18 ต.ค. สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คาสซิม โจมาร์ต โตกาเยฟ ประธานาธิบดีคาซัคสถาน กล่าวว่าคาซัคสถานวางแผนก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่ระยะทาง 1,300 กิโลเมตร ในอีกสามปีข้างหน้า ภายใต้การทำงานร่วมกับแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI)
โตกาเยฟ กล่าวในพิธีเปิดการประชุมหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศ (BRF) ครั้งที่ 3 ว่าคาซัคสถานมีความมุ่งมั่นแน่วแน่ในการเดินหน้าส่งเสริมเป้าหมายระดับสูงของแผนริเริ่มฯ บนผลประโยชน์พื้นฐานของประชาชนคาซัคสถานและจีน จิตวิญญาณแห่งมิตรภาพ และความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ชั่วนิรันดร์
โตกาเยฟกล่าวว่าเราวางแผนก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายใหม่ระยะทาง 1,300 กิโลเมตร ภายในสามปี โดยจะเปิดทางรถไฟข้ามพรมแดนแห่งที่สามบนพรมแดนคาซัคสถาน-จีน และจะสร้างท่าเรือบกแห่งใหม่ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่างจริงของการเชื่อมโยงโครงการทางเศรษฐกิจที่สำคัญในคาซัคสถานกับแผนริเริ่มฯ
วันที่ 18 ตุลาคม 2566 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กล่าวว่าตำรวจอยู่ระหว่างนำตัว นางสาวดอกแก้ว 1 ในบัญชีม้า รับเงินจากนักเรียนหญิง ม.6 ที่ถูกหลอกโอนเงินผ่อนไอโฟน ผ่านเพจเฟซบุ๊ก มาสอบสวนเพิ่มเติมที่ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 ส่วนบัญชีม้าแถวอื่น ๆ และแอดมินเพจเจ้าของเฟซบุ๊ก ทางตำรวจไซเบอร์ ได้ข้อมูลการเปิดบัญชีเฟซบุ๊ก รวมกับหลักฐานอื่น ๆ ทั้งกล้องวงจรปิด และเส้นทางการเงินคาดว่าวันนี้จะสามารถออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด 5 คน (รวมนางสาวดอกแก้ว) ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ส่วนการติดตามตัวแอดมินเพจเฟซบุ๊ค อยู่ระหว่างรอข้อมูลความเคลื่อนไหวจากเครือข่ายโทรศัพท์มือถือเพิ่มเติม
ข้อมูลการสืบสวนยังพบว่า กลุ่มขบวนการดังกล่าวเปิดบัญชีม้า 4 แถว โดยแถวแรกอยู่ที่จังหวัดชัยภูมิ คือนางสาวดอกแก้ว ส่วนอีก 3 แถวอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย อยู่ระหว่างสืบสวนดำเนินการ ยังมีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ยอดเงินบางส่วนที่รับจากนักเรียนหญิง ยังอยู่กับปลายแถวที่ 4 และบางส่วนถูกกดออกไปแล้ว บริเวณปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ห่างจากชายแดนเพียง 3 กิโลเมตร ก่อนที่ตำรวจจะอายัดบัญชี
วันที่ 18 ตุลาคม 2566 นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการดูแลสุขภาพคนไทยอพยพกลับจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล ว่า นายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้นการแพทย์และสาธารณสุข (PHEOC) รายงานความคืบหน้าว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (17 ตุลาคม 2566) มีแรงงานไทยเดินทางกลับจากอิสราเอลมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยเที่ยวบิน LY085 จำนวน 211 คน เป็นชาย 207 คน และหญิง 4 คน เบื้องต้นพบมีอาการทางเดินหายใจ 3 ราย มีบาดแผลที่เกิดระหว่างหลบหนี 1 ราย และมีความเครียดระดับสูง 3 ราย ทีมแพทย์ได้ประสานส่งต่อทีม MCAAT ในพื้นที่ให้การดูแลต่อเนื่องแล้ว
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ในช่วงเช้ามืดวันนี้หน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขยังได้ให้การดูแลสุขภาพแรงงานไทยที่เดินทางกลับด้วยเที่ยวบิน TG8951 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ อีก 1 ชุด จำนวน 266 คน เป็นชาย 264 คน และหญิง 2 คน เบื้องต้นพบผู้ป่วยทางเดินหายใจ 5 ราย ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ 2 ราย และบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ 1 ราย อาการทั่วไปดี ส่วนการตรวจคัดกรองด้านสุขภาพจิต พบมีความไม่สบายใจ 15 ราย รวมให้การดูแลแรงงานไทยที่กลับมาจากอิสราเอลในชุดที่ 6 และ 7 จำนวน 477 คน มีอาการทางเดินหายใจ 8 ราย บาดเจ็บ 4 ราย เครียดสูง 3 ราย และไม่สบายใจ 15 ราย ได้ประสานสถานบริการในภูมิลำเนาดูแลทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตอย่างต่อเนื่อง สรุปภาพรวมการดูแลสุขภาพแรงงานไทยกลับประเทศสะสม 1,015 คน มีบาดแผลและอาการทางร่างกาย 15 ราย อาการทางเดินหายใจ 19 ราย และผลกระทบด้านสุขภาพจิต 95 ราย เช่น เครียด นอนไม่หลับ ตื่นตัวมากเกินไป ไม่สบายใจ เป็นต้น
18 ต.ค. 2566 ย้อนไปเมื่อเดือน ต.ค. 2565 มีข่าวหนึ่งที่สร้างความ “อึ้ง” ในสังคมไทย เมื่อ “พ่อค้าไก่” ปลอมตัวเป็น “ทนาย” รับจ้างว่าความ แถมไม่ธรรมดาเพราะสามารถสู้คดีให้ลูกความชนะ “อัยการ” ได้อีกต่างหาก อย่างไรก็ตาม เรื่องราวนี้ไม่ได้มีแต่ในประเทศไทย โดยล่าสุด รายงานข่าว Fake lawyers arrested in Kenya — including ‘brilliant’ con artist who won 26 straight cases ของ นสพ.New York Post สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2566 ระบุว่า คราวนี้พบทนายปลอมที่ประเทศเคนยา ในทวีปแอฟริกา แถมว่าความชนะถึง 26 คดีเลยทีเดียว
สื่อสหรัฐฯ ระบุว่า ชาวเคนยา 2 คน ในข้อหาประกอบวิชาชีพทนายความโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยคนหนึ่งเป็นชาย มีรายงานการถูกจับกุมเมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2566 แอบอ้างใช้ชื่อ ไบรอัน เอ็มเวนดา (Brian Mwenda) ซึ่งเป็นทนายความตัวจริง และสามารถว่าความชนะได้ถึง 26 คดี ทั้งที่ไม่เคยผ่านการอบรมวิชาชีพทนายความมาก่อน กระทั่งสมาคมวิชาชีพทนายความแห่งประเทศเคนยา (LSK ) ได้รับแจ้งเบาะแสว่า ชายคนดังกล่าวสวมรอยเป็นบุคคลอื่นว่าความโดยไม่มี “ตั๋วทนาย” หรือใบประกอบวิชาชีพทนายความ จึงเริ่มสืบสวนจนนำไปสู่การจับกุม
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้กลายเป็น “ดรามา” ในสังคมชาวเคนยา เพราะทันทีที่ปรากฏเป็นข่าว ก็มีทั้งฝ่ายที่โกรธแค้นและฝ่ายที่ยกย่อง โดยตัวอย่างของฝ่ายหลัง เช่น องค์การสหภาพแรงงานกลางของเคนยา กล่าวว่า ทนายปลอมรายนี้เป็นคนหนุ่มที่เฉลียวฉลาด ซึ่งประสบความสำเร็จโดยปราศจากคุณสมบัติแบบดั้งเดิมตามขนบประเพณี เช่นเดียวกับ ไมค์ ซองโก (Mike Sonko) อดีตผู้ว่าการกรุงไนโรบี เมืองหลวงของเคนยา ซึ่งถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งด้วยข้อกล่าวหาพัวพันการทุจริต ก็โพสต์คลิปวีดีโอ ระบุว่า ชายคนนี้ไม่ได้ฆ่าใคร เขาไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย
จากนั้นในวันที่ 16 ต.ค. 2566 LSK ยังเปิดเผยว่า สามารถจับกุมทนายปลอมได้อีกรายหนึ่ง โดยคราวนี้เป็นหญิงที่ใช้ชื่อว่า ชารอน อาทีโน อาดุนยา (Sharon Atieno Adunya) ซึ่งแอบอ้างเป็นทนายความตัวจริง คือ ชารอน อาเทียนา โอบาเด (Sharon Atieno Obade) ซึ่งสมาคมวิชาชีพทนายความแห่งประเทศเคนยา กล่าวว่า ต้องการย้ำความมุ่งมั่นในการรับประกันการปกป้องพื้นที่ปฏิบัติงานของผู้ประกอบวิชาชีพ และป้องกันไม่ให้นักต้มตุ๋นแทรกซึมเข้าไป
18 ต.ค. 2566 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก เสนอข่าว Egypt Rejects Any Attempt to Move Gaza Palestinians to Sinai ระบุว่า อับเดล-ฟัตตาห์ เอล-ซีซี (Abdel-Fattah El-Sisi) ประธานาธิบดีอียิปต์ ปฏิเสธความพยายามใดๆ ก็ตามที่จะรับผู้อพยพชาวปาเลสไตน์จากฉนวนกาซาเข้าไปอยู่ในบริเวณคาบสมุทรซีนายของอียิปต์ เพราะไม่ต้องการให้ดินแดนดังกล่าวกลายเป็นฐานที่มั่นสำหรับการโจมตีอิสราเอล
ผู้ยำอียิปต์ กล่าวถึงเรื่องนี้ในการแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรีของเยอรมนี ในวันที่ 18 ต.ค. 2566 เพราะหากการโจมตีอิสราเอลเกิดขึ้นจากดินแดนอียิปต์ ประเทศของตนอาจจะต้องรับผิดชอบ และนั่นจะเปิดช่องให้กับการตอบโต้จากอิสราเอล ซึ่งนี่เป็นความคิดเห็นที่ชัดเจนที่สุดของ เอล-ซีซี ในการจัดการกับข้อกังวลที่ว่าอิสราเอลกำลังพยายามขับไล่ชาวปาเลสไตน์ลงใต้จากฉนวนกาซา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการตอบโต้กลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธที่เริ่มโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566
เอล-ซีซี ยังอธิบายเพิ่มเติมว่า การย้ายชาวปาเลสไตน์ไปยังซีนาย หมายถึงการย้ายแนวคิดเรื่องการต่อต้านและแนวคิดเรื่องการสังหารจากฉนวนกาซาไปยังซีนาย และที่นั่นอาจกลายเป็นฐานปฏิบัติการต่อต้านอิสราเอล และนั่นก็เป็นสิทธิของอิสราเอลในการปกป้องความมั่นคงของชาติตนเอง ซึ่งหมายถึงการโจมตีใส่อียิปต์ และย้ำว่าอียิปต์ได้ปกป้องสันติภาพอย่างเด็ดเดี่ยว พร้อมกับแนะนำว่า ควรย้ายชาวปาเลลไตน์ไปไว้ที่ทะเลทรายเนเกฟของอิสรเอล จนกว่าการสู้รบกับกลุ่มฮามาสจะสิ้นสุดดีกว่า
โฆษกกองทัพอิสราเอลแถลงข่าวที่กรุงเทลอาวีฟว่า มีหลักฐานที่จะแจกจ่ายให้แก่สื่อมวลชนทุกคนเพื่อยืนยันว่า ระเบิดที่โรงพยาบาลในกาซาเกิดจากกลุ่มอิสลามิก จิฮัดยิงจรวดผิดพลาด ระบบเรดาร์ของอิสราเอลติดตามจรวดที่กลุ่มก่อการร้ายในกาซาระดมยิงในช่วงเกิดระเบิดที่โรงพยาบาล ผลการวิเคราะห์วิถีจรวดพบว่า ถูกยิงจากสถานที่ใกล้กับโรงพยาบาล โฆษกยืนยันด้วยว่า กองกำลังป้องกันอิสราเอลหรือไอดีเอฟ (IDF) ไม่ได้ยิงใส่โรงพยาบาลทั้งทางบก ทางน้ำหรือทางอากาศ
ด้านกลุ่มฮามาสที่แถลงตั้งแต่โรงพยาบาลอัล-อาห์บี อาหรับถูกถล่มเมื่อวันอังคารว่าเป็นฝีมืออิสราเอล แถลงตอบโต้คำแถลงล่าสุดของโฆษกกองทัพอิสราเอลว่า เรื่องโกหกทั้งเพของอิสราเอลไม่สามารถหลอกลวงใครได้ อิสราเอลต้องรับผิดชอบโดยตรงต่อการสังหารหมู่น่าสยดสยองด้วยอาวุธอเมริกันที่มีแต่ฝ่ายยึดครอง (หมายถึงอิสราเอล) เท่านั้นที่มีอาวุธเหล่านี้อยู่ในครอบครอง
ขณะเดียวกัน ประเทศอาหรับที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอลกล่าวโทษอิสราเอลว่า สังหารคนที่โรงพยาบาลในกาซาไม่ต่ำกว่า 200 คน โดยสำนักข่าวดับเบิลยูเอเอ็ม (WAM) ของทางการสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี (UAE) รายงานในเช้าวันนี้ว่า ยูเออีขอประณามอย่างรุนแรงต่อการโจมตีของอิสราเอลที่ทำให้มีคนล้มตายและบาดเจ็บหลายร้อยคน
ส่วนสำนักข่าวบาห์เรนรายงานว่า กระทรวงต่างประเทศบาห์เรนได้แสดงการประณามและการกล่าวโทษอย่างจริงจังของราชอาณาจักรบาห์เรนต่อการทิ้งระเบิดของอิสราเอล ยูเออีและบาห์เรนได้ลงนามข้อตกลงอับราฮัมเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2563 สถาปนาความสัมพันธ์ในระดับปกติกับอิสราเอล โดยมีสหรัฐเป็นคนกลางเจรจา
ด้านโมร็อกโกที่ลงนามข้อตกลงสถาปนาความสัมพันธ์ระดับปกติกับอิสราเอลในเดือนธันวาคม 2563 ประณามอิสราเอลว่าโจมตีโรงพยาบาล เช่นเดียวกับอียิปต์ซึ่งเป็นอาหรับประเทศแรกที่สถาปนาความสัมพันธ์ระดับปกติกับอิสราเอลในปี 2522 ประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซีซี ของอียิปต์ประณามว่า อิสราเอลทิ้งระเบิดโรงพยาบาลอัล-อาห์ลี อาหรับที่ทำให้มีผู้บริสุทธิ์ล้มตายจำนวนมาก ท่ามกลางพลเรือนปาเลสไตน์ในกาซา การเจตนาทิ้งระเบิดนี้เป็นการละเมิดกฎหมายสากลอย่างชัดเจน
ส่วนซาอุดีอาระเบียที่ระงับการเจรจาสถาปนาความสัมพันธ์กับอิสราเอลตั้งแต่เกิดความขัดแย้งล่าสุด ระบุว่า เป็นการก่ออาชญากรรมชั่วร้ายของกองกำลังยึดครองฝ่ายอิสราเอล
ขณะที่จอร์แดนระบุว่า อิสราเอลต้องรับผิดชอบเหตุร้ายแรงนี้ ด้านองค์การความร่วมมืออิสลามหรือโอไอซี (OIC) กล่าวโทษอิสราเอลว่า ก่ออาชญากรรมสงคราม ก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และก่อการร้ายที่ดำเนินการโดยรัฐ ส่วนเลขาธิการคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับหรือจีซีซี (GCC) กล่าวว่า เป็นหลักฐานโจ่งแจ้งชัดเจนว่ากองกำลังยึดครองฝ่ายอิสราเอลก่อเหตุละเมิดอย่างร้ายแรง
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012