ข่าว
'เฮอริเคนลอร่า'ลูกใหญ่จ่อถล่ม'รัฐเทกซัส-ลุยเซียนา' ปชช.ครึ่งแสนเร่งอพยพ

27 สิงหาคม 2563 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เฮอริเคนลอร่าทวีกำลังแรงขึ้นเป็นระดับ 4 ทำให้เกิดลมแรง 233 กิโลเมตรต่อชั่วโมงบริเวณพรมแดนระหว่างรัฐเทกซัสกับรัฐลุยเซียนาในช่วงใกล้เที่ยงคืนของวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ทางการเตือนภัยคลื่นพายุซัดฝั่ง หรือสตอร์มเซิร์จที่เป็นอันตรายต่อชีวิตและความเสียหายจากภัยพิบัติ

ขณะที่ชาวเทกซัสและลุยเซียนากว่าครึ่งล้านคนเร่งอพยพหนีเฮอริเคนลอร่า ทำให้ทางหลวงเนืองแน่นไปด้วยรถยนต์ ขณะที่มาตรการป้องกันโควิด -19 ได้ทำให้การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะเป็นไปด้วยความล่าช้า และเพิ่มความซับซ้อนให้การจัดเตรียมที่อยู่อาศัยชั่วคราว

จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยโคลัมเบียและสหภาพนักวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องระบุว่า การอพยพครั้งใหญ่อาจทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น ทั้งในพื้นที่ต้นทางและปลายทางของการอพยพ และได้แนะนำให้ผู้อพยพไปอยู่ในพื้นที่การระบาดต่ำ และให้ปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม รวมทั้งให้สวมหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ป้องกัน

'วิษณุ'รับคดี'บอส'เริ่มต้นนับหนึ่ง หลังถูกแจ้ง 3 ข้อหาใหม่ ชี้ แจ้งอินเตอร์โพลนำตัวกลับไทยได้

วันที่ 27 สิงหาคม 2563 เวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสานอินเตอร์โพล จับตัวนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส เพื่อจับตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ว่าตนไม่รู้ว่าตำรวจส่งไปขอหรือไม่ ตนทราบเท่าที่สื่อลงข่าวเช่นกันว่า มีการตั้งข้อหาใหม่ 3 ข้อหา ซึ่งเมื่อตั้งข้อหาใหม่แล้วทางคณะกรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสิระ เจนจาคะ เป็นประธานก็ต้องหยุดพิจารณาคดีเพราะถือว่าคดีไปอยู่ในอำนาจศาลแล้ว ดังนั้นจึงสามารถออกหมายจับและแจ้งไปที่อินเตอร์โพลได้ หากต้องการตัวนายวรยุทธ และเชื่อว่าอยู่ต่างประเทศ

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนี้เท่ากับเป็นการเริ่มต้นคดีใหม่เลยใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ใช่

นายวิษณุ กล่าวต่อว่า สำหรับการจัดทำรายงานฉบับใหญ่ ของคณะกรรมการชุดนายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน จะมีการส่งรายงานให้นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ส่งตามรอบ 10 วันมาสองครั้งแล้ว และเมื่อส่งแล้วก็อยู่ที่นายกรัฐมนตรี ว่าจะตัดสินใจอย่างไร ทั้งนี้ ต้องดูด้วยว่าชุดกรรมการของนายวิชาได้เสนอแนะอะไรมาบ้าง

นายวิษณุ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามข้อเสนออาจแบ่งเป็น2ส่วน คือข้อเสนอแนะในเชิงคดีที่เกี่ยวกับตำรวจและอัยการ หรือบุคคลอื่น ซึ่งอาจจะนำไปสู่การดำเนินคดี หรือนำไปสู่การทำคดีใหม่ ก็แล้วแต่ว่าเขาเสนออะไร ส่วนอีกข้อเสนอแนะหนึ่งคือ ข้อเสนอในเชิงปฏิรูป ซึ่งตอนนี้ มีการเสนอจากที่อื่นมาส่วนหนึ่งแล้ว ก็จะนำมาผสมกันแล้วทำเป็นแอคชั่นคือการกระทำโดยที่ไม่ต้องแก้กฎหมาย เช่น อาจไปเปลี่ยนเลย หรืออาจต้องไปแก้กฎหมายที่เรามีอยู่ในมือแล้วที่กำลังจะแก้ไข และเตรียมเสนอสภาอยู่แล้ว ก็จะนำไปปรับปรุงพร้อมกฎหมายนั้นเสียเลย

นายวิษณุ กล่าวด้วยว่าอย่างไรก็ตาม นายวิชา ได้ขอเวลาอีก 30 วัน เพื่อทำในเรื่องของการปฏิรูป โดยที่ไม่เกี่ยวกับคดีเพราะคดีถือว่าจบลงแล้ว แต่สิ่งที่นายวิชาและคณะกรรมการจะทำต่อไป จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการปฏิรูปว่า เรื่องนี้ถือเป็นบทเรียนจะต้องไปแก้อะไรตรงไหน จึงได้ขอเวลาทำต่อ และเมื่อทำเสร็จแล้วก็จะเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเช่นเดิม


สั่งสอบคลิปฉาว'พ.ต.ท.'เป็นเจ้ามือเขย่าไฮโล เย้ย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

วันที่ 27 สิงหาคม 2563 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีในโลกโซเชียลมีเดียมีการแชร์คลิปวีดีโอสารวัตรสืบสวนนครบาลยศ "พ.ต.ท." พาชาวบ้าน แอบเล่นการพนัน เย้ย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายและไม่สนตำรวจพื้นที่เพราะคิดว่าตัวเองใหญ่ นั้นว่า ขอเรียนชี้แจงในประเด็นดังกล่าวขณะนี้ พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผบก.น.6 ได้สั่งการให้ ผกก.สน.ปทุมวัน ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้วพร้อมรายงานผลให้ทราบโดยเร็ว เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้องต่อไป

รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า คงต้องรอให้ต้นสังกัดที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนหากพบว่าเกิดข้อบกพร่องและมีความผิดก็จะดำเนินการทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาดต่อไป ซึ่งเป็นนโยบายของท่าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มาโดยตลอดอยู่แล้วในการกำชับข้าราชการตำรวจทุกหน่วยอย่าไปกระทำความผิดกฎหมายเสียเอง เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้

"หากผลการตรวจสอบพบว่ามีความผิดต้องถูกดำเนินคดีทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด ไม่ปล่อยไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่าง รวมทั้งจะมีการพิจารณาทัณฑ์ผู้บังคับบัญชาที่ปล่อยปละละเลยไม่ใส่ใจลงไปกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาตามคำสั่ง ตร. ที่1212/2537 อีกด้วยส่วนหนึ่ง"พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว
สาทรเปิดตัว Canal Art จุดเช็คอินใหม่กลางกรุง

กรุงเทพมหานครจัดทำโครงการปรับภูมิทัศน์ 1 เขต 1 คลอง เป็นคลองเฉลิมพระเกียรติฯ โดย นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ให้นโยบาย 50 เขต ในการพัฒนาคลองในพื้นที่ โดยให้ประชาคมและชุมชนในพื้นที่มีส่วนร่วมพัฒนาคุณภาพน้ำในคลอง และปรับภูมิทัศน์ริมคลอง เพื่อให้เป็น Landmark แต่ละเขต

นายพันธ์ศักดิ์ เจริญสุข ผู้อำนวยการเขตสาทร กล่าวว่า สำนักงานเขตสาทร ได้ดำเนินโครงการ Best Service ปี’63 “สาทรร่วมใจ คลองสวย น้ำใส ไฟสว่าง” (Klong Wat Yan-Miracle of Sathon) จุดมุ่งหมายเพื่อให้เป็น Landmark วิถีไทยเชิงอนุรักษ์แห่งใหม่ใจกลางเมือง โดยได้ดำเนินการปรับปรุงและพัฒนาทางเดินบริเวณคลองวัดยานนาวา ซึ่งมีความยาวตั้งแต่ถนนเจริญกรุงถึงถนนเจริญราษฎร์ รวมระยะทาง 900 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ชุมชนศรีสุริโยทัยและชุมชนบ้านแบบ เพื่อให้พื้นที่มีภูมิทัศน์สวยงาม สะอาด ปลอดภัย จากเดิมเป็นคลองเปลี่ยว มีการรุกล้ำ ทุกฝ่ายร่วมกันพัฒนาเป็นคลองสวย น้ำใส ริมคลองร่มรื่น สวยงาม ประชาชนใช้เป็นเส้นทางเดินสัญจรและท่องเที่ยว ชาวชุมชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ในพื้นที่เป็นแหล่งรวม 4 ศาสนา5 วัฒนธรรม สามารถดำเนินชีวิตร่วมกันได้

สำหรับการปรับปรุงภูมิทัศน์ ได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งสถานประกอบการ หน่วยงาน และโรงเรียนในพื้นที่ โดย บริษัท ยู.อาร์.เคมีคอล จำกัด และเครือข่าย ATM Spray จัดหาอุปกรณ์ สี และคัดสรรศิลปินมาร่วมแต่งแต้มสีสัน ภาพวาดฝาผนังริมคลองวัดยานนาวา (Canal Art) อาจารย์และนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ประดิษฐ์เครื่องเติมอากาศติดตั้งในคลอง เพื่อเพิ่มออกซิเจนในน้ำให้มีปริมาณเพียงพอ สามารถบำบัดน้ำเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ มีแผนจะพัฒนาปรับทางเดินริมคลองให้จักรยานสามารถสัญจรผ่านได้ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีไทย เป็นจุดท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แห่งใหม่ใจกลางเมือง สร้างรายได้ให้กับชุมชน และสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างต่อไป

ในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 29-30 สิงหาคม 2563 จะจัดงาน “ชม ช้อป ชิม @ Sathon Canal Art” บริเวณคลองวัดยานนาวา ขอเชิญเที่ยวชมศิลปะสื่อวัฒนธรรมและวิถีชีวิตชาวชุมชนบนกำแพงแนว Street Art ยาวกว่า 900 เมตร ช้อปของดีราคาถูก และชิมอาหารอร่อยจากชุมชน 5 วัฒนธรรม ได้แก่ ชาวอิสลาม ชาวคริสต์ ชาวฮินดู ชาวพุทธ และชาวพุทธมอญ ตั้งแต่เวลา 12.00-22.00 น.


มาใหม่อีกตัว 'วัคซีนโควิด-19'ผลิตจาก‘เซลล์แมลง’ จีนไฟเขียวทดลองในมนุษย์

26 สิงหาคม 2563 สำนักข่าวซินหัวรายงาน จีนอนุมัติการทดลองวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ตัวใหม่ในมนุษย์ โดยวัคซีนดังกล่าวผลิตจาก “เซลล์แมลง”

เมื่อวันจันทร์ (24 ส.ค.) โรงพยาบาลหัวซี (West China Hospital) แห่งมหาวิทยาลัยซื่อชวน (เสฉวน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งเป็นผู้พัฒนาวัคซีนดังกล่าว เปิดเผยว่าวัคซีนแบบโปรตีนลูกผสม (Recombinant protein vaccine) ตัวนี้ได้รับใบอนุญาตการวิจัยทางคลินิกจากสำนักบริหารเวชภัณฑ์แห่งชาติ (NMPA) แล้ว

คณะนักวิจัยประจำโรงพยาบาลฯ ระบุว่าวัคซีนข้างต้นจะเป็นวัคซีนโรคโควิด-19 ตัวแรกของจีน ที่เกิดจากการเพาะเลี้ยงในเซลล์แมลงและถูกฉีดเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ โดยถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นให้เกิดแอนติบอดีต่อพื้นที่เฉพาะของสไปก์โปรตีน (spike protein) หรือโปรตีนหนามของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) ซึ่งก่อโรคโควิด-19

วารสารวิชาการเนเจอร์ (Nature) เผยแพร่ผลการทดสอบวัคซีนตัวใหม่ในสัตว์ เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าวัคซีนดังกล่าวสามารถกระตุ้นการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในหนู กระต่าย และสัตว์กลุ่มไพรเมตที่ไม่ใช่มนุษย์ในระยะ 7-14 วัน หลังรับวัคซีนเพียงหนึ่งโดส โดยไม่ปรากฏผลข้างเคียงที่ชัดเจน

เว่ยอวี๋ฉวน นักวิจัยอาวุโสประจำห้องปฏิบัติการชีวโมเลกุลหลักแห่งชาติของโรงพยาบาลฯ ซึ่งเป็นผู้ร่วมเขียนบทความวิจัยนี้ กล่าวว่าวัคซีนข้างต้นผลิตจากการนำยีนของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ใส่ลงไปในเซลล์แมลงที่เพาะเลี้ยง ซึ่งสามารถทำให้โปรตีนของไวรัสเจริญเติบโต โดยแนวทางดังกล่าวเหมาะสำหรับการผลิตวัคซีนขนาดใหญ่

เว่ยเผยว่าก่อนหน้านี้คณะนักวิทยาศาสตร์เคยใช้เซลล์แมลงพัฒนาวัคซีนลูกผสมป้องกันมะเร็งปากมดลูกและไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มประเทศตะวันตกแล้ว พร้อมเสริมว่าวิธีการดังกล่าวสามารถใช้กับมนุษย์ได้อย่างปลอดภัย

ทั้งนี้ โรงพยาบาลหัวซี ซึ่งตั้งอยู่ในนครเฉิงตู เมืองเอกของซื่อชวน ยังดำเนินงานร่วมกับบริษัทท้องถิ่น เพื่อออกแบบสายการผลิตวัคซีนอีกด้วย

โควิด-19ป่วยแล้วเป็นซ้ำอีกได้ พบชาว'เนเธอร์แลนด์-เยอรมัน'ติดเชื้อรอบ2

26 สิงหาคม 2563 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน พบผู้ป่วยติดเชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ในเนเธอร์แลนด์และเบลเยียม

โดยผู้ป่วยชาวเนเธอร์แลนด์ที่กลับมาติดโรคโควิด-19 อีกครั้งเป็นผู้สูงอายุและมีระบบภูมิคุ้มกันต่ำ ขณะที่ผู้ป่วยชาวเบลเยียมมีอาการไม่รุนแรง แต่ไม่ถือเป็นข่าวดี

ก่อนหน้านี้คณะนักวิจัยของฮ่องกงได้เผยว่า มีชายคนหนึ่งที่กลับมาติดโรคโควิด-19 อีกครั้งหลังจากหายป่วยเป็นเวลา 4 เดือนครึ่ง นักไวรัสวิทยาคนดังกล่าวยังระบุอีกด้วยว่า เป็นที่รู้กันดีว่าผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ได้รับเชื้อไวรัสโคโรนามาเป็นเวลานานอาจมีอาการรุนแรงขึ้น แต่การกลับมาติดโรคโควิด-19 อีกครั้งดังเช่นผู้ป่วยชาวเนเธอร์แลนด์ เบลเยียม และฮ่องกง ต้องได้รับการตรวจความผิดปกติสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนาในการติดเชื้อครั้งแรกและครั้งที่ 2 เพื่อดูว่ามีความแตกต่างกันหรือไม่

อย่างไรก็ดี นักไวรัสวิทยากล่าวว่า ผู้ป่วยที่กลับมาติดเชื้ออีกครั้งแสดงให้เห็นว่า แอนติบอดีที่ร่างกายสร้างขึ้นในช่วงที่ติดเชื้อครั้งแรกอาจไม่เพียงพอที่จะป้องกันการติดเชื้อในครั้งที่ 2 เนื่องจากเชื้อไวรัสมีความแตกต่างกันเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่า ผู้ป่วยที่กลับมาติดโรคโควิด-19 อีกครั้งเป็นกรณีเฉพาะหรือไม่ และผู้ที่เคยได้รับเชื้อจะมีโอกาสกลับมาติดเชื้ออีกครั้งหลังจากหายดีแล้ว 6-7 เดือนหรือไม่