เมื่อเวลา 22.35 น. วันที่ 29 พ.ย. พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง พร้อมนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ร่วมแถลงการณ์ผ่านทางทีวี เกี่ยวกับการรับสถานการณ์การยกระดับการชุมนุม
โดยพล.ต.อ.ประชา ระบุว่า การที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำต้านนิรโทษกรรมและระบอบทักษิณ ประกาศเข้ายึดสถานที่ต่างๆ ขอยืนยันว่า รัฐบาลยังคงเป็นรัฐบาลตามระบอบประชาธิปไตย ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ผ่านการเลือกตั้งตามครรลองที่เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ ซึ่งการกระทำของนายสุเทพ เป็นการผิดกฏหมาย ดังนั้นจึงไม่มีการยกเว้น และขอให้ประชาชนไม่ให้ความร่วมมือ ซึ่งสร้างความเสียหายต่อประเทศอย่างมาก และไม่รู้ว่านายสุเทพ จะทำประเทศเสียหายอย่างไร ทั้งนี้ จะใช้วิิธีการละมุนละม่อม รักษาสถานที่ราชการ ตามหลักมาตรฐานสากล แม้ผู้ชุมนุมมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งทุกคนรักชาติ รักกษัตริย์ ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน จึงไม่ควรละเมิดสิทธิเสรีภาพของคนอื่น และทำลายทรัพย์สิน
ด้านนายจารุงพงศ์ กล่าวว่า ขอแจ้งข้าราชการสังกัดกระทรวงทุกท่าน และผู้ว่าราชการจังหวัด อย่าร่วมมือกับผู้ยุยงให้เกิดความไม่สงบ ซึ่งการกระทำมีความผิดมีอายุความถึง 10 ปี และโทษจำคุกสูงสุด 7 ปี ขอให้ประชาชนเตือนลูกหลาน ญาติมิตรอย่าร่วมมือกับผู้ยุยง
ขณะที่พล.ต.อ. อดุลย์ กล่าวว่า ในฐานะผู้รักษากฏหมาย ขอให้ใช้สมาธิไตร่ตรองในการเข้าสถานที่ราชการอันเป็นสิ่งผิดกฏหมาย อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะหลีกเลี่ยงใช้กำลัง โดยกระทำตามหลักของกฎหมาย แต่หากมีความจำเป็นก็ต้องดำเนินการเพื่อการยับยั้ง
เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 29 พ.ย.ที่ราชมังคลากีฬาสถาน นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. ขึ้นปราศรัยบนเวทีตอนหนึ่งว่า การประกาศรายชื่อองค์ประกอบคณะกรรมกาประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) หรือ สภาประชาชน ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำการชุมนุมล้มระบอบทักษิณ พบว่าเป็นคนเจ้าเก่า หน้าเดิม ไม่ใช่คนหน้าใหม่ ที่มีเครดิตอะไรเลย ผู้ได้รับเกียรติเป็นหัวหน้าคือ นายสมบัติ ธำรงธัญญาวงศ์ อดีตคณบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) พร้อมบรรดาอาจารย์จากนิด้าจำนวนหนึ่ง รวมทั้งกลุ่ม คปท. กลุ่มประชาคมนักธุรกิจสีลม กองทัพธรรม สรส. และกลุ่มที่เคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ ขอสรุปว่าพวกนี้ทั้งหมด เป็นพวกที่เคยมีประวัติส่วนหนึ่งในการเคลื่อนไหว แต่เป็นผู้ไม่ประสบความสำเร็จทั้งสิ้น นายสุเทพในฐานะผู้บัญชาม็อบ ก็เอาพวกนี้มาประดับเป็นตัวประกอบ แต่ตัวจริงในการเคลื่อนไหวคือนายสุเทพนั้นเอง น่าสังเกตทำไมสภาประชาชนนี้ ไม่มีคนของพันธมิตรฯ ซึ่งอาจเป็นว่าเสือกับสิงห์ กระทิงกับแรดก็เลยอยู่ร่วมกันไม่ได้
นางธิดา กล่าวว่า การเปิดตัวคนเหล่านี้ออกมา ตนคิดว่าขายไม่ออกเท่าไร เพราะคนที่มีชื่อเสียง คนที่เคยขึ้นเวที มีเครดิตในสังคมมากว่านี้ไม่ปรากฏในรายชื่อ ขอบอกนายสุเทพว่าคอลัมนิสต์ต่างประเทศ สถานทูตเกือบทั้งหมด เขาหัวเราะขำกับสภาประชาชนของนายสุเทพทั้งสิ้น หลายคนเป็นพวกที่อยากเป็นนักปฏิวัติทำไม่ได้ เลยมาหลอกใช้นายสุเทพ นายสุเทพไม่เข้าใจความหมายในสิ่งที่ตนพูดว่าปฏิวัติประชาชนคืออะไร หน้าอย่างนี้หรือจะมาปฏิวัติประชาชน
“อาจารย์ขำมาก คนที่ไม่สามารถบอกได้เลยว่าเป็นตัวแทนของประชาชนส่วนใหญ่ คนที่ดูถูกประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ แล้วมาบอกว่าเป็นนักปฏิวัติอยากจะหัวเราะให้ฟันหมดทั้งปาก เราจะยกระดับในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ถ้าเขายกเราก็จะยกด้วย เรายกแน่คือยกระดับความคิดของพี่น้องว่าพี่น้องเราเปิดใจให้กว้างต้อนรับคนอื่น พลังประชาธิปไตยแม้เขาไม่ใช่คนเสื้อแดง เราต้องเอาชนะหัวใจคนไทยให้มากเท่าที่จะมากได้ โชคดีที่นายสุเทพทำเรื่องนี้ จึงทำให้เป็นการเรียนรู้ว่าระบอบประชาธิปไตยนั้น เราต้องต่อสู้และหวงแหนเพียงใด ต้องมาให้มากกว่านี้ ที่งอนๆ โกรธๆ กันเลิกได้หรือไม่ พักไว้ก่อน มาชักเย่อกับนายสุเทพ อย่าให้ประเทศถอยหลัง เป็นการยกระดับทั้งปริมาณและคุณภาพ”นางธิดา กล่าว
จากนั้นเวลา 20.50 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. ขึ้นปราศรัยว่า นายสุเทพได้ตั้งเครือข่ายขึ้นมาใหม่ คือ กปปส. และประกาศว่าในวันที่ 1 ธ.ค. จะเป็นวันที่เขาประกาศชัยชนะ คืนวันนี้จะเขาจะเข้าไปควบคุมทุกหน่วยงานในศูนย์ราชการ กสท. ทีโอที และเครือข่ายโทรคมนาคมทั้งหมด จากนั้นในที่ 1 ธ.ค. ตั้งแต่ช่วงเช้านายสุเทพได้ประกาศยึดทำเนียบรัฐบาล สตช. เขาดิน และ และหน่วยงานอื่นๆ ตนต้องเรียนกับพี่น้องว่าสถานการณ์ในขณะนี้นายสุเทพ กำลังที่จะบีบทุกวิถีทางให้รัฐบาลปราบปรามนายสุเทพ ในขณะเดียวกันถ้าปล่อยให้นายสุเทพ ยึดทีโอที กสท. ระบบโทรคมนาคมที่เชื่อมระหว่างคนไทยในชาติและโลกก็จะถูกควบคุมได้เบ็ดเสร็จ เป็นสถานการณ์ที่ภัยกำลังจะมา เรารู้ว่าเพื่อนตายของเราจำนวนหนึ่งยังลังเล ไม่สบายใจกับเรื่องราวที่ผ่านมาจึงยังไม่มาร่วมในการต่อสู้ ตนรู้ว่าพี่น้องคิดอย่างไร ตนก็รู้สึกไม่แตกต่าง แต่ปล่อยให้นายสุเทพยึดบ้านยึดเมืองแบบนี้เป็นเรื่องที่เราไม่อาจทนได้ คนเสื้อแดงกับพรรคเพื่อไทยเหมือนลิ้นกับฟัน เหมือนครอบครัวเดียวกัน แต่ฝ่ายตรงข้ามคือฆาตรกรที่เข่นฆ่าประชาชน สิ่งที่เราต้องการคือความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เครือข่ายนายสุเทพก็ไม่ได้เพิ่มมาจากไหนเลย แต่คือกลุ่มเดียวกับที่เปิดประตูให้เกิดรัฐประหารเมื่อปี 2549
นายจตุพร กล่าวว่า ในวันที่ 30 พ.ย.และวันต่อไปเราต้องการประชาชนเป็นเรือนแสนเพื่อประกาศพลัง ว่าคนไทยเขาไม่อาจทนกับสิ่งที่นายสุเทพทำได้ และรัฐบาลจะยอมให้เกิดสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ สตช. บช.น. ถ้าให้ผู้ร้ายฆ่าคนตายยึดหน่วยงานไปได้ ก็ยุบหน่วยงานไปเสียไม่ต้องมีแล้ว สิ่งที่นายสุเทพเขาต้องการคือให้ประชาชนมาปะทะกับเจ้าหน้าที่รัฐ พฤติกรรมของนายสุเทพที่เหิมเกริมและกล้าทำในสิ่งที่มนุษย์ปกติเขาไม่ทำ ถ้าใครก็ตามหน่วยงานใดก็ตามไปสมคบกับนายสุเทพแล้วเกิดการปะทะแล้วนำรถถังเข้ามายึดอำนาจ ตนตั้งข้อหาว่าคุณสมคบกับนายสุเทพ ในที่นี้ไม่มีใครกลัวนายสุเทพแม้เพียงคนเดียว และไม่มีใครยอมให้นายสุเทพแย่งอำนาจไปจากประชาชนผู้เป็นเจ้าของแผ่นดินนี้ได้ วันนี้ให้ปิดฉากคำว่าแพ้ เพราะเราต้องการเป็นผู้ชนะ นายสุเทพต้องเป็นฆาตกร ครั้งนี้เป็นการต่อสู้ที่มีเดิมพัน เขาไม่ย้ายจากเวทีราชดำเนิน เพราะได้สัญญาณและคิดว่าจะชนะดังนั้นวันที่ 1-2 ธ.ค.จึงเป็นเดิมพันของประเทศ และขอให้มาให้เต็มราชมังคลาฯ ถ้าไม่มาจะแพ้นายสุเทพ และเครือข่ายพรรคประชาธิปัตย์ ถ้ามาให้เต็มเราไม่มีวันแพ้นายสุเทพและฆาตรกร มาให้ล้นและเราไม่ต้องเดินอกไปทีใด หน้าที่รักษาหน่วยงานเป็นของ ศอ.รส. เรามีหน้าที่รักษาประชาธิปไตย เราจะเคลื่อนก็ต่อเมื่อมีการรัฐประหาร ถ้ามีการรัฐประหาร เปิดประตูราชมังคลาฯออกไปต่อต้านให้ถึงที่สุด
“นายสุเทพพาประชาชนภาคใต้มายึดสถานที่ที่ราชการ ถ้าคนภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคกลางเขาทนไม่ได้มายึดบ้างแล้วจะว่าอย่างไร ดังนั้นเราจะอยู่ได้ด้วยวิธีเดียวก็ด้วยการปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเท่านั้น ระบบอื่นไม่เอา ถ้าเขาได้อำนาจเช่นนี้ก็จะมีอำนาจได้ไม่เกิน 3 วัน พี่น้องภาค เหนือ อีสาน เขาก็จะมาจัดการนายสุเทพ วิธีการได้มาซึ่งอำนาจต้องสง่างาม ไม่ใช่เป็นโจร 500 แล้วจะมาบริหารประเทศได้” นายจตุพร กล่าว
เมื่อเวลา 19.40 น. วันที่ 29 พ.ย. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำต้านระบอบทักษิณ ได้ขึ้นเวทีศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ประกาศเปิดตัวกลุ่ม คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) โดยมีแกนนำหลายคน อาทิ นายสุริยะใส กตะศิลา นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ฯลฯ ซึ่งมีตนดำรงเลขาธิการฯ กลุ่ม เพื่อร่วมแรงร่วมใจขจัดระบอบทักษิณ ให้หมดไปจากผืนแผ่นดินไทย ทั้งนี้ ยืนยันว่า ราชการไม่ต้องมาทำงานอีกแล้ว ยกเว้น กองบัญชาการกองทัพไทย ศาลปกครอง และศาลรัฐธรรมนูญ ขนส่งมวลชน และการบินไทย
ทั้งนี้ นายสุเทพ ยังกำหนดให้วันที่ 1 ธ.ค. เป็นวันแห่งชัยชนะ ในการลงมือขจัดระบอบทักษิณมีแผนปฏิบัติสันติ สงบ ปราศจากอาวุธ อหิงสา ไม่มีการใช้กำลังความรุนแรง รวมทั้งต้องมีประชาชนจำนวนมหาศาล โดยจะเริ่มปฏิบัติการตั้งแต่คืนวันที่ 29 พ.ย.นี้ โดยให้ประชาชนที่ชุมนุมที่ศูนย์ราชการ เข้าควบคุมทุกกระทรวง ภายในศูนย์ราชการฯ และจะไม่มีใครเข้าทำงานภายในได้อีก ตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค. ข้าราชการที่ทำงานในศูนย์ราชการฯ ไม่ต้องมาทำงานอีกแล้ว จนกว่า กปปส. จะประกาศให้มาทำงาน แต่จะอนุญาตให้ข้าราชการศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครองและกองทัพไทยเข้าทำงานเท่านั้น
นอกจากนี้ ทางกลุ่มจะเข้าควบคุมพื้นที่ บริษัท กสท. โทรคมนาคม จำกัด และบริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) ที่เลือกเคลื่อนไหววันเสาร์ เนื่องจากไม่อยากให้มีการขัดขืนและให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
จากนั้น ในวันที่ 1 ธ.ค. จะมีมาตรการให้มวลชนเข้าควบคุมสถานที่ราชการเพิ่ม คือ ทำเนียบรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ก.ศึกษาธิการ สวนสัตว์ดุสิต ก.แรงงาน ก.มหาดไทย ก.พาณิชย์ ก.ต่างประเทศ กรมประชาสัมพันธ์ และทุกส่วนราชการ โดยให้ประชาชนไปรอตั้งแต่เวลา 10.45 น.
ทั้งนี้ ยกเว้น บริษัท การบินไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) และบริษัทขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เนื่องจากไม่ต้องการทำให้ประชาชนเดือดร้อน และหากพบเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขยับตัว ก็ให้ปฏิบัติการเหมือนที่ กระทรวงการคลัง เช่น การล้อมรถ และปล่อยยางรถ เพื่อไม่ให้ขยับทำร้ายประชาชน ส่วนต่างจังหวัดให้ปฏิบัติกับศาลากลางทุกจังหวัด และช่วงบ่ายวันที่ 1 ธ.ค.จะแถลงชัยชนะไม่มีระบอบทักษิณในประเทศไทยต่อไป
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012