ข่าว
“จ่านิว” พร้อมพวกรอดคุก ศาลทหารไม่ยอมรับฝากขัง

พนักงานสอบสวนนำ “จ่านิว” พร้อมพวกขออำนาจศาลทหารกรุงเทพฝากขังผลัดแรก ข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. มั่วสุม ชุมนุมทางการเมือง ล่าสุดศาลยกคำร้องขอฝากขัง เหตุผู้ต้องหาไม่สามาถเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานได้ และ จนท.

ที่ศาลทหารกรุงเทพ เมื่อเวลา 13.40 น. วันนี้ (21 ม.ค.) พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจรถไฟธนบุรี ได้นำตัวนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว น.ส.ชนกนันท์ รวมทรัพย์ และนายกรกช แสงเย็นพันธ์ มาขออำนาจศาลทหารกรุงเทพฝากขังผลัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ภายหลังจากที่ถูกศาลทหารกรุงเทพ ออกตามหมายในข้อหามั่วสุม หรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ข้อ 12 กรณีรวมกลุ่มกันนั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ โดยทั้ง 4 คนมีสีหน้านิ่งเฉย และไม่ได้พูดอะไร มีเพียงแต่ น.ส.ชลธิชาที่แสดงสัญลักษณ์ชูกำปั้นแทนสัญลักษณ์การชู 3 นิ้วที่เป็นสัญลักษณ์ใหม่ในการต่อต้านรัฐประหาร ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารของกระทรวงกลาโหม โดยนำรั้วเหล็กมาปิดกั้นด้านหน้าทางเข้าออกศาลทหารกรุงเทพ ห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในพื้นที่อย่างเด็ดขาด

ต่อมาศาลทหารกรุงเทพได้พิจารณายกคำร้องขอฝากขังดังกล่าว เป็นผลทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปล่อยตัวทั้ง 4 คน

น.ส.ภาวินี ชุมศรี ทนายความจากศูนย์สิทธิเพื่อมนุษยชน กล่าวว่า ได้ยื่นเอกสารคัดค้านการฝากขังนายสิรวิชญ์และพวกรวม 4 คน ด้วยเหตุผลว่า ทั้ง 4 คนไม่มีท่าทีที่จะหลบหนีแต่อย่างใด ขณะที่นายสิรวิชญ์ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าควบคุมตัวด้วยเช่นกันส่วนข้อหานั้นยังอยู่ในระหว่างการปรึกษาหารือ ส่วนที่ศาลได้พิจารณายกคำร้อง เนื่องจากเห็นว่านายสรวิชญ์ไม่สามารถเข้าไปยุ่งกับพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ได้ พร้อมกับได้มีการสอบปากคำเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงไม่จำเป็นที่จะต้องฝากขัง จึงมีคำสั่งให้ปล่อยตัวทั้ง 4 คน โดยหลังจากนี้ทนายความจะติดต่อไปที่ สภ.คลองหลวง เพื่อดำเนินคดีต่อผู้ที่เข้าควบคุมตัวนายสิรวิชญ์

ด้านนายสรวิชญ์กล่าวหลังจากถูกปล่อยตัวว่าจะยังคงมีการเคลื่อนไหวทางการเมือง และตรวจสอบอุทยานราชภักดิ์ต่อไป

'บิ๊กตู่' ลั่น อยากทิ่มปาก 'จตุพร' จ้อ 'มีชัย' เขียนร่างฯรธน.ไม่ผ่าน

นายกฯ ลั่นอยากหาอะไรทิ่มปาก "จตุพร" หลังชี้ "มีชัย" ตั้งใจเขียน รธน. ไม่ให้ผ่านประชามติ ท้า แน่จริงทำสัญญาประชาคมเลย เลิกทุจริต

เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 59 ที่มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา จังหวัดนครสวรรค์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวถึงกรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระบุว่า นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ตั้งใจร่างรัฐธรรมนูญเพื่อให้ไม่ผ่านประชามติ ว่า "ไอ้คนพูดเนี่ยใคร ไปเอาอะไรทิ่มปากมันสักทีซิ มีใครจะบ้าทำอะไรแบบนั้น" เขาอธิบายแล้วว่าเขาออกแบบมาแบบนี้ เพื่ออะไร แล้วในส่วนของการเข้ามาของนักการเมืองเป็นอย่างไร แล้วที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ย้อนกลับไปสู่สาเหตุของปัญหาที่ตนมายืนตรงนี้ ท่านก็เห็นว่าปัญหาของประเทศอยู่ตรงไหน ทางด้านการเมือง การเข้าสู่อำนาจ การตรวจสอบอำนาจ การใช้อำนาจ ผลประโยชน์ทับซ้อน การไม่ทั่วถึงไม่เป็นธรรม ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ นั่นเขาถึงต้องมีกติกาออกมา

"ถ้าท่านบอกว่าพูดยังงั้นแล้ว ท่านก็ไปบอกไอ้คนพูดสิ ออกมายืนเข้าแถวสัญญาประชาคมว่า ต่อไปนี้ผมจะไม่ทุจริต ต่อไปนี้ผมจะมีธรรมาภิบาล ดังนั้นอย่ามาไล่กับผม เข้าใจรึยัง อย่าไปฟังเขามากผมขี้เกียจฟัง ฟังแล้วโมโห เสียอารมณ์หมด วันนี้ยิ่งอารมณ์ดีมาตลอด" นายกฯ กล่าว และบอกกับสื่อมวลชนว่า "พวกเธอก็อย่าไปฟังเขา อย่าไปขยายความให้เขา เขาพูดในบ้านก็เรื่องของเขา"


ปชป.ตัดหาง “สุขุมพันธุ์” เหตุเมินประสานพรรค

ประชาธิปัตย์ประกาศตัดหาง “ชายหมู” หลังเมินประสานงานพรรคแก้ปัญหาความไม่โปร่งใส ประกาศเป็นเอกเทศพรรคไม่ร่วมรับผิดชอบ “จุติ” รับตัดสินใจไม่ใช่เรื่อง “หมู” ยันสถานะรองหัวหน้ายังอยู่ รอเจ้าตัวตัดสินใจ ส่วนสองอดีต ส.ส.ที่ไปร่วมงานให้คิดเอาเอง ย้ำไม่มีขัดแย้งเรื่องชิงเก้าอี้หัวหน้า ด้าน “องอาจ” หวังทีมงาน กทม.สลัดผลประโยชน์โบกมือลาเสาชิงช้า

นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค กทม. ร่วมกันแถลงจุดยืนต่อความรับผิดชอบของพรรคประชาธิปัตย์ ต่อการบริหารงาน กทม.ซึ่งมี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เป็นผู้ว่าฯ กทม.ว่า หลังจากที่พรรคให้เวลา ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์แก้ปัญหาการทุจริตต่างๆ มาพอสมควรในการปรับวิธีคิดและแนวทางการทำงาน แต่ก็ไม่สามารถหาข้อยุติได้ ดังนั้นพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อสมาชิกพรรคและประชาชนชาว กทม. พรรคขอแสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่า ต่อไปนี้พรรคไม่สามารถแสดงความรับผิดชอบร่วมกับการทำงานของ กทม.อีกต่อไป และไม่สามารถดำเนินการกิจการทางการเมืองร่วมกัน

“พรรคเปิดทางให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ตัดสินใจตามทัศนคติตนเอง เพราะถึงเวลาที่ต้องให้ผู้ว่าฯ กทม.รับผิดชอบต่อการบริหารงานของตัวเอง ซึ่งพรรคขอขอบคุณที่เคยมีผลงานกับพรรคและประเทศ หวังว่าจะประสบความสำเร็จในการบริหารงานตามทัศนคติของตัวเอง และขอย้ำว่าพรรคไม่มีการโกรธเคืองใดๆ กับ ม.รว.สุขุมพันธุ์ เพียงแต่มีมุมมอง ทัศนคติที่แตกต่างกัน เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย พรรคเปิดโอกาสให้ กทม.ตัดสินใจในการแก้ไขปัญหาแล้ว จึงถึงเวลาให้ท่านได้รับผิดชอบต่อการแก้ไขปัญหาของท่านเอง แต่ก็ขอขอบคุณ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ที่มีผลงานที่ดีให้แก่พรรคและประเทศ และการตัดสินใจครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับกระแสข่าวชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค และเรื่องเงินสนับสนุน แต่เป็นเรื่องการเคารพระบบพรรค”

นายจุติกล่าวว่า ตามข้อบังคับพรรคผู้บริหารท้องถิ่นจะต้องรับฟังแนวทางของพรรคด้วยโดยการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทั้งด้านประสิทธิภาพ ความโปร่งใส ในการบริหารงานของผู้บริหาร กทม. เพื่อให้มีการตรวจสอบได้อย่างเป็นระบบ อันนำไปสู่การแก้ไขปรับปรุงเพื่อประโยชน์ประชาชน แต่เมื่อไม่สามารถดำเนินการได้พรรคจึงต้องรับผิดชอบทุกคะแนนเสียงที่ประชาชนไว้วางใจ โดยจากนี้ไปการบริหารของ กทม.ถือเป็นการดำเนินการโดยเอกเทศของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เพราะพรรคไม่สามารถใช้ระบบและกลไกในการสนับสนุนติดตามตรวจสอบการทำงานของ กทม.ได้ พร้อมกับขอโทษชาว กทม.ด้วย

“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่อง “หมูๆ” ที่จะตัดสินใจ โดยที่ผ่านมามีความพยายามประสานงานโดยตลอดแต่ไม่ประสบผลสำเร็จจนมาถึงวันนี้ ส่วนบุคลากรของพรรคที่ไปทำงานร่วมกับ กทม. ก็ต้องตัดสินใจเอาเองว่าจะทำอย่างไร และยังบอกไม่ได้ว่าการตัดสินใจดังกล่าวจะมีผลต่อการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.ในอนาคตหรือไม่ เนื่องจากขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละคน โดยในขณะนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ยังถือเป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อยู่ เพราะพรรคไม่สามารถเปิดการประชุมได้ แต่จะตัดสินใจลาออกหรือไม่ขึ้นอยู่กับท่านจะพิจารณาเอง และยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเพียงความความคิดเห็นที่แตกต่างในการทำงาน ไม่ใช่เป็นความแตกแยก เมื่อไม่สามารถประชุมพรรคได้ รวมถึงสมาชิกทั้งประเทศและใน กทม.อยากได้ความชัดเจน เราจำเป็นต้องแสดงจุดยืนของพรรค”

ด้านนายองอาจกล่าวเสริมว่า หลังจากที่ตนได้รับมอบหมายให้ไปสำรวจความเห็นของสมาชิกพรรคในกรณีนี้แล้ว ก็มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่เห็นด้วย และเรื่องนี้พรรคไม่ได้เสียเวลาไปกับการทำงานของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เพราะเป็นเรื่องปกติในการทำงานที่มีทั้งสำเร็จและไม่สำเร็จ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ครั้งแรกของพรรค ที่ผ่านมาพรรคเคยมีมติขับนายพิพัฒน์ ลาภปรารถนา ส.ก.บางรัก ออกจากการเป็นสมาชิกพรรคจากกรณีเข้าชิงตำแหน่งประธาน ส.ก.แข่งกับนายสมชาย เวลารัชตระกูล ส.ก.เขตสายไหม ทั้งที่พรรคมีมติให้ส่งรายชื่อเดียวมาแล้ว แต่กรณีของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ไม่สามารถที่จะเปิดประชุมได้จึงเพียงแต่แสดงจุดยืนของพรรคให้ประชาชนรับทราบ หาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ไม่ลาออกจากรองหัวหน้าพรรค และพรรคสามารถเปิดประชุมได้จะมีการพิจารณาเรื่องนี้ต่อไปอย่างไรนั้น คงตอบไม่ได้ เพราะยังไม่ทราบการตัดสินใจของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ โดยเชื่อว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ภายในพรรคหรือทำให้มี ส.ส.แยกตัวออกจากพรรคไป และการตรวจสอบต่างๆ ก็จะดำเนินการตามปกติ

ส่วนกรณีคนของพรรคที่ไปร่วมบริหารงานกับ กทม. เช่น นางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าฯ กทม. และนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. ควรจะมีการพิจารณาตนเองด้วยหรือไม่ นายองอาจกล่าวว่า เชื่อว่าบุคคลเหล่านั้นจะมีวิจารณญาณเป็นของตนเองว่าจะพิจารณาอย่างไร จะเลือกผลประโยชน์ส่วนตนเป็นหลัก หรือผลประโยชน์ของประชาชน ทั้งนี้อนาคตทางการเมืองของบุคคลเหล่านี้จะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่ว่าเขาจะตัดสินเลือกฝั่งใด


บันทึกลับ 'ปอ' เขียนถึงโบว์ รักแรกพบ จนถึง 'น้องมะลิ'

พ่อปอเปิดใจบรรยายความรู้สึกหลังการสูญเสียลูกชาย สุดตื้นตันใจและซาบซึ้งที่มีคนรักปอล้นหลามทั้งประเทศ เผยจะดูแลลูกเมียปอให้ดีที่สุดเพราะ “มะลิ” คือ “ปอ” ชมสื่อให้ความร่วมมือดีตั้งแต่ลูกป่วยจนวันสุดท้ายในชีวิตลูก เพียงแต่มีเหตุขัดข้องวันนำศพลูกกลับบ้านจนเกิดกระแสสังคม น้องเผยพบบันทึกลับที่พระเอกหนุ่มเขียนถึงความรักครั้งแรกและลูกเมีย ด้าน “โบว์” สะเทือนใจร่ำไห้หน้าศพ ผู้ว่าฯบุรีรัมย์ประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้องรับมือคลื่นมหาชนร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพดาราขวัญใจมหาชน

วันที่ 4 แล้วกับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของวงการบันเทิง คือการจากไปของปอ-ทฤษฎี สหวงษ์ วัย 35 ปี พระเอกหนุ่มผู้มีแต่ความดีตราตรึงใจคนไทยทั่วประเทศ โดยเป็นความดีที่พระเอกหนุ่มแอบทำเงียบๆ ไม่เคยกระโตกกระตากให้ใครรู้ ไม่ว่าจะเป็นการมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนนักศึกษาที่เป็น “คนดี” การช่วยเหลืองานสังคมต่างๆ โดยไม่คิดถึงผลตอบแทน นอกจากนี้ปอยังเป็นพี่ เป็นเพื่อน เป็นน้องที่ดีของเหล่านักแสดงทุกรุ่นในวงการบันเทิงและเพื่อนร่วมสถาบันการศึกษา เป็น “พ่อ” ที่ดีของน้อง “มะลิ” และเป็น “สามี” ที่ดีของโบว์-แวนด้า การจากไปก่อนวัยอันควรของปอ จึงทำให้ทุกคนสุดแสนเศร้าอาลัยและเสียดายยิ่งนัก ในแต่ละวันจึงมีผู้คนจากทั่วสารทิศเดินทางมาเคารพศพกันอย่างล้นหลามเป็นประวัติการณ์

สำหรับบรรยากาศการบำเพ็ญกุศลศพปอ-ทฤษฎี สหวงษ์ ที่ตั้งศพอยู่ที่ศาลา 2 ธรรมานุภาพ วัดกลางพระอารามหลวง อ.เมืองบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ภายในตัวเมืองบุรีรัมย์มีประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมาด้วยรถส่วนตัว เพื่อมาร่วมไว้อาลัยกับการจากไปของพระเอกขวัญใจมหาชน จนทำให้การจราจรติดขัด มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยอำนวยความสะดวกทุกสี่แยก ขณะที่โรงแรมในพื้นที่ได้มีการจองเต็มจากแขกเหรื่อนอกพื้นที่ที่เตรียมมาร่วมงานสวดศพในคืนสุดท้ายและร่วมในพิธีพระราชทานเพลิงศพ ขณะที่ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ก็ยังร่วมไว้อาลัยด้วยการแต่งกายชุดดำ อีกทั้งจังหวัดได้ขึ้นคัตเอาต์ขนาดใหญ่ที่หน้าศาลากลางจังหวัด เชิดชูคุณงามความดีของปอเป็นครั้งสุดท้ายอย่างยิ่งใหญ่

ส่วนพิธีพระราชทานเพลิงศพปอ ภายในวัดกลางพระอารามหลวง รองรับ 3,000 คน เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมจุดวางดอกไม้จันทน์ไว้โดยรอบ เพื่อลดความแออัด สำหรับวันที่ 23 ม.ค. เป็นวันคล้ายวันเกิดของปอ ได้จัดส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยรักษาความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยให้กับครอบครัวสหวงษ์ โดยเฉพาะที่บ้านสหวงษ์ มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจและชุดเฝ้าระวังในบ้านดู 24 ชม. เพราะคาดว่าจะมีผู้ส่งของมาจากต่างจังหวัด และผู้ที่เดินทางไปมอบให้กับครอบครัวสหวงษ์จนขาดความเป็นส่วนตัว เบื้องต้นพบว่ามีผู้ส่งพัสดุไปรษณีย์มาให้ครอบครัวสหวงษ์จำนวนมากที่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบและเฝ้าระวังเป็นพิเศษ

สำหรับบรรยากาศภายในศาลา 2 ธรรมานุภาพ วัดกลางพระอารามหลวง ตลอดทั้งวันมีแฟนคลับจากทั่วสารทิศ เดินทางมาร่วมอาลัยและเคารพศพพระเอกหนุ่มกันอย่างเนืองแน่น จนแถวยาวออกไปถึงนอกวัด บางคนรอนานถึง 3 ชม. ท่ามกลางแดดร้อนอบอ้าว แต่ก็ไม่ย่อท้อ และบางคนได้นำตุ๊กตามามอบให้กับน้องมะลิ มีเจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เข้ามาจัดระเบียบ อนุญาตให้เข้าไปเคารพศพชุดละ 20 คน มีการประกาศขอความร่วมมือห้ามถ่ายรูประหว่างเคารพศพ เพราะเกรงว่าจะเกิดความล่าช้าเสียเวลาแก่บุคคลอื่น อย่างไร ก็ตาม ประชาชนที่เคารพศพเสร็จแล้ว ต่างมาเข้ารุมล้อมถ่ายรูปกับนายชวนันท์ ด้วยความประทับใจ ในความกตัญญูที่มีต่อพี่ชายที่ได้บวชสร้างกุศลให้กับพี่ชายระหว่างรักษาตัว ในโรงพยาบาล นายชวนันท์ ก็ให้ถ่ายรูปด้วยอย่างไม่ถือตัว และพูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง ยิ่งสร้างความประทับใจให้กับผู้มาร่วมงาน

ต่อมาเวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่จัดงาน ประกาศหยุดพักการเคารพศพชั่วคราว เนื่องจากมีพิธีทำบุญถวายเพลพระของครอบครัวสหวงษ์ ระหว่างนั้นน้องมะลิได้เดินไปที่หน้าหีบศพเพียงลำพังและหยุดยืนสงบนิ่งมองไปที่รูปหน้าศพปอ โดยไม่กะพริบตาครู่หนึ่ง พร้อมชี้ไปที่รูปและเรียก “พ่อจ๋า” จากนั้นน้องมะลิได้เดินไปที่หน้ากระถางธูปเทียน แล้วยกมือไหว้ มองไปยังโลงศพของพระเอกหนุ่มอีกครั้ง ในขณะที่แม่โบว์นั่งมองน้องมะลิลูกสาวที่ไหว้พ่ออยู่ด้วยสีหน้าและแววตาซึมเศร้า จากนั้นน้องมะลิวิ่งออกมาหาแม่โบว์โผเข้าสวมกอด และนอนบนตักแม่โบว์

สำหรับของที่ระลึกเตรียมไว้เป็นไฟฉาย มีความหมายถึงแสงสว่างนำทางพี่ชายไปสู่สวรรค์ และยังเป็นประโยชน์กับผู้ที่ได้รับ สามารถนำไปใช้งานได้ กับมียากันยุง ซึ่งมีคนนำมามอบให้ แจกรวมกันไป เป็นประโยชน์ในการป้องกันยุง ซึ่งเป็นพาหะไข้เลือดออก สิ่งสำคัญจะมีการทำสมุดไดอารี่ ด้านหน้าเป็นรูปพี่ปอ ด้านในเป็นการถนอมสายตาใช้บันทึก ส่วนด้านหลังเป็นประวัติข้อความจดหมาย ที่พี่ปอเขียนถึงพี่โบว์ และน้องมะลิในหลายๆเรื่องตั้งแต่รักแรกพบ จนถึงบันทึกความในใจ ที่พี่ปอเขียนไว้ให้โบว์ และน้องมะลิซึ่งบันทึกเหล่านี้ได้มาจากสมุดบันทึกส่วนตัวของพี่ปอ แม้แต่พี่โบว์ก็ยังไม่เคยได้อ่านมาก่อน เนื่องจากเพิ่งได้มีการค้นพบจากภายในห้องของพี่ปอ นอกจากนี้ยังมีข้อความที่พี่โบว์และครอบครัวสหวงษ์เขียนถึงพี่ปอด้วย ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการตีพิมพ์จำนวน 3,000 เล่ม ที่กรุงเทพฯ

นายน้ำอ้อย ศรมนตรา ผู้จัดการส่วนตัวของปอ กล่าวว่า ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับปอมาเป็นเวลานานมีความรักความหวังดีกับปอทุกเรื่อง ปอก็เหมือนเป็นลูกชายคนหนึ่ง ยังทำใจกับการสูญเสียครั้งนี้ไม่ได้ แต่ก็ต้องพยายามทำใจยอมรับ จึงยังไม่อยากพูดถึงเรื่องกระแสข่าว ที่กระทบกระเทือนจิตใจครอบครัว แต่ควรจะให้เกียรติกับปอ เชื่อว่าปอยังอยู่ในที่แห่งนี้และรับรู้ทุกเรื่องราว จึงอยากขอความร่วมมือไม่อยากพูดถึงในสิ่งที่ไม่ดี ส่วนคนที่จะมาแทน ในอนาคตการที่จะสร้างใครขึ้นมาแทนปอนั้น ต้องมีการหารือร่วมกันกับครอบครัวและโบว์ ก่อนตัดสินใจ รวมถึงผู้ใหญ่ในวงการบันเทิง

ส่วนกรณีที่สมาคมช่างภาพสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ขอโทษต่อครอบครัวสหวงษ์ และสังคม กรณีถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมของการทำหน้าที่ของบรรดาช่างภาพ ในวันเคลื่อนย้ายศพปอ กลับบุรีรัมย์ นายสงวน กล่าวว่า ไม่ติดใจอะไร ในฐานะที่อยู่ด้วยกันมา 70 วัน ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ตั้งแต่ปอรักษาตัวจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต คิดว่าสิ่งที่ได้รับจากนักข่าวนั้นมากมาย อยู่ที่โรงพยาบาลก็ทำงานด้วยกัน ด้วยความราบรื่น โรงพยาบาลขอร้องอะไรกับสื่อมวลชน ก็ได้รับความร่วมมือด้วยดีมาตลอด วันที่จะพาปอกลับบ้าน ได้วางแผนกับ ผอ.โรงพยาบาลรามาธิบดีแล้ว แต่ด้วยเนื้อที่จำกัด จึงเกิดความชุลมุน เป็นเรื่องที่เราต่างคนต่างทำหน้าที่ แต่ต่อไปก็อยากให้น้องๆช่วยกันระมัดระวัง

นายสงวนกล่าวอีกว่า สำหรับน้องมะลิ เป็นแก้วตาดวงใจที่ปอห่วงที่สุด ในเหตุการณ์อย่างนี้ ทุกคนที่รักและอาลัยพี่ปอ ทั้งสงสาร เสียดาย ที่เขาได้ทำหน้าที่พ่อในเวลาอันสั้น เพราะจากไปเร็วเกินไป เหมือนกับว่าถูกส่งมาทำหน้าที่ให้กับโลกให้กับสังคม แล้วก็จากไป ครอบครัวเราคิดอย่างนี้ ตัวมะลิกับโบว์นั้นก็คือปอ ดังนั้น เขาก็คือครอบครัวของเราตลอดไป สิ่งที่ปอคิดไว้ว่าจะทำให้กับมะลิอย่างไร เราก็จะรับไว้ ครอบครัวเราจะดูแลกันให้อย่างดี น้องปิน น้องป๊อบปี้ดูแลเป็นอย่างดีแน่นอน ปอเขาอยากทำอะไรบ้างนั้นไม่ทราบ

พ่อปอเผยอีกว่า แต่สิ่งที่ปอห่วงน้องมะลิมากที่สุดคงจะเป็นเรื่องเรียนหนังสือ เรื่องความก้าวหน้า ซึ่งปอเขาห่วงตรงนี้มาก มีหลายๆอย่างที่ปอเตรียมไว้ให้ลูกเขาแล้ว เช่น เรื่องทุนการศึกษา แม้กระทั่งเรื่องที่เขาคิดสนุกๆ ปอมีรถมินิคูเปอร์คลาสสิกอยู่คันหนึ่งสีเขียว เคยบอกว่าจะเอาไว้ให้น้องมะลิขับเมื่อโตขึ้น เดี๋ยวนี้ก็ยังอยู่ อย่างนี้เป็นต้น คือปอหวังกับลูกเขามาก ก็ได้แต่บอกว่าถ้าเขามาอยู่กับเรา เราก็จะทำให้เขาสบายใจ ขอให้ปอสบายใจ เพราะเราเองก็รัก คุณแม่ก็ลาออกจากข้าราชการ เพื่อจะมาดูแลหลานโดยเฉพาะ จึงไม่ต้องมีอะไรที่น่าห่วง

นายสงวนกล่าวอีกว่า ส่วนในวันที่ 23 ม.ค. ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดของปอ ครอบครัวไม่มีอะไรพิเศษ แต่แฟนคลับจะมีอะไรก็อีกเรื่องหนึ่ง ส่วนกรณีที่ปอให้ทุนการศึกษา กับนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ และสถานศึกษาต่างๆนั้น ปอให้เป็นประจำ ตนอยู่ทางนี้ก็เป็นคนจัดการให้ ได้รับเกียรติจากมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ โรงเรียนอนุบาลบุรีรัมย์ ที่ปอให้ทุนมาโดยตลอด จากนี้ไปก็จะสานต่อตรงนี้

นายสงวนกล่าวอีกว่า ช่วงนี้ต้องหยุดการทำการเกษตรในไร่นาป่าสงวน ที่ปอซื้อให้ทำเกษตรผสมผสาน เสร็จงานศพแล้วค่อยไปพลิกฟื้นกันใหม่ ต้องสานต่อในสิ่งที่ปอรักให้ดีที่สุด ที่สำคัญตนเป็นที่ปรึกษาเรื่องการเกษตรของจังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันก่อนก็ได้คุยกันคงจะได้มาร่วมมือกัน ในการที่จะพลิกฟื้นตรงนี้ที่ทรุดโทรมไป อีกอันหนึ่งที่ยังไม่ได้พูด คือ เรื่องอาหารการกิน มีผู้ที่รักปอส่งมาร่วมงานกันจำนวนมากทั้งจาก จ.กาฬสินธุ์ จ.ขอนแก่น ก็ต้องขอขอบคุณมากๆ ครอบครัวปลื้มใจมาก สิ่งที่เราเตรียมไว้เพื่อตอบแทนไม่รู้จะเพียงพอไหม

หลังจากประดับดอกไม้หน้าโลงศพซึ่งใช้เวลา 1 ชั่วโมงเสร็จสิ้นลง นางแวนด้าได้เข้าไปจุดธูปไหว้ศพปอ-ทฤษฎี ระหว่างนั้นโบว์รู้สึกสะเทือนใจจากการที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก จึงร้องไห้ออกมาด้วยความคิดถึงอาลัยผู้เป็นสามี ทำให้แขกผู้มาร่วมงานเห็นภาพนี้แล้วเศร้าตามไปด้วย บางคนถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ร้องไห้ออกมาด้วยความสงสาร จากนั้นนายน้ำอ้อยได้เข้ามาปลอบขวัญ ทำให้โบว์ต้องกลั้นน้ำตาไว้ และเก็บอาการ คลายความโศกเศร้าลง

ผู้สื่อข่าวสอบถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายต้อนรับและบริการของโรงแรมอมารี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เกี่ยวกับเรื่องห้องพัก ได้รับการเปิดเผยว่า ในคืนวันที่ 23 ม.ค. ซึ่งเป็นคืนสุดท้ายของพิธีสวดพระอภิธรรมศพปอ ทฤษฎี สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้จองเหมาโรงแรม เพื่อเตรียมที่พักให้กับบรรดาวีไอพี ผู้บริหารและเหล่าศิลปินดาราของช่อง 3 ที่มาร่วมฟังสวดพระอภิธรรมและร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพปอทฤษฎี สหวงษ์ ในวันที่ 24 ม.ค.ด้วย

สำหรับกำหนดการบำเพ็ญกุศลพระราชทานเพลิงศพนายทฤษฎี สหวงษ์ เป็นกรณีพิเศษ ในวันอาทิตย์ที่ 24 ม.ค.2559 ณ เมรุวัดกลาง พระอารามหลวง เริ่มตั้งแต่เวลา 10.30 น. พระสงฆ์ 10 รูป สวดพระพุทธมนต์ จากนั้นเวลา 11.00 น. ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ ในเวลา 13.00 น. พระราชปริยัติกวี เจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ เทศน์อานิสงส์ 1 กัณฑ์ พระสงฆ์ 40 รูป สวดมาติกาบังสุกุล เวลา 14.15 น. เคลื่อนศพไปยังเมรุ มีการแสดงโขน จากมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ จากนั้นครอบครัวสหวงษ์มอบทุนให้กับหน่วยงานสถานศึกษา และทอดผ้าบังสุกุล 40 ผืน เวลา 15.30 น. ประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ มี ดร.เชาว์ การวิชา อ่านประวัติผู้วายชนม์ ปู-ญาดา ยมกานนท์ ฝ่ายบริหารศิลปินช่อง 3 อ่านคำสดุดี ขณะที่นายสงวน สหวงษ์ บิดา อ่านสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ นายเสรี ศรีหะไตร ผวจ.บุรีรัมย์ ประธานทอดผ้ามหาบังสุกุล พระราชปริยัติกวี เจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ มหานิกาย ประธานสงฆ์พิจารณาผ้ามหาบังสุกุล จนได้เวลา 16.00 น. เป็นพิธีพระราชทานเพลิงศพ

เวลา 19.00 น. นายวิทยา จันทร์ฉลอง รองผวจ.บุรีรัมย์ เป็นประธานพิธีสวดพระอภิธรรมศพ และมีนางสุภาภรณ์ ลาสต์ ผอ.องค์กรพิทักษ์สัตว์โลก (ประเทศไทย) ร่วมเป็นเจ้าภาพ ซึ่งคืนนี้มีแขกมาร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมกันจนล้นศาลายาวไปถึงหน้าโบสถ์ ถึงกับต้องนั่งกับพื้นในการร่วมฟังสวด โดยโบว์ได้อุ้มน้องมะลิไปจุดเทียนหน้าโลงศพปอ หลังเสร็จสิ้นการสวดนางพิสมัย นายวิทวัส และโบว์ ได้ร่วมถวายผ้าไตรแด่พระอาจารย์ธรรมฑัต ชินทตฺโต วัดอินทรวนาราม เมืองบุรีรัมย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันยังมีหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และคนในวงการบันเทิงส่งพวงหรีดมาแสดงความอาลัยกับการจากไปของปอต่อเนื่อง รวม 4 วันมีจำนวนมากกว่า 2,000 พวงล้นศาลาจนเจ้าหน้าที่ต้องนำออกมาแขวนไว้ภายในเต็นท์ที่จัดไว้รองรับประชาชนผู้มาร่วม เต็นท์สื่อมวลชน และรั้ววัดระหว่างทางเดินจากศาลา 2 ธรรมานุภาพยาวออกไปจึงโบสถ์


สหรัฐฯ เตรียมรับมือพายุหิมะ

ผู้ว่าการรัฐนอร์ทแคโรไลนา รัฐเพนซิลเวเนีย รัฐเวอร์จิเนีย รัฐแมรี่แลนด์ รัฐเทนเนสซี่ และ นายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตันดีซี ได้ออกประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อเตรียมรับมือพายุหิมะครั้งรุนแรงในรอบหลายปี ที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าพื้นที่ในสุดสัปดาห์นี้ หลังสำนักงานสภาพอากาศแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ"เอ็นดับเบิลยูเอส" ออกมาเตือนว่า อิทธิพลจากพายุหิมะในครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 50 ล้านคน และ อาจทำให้หิมะทับถมสูงไม่ต่ำกว่า 60 เซนติเมตรภายในไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งอาจจะทำให้หลายพื้นที่เผชิญภาวะกระแสไฟฟ้าดับ และส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเดินทาง โดยล่าสุดสายการบินต่างๆได้ประกาศยกเลิกเส้นทางบินในพื้นที่เสี่ยงแล้วกว่า 3,000 เที่ยวบิน ขณะที่ประชาชนจำนวนมากได้ออกไปกักตุนสินค้าเพื่อรับมือกับสภาพอากาศเลวร้าย

มีรายงานว่านับตั้งแต่ที่หิมะตกหนักตลอดเมื่อวานที่ผ่านมา ผู้ว่าการรัฐเทนเนสซี่และรัฐเคนทักกี้ได้ออกประกาศปิดสถานศึกษาชั่วคราวและระงับเส้นทางคมนาคมบางเส้นทางเพื่อความปลอดภัย เนื่องจากหลายพื้นที่ในขณะนี้มีหิมะทับถมสูงไม่ต่ำกว่า 20 เซนติเมตร รวมทั้งยังมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4 คน โดย 2 คนเสียชีวิตในรัฐนอร์ธ แคโรไลนา 1 คน เสียชีวิตในรัฐเทนเนสซี่ และอีก 1 คนเสียชีวิตในรัฐแมรี่แลนด์

ขณะที่กรุงวอชิงตันดีซี หิมะตกหนักได้ทำให้เกิดอุบัติเหตุมากกว่า 150 ครั้ง จนถนนกลายเป็นอัมพาต ประชาชนต้องใช้เวลาอยู่บนท้องถนนนานหลายชั่วโมง ไม่เว้นแม้แต่ขบวนรถของนาย บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่ได้รับผลกระทบจากหิมะตกหนักด้วยเช่นกัน โดยเมื่อวานนี้ขบวนรถของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้องใช้เวลานานเกือบ2ชั่วโมงในการเดินทางจากรัฐแมรีแลนด์ไปทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน จากที่เคยใช้เวลาเพียง 25 นาทีในสภาพอากาศปกติ

อั้ม งง! ไม่เข้าใจดราม่าทำไม ส่งหรีดแดงงานศพ ปอ ทฤษฎี

ตั้งใจจะร่วมอาลัยให้พระเอกหนุ่ม ปอ ทฤษฎี สหวงษ์ เลยส่งพวงหรีดไปให้ แต่สุดท้ายงานเข้าจนเป็นเรื่องราวดราม่า สำหรับนางเอกสาวซุปตาร์ อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ ซึ่งนางเอกสาวได้ขอชี้แจงเรื่องราวดราม่าดังกล่าว ถึงเรื่องพวงหรีดที่ส่งไปไว้อาลัยกับหนุ่ม ปอ ทฤษฎีด้วย

เรื่องที่ส่งพวงหรีดไปร่วมงานศพ ปอ-ทฤษฎี แล้วเกิดมีดราม่าว่าทำไมเลือกดอกไม้เป็นสีแดง ดูไม่เหมาะสมเลย? "อั้มก็ไม่เข้าใจว่าดราม่าเพราะอะไร ปกติดอกไม้สีๆ ก็สามารถส่งไปร่วมงานศพได้อยู่แล้ว ถามว่ามีความหมายอะไรมั้ยถึงเลือกเป็นคาเนชั่นสีแดง ไม่มีค่ะ เพราะจริงๆ ร้านที่จะสั่งก็หายากอยู่แล้ว แต่ก็พยายามให้พี่ๆ ช่วยกันหาร้านที่บุรีรัมย์จนได้ร้านนี้มา แต่บอกเลยว่าถูกใจมากเพราะสีสวยและมีรูปนกด้วย ยังคิดเลยว่าคนทำใส่ใจมากๆ จริงๆ ถ้ามีโอกาสก็อยากไปร่วมงานที่บุรีรัมย์เหมือนกัน"

พอเจอคนดราม่าแบบนั้น บั่นทอนความตั้งใจดีของเราไหม? "ไม่บั่นทอนเลยค่ะ เพราะคงมีแค่คนเดียวมั้งคะที่ดราม่าแบบนั้น อย่าไปคิดมากค่ะ" หลายคนชื่นชมว่าอยู่กันคนละช่อง แต่อั้มก็มีน้ำจิตน้ำใจต่อครอบครัวปอ? "อั้มเชื่อว่าทุกคนก็คงรู้สึกเหมือนกันว่าเสียใจและเสียดายที่ปอต้องมาจากไป ที่ผ่านมาเคยมีโอกาสเจอกันตามงานบ้าง ปอเป็นคนน่ารัก เรียบร้อย และนิสัยดีค่ะ".