สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ว่า ตำรวจนิวยอร์ก ได้ถูกกล่าวหาว่าใช้มาตรการรุนแรงเกินความจำเป็น จากเหตุการณ์ใส่กุญแจมือเด็กอันธพาลวัย 7 ปี เป็นเวลา 4 ชม.ภายหลังถูกจับกุมจากเหตุการณ์ที่ตร.กล่าวหาว่า เด็กรายนี้ได้ขโมยเงินจำนวน 5 ดอลลาร์ จากเพื่อนนักเรียนอีกคนหลังจากเลิกเรียน
รายงานระบุว่า กรณีดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้แก่ครอบครัวของเขา ซึ่งได้ตัดสินใจยื่นฟ้องเรียกเงินค่าเสียหายเป็นจำนวน 250 ล้านดอลลาร์ ระบุว่า กระทำของตำรวจดังกล่าวถือว่ารุนแรงเกินกว่าเหตุมาก ตั้งแต่การจับเด็กใส่กุญแจมือ ล่วงละเมิดร่างกายและจิตใจ ข่มขู่ กระทำทารุณ สร้างความอับอาย และเสื่อมเสียชื่อเสียงของเด็ก โดยเอกสารฟ้องศาลระบุคำอ้างแม่เด็กว่า เมื่อเธอไปโรงพัก เธอได้รับการกล่าวว่า ไม่สามารถพบลูกชายเธอได้ ก่อนที่จะได้พบเขาในสภาพน่าตะลึงอย่างยิ่ง เนื่องจากเด็กถูกใส่กุญแจมือ และเด็กต้องร้องไห้หาเธอ พร้อมทั้งบอกว่า เขาไม่ได้ทำความผิดตามที่ตำรวจกล่าวหา
อย่างไรก็ตาม เอกสารของตร.ระบุอ้างคำกล่าวของเพื่อนนักเรียนว่า เด็กชายรายนี้เป็นเด็กอันธพาล ก่อเหตุชกต่อยและขโมยเงิน และสมควรถูกลงโทษ เพราะเขาได้ขู่กรรโชกเงินเพื่อนดังกล่าวครั้งแล้วครั้งเล่า นอกจากนี้ โฆษกตำรวจยังระบุว่า การฟ้องร้องดังกล่าวเป็นเรื่องไม่จริง เพราะด็กไม่ได้ถูกจับกุมเป็นเวลาหลายชม.ในสน. นอกจากนี้ เด็กยังได้รับการปฎิบัติอย่างดีเหมือนผู้ต้องสงสัยรายอื่น จากการจับกุมเขาในฐานะผู้เยาว์ผู้กระทำผิด นอกจากนี้ ตำรวจยังนำพิซซ่าให้เขากินด้วย
เผยโฉมโมเดลใบหน้าพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 โดยอาศัยกระโหลกศีรษะที่มีการขุดพบใต้ลานจอดรถที่เมืองเลสเตอร์ ระหว่างการสำรวจด้านโบราณคดี
โดยใบหน้าแบบใหม่นี้ พระเจ้าริชาร์ดที่ 3 จะมีจมูกที่โค้งเล็กน้อย ส่วนคางยื่นออกมา แต่ก็ยังคล้ายคลึงกับภาพวาดใบหน้าที่มีการวาดไว้ภายหลังการสวรรคต
ทีมนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ แถลงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ผลการตรวจดีเอ็นเอ และตรวจสอบอายุของโครงกระดูกด้วยคาร์บอน 14 สามารถยืนยันได้ว่า เป็นโครงกระดูกของพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 จริง
โมเดลสามมิติทำจากพลาสติก โดยปรับแต่งขึ้นมาให้เห็นเสมือนจริง จากกะโหลกของพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 ซึ่งสวรรคตในสงครามบอสเวิร์ธเมื่อปีค.ศ.1485 หลังจากทรงเข้าพิธีราชาภิเษกขึ้นเป็น พระเจ้าริชาร์ดที่ 3 ได้เพียงสองปีเท่านั้น แต่พระองค์ก็ทรงมีอยู่จริงในฐานะผู้ร้ายแห่งประวัติศาสตร์อันเลวร้ายตามที่กวีเอกอย่างวิลเลียม เชคสเปียร์ เคยเขียนไว้ในละคร
การทำโมเดลครั้งนี้ มีขึ้นหลังนักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ ยืนยันว่า โครงกระดูกที่มีการขุดพบบริเวณใต้ลานจอดรถเมื่อปีที่แล้ว เป็นกษัตริย์ที่เคยมีชีวิตอยู่สมัยศตวรรษที่ 15 จริง โดยหลักฐานดีเอ็นเอจากกระดูก ตรงกับของลูกหลานที่สืบเชื้อสายจากพระเจ้าริชาร์ดที่ 3
ดร.จอห์น แอชดาวน์-ฮิลล์ นักประวัติศาสตร์ และผู้แต่งหนังสือ The Last Days of Richard III เปิดเผยว่า โมเดลดังกล่าวมีความเหมือนจริงจนรู้สึกได้ว่ากำลังยืนข้างพระองค์จริง องค์ประกอบบนใบหน้าในภาพถ่ายที่เด่นที่สุดคือจมูกและคาง และอวัยวะทั้งสองส่วนนี้ก็มีความโดดเด่นอย่างมากเมื่อถูกนำมาทำเป็นโมเดล องค์ประกอบของกล้ามเนื้อและผิวหนัง ถูกทำขึ้นมาโดยการสแกนกระโหลกศีรษะด้วยคอมพิวเตอร์ และผลที่ได้ก็ออกมาเป็นโมเดลที่ทำจากพลาสติกดังกล่าว
การทำโมเดลขึ้นมาใหม่นี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากไม่มีหลักฐานภาพวาดของพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 ในช่วงที่พระองค์ยังมีชีวิตอยู่ ภาพที่พอมีอยู่แม้แต่ภาพที่ใหม่ที่สุด ก็ดูมีความคล้ายคลึงกันไปหมด ซึ่งอาจคาดเดาได้ว่าได้มาจากภาพวาดร่วมสมัยที่พระองค์ยังมีชีวิต หรือเป็นไปได้ว่าเป็นการนำเอาองค์ประกอบต่างๆจากหลายภาพมารวมกัน
นักวิชาการหวังว่า การค้นพบซากโครงกระดูกของพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 ซึ่งมีกระดูกสันหลังบิดงอ ตรงตามตำนานเล่าขานนั้น จะช่วยนำไปสู่การฟื้นฟูชื่อเสียงให้กับกษัตริย์อังกฤษพระองค์นี้ แต่หลายคนก็เชื่อว่า ภาพพระพักตร์ของพระองค์ ซึ่งอาจเคยเห็นแต่เพียงภาพวาด จะเป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่การค้นคว้าเพื่อรื้อฟื้นชื่อเสียงของพระองค์
ประธานสมาคมริชาร์ดที่ 3 ได้เผยโฉมโมเดลศีรษะของพระเจ้าริชาร์ดที่ 3อย่างเป็นทางการเมื่อเช้าวันอังคารที่ผ่านมา (5 ก.พ.) ที่สมาคมนักสะสมโบราณวัตถุในกรุงลอนดอน
นายฟิล สโตน ประธานสมาคมริชาร์ดที่ 3 กล่าวว่า การเปิดเผยภาพพระพักตร์ของพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะพระพักตร์นั้นแสดงให้เห็นว่ายังทรงหนุ่ม และยังได้เห็นเต็มตัวกว่าที่เคยเห็นมาในอดีต ไม่ได้ทรงพระกังวลมากนัก แถมยังมีท่าทียิ้มแย้มอีกด้วย เมื่อเขาได้เห็นภาพนี้แล้ว เขาคิดว่าน่าจะพอแล้วสำหรับภาพพระพักตร์ของพระเจ้าริชาร์ดที่ 3
ส่วนการปรับแต่งภาพเชิงซ้อนให้เป็นภาพสามมิตินั้น เป็นผลงานของศาสตราจารย์แคโรไลน์ วิลกินสัน ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการพิสูจน์เอกลักษณ์ใบหน้าและกะโหลก มหาวิทยาลัยดันดี สกอตแลนด์ โดยมีสมาคมริชาร์ดที่ 3 เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 8.0 ริกเตอร์ที่หมู่เกาะโซโลมอน เมื่อเวลา 8.12 น.วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ตามเวลาในประเทศไทย ทำให้เกิดคลื่นสึนามิสูง 90 เซนติเมตร ซัดหมู่บ้านริมชายฝั่งหมู่เกาะโซโลมอน บ้านเรือนพังยับทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย บาดเจ็บ 3 ราย ขณะที่ศูนย์เตือนภัยสึนามิในมหาสมุทรแปซิฟิกประกาศเตือนสึนามิในหลายประเทศแถบมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ ก่อนยกเลิกประกาศเตือนดังกล่าวในเวลาต่อมา
สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) รายงานว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดเมื่อเวลา 01.12 น. หรือประมาณ 08.12 น. ตามเวลาในไทย ใกล้กับเกาะซานตาครูซ ส่วนหนึ่งของหมู่เกาะโซโลมอน โดยมีศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้พื้นทะเลเพียง 5.8 กิโลเมตร หลังจากนั้นเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหลายระลอก โดยวัดความรุนแรงได้ประมาณ 6.4 และ 6.6 ริกเตอร์ รวมทั้งทำให้เกิดคลื่นสึนามิขนาดเล็ก
ขณะที่ศูนย์เตือนภัยสึนามิในมหาสมุทรแปซิฟิกและศูนย์เฝ้าระวังแผ่นดินไหว จีโอไซเอินซ์ ออสเตรเลีย แถลงว่า หมู่บ้านริมฝั่งทะเลทางตะวันตกและใต้ของเมืองลาตา ถูกคลื่นสึนามิสูง 90 เซนติเมตร ซัดบ้านเรือนพังเสียหายหลายสิบหลัง รวมถึงคลื่นจากสึนามิยังพัดเข้าถึงทางวิ่งของสนามบินบนเกาะซานตาครูซด้วย
มีรายงานผู้เสียชีวิต 5 คน เป็นผู้สูงอายุ 4 คนและเด็ก 1 คน นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน แต่ชาวบ้านในกรุงโฮนีอารา เมืองหลวงของหมู่เกาะโซโลมอน ซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหว 580 กิโลเมตร ไม่รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวดังกล่าว
ด้านศูนย์เตือนภัยสึนามิในมหาสมุทรแปซิฟิกออกประกาศเตือน ให้พลเมืองที่อาศัยอยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหว ได้แก่ หมู่เกาะโซโลมอน วานูอาตู นาอูรู ปาปัวนิวกินี ตูวาลู นิวแคลิโดเนีย เกาะคอสไร ฟิจิ คิริบาตี หมู่เกาะวอลลิส และฟูตูนา เตรียมรับมือคลื่นสึนามิที่อาจรุนแรง นอกจากนี้ ยังมีประกาศเฝ้าระวังสึนามิสำหรับรัฐฮาวาย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม ศูนย์เตือนภัยฯได้ยกเลิกประกาศเตือนภัยสึนามิทั้งหมดในเวลาต่อมา
ต่อมานายจอร์จ เฮอร์มิง โฆษกประจำตัว นายกรัฐมนตรี กอร์ดอน ดาร์ซี ลิโล แห่งหมู่เกาะโซโลมอนแถลงสรุปสถานการณ์หลังเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิเบื้องต้นว่า มีหมู่บ้าน 4 แห่งบนหมู่เกาะซานตาครูซที่ได้รับความเสียหายจากสึนามิ บ้านเรือนประชาชนถูกคลื่นซัดพังเสียหายประมาณ 60-70 หลังคาเรือน จากนี้เจ้าหน้าที่เร่งลงพื้นที่สำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น และสรุปจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต แต่การติดต่อไปยังหมู่เกาะซานตาครูซนั้นทำได้ยาก เนื่องจากเป็นเกาะที่อยู่ห่างไกล อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการระบุชัดเจนว่า เหยื่อทั้ง 5 รายเสียชีวิตเพราะแผ่นดินไหวหรือคลื่นสึนามิ
สำหรับหมู่เกาะโซโลมอนตั้งอยู่ในบริเวณรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกที่มักเกิดภูเขาไฟหรือแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2550 เกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเลขนาด 8.1 ริคเตอร์ ทำให้เกิดคลื่นสึนามิคร่าชีวิตชาวหมู่เกาะโซโลมอนไป 52 ราย และอีกหลายพันชีวิตต้องไร้ที่อยู่อาศัย
วันที่ 7 ก.พ. สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า สำนักงานการไปรษณีย์แห่งชาติสหรัฐ หรือ ยูเอสพีเอส ประกาศเมื่อวันพุธว่า จะหยุดการส่งจดหมายถึงผู้รับ ในวันเสาร์ โดยเริ่มตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค. เพื่อลดปัญหาการขาดทุน ซึ่งตัวเลขสูงถึง 15.9 พันล้านดอลลาร์ในปี 2555 โดย นายแพทริค โดนาโฮ ผู้อำนวยการ ยูเอสพีเอส กล่าวว่า การตัดสินใจมีขึ้นหลังจากสิ้นหวังกับการรอคอย การปฏิรูปกิจการจากสภาคองเกรส ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาด้านการเงินในระยะยาว “การไปรษณีย์ต้องรับผิดชอบต่อการดำเนินการตามความจำเป็น เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงิน และกิจการสามารถดำเนินต่อไปได้ในระยะยาว” นายโดนาโฮ กล่าว
จากการประเมินของ ยูเอสพีเอส การดำเนินการตามการตัดสินใจดังกล่าว คาดว่าจะประหยัดรายจ่ายได้ประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์ บริการส่งจดหมายสัปดาห์ละ 5 วัน จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค. เป็นต้นไป แต่จะเป็นการหยุดส่งเฉพาะจดหมาย ส่วนพัสดุจะยังคงส่งเหมือนเดิม เช่นเดียวกับสำนักงานไปรษณีย์ ซึ่งจะยังคงเปิดให้บริการในวันเสาร์
ยูเอสพีเอส ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทั้งจากการส่งข้อความทางอีเมล์ และการติดต่อสื่อสารอีเล็คทรอนิกส์อื่นๆ นอกจากนั้นยังเผชิญกับการแข่งขันจากบริการรับส่งไปรษณีย์ของเอกชนที่มีความว่องไวกว่า ยูเอสพีเอส ประสบภาวะขาดทุนกว่า 3 เท่า ในเวลาแค่ปีเดียวนับถึงวันที่ 30 ก.ย. จากตัวเลขขาดทุน 5.1 พันล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2554
นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 ยูเอสพีเอส ได้ปรับลดจำนวนพนักงานลงลง 193,000 คน หรือ 28 %.
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012