ข่าว
สวม ‘หมวกกันลอกข้อสอบ’ ชาวเน็ตแห่วิจารณ์ดูถูกนิสิต

ว่า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ในสังคมออนไลน์มีการแชร์ภาพภายในห้องสอบของนิสิตมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ต่อมามีผู้อ้างว่าเป็นมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยภาพโพสต์ขึ้นครั้งแรกที่แฟนเพจขององค์การบริหาร องค์การนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน โดยผู้เข้าสอบทุกคนต่างสวมหมวกทรงประหลาดมีกระดาษปิดบังสายตาทั้งซ้ายและขวา มีการเผยว่าเป็นอุปกรณ์ป้องกันการลอกข้อสอบ

ทั้งนี้จากการโพสต์ภาพดังกล่าวทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์หลายกระแส

ชาวเน็ตส่วนหนึ่งชี้ว่า การสอบไม่ใช่เพียงการวัดระดับคุณภาพของสมอง ยังรวมถึงการวัดคุณธรรม ความซื่อสัตย์ของผู้เข้าสอบ นอกจากนี้ยังมีผู้แสดงความคิดเห็นว่าอุปกรณ์ดังกล่าวเป็นการดูถูกคุณภาพของนิสิตที่เข้าสอบ ขณะที่หลายคนมองว่าเป็นการกระทำที่เกินพอดี และหยามเกียรติภูมินิสิตนักศึกษา

ขณะที่บางคนชื่นชมและสนับสนุนว่าเป็นสิ่งดีสามารถประดิษฐ์นวัตกรรมจากภูมิปัญญาง่ายๆ แต่ใช้แก้ปัญหาได้จริง

นายกองค์การนักศึกษา ระบุว่า เป็นแนวคิดของอาจารย์ เนื่องจากนิสิตที่เข้าสอบมีจำนวนมาก แต่ห้องสอบมีขนาดเล็ก ทำให้ที่นั่งชิดกัน อาจารย์คุมสอบดูแลไม่ทั่วถึง จึงให้ใส่หมวกป้องกันการทุจริต เป็นความยินดีตกลงกันทั้ง 2 ฝ่าย

ขณะที่ รศ.วุฒิชัย กปิลกาญจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า การสอบดังกล่าวเป็นการสอบที่คณะอุตสาหกรรมเกษตรเป็นผู้รับผิดชอบ จึงไม่มีความเห็นเรื่องนี้ และขอให้ทางคณะเป็นผู้ชี้แจง

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ส.ค. ผศ.ดร.ธนะบูลย์ สัจจาอนันตกุล คณบดีคณะอุตสาหกรรมเกษตร เปิดชี้แจงกรณีภาพดังกล่าว ระบุว่าภาพหมวกกันลอกข้อสอบ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในระหว่างการสอบกลางภาค วิชาการทดสอบสิ่งทอ แม้กระแสที่ออกตามจะทำให้เกิดความตึงเครียด แต่ก็สะท้อนว่าสังคมยังให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์

ด้านนายณัฐดนย์ รุ่งเรืองกิจไกร อาจารย์ภาควิชาอุตสาหกรรมสิ่งทอ เปิดเผยว่า รู้สึกเครียดที่สังคมมองแง่ลบ ตนสอนนิสิตมา 8 ปี เน้นการสอนเชิงสร้างสรรค์รูปแบบใหม่ โดยแทรกเรื่องคุณธรรมจริยธรรมสอนนิสิตอยู่เสมอ ภาพเกิดขึ้นมาจากการสอนสอดแทรกการป้องกันทุจริตที่ใกล้ตัวให้กับนิสิต นิสิตจึงเสนอว่าเป็นเรื่องการสอบ จึงร่วมกันคิดและตกผลึกกัน บางคนเสนอให้เอากล่องมาครอบ แต่ก็มาสรุปลงตัวที่หมวกกันลอกข้อสอบ แต่ผลตอบกลับจากสังคมค่อนข้างหนัก

ภาพดังกล่าวตนถ่ายเอง เพราะมีนิสิตคณะอื่นมาขอถ่าย แต่เพราะนิสิตกำลังสอบอยู่ ตนจึงถ่ายรูปให้ และคงจะยกเลิกใช้เครื่องมือรูปแบบนี้ไปถาวร

ประเทศประณามอียิปต์ สลายม็อบตายเกลื่อน

วันที่ 15 ส.ค. กลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มูร์ซี จำนวนหลายร้อยคน ก่อเหตุบุกเผาอาคารรัฐบาลในเมืองกีซี ใกล้กับกรุงไคโร ในวันพฤหัสบดี โดยไม่สนการประกาศภาวะฉุกเฉินและกฎเคอร์ฟิวที่รัฐบาลรักษาการประกาศเมื่อวันพุธ หลังจากการสลายการชุนนุมในกรุงไคโร ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยราย และบาดเจ็บอีกหลายพันคน

เหตุนองเลือดในอียิปต์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ไม่จำกัดเพียงในกรุงไคโรเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนครอเล็กซานเดรีย เมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดของอียิปต์ และอีกหลายเมืองในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนล์ มีผู้บาดเจ็บรวมเกือบ 4,000 คน ส่วนผู้เสียชีวิตกระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยมีจำนวน 525 ราย และ 43 รายในจำนวนนี้เป็นตำรวจ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจำนวนที่แท้จริงสูงกว่านี้มาก เนื่องจากหน่วยงานรัฐนับจำนวนผู้เสียชีวิตจากศพที่ถูกนำส่งโรงพยาบาลเท่านั้น

มีรายงานจากสื่อหลายสำนักทั้งซีเอ็นเอ็นและบีบีซีว่า มีศพผู้เสียชีวิตอีกราว 100-140 ศพ ถูกห่อในผ้าห่อศพเก็บไว้ที่มัสยิด อีมาน ใกล้กับมัสยิดราบา อัล-อดาวิยา หนึ่งในสองค่ายหลังของกลุ่มผู้สนับสนุนนายมอร์ซี โดยที่ศพเหล่านี้ และอีก 4 ศพล่าสุดจากเหตุปะทะระหว่างผู้ชุมนุมกับชาวบ้านในนครอเล็กซานเดรีย ยังไม่ถูกนับรวมในยอดผู้เสียชีวิตของกระทรวงสาธารณสุข ด้านเว็บไซต์ของกลุ่มภราดรภาพมุสลิม ซึ่งเป็นแกนนำการชุมนุม ยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตในเหตุสลายการชุมนุมมากกว่า 2,000 ราย

สถานการณ์ในกรุงไคโรในวันพฤหัสบดี (15 ส.ค.) ดูสงบอย่างประหลาด การจราจรตามท้องถนนซึ่งปกติจะเต็มไปด้วยรถและผู้คนสัญจรกลับบางตา ท่ามกลางความหวาดกลัวว่าจะเกิดการปะทะกันระหว่างกองกำลังความมั่นคง และกลุ่มผู้สนับสนุนนายมูร์ซีอีกครั้ง ซึ่ง กลุ่มภราดรภาพมุสลิมประกาศกร้าวในวันเดียวกันนี้ว่า พวกเขาจะไม่ยุติการประท้วง และจะออกมาชุมนุมทั่วประเทศ จนกว่าประชาธิปไตยและการปกครองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จะกลับคืนมาสู่อียิปต์

ขณะเดียวกัน ฝ่ายรัฐบาลชั่วคราวของอียิปต์ออกมากล่าวโทษผู้ประท้วงว่า เป็นฝ่ายทำให้เกิดความรุนแรงเมื่อวันพุธ เนื่องจากพวกเขาใช้กำลังเข้าขัดขวางความพยายามยุติการชุมนุมอย่างสงบของรัฐบาล

เมื่อ 16 ส.ค. เอเอฟพีรายงานสถานการณ์ในอียิปต์ว่า ยังคงรุนแรงต่อเนื่อง เมื่อฝูงชนนำโดยมุสลิมบราเธอร์ฮู้ด หรือภราดรภาพมุสลิม ผู้สนับสนุนนายโมฮาเหม็ด มอร์ซี ประธานาธิบดีที่ถูกรัฐประหาร ฝ่าประกาศภาวะฉุกเฉินออกมาชุมนุม เพื่อแสดงความโกรธแค้นหลังจากการสลายการชุมนุมโดยรัฐบาลเฉพาะกาล มียอดผู้เสียชีวิตเกือบ 700 รายและบาดเจ็บกว่า 3,500 คน จากนั้นผู้ชุมนุมถูกเจ้าหน้าที่ปราบปรามอีก ด้วยการใช้กระสุนจริง มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 70 ราย กระทั่งในช่วงเย็น นายเกฮัด เอล-ฮัดดาด โฆษกกลุ่มผู้ประท้วงในนามพันธมิตรต่อต้านการรัฐประหารประกาศยุติการชุมนุม แต่นัดให้ผู้ชุมนุมออกมาเคลื่อนไหวในทุกวันจากนี้

ก่อนหน้านี้โฆษกของกลุ่มกล่าวว่า แม้จะเจ็บปวดต่อความสูญเสียเพียงใด แต่อาชญากรรมที่ผู้ก่อรัฐประหารทำลงไปนั้นกระตุ้นให้ทางกลุ่มต้องสู้ พร้อมนัดหมายให้ผู้ชุมนุมเตรียมเคลื่อนออกจากมัสยิดทุกแห่งในไคโรไปยังจตุรัสรามซิสเพื่อแสดงความโกรธแค้นหลังเสร็จสิ้นพิธีละหมาดยุมอะห์ตามประเพณี

ด้านรัฐบาลอียิปต์ยังแสดงท่าทีแข็งกร้าว นายโมฮัมเหม็ดอิบราฮิมมุสตาฟารมว.มหาดไทยระบุว่า ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน ตนมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ใช้กำลังกับผู้ชุมนุมได้หากมีการบุกรุกสถานที่ราชการ พร้อมเผยว่ามีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 9 รายจากการชุมนุมบริเวณแหลมเชนไนและเมืองอัสซุต

ส่วนนายอัดลี มันซูร์ ประธานาธิบดีเฉพาะกาล แถลงตอบโต้ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ผู้นำสหรัฐที่ประกาศยกเลิกแผนการซ้อมรบระหว่างสหรัฐและอียิปต์ พร้อมประณามการใช้กำลังสังหารประชาชนว่า สิ่งที่ผู้นำสหรัฐพูดไม่อยู่บนพื้นฐานความจริง ทั้งยังจะให้ท้ายกลุ่มติดอาวุธ ในขณะที่อียิปต์เผชิญกับการกระทำของผู้ก่อการร้าย

เมรุเผาศพไฮเทควัดชัยมงคล จำลองศิลปรูปทรงพระปรางค์

ชาวบ้านฮือฮา! เมรุเผาศพวัดชัยมงคล เมืองอ่างทอง จำลองรูปทรงพระปรางค์สวยงามแปลกตา เจ้าอาวาสเผยเพื่อลดความน่ากลัว เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้ชุมชน พร้อมติดตั้งเตาเผาศพไร้มลพิษ ต้นแบบแห่งแรก ...

เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดชัยมงคล ต.ตลาดหลวง อ.เมือง จ.อ่างทอง หลังพบว่ากำลังก่อสร้างปล่องเมรุเผาศพ รูปทรงพระปรางค์ ลักษณะคล้ายรูปทรงเจดีย์จำลองพระปรางค์ 16 เหลี่ยม ย่อมุมสูง 22 เมตร กว้าง 4 เมตร สร้างความตื่นตาตื่นใจต่อผู้พบเห็น

พระครูวิเศษชัยวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดชัยมงคล เผยว่า ศาลาดังกล่าวเป็นศิลปะประยุกต์ พื้นที่ใช้สอยแบ่งเป็นชั้นล่างเป็นที่อเนกประสงค์ ชั้นบนใช้เผาศพ ส่วนปล่องเมรุที่มีลักษณะคล้ายพระปรางค์นั้น สร้างขึ้นมาเพื่อลดความน่ากลัวของชาวบ้าน เนื่องจากอยู่ในชุมชน โดยศาลาดังกล่าวเป็นศาลาจตุรมุขทรงไทยขนาดใหญ่ 2 ชั้น มี 2 จั่ว ด้านล่างเป็นห้องโถงโล่ง เพื่อใช้ประกอบกิจกรรมของพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชน มีลิฟต์และบันไดเลื่อนอำนวยความสะดวกให้ผู้สูงอายุไปยังชั้นสอง ซึ่งเป็นสถานที่บำเพ็ญกุศลศพ โดยจะติดตั้งเตาเผาศพไร้มลพิษเฮฟวี่ดิ้วตี้ ซึ่งได้ประดิษฐ์คิดค้นจนเป็นเตาต้นแบบแห่งแรก และไม่สงวนลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

ส่วนภายนอกศาลาตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้น ซึ่งเป็นศิลปะประยุกต์ร่วมสมัย สวยงาม และที่จั่วทั้งสี่ด้าน ปั้นรูปพระพรหมสยบพระราหู โดยนั่งทับพระราหูไม่ให้แผลงอิทธิฤทธิ์ อีกส่วนหนึ่งปั้นรูปพระพิฆเนศวร รายล้อมด้วยเหล่าทวยเทพ.