลงสนามก่อนการแข่งขันระหว่างเลสเตอร์กับลิเวอร์พูล ซึ่งทำมาพิเศษมีแค่เพียง 50 ตัวในโลกเท่านั้น

สำหรับสินค้าในคอลเลกชั่นนี้ ทำจากผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติทั้งหมด เป็นการย้อมสีผ้าทั้งผืน และเสื้อผ้าสำเร็จรูป โดยใช้เทคนิคการมัด หรือพับด้วยวัสดุที่มีความทนทาน อย่าง แผ่นไม้ ก้อนหิน แล้วมัดด้วยเชือกฟาง เชือกกล้วย หรือหนังยางให้แน่น เพื่อกันสีซึมผ่าน หลังจากนั้น จึงนำไปย้อมสีธรรมชาติตามต้องการ ออกมาเป็น 4 สีหลัก ได้แก่ สีเทาอมน้ำเงิน จากใบคราม สีเหลือง จากใบหูกวาง สีส้มอมชมพู จากใบมังคุด และ สีน้ำตาลอ่อน จากฝักสะตอ

กรรมวิธีประกอบด้วย

1. การเตรียมน้ำด่าง ซึ่งทางบ้านคีรีวงใช้น้ำด่าง 2 ชนิด คือ น้ำด่างขี้เถ้าจากการเผาไม้ยางพารา และน้ำด่างขี้เถ้าจากเปลือกหอยแครงเผา

2. การเตรียมน้ำย้อมสี โดยนำส่วนต่างๆ ของพืช เช่น ใบไม้ เปลือกไม้ แก่นไม้ ดอกไม้ มาต้มไว้ 5-8 ชั่วโมง กรองเฉพาะน้ำสีด้วยผ้าขาวบาง แยกกากออกมา เพื่อนำไปมัดย้อมต่อไป

3. การฟอกผ้า โดยนำผ้าฝ้ายมาฟอกก่อน โดยต้มกับน้ำเปล่า หรือน้ำด่างขี้เถ้าจากไม้ยางพาราเพื่อชะล้างคราบแป้ง และไขมันที่เกาะอยู่บนผ้า แล้วซักด้วยน้ำเปล่า บิดพอหมาด เพื่อนำไปมัดลายต่อไป

4. การมัดลาย เทคนิคการมัดลายที่ใช้มี 3 วิธี คือ วิธีที่ 1 การมัดแล้วพับ เป็นการพับผ้าให้เป็นรูปต่างๆ แล้วมัดด้วยยางหรือเชือก ผลที่ได้ คือ ลวดลายที่มีลักษณะด้านซ้าย และขวามีความใกล้เคียงกัน โดยผ้ามีสีอ่อนด้านหนึ่ง และสีเข้มอีกด้านหนึ่ง วิธีที่ 2 การขยำแล้วมัด เป็นการขยำผ้าอย่างไม่ตั้งใจ แล้วมัดด้วย

เป็นการขยำผ้าอย่างไม่ตั้งใจ แล้วมัดด้วยยางหรือเชือก ลวดลายที่ได้จะเป็นลวดลายอิสระ การขยำผ้าแต่ละครั้งไม่สามารถควบคุมการทับซ้อนของผ้าได้ ดังนั้นจึงได้ลวดลายที่ไม่ซ้ำแบบ และวิธีที่ 3 การห่อแล้วมัด เป็นการใช้ผ้าห่อวัตถุต่างๆ แล้วมัดด้วยยางหรือเชือก ลายที่เกิดจะเป็นลายใหญ่ หรือเล็กขึ้นอยู่กับวัตถุที่นำมามัด เช่น การนำผ้ามามัดด้วยก้อนหิน รูปทรงแปลกๆ นำมามัดไขว้ไปมา เว้นจังหวะของการมัดให้มีพื้นที่ว่างเพื่อให้สีซึมเข้าไปได้ ซึ่งการมัดด้วยวิธีนี้ จะเกิดความสวยงามแปลกตากว่าการมัดด้วยวิธีอื่นๆ

5. การย้อม นำผ้าที่มัดลายแล้วไปต้มกับน้ำสีที่เตรียมไว้ 3 ชั่วโมง โดยใช้เตาไร้ควัน และทุก 1 ชั่วโมง นำผ้ามัดย้อมล้างในน้ำด่าง หรือน้ำขี้เถ้า หรือน้ำโคลนแดง หรือน้ำปูน แล้วย้อมสีอีกครั้ง เมื่อย้อมเสร็จ นำไปผึ่งในที่ร่ม แล้วเข้าสู่กระบวนการตัดเย็บต่อไป

“กว่า 30 ปีแล้ว ที่คิง เพาเวอร์ได้เข้าไปช่วยพัฒนาสินค้าชุมชนทั่วทุกภูมิภาค เราอยากมีส่วนช่วยสร้างอาชีพ และมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ชุมชนต่างๆ ให้เติบโตอย่างเข้มแข็ง ให้พวกเขามีช่องทางการตลาดเพิ่มขึ้น และเป็นที่รู้จักในวงกว้าง จนนำไปสู่การกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืนตามความมุ่งหวังของคิง เพาเวอร์ ที่อยากเห็นคนไทยได้แสดงความสามารถในระดับสากล ภายใต้ความเชื่อมั่นว่าคนไทยทำได้ไม่แพ้ชาติใดในโลก” อัยยวัฒน์กล่าวทิ้งท้าย