ข่าว
ทหารคนสนิท "ป๋าเปรม" แจงยกเลิกสมาคมมูลนิธิ พลเอก เปรมฯ ไม่มีอะไรผิดปกติ

หลังจากราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศนายทะเบียนสมาคม ประจำจังหวัดสงขลา เรื่อง การเลิกสมาคม ซึ่งเป็นการเลิกสมาคมมูลนิธิ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์

ล่าสุด วาสนา นาน่วม นักข่าวสายทหารและความมั่นคงชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊กโดยระบุข้อมูลว่าทหารคนสนิทของ พล.อ.เปรมชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว โดยมีเนื้อหารายละเอียดของโพสต์ดังนี้

ทส. "ป๋าเปรม" แจงราชกิจจาฯ ลงประกาศ ยกเลิก "สมาคมมูลนิธิ พลเอก เปรม" ที่สงขลา เป็นเรื่องปกติ หลังหมดภาระหน้าที่ เผยมีราว 30 มูลนิธิ พลเอก เปรม ของโรงเรียน-องค์กรต่างๆ สามารถดำเนินการได้เองแล้ว จึงยกเลิกสมาคมฯ และไม่เกี่ยวกับมูลนิธิรัฐบุรุษ ไม่มีอะไรพิเศษแต่อย่างใด

พลเอก พิศณุ พุทธวงศ์ นายทหารคนสนิทของ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กล่าวถึงกรณีราชกิจจานุเบกษาลงประกาศยกเลิก สมาคมมูลนิธิ พลเอก เปรมฯ ว่าไม่มีอะไร เป็นเรื่องปกติ เมื่อสมาคมไม่ได้มีการดำเนินการแล้ว ก็ต้องมีการแจ้งยกเลิก และมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาตามกฎหมาย

ทั้งนี้ เนื่องจากในห้วงที่ผ่านมา ที่จังหวัดสงขลามีการขออนุญาต พลเอก เปรม ในการตั้งมูลนิธิ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ของโรงเรียนต่างๆ และองค์กรต่างๆ ในสงขลาราว 30 มูลนิธิ เพื่อประโยชน์ด้านการศึกษา การพัฒนาของโรงเรียน พลเอก เปรม จึงอนุญาตให้ใช้ชื่อของท่าน

โดยในเวลานั้น นายบัญญัติ จันทน์เสนะ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้เล็งเห็นว่าเพราะมีมูลนิธิฯ มากถึง 30 มูลนิธิ จึงควรที่จะมีสมาคมเพื่อประสานงานดูแล จึงมีการตั้งสมาคมมูลนิธิ พลเอก เปรมฯ ดังกล่าวขึ้นมา

แต่ต่อมาเมื่อ มูลนิธิต่างๆ ซึ่งเป็นนิติบุคคล สามารถดำเนินการบริหารจัดการได้เองอย่างมีประสิทธิภาพเรียบร้อยแล้ว จึงได้ยกเลิกสมาคมฯ นี้

พลเอก พิศณุ ยืนยันว่าเป็นขั้นตอนปกติไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ และไม่ได้เกี่ยวข้องกับ พลเอก เปรม หรือ มูลนิธิรัฐบุรุษฯ

ทั้งนี้ ในช่วงนี้ พลเอก เปรม อยู่บ้านสี่เสาเทเวศร์ไม่ได้ไปไหน เตรียมตัวสำหรับร่วมงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในสัปดาห์หน้า อันเป็นช่วงเวลาที่สำคัญของพสกนิกรชาวไทยทุกคน"

“เจ้าแหลม” แพ้คะแนน ฮวน ฟรานซิสโก้ เอสตราด้า

“เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น หรือ ศรีสะเกษ ส. รุ่งวิสัย นักมวยขวัญใจชาวไทย แชมป์โลก WBC ชกครบ 12 ยก ผลการชก แพ้คะแนนให้แก่ ฮวน ฟรานซิสโก้ เอสตราด้า ในการป้องกันแชมป์โลกรุ่นซุปเปอร์ฟลายเวท ที่สังเวียน เดอะ ฟอรัม อิงเกิ้ลวู้ด ลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย เมื่อค่ำวันที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา


'กรณ์'เปิดโพลล์นักธุรกิจใต้ 'ปชป.'-'พปชร.'ตั้งรัฐบาล

26 เม.ย.62 จากกรณีที่มีข่าวว่า นายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง และแคนดิเดตชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ไปบรรยาย หัวข้อ "อนาคตเศรษฐกิจไทย" ที่โรงแรมปุระนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยช่วงหนึ่งได้มีการสอบถามความคิดเห็นของนักธุรกิจนครศรีธรรมราช ว่าอยากจะให้พรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่ได้ยกมือเห็นด้วย พร้อมทั้งมีข่าวว่า นายกรณ์ ได้ระบุจะนำพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐอย่างแน่นอนนั้น

ล่าสุด นายกรณ์ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว "Korn Chatikavanij" ระบุว่า ต่อกรณีข่าวนี้นะครับ ขออนุญาตชี้แจงข้อเท็จจริงโดยไวต่อข่าวที่ปรากฏ

ในเวทีบรรยายเศรษฐกิจ “อนาคตเศรษฐกิจไทยและโอกาสปากท้องของพี่น้องชาวใต้” ซึ่งเมื่อบรรยายจบมีการถาม-ตอบเกิดขึ้น และมีการเสนอขอให้เราร่วมรัฐบาลจากของกลุ่มนักธุรกิจในเวทีปาฐกถา

ผมจึงถามเป็นโพลล์ให้ยกมือผู้ร่วมงานยกมือตอบกันเอง ว่าอยากให้ปชป.ทำอย่างไร เป็นการฟังเสียงประชาชน ปรากฏว่า เกือบทั้งห้อง ที่เป็นตัวแทนจากนักธุรกิจและประชาชนในนครศรีฯ ยกมือให้ร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐ

และเมื่อถามถึงประเด็นฝ่ายค้านอิสระ ไม่มีใครยกมือเลย และนี่ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดครับ และผมได้เพียงพูดต่อว่า ‘ขอบคุณครับ’ และเดินลงจากเวที

ขอย้ำอีกครั้งครับว่า ต่อคำถามที่พรรคจะเจออีกตลอดจนถึงการมีรัฐบาลครั้งหน้า ผมขอบอกจากใจเลยว่า ‘ผมจะฟังเสียงของประชาชนเป็นหลัก’ และหลังการสรรหาหัวหน้าพรรคคนใหม่ เรื่องการร่วมรัฐบาล ผู้บริหารพรรคทุกคนจะต้องทำตามมติพรรคอยู่ดีครับ 1 คน 1 เสียง

ธนาธรถึงไทยแล้ว! กองเชียร์รอรับแน่นสนามบิน ลั่นกำลังใจดี โอนหุ้นตามกฎหมายทุกอย่าง

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เดินทางถึงประเทศไทยแล้วเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันนี้ (25 เม.ย.) ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ โดยมีผู้สนับสนุนมารอรับเป็นจำนวนมาก และเมื่อนายธนาธรเดินมาถึงกลุ่มผู้สนับสนุน ก็มีเสียงเชียร์ค่อนข้างดัง ว่า "ธนาธร สู้ๆ"

ธนาธรลั่น "กำลังใจดี"

หลังจากจับมือและกล่าวขอบคุณผู้ที่มารอรับแล้ว นายธนาธรให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนระบุว่า ตนและพรรคอนาคตใหม่มีกำลังใจดี แม้จะพบกับอุปสรรคทางการเมืองอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา และขอให้ทุกฝ่ายไม่ต้องกังวล

"ขวัญกำลังใจของพวกเราชาวอนาคตใหม่ แกนนำพรรคอนาคตใหม่ ยังดีนะครับ พวกเรายังเชื่อมั่นใจความบริสุทธิ์ของพวกเรา ดังนั้นไม่มีอะไรต้องกังวลครับ" นายธนาธร กล่าว

คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติแจ้งข้อกล่าวหานายธนาธร เพราะเชื่อว่าหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่นายนี้ถือหุ้นในบริษัท วี-ลัค มีเดีย ซึ่งเป็นบริษัทสื่อ ทำให้มองว่านายธนาธรทำผิดกฎหมาย และไม่มีคุณสมบัติในการลงรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จึงให้นายธนาธรมาชี้แจงภายใน 7 วัน

โอนหุ้นถูกกฎหมาย

นายธนาธร กล่าวถึงประเด็นนี้ ที่สนามบินสุวรรณภูมิว่า หลังจากนี้จะมีการนัดวันไปชี้แจงกับ กกต. และมั่นใจว่าตนบริสุทธิ์ เนื่องจากการโอนหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย ทำขึ้นอย่างถูกกฎหมาย

"ไม่มีข้อกังวลครับ เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด กระบวนการโอนหุ้นทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เรียบร้อยไปตั้งแต่เดือน ม.ค. แล้ว ไม่มีอะไรต้องกังวลครับ"

ให้กำลังใจ กกต. วอนทำงานตรงไปตรงมา

หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่กล่าวอีกว่า ตนอยากให้กำลังใจ กกต. ในการทำงาน เนื่องจากอาจจะมีแรงกดดันทางการเมืองจริง จึงต้องมีมติดังกล่าวออกมา

"คือ... ผมต้องบอกอย่างงี้ มีเจ้าหน้าที่ กกต. เยอะแยะไปหมดที่มีความหวังดีต่อประเทศ มีเจ้าหน้าที่ กกต. เยอะแยะไปหมดที่ต้องการเห็นประเทศเดินไปข้างหน้า และตระหนักดีถึงความสำคัญของการทำหน้าที่อย่างเที่ยงธรรม ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่เหล่านั้น หวังว่า กกต. จะมองเห็นว่าการทำงานที่บริสุทธิ์ของ กกต. จะนำประเทศไปสู่ทางออกได้ แต่ถ้า กกต. ทำงานอย่างไม่บริสุทธิ์ ไม่ยุติธรรมและสร้างข้อกังหาให้กับประชาชนในการทำงานของ กกต. เมื่อไหร่ นั่นจะนำไปสู่ความวุ่นวาย เพราะประชาชนตั้งความหวังกับการเลือกตั้งครั้งนี้ไว้มาก" นายธนาธร กล่าว

มั่นใจใบส้มใช้กับตัวเองไม่ได้

นายธนาธรพูดถึงการตัดสิทธิ์ลงรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส. 1 ปี หรือการแจกใบส้ม เนื่องจากไม่มีคุณสมบัติตามกฎหมายว่า ตนไม่กังวล เนื่องจากการแจกใบส้มใช้กับกรณีของตัวเองไม่ได้

"ก็... ในกรณีของใบส้มนะครับ ก็ต้องบอกว่า กรณีของใบส้มนี่คือให้อำนาจชี้ขาดสุดท้ายอยู่ที่ กกต. นะครับ ส่วนในกรณีของผมเอง ก็ต้องบอกว่า เราเองมีความมั่นใจมากว่าใบส้มบังคับใช้ในกรณีของผมไม่ได้" นายธนาธร กล่าว

ยืนยันขณะโอนหุ้นอยู่ กทม. จวกคนใส่ร้ายไม่มีหลักฐาน

นายธนาธรให้สัมภาษณ์ต่อไปว่า วันที่มีการโอนหุ้น คือ วันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา ตนหาเสียงที่ จ.บุรีรัมย์ในช่วงเช้า และเดินทางมาถึงกรุงเทพมหานครในช่วงบ่ายวันนั้น เพื่อมาเซ็นชื่อโอนหุ้นให้กับนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดา แต่ฝ่ายที่กล่าวหาตนว่าตนไม่ได้เดินทางมากรุงเทพมหานคร กลับไม่มีหลักฐาน และถ้าหากคำกล่าวหานี้เป็นเรื่องจริง ก็คงมีรูปหรือคลิปหลุดออกมาแล้ว

"คนที่บอกว่าผมกลับมาไม่ทัน ไม่มีใครมีหลักฐานเลยนะว่าตอนบ่ายวันนั้นผมอยู่ที่ไหนนะครับ คนที่บอกว่าผมเดินทางกลับมาไม่ทันหรืออยู่บุรีรัมย์ต่อ ไม่มีใครมีหลักฐาน ซึ่งถ้าผมเดินรณรงค์หาเสียงอยู่ที่บุรีรัมย์จริงๆ ในช่วงบ่าย ต้องมีรูปภาพหลุดออกมาสักรูปบ้างแล้ว หรือต้องมีใครอัดวิดีโอบ้างแล้ว แต่นี่ไม่มีเลยนะครับ ผมก็ยังยืนยันว่า ทุกๆ อย่างเป็นไปตามกระบวนการที่เราชี้แจง" นายธนาธร กล่าว