ข่าว
ศาลมะกันสั่งคุกตลอดชีวิต สาวใหญ่แค้นผัวหย่าลวงตัดจู๋

เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ศาลนครลอสแอนเจลิส มีคำพิพากษาตัดสินให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิตแก่นาง แคเธอรีน เคียว สาวใหญ่เชื้อสายเวียดนามวัย 50 ปี ผู้ก่อเหตุวางยานอนหลับอดีตสามีและตัดอวัยวะเพศแล้วนำไปทิ้งถังบดขยะเมื่อปี 2011 แต่เธอมีสิทธิ์พ้นโทษด้วยการทำทัณฑ์บนหลังจากรับโทษไปแล้ว 7 ปี

นางเคียวแต่งงานกับสามีเมื่อธ.ค. 2009 แต่ในเดือนพ.ค. 2011 เธอถูกสามีฟ้องหย่าและศาลสั่งให้มีผลในเดือนส.ค.ปีเดียวกัน ต่อมาเธอลวงสามีมากินมื้อค่ำที่บ้านในเมืองการ์เดน โกรฟ ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของนครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย แล้วแอบใส่ยาในอาหาร จนเหยื่อหมดสติ นำตัวไปมัดกับเตียง แก้ผ้าออกแล้วรอให้เหยื่อฟื้น ก่อนใช้มีดทำครัวยาว 10 นิ้ว เฉือนอวัยวะเพศจนขาด แล้วนำไปทิ้งถังบดขยะ จากนั้นก็โทร.แจ้ง 911 บอกเหตุผลเพียงว่าสมควรแล้ว

ทั้งนี้ ระหว่างการไต่สวนที่ศาลแขวงออเรนจ์ ทนายความของเคียวพยายามแก้ต่างกับผู้พิพากษาว่า ลูกความของเขามีอาการป่วยทางจิต รวมถึงภาวะซึมเศร้า จึงไม่สมควรมีความผิดในคดีนี้

แคลิฟอร์เนียเลิก กม.ห้ามเกย์แต่งงาน-เลสเบียนลั่นระฆังวิวาห์คู่แรก

เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ศาลอุทธรณ์แห่งเขตที่ 9 ของเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย มีคำตัดสินยกเลิกกฎหมายห้ามการแต่งงานระหว่างคนรักร่วมเพศ หรือเกย์ ซึ่งรู้จักในชื่อ ญัตติที่ 8 แล้ว เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ภายหลังศาลสูงสุดแห่งสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ไม่ให้อุทธรณ์ ข้อบังคับดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ คาดกันว่าศาลอุทธรณ์จะรออีก 25 วัน จึงจะยกเลิกการห้ามคนรักร่วมเพศแต่งงาน เนื่องจากฝ่ายผู้สนับสนุนญัตติที่ 8 ต้องการให้ศาลพิจารณาใหม่อีกครั้ง แต่เหล่าผู้พิพากษาตัดสินใจยกเลิกทันทีในวันศุกร์ เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ควรจะกระทำในทันที

ภายหลังจากศาลมีคำตัดสินดังกล่าวไม่นาน น.ส.คริส เพอร์รี วัย 48 ปี และ น.ส. แซนดี สเตียร์ วัย 50 ปี คู่รักร่วมเพศ 1 ใน 2 คู่ ซึ่งเป็นแกนนำในการยื่นฟ้องร้องญัตติที่ 8 ต่อศาลสูงสุดสหรัฐฯ ก็จัดพิธีแต่งงานที่ศาลาว่าการเมืองซานฟรานซิสโก โดยได้นางคามาลา แฮร์ริส อัยการสูงสุดแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นประธานในพิธี ตามด้วยคู่ของ เจน และ ฟรานเซส เรนนิน

ทั้งนี้ เมื่อวันพุธ (26 มิ.ย.) ผู้พิพากษาศาลสูงสุดแห่งสหรัฐฯ ลงคะแนนเสียง 5 ต่อ 4 ตัดสินว่า กฎหมายปกป้องการแต่งงานปี 1996 (ดีโอเอ็มเอ) ซึ่งไม่ให้สิทธิประโยชน์แก่คู่รักร่วมเพศ ที่สมรสกันอย่างถูกต้องตามกฎหมายในรัฐที่พวกเขาอยู่อาศัย ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และยกฟ้องคดีที่เกี่ยวข้องกับญัตติที่ 8 ระบุว่าผู้สนับสนุนกฎหมายนี้ไม่มีสิทธิ์อุทธรณ์ความตัดสินของศาลชั้นต้น ซึ่งตัดสินยกเลิกกฎหมายดังกล่าวเพราะเป็นการเลือกปฏิบัติ


คลื่นร้อนสหรัฐจ่อทำลายสถิติโลก 138.8 องศาฟาเรนไฮท์

วันที่ 30 มิ.ย. ภาวะคลื่นร้อนในสหรัฐในบริเวณพื้นที่ตะวันออกของเฉียงใต้ของประเทศ ได้ส่งผลให้มีผู้สังเวยชีวิตอีก 1 ราย และมีผู้ป่วยต้องถูกส่งรพ.อีก 1 ราย โดยที่เมืองฟินิกซ์ อุณหภูมิได้พุ่งถึงระดับ 118.9 องศาฟาเรนไฮท์ ถือว่าร้อนเป็นประวัติการณ์โดยทำลายสถิติเมื่อครั้งปี 1994 ขณะที่พื้นที่ในหลายส่วนของรัฐแคลิฟอร์เนียต้องเผชิญภาวะอากาศร้อนจัดอย่างหนัก โดยสถานการณ์คาดว่าจะยืดยาวไปจนถึงคืนวันอังคาร หรือมากกว่านั้น โดยพื้นที่ในเขต"เดธ วัลเลย์"ซึ่งเป็นพื้นที่ทะเลทรายในแคลิฟอร์เนีย อุณหภูมิพุ่งสูงสุดถึงระดับ 127.9 องศาฟาเรนไฮท์ โดยใกล้จะถึงระดับทำลายสถิติสูงสุดของโลกเท่าที่เคยเกิดขึ้นมา ซึ่งอยู่ที่ระดับ 133.8องศาฟาเรนไฮท์ เมื่อช่วงศตวรรษก่อน ที่เมืองลาส เวกัส พบผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายชราที่เสียชีวิตเพราะคลื่นร้อนจัด ส่วนอีกรายเป็นชายชราขับรถยนต์ ต้องถูกส่งเข้ารพ.หลังจากเกิดอาการหัวใจกำเริบเพราะร้อนจัด เนื่องจากแอร์รถยนต์เสียไม่ทำงาน โดยก่อนหน้านี้ มีผู้ป่วยต้องถูกส่งเข้ารพ.กว่า 40 รายแล้ว นับตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา ส่วนที่เขตปาล์ม สปริง ทางใต้ของแคลิฟอร์เนีย อุณหภูมิพุ่งสูงระดับ 122.0 องศาฟาเรนไฮท์ ส่วนที่เมืองแลงคาสเตอร์ อุณหภูมิได้พุ่งขึ้นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 111.2 องศาเซลเซียส ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่เผยด้วยว่า ต้องมีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นและกู้ภัยบริเวณพรมแดนสหรัฐและเม็กซิโกเพราะหวั่นเกรงสถานการณ์ผู้คนหนีออกจากพรมแดนเพื่อหนีร้อน โดยที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้พบร่างผู้เสียชีวิต 7 ราย ในรัฐอริโซน่า หลังจากตกเป็นเหยื่อของทะเลทรายที่ร้อนจัด นอกจากนี้ ในพื้นที่ทะเลสาปเมดในรัฐเนวาด้า เจ้าหน้าที่ยังต้องเรียกร้องไม่ให้ผู้คนเดินทางผ่าน ส่วนที่เมืองฟินิกซ์ ทางการต้องยกเลิกเที่ยวบินจำนวน 18 เที่ยวบิน ขณะที่เจ้าหน้าที่สวนสัตว์หลายแห่งยังต้องจับตาดูสัตว์ใหญ่ เช่น เสือ และช้าง ที่อาจก่อสถานการณ์หนีแหกออกจากสวนสัตว์เพราะร้อนจัดจนคลั่ง


"จรวดรัสเซีย" ระเบิดตูมสนั่น หลังปล่อยจากฐานเพียงไม่กี่นาที

เผยคลิปนาทีระทึก ขณะจรวดบรรทุกดาวเทียมของรัสเชียที่ส่งไปโคจรในอวกาศ เกิดระเบิดหลังถูกปล่อยจากศูนย์ปล่อยยานอวกาศในคาซัคสถานได้ไม่เพียงกี่นาที เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 56 เป็นเหตุทำให้ทั้งจรวดและดาวเทียมที่บรรทุกอยู่ข้างในมูลค่ามหาศาลเสียหายยับเยิน ส่วนสาเหตุนั้นทางเจ้าหน้าที่คาดว่ามาจากเครื่องยนต์ขัดข้อง แต่ยังต้องสืบสวนต่อไปเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป ขณะเดียวกันทางการได้ประกาศเตือนภัย พร้อมทั้งอพยพประชาชนในบริเวณดังกล่าวให้ห่างจากรัศมีของอุบัติเหตุ เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตรายจากก๊าซพิษที่ถูกใช้เป็นเชื้อเพลิงในครั้งนี้ได้ สำหรับอุบัติเหตุดังกล่าวนับว่าเป็นครั้งที่ 2แล้ว ที่รัสเชียล้มเหลวในการปล่อยจรวดขึ้นสู่อวกาศในรอบ 3 ปีนี้

19 จนท.ดับเพลิงสังเวยชีวิตไฟป่า"อริโซนา"

นับเป็นการสูญเสียเจ้าหน้าที่ดับเพลิงในคราวเดียวครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่เหตุการณ์ 11 ก.ย. เมื่อกว่า 10 ปีก่อน โดยผู้เสียชีวิตทั้งหมด เป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยดับเพลิงพิเศษที่เรียกว่า "แกรนิต เมาน์เทน ฮ็อตช็อตส์" เจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตทั้งหมด พยายามใช้ผ้าใบกันความร้อนที่ทำจากฟอยล์เพื่อป้องกันตนเองจากไฟป่า แต่ไม่เป็นผล หลังถูกไฟป่าปิดล้อม โดยมีเพียงหนึ่งรายที่รอดชีวิตมาได้ เนื่องจากกำลังเคลื่อนย้ายรถของหน่วยออกไปเพื่อให้พ้นไฟป่า โดยเมื่อวานนี้ ขบวนรถตู้สีขาวได้นำร่างของผู้เสียชีวิตไปยังเมืองฟีนิกซ์ ที่ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 80 กม. ท่ามกลางการต้อนรับอย่างสมเกียรติ โดยมีการแขวนธงชาติสหรัฐฯจากบันไดของรถดับเพลิง ที่จอดเรียงรายสองข้างทางระหว่างการนำร่างไปชันสูตรพลิกศพ ด้านนางแจน บริวเออร์ ผู้ว่าการรัฐอริโซนา ประกาศลดธงครึ่งเสาเพื่อไว้อาลัย ด้านสถานการณ์ไฟป่าในรัฐอริโซนายังคงไม่มีทีท่ายุติ ทางการได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงอีกกว่า 200 นาย เขาไปร่วมปฏิบัติการดับไฟป่า ทำให้ขณะนี้ มีกำลังเจ้าหน้าแล้วราว 400 นาย ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ดับเพลิงพิเศษที่ส่งมาจากทั่วประเทศ ทั้งนี้ คาดว่าต้นเหตุของไฟป่าครั้งนี้เกิดจากเหตุฟ้าผ่าเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ใกล้กับเมืองยาร์เนล โดยไฟป่าได้ลุกลามกินพื้นที่ไปแล้วราว 8,400 เอเคอร์ บ้านเรือนประชาชนถูกเผาวอดหลายสิบหลัง