ข่าว
ตกอีกแล้ว!!! บินแอลจีเรีย โหม่งโลกพร้อม 116 ชีวิต

วันที่ 24 ก.ค. เอเอฟพีรายงานว่า เครื่องบินสายการบิน แอร์ แอลจีเรีย เที่ยวบินที่ AH 5017 พร้อมผู้โดยสาร 110 คนจากหลากหลายสัญชาติ กับลูกเรือชาวสเปน 6 คน ตกหลังจากบินขึ้นได้เกือบชั่วโมง

เครื่องบินลำดังกล่าวบินจากสนามบินกรุงอัวกาดูกูประเทศแอฟริกาตะวันตกไปยังกรุงแอลเจียในแอลจีเรียทางทิศใต้โดยต้องบินผ่านประเทศมาลีซึ่งมีความไม่สงบจากการสู้รบในภาคเหนือของประเทศก่อนขาดการติดต่อกับหอบังคับการบินเมื่อเวลาราว 8.55 น. ตามเวลาประเทศไทย

แอร์แอลจีเรียแถลงว่าเครื่องบินลำดังกล่าวตกขณะอยู่ไม่ไกลจากพรมแดนแอลจีเรีย โดยเมื่อกัปตันสื่อสารว่าต้องการบินอ้อมเนื่องจากทัศนวิสัยเลวร้าย เพื่อป้องกันการบินชนกับเครื่องบินลำอื่นที่ใช้เส้นทางแอลเจียร์-บามาโก จากนั้นการติดต่อสูญหายไป โดยขณะนี้ทางสายการบินเปิดปฏิบัติการค้นหาฉุกเฉินแล้ว เส้นทางดังกล่าวใช้เวลาบินราว 4 ชั่วโมง และแอร์แอลจีเรียมีเที่ยวบินในเส้นทางนี้ 4 เที่ยวต่อสัปดาห์

สำหรับผู้โดยสารบนเครื่องประกอบด้วยชาวฝรั่งเศส 50 คน ชาวบูร์กินาฟาโซ 24 คน เลบานอน 8 คน แคนาดา 5 คน แอลจีเรีย 4 คน ลักเซมเบิร์ก 2 คน เบลเยียม สวิส ไนจีเรีย แคเมอรูน ยูเครนและโรมาเนียอย่างละ 1 คน

นายเฟรเดอริก คูวิแลร์ รัฐมนตรีคมนาคมฝรั่งเศสเปิดเผยว่า เครื่องบินหายไปขณะบินอยู่เหนือเมืองกัว ทางเหนือของประเทศมาลี และบนเครื่องคาดว่ามีผู้โดยสารชาวฝรั่งเศสหลายคน ฝรั่งเศสส่งเครื่องบิน 2 ลำไปช่วยค้นหาแล้ว และมีการตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือแล้วที่สนามบินในกรุงปารีสกับมาร์กแซล

อย่างไรก็ตามสื่อบางสำนักรายงานว่าเครื่องบินตกในประเทศไนเจอร์ซึ่งอยู่ติดกับประเทศมาลีโดยเจ้าหน้าที่ไนเจอร์ส่งเครื่องบินออกค้นหาแล้วตามแนวชายแดน ด้านนักการทูตคนหนึ่งในกรุงบามาโกของมาลีเปิดเผยว่า ทางเหนือของประเทศมีพายุทรายรุนแรงเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

ด้านกระทรวงการต่างประเทศแถลงว่า เหตุการณ์เครื่องบินสายการบินแอร์ แอลจีเรียตกในไนเจอร์ เบื้องต้นตรวจสอบแล้ว ยังไม่มีรายงานผู้โดยสารคนไทย

บีบีซีรายงานว่า เครื่องบินลำดังกล่าว สโมสรเรอัล มาดริดเคยใช้เดินทางระหว่างปี 2550-2552 ทั้งนี้ ประเทศแอลจีเรียเพิ่งประสบอุบัติเหตุเครื่องบินพุ่งชนภูเขาทางภาคตะวันออก เป็นเครื่องบินของกองทัพ มีผู้เสียชีวิตทั้งลำ 77 ราย เมื่อเดือนก.พ. ที่ผ่านมา ส่วนอุบัติเหตุครั้งใหญ่ที่เกิดกับแอร์ แอลจีเรีย เกิดขึ้นเมื่อปี 2546 หรือ 11 ปีก่อน โดยเครื่องเกิดลุกไหม้หลังจากขึ้นบินไม่นาน ส่งผลให้เครื่องตกทางใต้ของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 102 ราย

'บิ๊กตู่'ยันคสช.ไม่ใช้อำนาจทำร้ายใคร

'บิ๊กตู่' แจงปม รธน.ฉบับชั่วคราวให้อำนาจคสช. วอนไว้ใจ-ไม่ใช้อำนาจทำร้ายใคร ย้ำตั้งฝ่ายบริหารหากทำงานไม่ดีก็เปลี่ยนได้ตลอด ขู่ฟันคนรับผลประโยชน์ตั้งสนช.-บอร์ด

เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 25 กรกฎาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย

พล.อ.ประยุทธ์เริ่มจากการชี้แจงว่า สัปดาห์นี้มีเรื่องที่น่ายินดี และเป็นที่ปลาบปลื้มของประชาชนชาวไทยเป็นอย่างยิ่ง คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ซึ่งได้ทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว โดยฝ่ายกฎหมายได้แถลงให้สื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศทราบในรายละเอียดและหลักการสำคัญๆ ไปบ้างแล้ว ทำให้การแก้ปัญหาของ คสช.สามารถเดินไปตามโรดแม็พ ระยะที่ 2 ได้ตามกำหนด

ยันคสช.ไม่ใช้อำนาจทำร้ายใคร

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการมีรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ว่า มีความจำเป็นต้องกำหนดอำนาจหน้าที่แต่ละฝ่ายให้ชัดเจน เพราะเป็นการใช้พระราชอำนาจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตามรัฐธรรมนูญ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 2 เดือน จะเห็นได้ว่า คสช.พยายามจะแก้ไขปัญหาทุกอย่างด้วยความรวดเร็ว ไม่ได้มุ่งใช้อำนาจในการทำร้ายใคร แต่ใช้อำนาจในทางสร้างสรรค์ ความสงบสุขให้แก่ประชาชนและชาติบ้านเมือง ซึ่งก็คงมีทั้งผู้ที่ถูกใจ และไม่ถูกใจบ้าง ที่ผ่านมา คสช.ปฏิบัติงานด้วยความเป็นธรรม มุ่งหวังแต่เพียงว่า จะทำอย่างไรให้ประเทศชาติมั่นคง ยั่งยืน ดังนั้นทุกพวกทุกฝ่ายน่าจะร่วมมือกับ คสช.ในการทำงานเพื่อจะเดินไปในวันข้างหน้า ทุกคนน่าจะมีความสบายใจที่มีการถ่วงดุล ดูแลทั้งรัฐบาลและ คสช. ทั้งนี้ คสช.จะไม่พยายามทำตามข้อเรียกร้องของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เพราะหากเรียกร้องไปและทำตามไป อีกพวกจะบอกว่าไม่ได้ทำ ซึ่งจะต้องสู้ไปอีกเหมือนเดิม กฎหมายมีไว้เพื่อให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข ไม่ได้มีไว้เพื่อสร้างความขัดแย้งอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ผู้กระทำความผิดจริงก็ต้องถูกลงโทษ ถ้าไม่ให้ถูกลงโทษก็ต้องหนีไป ซึ่งจะอยู่ในประเทศไทยไม่ได้ จะกลับมาอยู่ที่ประเทศไทยต้องถูก จะต้องถูกติดตามจับกุมดำเนินคดี ดังตัวอย่างที่เกิดขึ้นมาแล้วหลายราย

ฝ่ายบริหารถ้าเข้ามาแล้วไม่ดีก็เปลี่ยนได้

พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงว่า ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวฉบับนี้ ไม่ว่า คสช.จะมีอำนาจมากเท่าใด หากผู้ใช้อำนาจนั้นใช้ในการกระทำสิ่งดีๆ เกิดประโยชน์กับคนไทย กับประเทศไทย ก็ไม่ต้องกังวลใดๆ ถ้าเราไว้ใจผู้บริหารประเทศ หรือผู้ที่จะมาอยู่ในกระบวนการใช้อำนาจทุกคน ในขณะนี้มีธรรมาภิบาล มีคุณธรรม จริยธรรม มีความโปร่งใส มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่

"ถ้าหากว่าเข้ามาแล้วไม่ดี ไม่ทำประโยชน์ ไม่โปร่งใส สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ฉะนั้นขอความไว้วางใจกับการใช้อำนาจของ คสช." พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

หัวหน้า คสช.บอกอีกว่า เรื่องการบริหารราชการแผ่นดินในระยะที่ 2 เมื่อเรามีนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี (ครม.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เราก็คงปฏิบัติงานในกรอบอำนาจเต็ม คือ การใช้อำนาจบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ ผ่าน ครม. สภานิติบัญญัติ กระบวนการยุติธรรม โดยมีการปฏิรูปในเรื่องที่สำคัญควบคู่ไปด้วย และจะกำหนดให้ผลการปฏิรูปมีผลในทางปฏิบัติในระยะสั้น คือ (ทันที) บางอย่างต้องระยะกลาง (1 ปี) ที่มีรัฐบาล ระยะยาว ส่งต่อรัฐบาล (ต่อๆ ไป) ให้ต่อเนื่อง วันนี้ขอให้ทุกคนใจเย็นๆ ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ช่วยกันตกลงใจ และมีความเห็นชอบร่วมกัน จะได้หาข้อยุติลงได้ การมีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สภาปฏิรูปแห่งชาติ เพื่อจะทำให้การปฏิรูปสามารถดำเนินการได้อย่างแท้จริง เราไม่ต้องการที่จะแสวงหาอำนาจเป็นระยะเวลานาน

ยังไม่มีเลือกตั้งอย่าเพิ่งเรียกร้องอะไรมาก

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อยากจะขอความร่วมมือทุกคนให้ช่วยกันนำบ้านเมืองไปสู่ความสงบ ไปสู่ประชาธิปไตยอย่างยั่งยืน อย่างที่ทุกคนต้องการ และไม่ให้มีความขัดแย้งกันต่อไป อย่างไรก็ตามกรุณาอย่าเรียกร้องอะไรกันมากนัก ในระหว่างที่ยังไม่มีการเลือกตั้งโดยใช้รัฐธรรมนูญฉบับถาวร ซึ่งจะต้องร่างขึ้นมาใหม่ในระยะที่ 2 นี้ ให้ทันเวลาเพื่อจะนำไปสู่การเลือกตั้งประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ และเกิดการปฏิรูปอย่างเป็นรูปธรรม ตามที่ทุกพวกทุกฝ่ายต้องการ

ขู่ฟันคนรับผลประโยชน์ตั้งสนช.-บอร์ด

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า มีการเรียกร้องผลประโยชน์ในการแต่งตั้งบอร์ด แต่งตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และรัฐบาล พูดมาหลายครั้งแล้วก็ยังมีอยู่

"ทราบแล้วว่าใครเป็นคนไปเรียกร้อง ยืนยันว่า คสช.ไม่มีทั้งสิ้น และกำลังหาวิธีการดำเนินการตามกฎหมาย ขอให้หยุดการกระทำดังกล่าว และผู้ที่เคยเสียเงินเสียทองให้ไป ให้เรียกคืนโดยทันที มิฉะนั้นท่านอาจจะเสียเงินเปล่า คนที่ได้รับการแต่งตั้งจาก คสช.ในปัจจุบันนั้น คสช.จะมีการตรวจสอบโดยคณะกรรมการของ คสช. ทั้งในด้านประวัติส่วนตัว ผลการปฏิบัติงาน การทุจริตคอร์รัปชั่น การถูกฟ้องร้อง หรืออยู่ในกระบวนการฟ้องร้อง โดยจะตรวจสอบทั้งหมด มิได้รับรายชื่อมาจากผู้ใดแล้วแต่งตั้ง ไม่ใช่แบบนั้น หากแต่งตั้งไปแล้วตรวจพบมีความผิด ก็ต้องถูกดำเนินคดี ปลดออกเช่นกัน" หัวหน้า คสช.ระบุ

หวังสื่อดูแลกันเองอย่าให้เกิดละเมิด

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า เรื่องสื่อ ต้องขอขอบคุณที่เข้าใจกัน ขอให้ผู้รับผิดชอบแต่ละสมาคมดูแลกัน อย่าให้มีการล่วงละเมิดโดยเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ ไม่เป็นจริง หรือการให้ข่าวโดยไม่มีหลักฐาน ทั้งนี้อยากให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวอ้าง คสช.ไม่ได้มุ่งหวังที่จะใช้อำนาจเข้าไปควบคุมสื่อแต่ประการใด อยากให้ทุกสมาคมสื่อ และสื่อทุกประเภทมีความเข้มแข็ง และเป็นที่น่าเชื่อถือของสาธารณชนเท่านั้น หากท่านไม่ได้มีเจตนาให้ร้าย วิพากษ์วิจารณ์เกินกว่าเหตุ เจตนาไม่บริสุทธิ์ ก็คงไม่มีใครไปทำอะไรท่านได้

ขอบคุณแกนนำม็อบยุติการเคลื่อนไหว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า ต้องขอขอบคุณแกนนำม็อบทุกฝ่าย ที่ยุติการเคลื่อนไหว และเตรียมตนเองในเรื่องการปฏิรูปและการเมืองในอนาคต หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จากนี้เป็นต้นไป คสช.คงจะได้รับความร่วมมือเช่นเดิม หรืออาจจะมากกว่าเดิม ทั้งในด้านความปรองดองสมานฉันท์ การปฏิรูป และร่วมมือกันในการบริหารราชการแผ่นดิน ให้ผ่านพ้นเมฆหมอก ที่บดบังความเจริญก้าวหน้าของประเทศไทยมายาวนาน ทั้งนี้ เพื่อมอบอนาคตที่ดีงามให้ลูกหลานของเราสืบไป


'ชูวิทย์' ชี้ 'ยิ่งลักษณ์' อาจจบเหมือน 'ทักษิณ'

"ชูวิทย์" ชี้ "ยิ่งลักษณ์" อาจมีชะตากรรมเดินตามรอย "ทักษิณ" เป็นนักธุรกิจ เป็นนายกรัฐมนตรีคู่พี่น้อง ที่โดนคดีความและถูกให้ออกจากเหตุทางการเมืองคล้ายกัน

วันที่ 25 ก.ค. 2557 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ชูวิทย์ I′m No.5 หลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ บินไปยุโรป และไปพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พี่ชาย ที่สนามบินฝรั่งเศส ดังนี้

หลายชีวิต

ครั้งหนึ่งประเทศไทยเคยมีนายกรัฐมนตรีที่เป็นพี่น้องจากครอบครัวเดียวกัน คือ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช นายกรัฐมนตรีคนที่ 6 และน้องชายชื่อ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 13

หลังจากนั้นอีก 25 ปี ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และถัดไปอีก 10 ปี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว ก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 28 ของไทย

ชีวิตของยิ่งลักษณ์ ถูกขีดให้มีชะตากรรมคล้ายคลึงกับทักษิณในหลายๆ เรื่อง

1.เป็นนักธุรกิจก่อนเดินเข้าสู่การเมือง

2.ทักษิณถูกออกจากตำแหน่งโดยรัฐประหาร ส่วนยิ่งลักษณ์ถูกออกจากตำแหน่งโดยศาลรัฐธรรมนูญ และภายหลังมีการรัฐประหาร

3.เป็นสมาชิกพรรคที่มีรากเหง้ามาจากนโยบายประชานิยม

4.มีคดีความเกิดขึ้นจากการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

5.ถูกบันทึกในประวัติศาสตร์การเมือง โดยทักษิณชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงมากกว่าครึ่งเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ ส่วนยิ่งลักษณ์ได้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย

6.ทั้งคู่มีทั้งคนรักและคนเกลียดมากที่สุด

ผมไม่รู้ว่า ในอนาคตจะมีความคล้ายคลึงกันในเรื่องผลของคดีความหรือไม่ แต่ชีวิตคนเป็นเรื่องแปลกสุดจะคาดเดา

<>ผมเคยอ่านหนังสือยอดนิยม เรื่อง "หลายชีวิต" เขียนโดย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช มีผู้นำไปแปลเป็นภาษาต่างๆ มากมาย ในหนังสือกล่าวถึงผู้คนต่างเพศ ต่างวัย ต่างชาติตระกูล ทุกคนเดินทางลงเรือลำเดียวกัน เพื่อไปสู่ปลายทางเดียวกัน ด้วยจุดมุ่งหมายที่แตกต่างกัน แต่สุดท้ายเมื่อเรือล่ม ทุกคนก็มาจบชีวิตพร้อมกัน จุดจบของชีวิตไม่มีใครคาดคิด ชะตากรรมคุณยิ่งลักษณ์ถูกกำหนดให้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทยได้ เพราะคุณทักษิณ และอาจมีชะตากรรมตอนท้ายไม่แตกต่างจากคุณทักษิณเลย.


ลุ้น! “น้องไมร่า” รอบ Duel Rising Star 27ก.ค.ช่อง7

หลังผ่านรอบคัดเลือกของรายการเรียลิตีสุดฮิต Rising Star มาได้ “น้องไมร่า มณีภัสสร” เตรียมขึ้นร้องเพลงแข่งขันในรอบ Duel กับคู่แข่งสาวเสียงดี “มอร์แกน ฮิกกินส์” ในรายการที่จะถ่ายทอดสดในวันที่ 27 ก.ค.

น้องไมร่า มณีภัสสร มอลลอย เตรียมขึ้นเวทีประกวดร้องเพลงในรายการเรียลิตี Rising Star ของ ABC ในอาทิตย์วันที่ 27 ก.ค. เวลา 21.00น.ตามเวลาท้องถิ่นของลอสแองเจลิสทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ซึ่งถือว่าเป็นรายการในสัปดาห์ที่ 6 แล้ว โดยในรอบนี้ น้องไมร่า จะต้องร้องเพลงแข่งขันในรอบ Duel กับนักร้องสาวชาวสหรัฐฯ มอร์แกน ฮิกกินส์ วัย 16 ปีเท่ากัน ที่เข้ารอบมาด้วยการร้องเพลง Alone ของวง Heart ซึ่งแน่นอนว่าการตัดสินผู้เข้ารอบจะขึ้นอยู่กับเสียงโหวตของผู้ชมที่สามารถโหวต Yes หรือ No ให้กับนักร้องแต่ละคนได้ทาง App ของรายการ Rising Star เช่นเดียวกับรายการในรอบแรก

Rising Star เป็นเรียลิตีประกวดร้องเพลงที่ออกอากาศทาง ABC มาตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยทางสถานีโทรทัศน์แห่งสหรัฐฯ ได้ซื้อลิขสิทธิ์รูปแบบรายการมาจากเรียลิตีของประเทศอิสราเอล ที่สร้างสรรค์โดย Keshet Broadcasting Ltd ด้วยความคาดหวังว่าจะสามารถสร้างความแตกต่างให้กับวงการโทรทัศน์สหรัฐฯ ที่มีรายการประเภทประกวดร้องเพลงอยู่มากมายด้วยระบบการโหวตแบบเรียลไทม์ผ่าน App ของรายการ

ซึ่งรายการ Rising Star ดูจะน่าสนใจสำหรับผู้ชมชาวไทยเป็นพิเศษ เมื่อ น้องไมร่า มณีภัสสร มอลลอย วัย 16 ปี ผู้ชนะรายการ Thailand’s Got Talent ปีที่ 1 สามารถผ่านเข้ารอบไปได้ด้วยการร้องเพลง Con te partirò ในสัปดาห์แรกของรายการ สำหรับวันอาทิตย์นี้เธอจะร้องเพลง Gravity ในการประกวด โดยมีผู้เข้าประกวดทั้งหมด 4 คู่

ปิดฉากรักขม“เจนี่-เอ๋" นางเอกสาวพบรักใหม่

ปิดฉากรักข่ม "เจนี่-เอ๋" เผยนางเอกสาวพบรักใหม่กับสาวหล่อไฮโซ ลือหึ่งโลกออนไลน์เตรียมเปิดใจหลังทนมา 1 ปีเต็ม พร้อมเดินแยกทางกับสามี

เมื่อวันที่ 25 ก.ค. หลังกระแสข่าวลือเตียงหัก-รักร้าว ของคู่รักสะท้านวงการ "เจนี่ เทียนโพธิสุวรรณ " นางเอกสาวคนดังแห่งวิกช่อง 3 และ เอ๋ "ชนสวัสดิ์ อัศวเหม" สามีที่เพิ่งจูงมือเข้าประตูวิวาห์ ได้เพียงปีเศษ หลังมือดีปล่อยภาพ “กิ๊ก” ใหม่ของฝ่ายชายไม่นาน ล่าสุดมีการแชร์ข้อความที่อ้างว่า เป็นคำบอกเล่าที่หลุดจากปากนางเอกสาวในเว็บไซด์ต่าง ๆ หลายเว็บไซด์ ว่า เตรียมจะแถลงข่าวเคลียร์ปัญหารักร้าวให้ทุกฝ่ายหายข้องใจเสียที โดยก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้ออกมาเผยว่า แยกทางกับสามีได้ประมาณ 4 เดือนแล้ว โดยฝ่ายชายไม่คิดจะง้อเลยสักนิด

นางเอกสาวยัง เปิดใจต่อว่า หลังแถลงข่าวจะเตรียมบินไปพักผ่อนต่างประเทศ 1 เดือน นอกจากนี้แหล่งข่าวยังบอกอีกว่า เอ๋-ชนม์สวัสดิ์ เคยทำร้ายร่างกายมาดามเจนี่จนถึงขั้นหามส่งโรงพยาบาล ส่วนทางฝ่ายชายไม่ได้มีการออกมาพูดปฏิเสธหรือยอมรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด

ล่าสุดมีข่าวเล็ดลอดออกมาว่า “เจนี่” ได้พบรักครั้งใหม่กับสาวหล่อ ดีกรีนักเรียนนอก ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง อีกทั้งเกิดในตระกูลดีถือเป็นไฮโซคนหนึ่ง อย่างไรก็ตามคงต้องรอว่าเจนี่จะออกมาแถลงข่าวจริงตามที่มีข่าวออกมาหรือไม่ และเราคงได้ทราบความจริงทุกอย่างจากปากเธอ ทั้งกระแสเตียงหัก และรักครั้งใหม่ คงต้องรอให้เธอพร้อมและเข้มแข็งอีกครั้ง.


"ไมค์"ยืดอกรับ-มีลูกกับนางแบบซาร่า เปิดแถลงวันคลอดอยู่"รพ." ได้อุ้มด้วย

"ไมค์" พระเอกนักร้องชื่อดังแถลงยืดอกยอมรับว่าเป็นพ่อของลูกชายนางแบบลูกครึ่งไทยอิตาเลียน "ซาร่า คาซิงกีนี" แม้จะเลิกกันมานานกว่า 6 เดือนแล้ว โดยไม่ต้องตรวจดีเอ็นเอ ตั้งชื่อแล้วด้วยว่า แมกซ์ เวลส์ วินาทีแรกที่เห็นหน้าลูกไม่สามารถอธิบายได้ ส่วนเรื่องแต่งงานหรือใช้ชีวิตร่วมกันขอเป็นเรื่องภายในครอบครัว ขอโทษสังคมและแฟนเพลง ที่ทำให้ผิดหวัง

จากกรณีเกิดกระแสข่าวสะพัดสังคมออนไลน์ "ว่าพระเอกหน้าสวย ทำนางแบบท้องแล้วไม่รับ" โดยมีภาพ ซาร่า คาซิงกีนี นางแบบสาวลูกครึ่งอิตาลี นอนพักฟื้นหลังจากคลอดลูก อยู่บนเตียงนอนโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง พร้อมภาพเด็กผู้ชายแรกคลอด ทำให้หลายคนมองว่า พระเอกหนุ่มที่เป็นพ่อของเด็กคนนี้ คือ "ไมค์-พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล" พระเอกและนักร้องชื่อดัง วัย 25 ปี เนื่องจากเคยคบหากับนางแบบสาวมาพักหนึ่ง

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 24 ก.ค. ที่อาคารมาลีนนท์ ถ.พระราม 4 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "ไมค์"พิรัชต์ ซึ่งกำลังมีผลงานละครเรื่อง "รากบุญ ตอนรอยรักแรงมาร" ทางช่อง 3 เดินทางมาพร้อมกับนายพิเชษฐ์ นิธิไพศาลกุล บิดา และ "ปิ่น"ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์ ผู้จัดละครค่ายทีวีซีน เข้าพบนายสมรักษ์ ณรงค์วิชัย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด เพื่อชี้แจงหลังจากมีกระแสข่าวว่าพระเอกคนดังทำนางแบบสาวท้องจนคลอดลูก โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก่อนจะเดินทางกลับด้วยสีหน้าค่อนข้างเครียดอย่างชัดเจน

"ปิ่น"ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้พูดคุยกับคุณสมรักษ์ แล้วก็ไม่มีอะไร คุณสมรักษ์รับทราบเรื่องราว ซึ่งไมค์ได้บอกว่าพอทราบเรื่องก็คุยกับซาร่าแล้ว ตอนที่ผู้หญิงโทร.มาบอกว่าคลอดลูกไมค์ก็ไปเยี่ยมปกติ ไม่ได้รังเกียจ หรือปฏิเสธอะไร เคยคบกันจริง แต่ตอนนี้ห่างกันไปแล้วได้ประมาณ 6-7 เดือน

เวลา 17.00 น.ที่ชั้น 9 อาคารมาลีนนท์ "ไมค์"พิรัชต์ พร้อมบิดา เดินทางกลับเข้ามาอีกครั้งเพื่อแถลงข่าว ท่ามกลางสื่อมวลชนจำนวนมาก ที่เฝ้ารอติดตามการแถลงเปิดใจ โดยมีนายสมรักษ์ และ "ปิ่น-ณัฏฐนันท์" เข้าร่วมฟังการแถลงข่าวด้วย โดย "ไมค์" มีสีหน้าเรียบเฉย ยกมือไหว้สื่อมวลชน ก่อนกล่าวว่า วันนี้ที่มาที่นี่ก็เพื่ออยากจะชี้แจงกับข่าวที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าเคยคบกับซาร่าจริง แต่ตอนนี้ห่างกันไปแล้ว กระทั่งมาทราบอีกทีว่าเขามีน้อง ซึ่งตนทราบเรื่องมาระยะหนึ่งแล้ว และได้บอกไปว่าจะขอรับผิดชอบ ตั้งแต่ทราบเรื่องมาได้คุยกับซาร่ามาเป็นระยะ วันที่คลอดคือวันจันทร์ที่ 14 ก.ค.ก็ได้ไปอยู่ในห้องคลอดด้วย ได้มีโอกาสอุ้มน้อง

ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจว่าเป็นลูกของตัวเองเลยหรือไม่ พระเอกหนุ่มกล่าวว่า ประเด็นว่าใช่หรือไม่ใช่ไม่ได้สนใจ แต่พอได้เห็นหน้าน้องก็คิดว่าใช่ อย่างที่บอกว่าตนทราบเรื่องนี้มา 2-3 เดือนแล้ว ตอนที่รู้ก็ไม่ได้ตกใจอะไร พอเขามาบอกตนก็รับรู้ และถามว่าจะเอาอย่างไรต่อดี เพียงแต่ตอนที่ทราบเรื่องว่าเขาตั้งท้องเราเองอยู่ในสถานะที่เลิกกันแล้ว แต่ก็ได้คุยกัน และเป็นเพื่อนกันมาตลอด ซึ่งหลังจากนี้ตนกับซาร่าจะอยู่ในสถานะอะไร หรือจะจัดการอย่างไรต่อไป ก็ขอให้เป็นเรื่องส่วนตัวของเราสองคน และเป็นเรื่องภายในครอบครัว

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า จะมีการตรวจดีเอ็นเอหรือไม่ ไมค์กล่าวว่า สำหรับตนไม่มีอะไร คาใจ และไม่อยากตรวจ เหตุผลเดียวที่จะตรวจคือถ้าทั้งสองครอบครัวเกิดความไม่สบายใจมากกว่า ความจริงก่อนหน้านี้ตนอยากจะออกมาพูดมาก เพราะทนรับกับแรงกดดันตัวเองไม่ไหว เนื่องจากมีงานที่ต้องรับผิดชอบหลายอย่าง แต่ก็มาชั่งใจ คิดอีกทีว่ายังดีกว่า จนกระทั่งมีข่าวออกมาจึงถึงเวลาที่ต้องออกมาชี้แจงให้ทราบ เนื่องจากข่าวออกมาว่าตนจะไม่รับผิดชอบ ซึ่งตนต้องขอปฏิเสธเลยว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากว่าพอทราบเรื่อง และคุยกับซาร่า ตนก็บอกว่าจะรับผิดชอบมาตลอด

พระเอกหนุ่มกล่าวต่อว่า ทุกคนในครอบครัวให้กำลังใจ และอยู่เคียงข้างมาตลอด แต่คุณพ่อคุณแม่ของตนยังไม่มีโอกาสเจอหน้าหลาน ส่วนที่ถามว่าหลังจากนี้น้องจะอยู่กับใคร และแบ่งการดูแลอย่างไร ตนขออนุญาตให้เป็นการคุยกันภายในครอบครัวจะดีกว่า คิดไว้แล้วว่า จะให้น้องชื่อแมกซ์ เวลส์ แต่ยังไม่ใช่ชื่อที่เป็นทางการ เพียงแต่อยากให้ขึ้นชื่อนำหน้าด้วยตัวเอ็ม เหมือนชื่อของไมค์ คือตอนนี้ตนจะเรียกน้องว่าเจ้าหนูไปก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในสูติบัตรได้เซ็นชื่อรับรองเป็นบุตรหรือยัง ไมค์กล่าวว่า ในสูติบัตรยังไม่มีการเซ็นชื่อใดๆ ทั้งสิ้น เพราะระยะของการทำเรื่องตรงนี้ต้องทำภายใน 15 วันหลังคลอด จึงยังไม่ได้เซ็นรับรองเป็นคุณพ่อ ส่วนเรื่องที่จะตัดสินใจอย่างไรนั้นจะเป็นการคุยกันภายในครอบครัว ซึ่งตั้งแต่ก่อนคลอด จนคลอด และหลังจากคลอด ตนไปเยี่ยมซาร่าบ่อยๆ ความจริงเรื่องราวที่เกิดขึ้นตนกับซาร่าได้คุยกันไว้แล้ว และมันเป็นเรื่องที่เคลียร์กันได้ภายในครอบครัว ทันทีที่เห็นหน้าลูกมันเป็นความรู้สึกที่เอ่อล้นออกมา ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ แต่ตนขอยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่ใช่เรื่องไม่ดี การมีเด็กคนหนึ่งตนว่าเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์ของชีวิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากแถลงข่าวจบพระเอกหนุ่ม "ไมค์"พิรัชต์ มีอาการน้ำตาคลอเบ้า เพราะซาบซึ้งใจที่ผู้ใหญ่และสื่อมวลชนต่างให้กำลังใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น