เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ IAMNUTTER สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ชาวเน็ตชื่นชม นักศึกษาสาวป้อนขนมให้ชายหนุ่มพิการไร้แขนทั้งสองข้าง บนทางเดินบีทีเอส
เป็นภาพที่ไม่ได้เห็นกันได้บ่อยนัก สำหรับภาพของนักศึกษาคนหนึ่งที่หยิบยื่นน้ำใจให้กับชายพิการด้วยการป้อนขนมให้ทาน โดยภาพดังกล่าวเป็นภาพของ คุณ IAMNUTTER สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ได้มาบอกเล่าเรื่องราวดี ๆ ที่เขาได้เจอพร้อมกับระบุข้อความว่า...
"วันนี้ (17 มิถุนายน) ตอนบ่ายโมงกว่า ๆ ณ ทางเดิน Sky Walk ก่อนถึงสถานีรถไฟฟ้า BTS อนุสาวรีย์ฯ ผมเดินไปเห็นนักศึกษาหญิงคนหนึ่ง (น่าจะเป็น มรภ.สวนดุสิต เพราะเห็นแถบสีดำที่แขนเสื้อ) กำลังแกะถุงขนมปังแล้วถือป้อนให้คุณลุง (ขอทาน) ที่พิการแขนทั้งสองข้างกิน ประทับใจมากครับ ดีใจที่เห็นคนไทยมีน้ำใจกับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน แล้วยิ่งเป็นนักศึกษาด้วย ชื่นชมจริง ๆ ครับ เลยอยากมาเล่าให้ฟังเพื่อร่วมกันชื่นชมในน้ำใจของเธอคนนี้ .. " เห็นภาพที่น่าประทับใจแบบนี้แล้ว ก็ต้องขอชื่นชม และปรบมือให้น้องนักศึกษาคนนี้ดัง ๆ เลย..
เมื่อเวลา 13.10 น. วันที่ 18 มิ.ย. น.ส.พลอย (นามสมมติ) อายุ 21 ปี นางแบบสาวนิตยสารวัยรุ่นชื่อดัง เข้าร้องเรียนต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เพื่อขอความช่วยเหลือหลังถูกลูกชายผู้กว้างขวางย่านประตูน้ำ ที่เคยคบหาเป็นแฟนกันมา 2 ปีเศษ ติดตามตัวและทำร้ายร่างกาย หลังขอเลิกและแยกทาง
น.ส.พลอยกล่าวว่า เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง คณะภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจ และรับถ่ายแบบให้กับนิตยสารเล่มหนึ่งแนววัยรุ่นด้วย เพื่อเป็นรายได้ส่งเสียตัวเองเรียน แต่ตอนนี้ต้องดร็อปเรื่องเรียนไว้ก่อน เพราะถูกลูกชายผู้กว้างขวางติดตามตัวจนต้องหลบซ่อน จะไปไหนก็ลำบาก เนื่องจากเกรงว่าจะถูกอุ้มและทำร้ายร่างกาย โดยก่อนหน้านี้ประมาณ 2 ปีเศษ ตนรู้จักกับลูกชายผู้กว้างขวางย่านประตูน้ำ ด้วยการแนะนำของเพื่อน ซึ่งตอนแรกไม่ทราบว่าเป็นใครหรือมีประวัติอย่างไร ต่อมาลูกชายผู้กว้างขวางเข้ามาตีสนิทและจีบตน โดยมีท่าทีสุภาพเรียบร้อยดี จึงตัดสินใจคบหาเป็นแฟนก็เอาใจใส่สารพัด
น.ส.พลอยกล่าวอีกว่า หลังจากนั้นประมาณ 7 เดือน ลูกชายผู้กว้างขวางมีท่าทีเปลี่ยนไป โดยชอบหงุดหงิดและหาเรื่องทะเลาะเป็นประจำ อีกทั้งยังจับได้ว่าแอบคบหาผู้หญิงอื่น เพราะเจอของใช้ผู้หญิงตกอยู่ในรถและมีข้อความนัดหมายกันในโทรศัพท์มือถือ พอสอบถามก็จะโมโหและทำลายสิ่งของ รวมทั้งยังทำร้ายร่างกายด้วยการตบตีและชกที่ศีรษะ จากนั้นยังขังให้อยู่ภายในห้องและไม่ให้ออกไปไหน โดยบางครั้งจะมีร่องรอยเขียวช้ำตามใบหน้าและลำตัว แต่ก็จะบังคับให้ออกไปข้างนอกด้วยกัน เหมือนต้องการให้คนอื่นเห็นและจะโทรศัพท์ไปเล่าเหตุการณ์ให้เพื่อนฟังด้วย ซึ่งเคยยกมือไหว้และกราบเท้า เพื่อขอให้ปล่อยตนไป ในเมื่อมีผู้หญิงอื่นแล้ว แต่ไม่เป็นผล
"บางครั้งกระทั่งตอนไปเรียนหนังสือก็จะไปรอและเช็กเบอร์โทรศัพท์ของเพื่อนทุกคน ทำให้ต้องทนทุกข์ทรมานเรื่อยมาเกือบ 2 ปี โดยเคยหนีออกมาได้แต่ลูกชายผู้กว้างขวางก็ใช้อุบายหลอกเพื่อนว่าทะเลาะกันเล็กน้อย อยากจะง้อขอคืนดีแล้วให้เพื่อนโทรศัพท์นัดออกมาพบ ก่อนพยายามพากลับไปอยู่ด้วยกันอีก ที่ผ่านมาได้หลบหนีหลายครั้ง แต่จะถูกตามเจอแทบทุกครั้ง ล่าสุดยังเริ่มทำร้ายรุนแรงขึ้น ถึงขั้นเอาพัดลมฟาดเข้าที่ศีรษะ และใช้ช้อนส้อมทิ่มที่ศีรษะด้วย นอกจากนี้ยังเคยส่งข้อความขู่ฆ่าอีก ทำให้เมื่อคืนวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา อาศัยจังหวะที่ทุกคนหลับ จึงถือโอกาสหลบหนีออกมาและเลิกใช้โทรศัพท์มือถือ ก่อนเข้าร้องเรียนกับมูลนิธิปวีณาฯ และยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดด้วย" น.ส.พลอยกล่าว
นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมในช่วงเช้าวันนี้ (19 มิ.ย.) มีมติรับทราบผลประชุมของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่ให้ปรับลดราคารับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2556 ลงจาก 15,000 บาท/ตันเหลือ 12,000 บาท/ตัน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.56เป็นต้นไป พร้อมกำหนดเพดานการรับจำนำข้าวไม่เกินครอบครัวละ 500,000 บาท นับตั้งแต่ 20 มิ.ย.56 เป็นต้นไป โดยเลขาธิการกฤษฎีกายืนยันต่อที่ประชุม ครม.แล้วว่า การปรับเปลี่ยนเงื่อนไขโครงการรับจำนำข้าว ตามมติ กขช. ไม่ขัดต่อกฎหมาย
ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ราคาข้าวในตลาดโลก อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น และปริมาณผลผลิตประเภทข้าวและข้าวโพดในตลาดโลกที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น อีกทั้งเพื่อรักษาวินัยทางการเงินการคลังของประเทศ เพื่อนำไปสู่เป้าหมายการจัดทำงบประมาณแบบสมดุลในปีงบประมาณ 2560
ส่วนเป้าหมายการรับจำนำข้าวเข้าโครงการยังคงปริมาณ 22 ล้านตันเช่นเดิม โดยขณะนี้มีเกษตรกรนำข้าวเข้าโครงการรับจำนำข้าวแล้ว 19 ล้านตัน และเชื่อว่าการปรับเปลี่ยนนโยบายในโครงการรับจำนำข้าวในครั้งนี้จะไม่ถูกฝ่ายค้านนำไปตั้งประเด็นโจมตี เพราะไม่ขัดต่อแนวโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา โดยสามารถปรับเปลี่ยนเงื่อนไขให้เหมาะสมต่อสถานการณ์.
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน เวลา 13.30 น. โดยประมาณ "ดำดอทคอม" บัวขาว บัญชาเมฆ และ นายธีรวัฒน์ ยิ้วยิ้ม ผู้จัดการส่วนตัว, นายบรรยวัสถ์ สังข์วรรณะ ทนายความของบัวขาว เดินทางมาที่ศาลแขวงพระนคร ถ.รัชดาภิเษก เพื่อเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายนพรัตน์ พุทธรัตนมณี หรือ "โจ ไทยไฟต์" จำเลยที่ 1 และ บริษัท สปอร์ตอาร์ต จำกัด จำเลยที่ 2 ในคดีอาญาข้อหาหมิ่นประมาทว่า "บัวขาวชกมวยแบบปาหี่" บัวขาวเผยว่าสาเหตุการมายื่นฟ้องครั้งนี้ มาจากที่ตนขึ้นชกมวยในการแข่งขัน "มวยไทย แม็กซ์ เวิลด์แชมเปี้ยน 2013" ที่ จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้นตนขึ้นชกกับ มาลิก วัตสัน นักชกจากสหรัฐ ซึ่งบัวขาวชนะน๊อกไปในยก 2 แต่หลังจากนั้นก็มาทราบทีหลังว่าจำเลยที่ 1 กล่าวหาว่า เป็นการชกแบบปาหี่ ซึ่งในฐานะที่ชกมวยไทยมานาน และรักศิลปะแม่ไม้มวยไทย รู้สึกว่า มันเป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนต่อจิตใจ ทำให้ตนปรึกษากับทีมกฎหมายและตัดสินใจยื่นฟ้องในที่สุด ซึ่งศาลจะนัดพิจารณาวันที่ 9 กันยายน ขณะเดียวกัน บัวขาวพูดถึงการแข่งขัน"มวยไทย แม็กซ์ เวิลด์แชมเปียน 2013" ซึ่งจัดขึ้นที่ อินเตอร์สเตเดี้ยม เสนายัน กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ในวันเสาร์ที่ 29 มิ.ย.นี้ ว่า ครั้งนี้จะไปเป็นโปรโมเตอร์ และอาจจะมีโชว์มวยไทยไชยา โดยจะถ่ายทอดสดทางช่อง 7 สี และ ทรานซ์เซเว่น ของอินโดนีเซีย ตั้งแต่เวลา 22.45-01.00 น.
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012