ข่าว
ปลิดชีวิตคนไทยในสตราสบูร์ก มือปืนถูกตำรวจวิสามัญแล้ว

มือปืนผู้ต้องสงสัยกราดยิงฆ่าหมู่ 3 ศพที่ตลาดคริสต์มาสในเมืองสตราสบูร์ก หนึ่งในนั้นเป็นคนไทย ถูกปลิดชีพแล้ว จากการเปิดเผยของแหล่งข่าวตำรวจในวันพฤหัสบดี (13 ธ.ค.) สิ้นสุดปฏิบัติการไล่ล่านานกว่า 48 ชั่วโมง

เชริฟ เชกัตต์ ถูกสังหารในพื้นที่นอยดอร์ฟ/แมโนของเมืองสตาร์สบูร์ก ในปฏิบัติการหนึ่งของตำรวจตอนประมาณ 21.00น.ของวันพฤหัสบดี (ตรงกับเมืองไทย 00.30 น.ของวันศุกร์) ห่างจากจุดที่เขาลงมือโจมตีเข่นฆ่าผู้คนเมื่อวันอังคาร (11 ธ.ค.) ราวๆ 2 กิโลเมตร

แหล่งข่าวรายหนึ่งเผยว่า เชกัตต์ ถูกวิสามัญหลังเขายิงใส่ตำรวจ กระตุ้นให้พวกเจ้าหน้าที่ยิงตอบโต้กลับไป

`ตำรวจฝรั่งเศสได้ออกโปสเตอร์หมายจับ เชริฟ เชกัตต์ ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุโจมตีตลาดคริสต์มาสในเมืองสตราสบูร์ก โดยระบุว่าเขาอยู่ในบัญชีบุคคลที่ต้องเฝ้าจับตามองเนื่องจากอาจเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคง

ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุเล่าว่าได้ยินเสียงปืนราว 3 หรือ 4 นัด หลังมีปฏิบัติการตามล่าขนานใหญ่โดยกองกำลังติดอาวุธจากหน่วยคอมนานโดและหน่วยจู่โจม โดยมีเฮลิคอปเตอร์ตำรวจลำหนึ่งบินวนอยู่ด้านบน

ในเวลาต่อมา คริสตอฟ กัสตาเนร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศส ให้การยืนยันผู้ต้องสงสัยหลักในเหตุสังหารผู้คน 3 ศพในสตราสบูร์ก ถูกตำรวจปลิดชีพแล้ว โดยเขาเผยว่าตำรวจ 3 นายพบชายคนหนึ่งที่เชื่อว่าเป็น เชริฟ เชกัตต์ โดยบังเอิญบนถนน และรุดเข้าจับกุมเขา แต่เขากลับยิงใส่ตำรวจ ทำให้พวกเจ้าหน้าที่ต้องลั่นไกตอบโต้และสังหารเขา

ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุโจมตีเมื่อวันอังคาร (11 ธ.ค.) เพิ่มเป็น 3 คน ในนั้นรวมถึงนายอนุพงษ์ สืบสมาน นักท่องเที่ยวชาวไทยวัย 45 ปี ขณะที่ปฏิบัติการค้นหาอย่างละเอียดทุกซอกทุกมุมของเมืองเป็นวันที่ 2 รวมถึงมีการตั้งด่านตรวจตามแนวชายแดนติดกับเยอรมนีด้วย

ก่อนหน้านี้ตำรวจได้ออกโปสเตอร์หมายจับ เชริฟ เชกัตต์ ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุโจมตีคราวนี้แล้ว โดยระบุว่าเขาอยู่ในบัญชีบุคคลที่ต้องเฝ้าจับตามองเนื่องจากอาจเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคง ขณะที่เจ้าหน้าที่รับผิดชอบหลายรายบอกว่า เป็นที่ทราบกันว่า เชกัตต์ซึ่งปัจจุบัน 29 ปีมีความฝักใฝ่ความคิดทางศาสนาแบบหัวรุนแรงเมื่อตอนที่อยู่ในคุก

เมื่อถูกโทรทัศน์ซีนิวส์ ถามว่าตำรวจฝรั่งเศสได้รับคำชี้แนะให้จับเป็นหรือจับตายเชกัตต์ ปราฏว่า บองจาแมง กรีวูซ์ โฆษกรัฐบาลฝรั่งเศสตอบว่า “มันไม่ใช่เรื่องสำคัญ สิ่งที่ดีที่สุดคือจะต้องค้นหาเขาให้พบโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

สำนักงานอัยการปารีสเผยว่าพ่อแม่ของเชกัตต์และพี่น้องผู้ชายของเขา 2 คนอยู่ภายใต้การควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ ส่วนพี่น้องผู้หญิง 2 คน ซึ่งพำนักอยู่ในปารีสก็ถูกสอบปากคำเช่นกันในวันพฤหัสบดี (13 ธ.ค.) และบ้านของหนึ่งในนั้นถูกตรวจค้น

‘นิ้ง โศภิดา’ ชิง มิสยูนิเวิร์ส มอบเป็นของขวัญคนไทย

14 ธ.ค. นิ้ง โศภิดา กาญจนรินทร์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 เปิดใจหลังการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 รอบพรีลิมมินารี (Preliminary) ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ว่า หลังจากผ่านรอบพรีลิมมินารี มีความสุขและดีใจมาก สิ่งที่เรียนมาได้ใช้หมดแล้ว ที่จริงตื่นเต้นมากแต่รู้สึกว่ามันคือวันของเรา เราจะทำให้ดีที่สุด

“มีคนชมว่าเดินดีขึ้น ก็ขอบคุณนะคะ เป็นสิ่งที่ฝึกมาตลอด ที่ผ่านมานิ้งเรียนเดินเรียนพูดตั้งแต่ตี 5 ถึง 5 ทุ่ม ได้ใช้แล้ว ภูมิใจ ไม่มีประหม่า เพราะเราคิดว่าวันนี้คือวันที่ฝัน เรารอมานานมากแล้ว รู้สึกว่านี่แหละโอกาสของผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ตอนเด็กๆ เรารักนางงามมากแค่ไหน วันนี้เราเอามาใส่ให้เต็มที่”

“เมื่อวานเสียงเชียร์ดังมาก นิ้งรู้สึกถึงความรัก นิ้งได้ความรักจากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่อยู่ในฮอลล์ พลังในตัวมันเลยออกมาได้เรื่อยๆ กำลังใจสำคัญมาก พลังบวกสำคัญกับเรามาก มีความหวังที่จะทำหน้าที่ให้ดีต่อไป ไม่มีแรงกดดันแล้ว ที่ผ่านมาเป็นความตื้นตันที่นิ้งมีฝันและทำสำเร็จออกมาได้ ความมั่นใจมันมาเต็มเปี่ยมแล้ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราพร้อมทำหน้าที่แล้ว”

“วันจันทร์นี้ นิ้งจะใช้ความเป็น นิ้ง โศภิดา The one and Only In this world ในการทำหน้าที่ พรีเซนท์ความเป็นตัวแทนของประเทศไทย และอยากจะเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนบนโลกนี้ว่าถ้าทุกคนมีฝันอย่าหยุดทำ ให้ทำให้ดีที่สุด เป็นผู้หญิงที่เป็นนักล่าฝัน และผู้หญิงคนนี้ประสบความสำเร็จได้โดยที่เขาไม่หยุดล่าฝัน และแชร์ความสำเร็จนั้นให้คนอื่นรู้สึกมีคุณค่าพร้อมทำตามฝันต่อไป และมาช่วยโลกให้ดีขึ้นไปด้วยกัน” นิ้ง โศภิดา กล่าว

นิ้ง โศภิดา ทิ้งท้ายว่า “สิ่งท้าทายในการประกวดครั้งนี้มากที่สุด คือการที่นิ้งได้ก้าวออกจากความกลัว เคยกลัวการขึ้นเวที การทำตามฝัน พ่อแม่ไม่เคยเห็นด้วยกับการประกวดนางงาม แต่ตอนนี้พ่อกลายเป็นแฟนนางงาม เรากลัวไปเอง จากเคยใส่ส้นสูงไม่ได้ก็ใส่ได้ จากเดินไม่ดีก็เดินดี อยากเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนต่อไป เวลานี้เป็นโค้งสุดท้ายแล้วของการประกวดมิสยูนิเวิร์ส รู้ว่าแฟนๆ มีความสุขและคาดหวังมาก นิ้งจะไปต่อ จะเอาของขวัญที่พิเศษที่สุดมาให้คนไทย สัญญาว่าจะทำเต็มที่”

ร่วมส่งแรงใจเชียร์ นิ้ง โศภิดา กาญจนรินทร์ และสาวงามผู้เข้าประกวดรวม 94 ประเทศในการประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2018 รอบตัดสิน (Final Round) วันจันทร์ที่ 17 ธ.ค. เวลา 07.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ถ่ายทอดสด ณ อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี ผ่านพีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 เว็บไซต์ www.pptvhd36.com และแอพพลิเคชั่น PPTVHD36


ใจเธอสวยมาก “ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์” มอบเงิน 1.3 ล้านเพื่อเด็กไทย

นางฟ้า 30 ปี “ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์” มอบเงิน 1.3 ล้าน เพื่อเด็กไทย อยากให้มีอนาคตที่ดี สัญญากับตัวเองจะทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ตื่นเต้นร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสินประกวดมิสยูนิเวิร์ส เผยนางงามบางคนร้องไห้ที่เจอตน หนักใจเพราะสวยเก่งทุกคน โล่งไฟไหม้ป่าไม่โดนบ้าน

กลับมาประเทศไทยอีกครั้ง สำหรับนางงามขวัญใจชาวไทย “ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ไซมอน” และเหมือนกับทุกครั้งที่มาเหยียบเมืองไทย เจ้าตัวก็มอบเงินเป็นจำนวนถึง 1.3 ล้าน มอบหนังสือให้กับห้องสมุดโรงเรียนวัดเวรุฬวนาราม เขตดอนเมือง อีกทั้งมอบคอมพิวเตอร์ จำนวน 40 เครื่อง ให้กับชุมชนหมู่บ้านพัฒนาสกุล คลองเตย ซึ่งปุ๋ยก็เผยว่า ดีใจที่ได้ทำให้เด็กๆ ที่เป็นอนาคตของชาติไทยได้มีโอกาสดีๆ และตนก็จะทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ

“รู้สึกเหมือนฝันที่ได้เป็นจริงค่ะ ทุกครั้งที่ปุ๋ยกลับเมืองไทยปุ๋ยก็อยากจะมาเยี่ยมน้องๆ มาเห็นโรงเรียนที่ประเทศไทยว่าเป็นยังไง และมีวิธียังไงที่ Angels Wings จะเข้ามาร่วมกับคุณครูและอาจารย์และกรรมการที่จะเสริมความช่วยเหลือให้เขาค่ะ ถามว่าอะไรที่เป็นแรงบันดาลใจให้ปุ๋ยช่วยเหลือเด็กๆ มากว่า 30 ปีนะคะ คือความน่ารักของเด็กใครจะไม่ประทับใจและไม่รัก และถ้าเราไม่ช่วยกันดูแลเขาก็จะไม่มีโอกาสที่ดี และปุ๋ยก็เป็นห่วงเขา ยิ่งเด็กที่ไม่มีพ่อแม่ ปุ๋ยก็พยายามที่จะให้กำลังใจ ให้เขารู้ว่าอย่างน้อยเขายังมีพี่คนหนึ่งที่เป็นห่วงเขา และปุ๋ยก็จะพยายามให้พี่ๆ น้องๆ ที่เมืองไทยอย่าลืมเขา เป็นหน้าที่ของทุกๆ คนที่จะมาดูแลอนาคตของประเทศชาติ อนาคตก็เริ่มจากน้องๆ ของประเทศของเราค่ะ เพราะฉะนั้นปุ๋ยก็พยายามจะช่วยให้เต็มที่ค่ะ”

“ก็เป็นคำสัญญาที่ปุ๋ยให้กับตัวเองด้วยค่ะ ไม่ได้เป็นคำสัญญาที่มีใครมาบังคับปุ๋ยทำ แต่ปุ๋ยทำเพื่อความสุขของปุ๋ยเอง ทุกครั้งที่ปุ๋ยได้มาคุยกับน้อง เห็นเขาอยู่ดี เห็นเขามีอนาคตที่ดีก็ยิ่งทำให้ปุ๋ยมีแรงใจที่จะทำยิ่งขึ้นค่ะ และทุกปีที่ปุ๋ยมาเมืองไทยปุ๋ยก็รู้สึกว่าปุ๋ยยังทำไม่เต็มที่ ก็พยายามจะหาโอกาสที่จะช่วยเขา ตอนนี้ปุ๋ยก็เน้นเป็นการศึกษา เพราะการศึกษาจะช่วยให้น้องๆ มีอนาคตที่ดีที่สุดและกว้างที่สุดค่ะ”

ปลื้มและสบายใจ ได้เห็นรอยยิ้มเด็กไทย ปีหน้าที่จะกลับมาก็มีโครงการช่วยเหลือเตรียมไว้ให้อีก 3 ที่

“วันนี้ได้เห็นรอยยิ้มน้องๆ ตอนแรกปุ๋ยก็รู้สึกคิดถึงลูกตัวเอง เพราะครั้งนี้ลูกไม่ได้มาด้วย (หัวเราะ) แต่พอเห็นรอยยิ้มของน้องก็ทำให้ปุ๋ยปลื้มใจและสบายใจ ประทับใจที่เขาอยากเห็นเรากลับมาเยี่ยมเขาเร็วๆ (ยิ้ม) วิธีเลือกโรงเรียนที่จะช่วยเหลือของปุ๋ย คือทุกครั้งที่ปุ๋ยมาปุ๋ยก็จะเก็บข้อมูลและสังเกตว่าโรงเรียนไหนที่มีอาจารย์ที่เป็นห่วงเขาและมีแพลนยังไง เพราะเรามีไอเดียที่ดี แต่ถ้าเราไม่มีแพลนที่จะทำให้ความคิดนั้นเป็นจริง ปุ๋ยก็จะให้เวลาเขา แต่ถ้าปุ๋ยเห็นว่าเขามีไอเดียที่ดีและเขาพร้อมที่จะให้ปุ๋ยเข้ามาช่วยก็จะง่ายที่สุด เพราะปุ๋ยไม่ได้อยู่ที่เมืองไทยและเวลาก็น้อย เพราะฉะนั้นก็จะให้กรรมการที่ปุ๋ยตั้งไว้ในเมืองไทยให้เขาเก็บข้อมูลให้ และปุ๋ยก็พยายามให้กำลังใจ ถ้าอันไหนเหมาะที่ปุ๋ยจะเข้ามาสนับสนุน ปุ๋ยก็จะทำทันทีค่ะ”

“ตอนนี้ก็มีหลายโรงเรียนที่ต้องการความช่วยเหลือ วันนี้ปุ๋ยเลือกเป็นสองที่ เพราะเวลาก็น้อยและโรงเรียนก็อยู่ไกล เที่ยวนี้ปุ๋ยไปไม่ถึง แต่เที่ยวหน้าในเดือนสิงหาคมปีหน้าปุ๋ยจะกลับมาใหม่ และมีอีก 3 ที่ที่ปุ๋ยรับปากแล้วที่จะเข้าไปช่วย มีที่นึงที่เชียงรายและอีก 2 ที่ที่กรุงเทพฯ ค่ะ”

“ความคาดหวังหลังจากที่เราเข้าไปช่วยเหลือ ก็อยากจะให้น้องๆ มีกำลังใจ ถ้าเขามีกำลังใจที่จะเรียน เขามีความหวังที่จะมีอนาคตที่ดี สิ่งนี้ปุ๋ยก็ทำให้เขาได้ค่ะ ไม่ว่าปุ๋ยจะอยู่ที่นี่หรืออยู่ที่อเมริกา อย่างน้อยปุ๋ยก็ให้กำลังใจเขาได้ ให้เขารู้ว่ายังไงทุกคนทั้งปุ๋ย ทั้งพ่อแม่ ทั้งคุณครูอยากจะให้เขามีอนาคตที่ดีค่ะ”

ยอมรับหนักใจในฐานะกรรมการตัดสินมิสยูนิเวิร์ส เพราะสาวงามสวยและมีความสามารถทุกคน

“มาครั้งนี้ก็มาในฐานะกรรมการตัดสินมิสยูนิเวิร์สด้วย ต้องบอกว่าหนักใจมากเลยค่ะเมื่อวาน (หัวเราะ) ทุกคนเก่งและสวยและมีความสามารถ วันสุดท้ายจะหนักใจจริงๆ ค่ะ (ยิ้ม) ถามว่าเชียร์ใคร อันนี้ปุ๋ยบอกไม่ได้ ทางกรรมการเขาบอกว่าห้ามพูดถึง เราต้องเก็บไว้ก่อน (หัวเราะ) แต่เราก็ให้กำลังใจน้องๆ ทุกคนค่ะ และปีนี้จัดที่ประเทศไทยด้วย ปุ๋ยก็ต้องมาให้ได้ค่ะ เขาก็ขอให้ปุ๋ยมาสนับสนุน ปุ๋ยก็ปฏิเสธไม่ได้ แม้ว่าลูกจะอยู่อเมริกา ปุ๋ยก็ต้องขอลูกมาเป็นกำลังใจให้กับประเทศของเราค่ะ”

“ในสายตาปุ๋ยคิดว่ามิสยูนิเวิร์สปีนี้ทุกคนเก่งมากนะคะ เขามีความคิดที่กว้างกว่าสมัยก่อน ปุ๋ยสังเกตว่ากรุ๊ปนี้ใหญ่ที่สุด 94 คนในปีนี้ แต่ทุกคนเขาสนับสนุนกัน ฉลาด และดูเขาก็ตื่นเต้นกันมากในคืนที่จะตัดสินนะคะ และทุกคนก็สวยมากค่ะ นางงามทุกคนเขาประทับใจในเมืองไทยมากนะคะ แต่ละคนปุ๋ยก็ถามเขานะคะว่ารู้สึกยังไงที่เขามาเที่ยวเมืองไทย มีแค่สองคนที่เคยมาก่อนหน้านี้ แต่คนอื่นๆ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขามา สิ่งแรกที่ทุกคนต้องชมก็คือน้ำใจคนไทย อีกอย่างคืออาหาร (หัวเราะ) ทุกคนชอบอาหารไทย และปุ๋ยก็ถามเขาว่าทริปไหนที่ประทับใจเขามากที่สุด เขาก็พูดถึงวัด เขาบอกว่าไม่เคยเห็นวัดสวยขนาดนี้ ทุกคนก็ประทับใจค่ะ”

“ก็ไม่มีใครมาถามถึงเคล็ดลับการได้มงกุฎนะคะ เพราะตอนสัมภาษณ์เราจะเป็นคนถาม (หัวเราะ) แต่ทุกคนก็น่ารักและเขาตื่นเต้น บางคนก็ร้องไห้ เขาตื่นเต้นมาก ปุ๋ยก็ให้กำลังใจเขาค่ะ ก็อยากให้คนไทยรู้ว่านี่เป็นโอกาสที่เราจะให้โลกเห็นว่าอะไรที่เป็นความพิเศษของประเทศไทยบ้าง เราก็จะมีชาวต่างชาติมากันเยอะ ก็อยากจะให้ทุกคนถือว่าเราเป็นตัวแทนของประเทศไทยไม่ใช่นางงามอย่างเดียว ทุกคนในประเทศไทยเป็นตัวแทนของไทย”

เผยเหตุไฟไหม้ป่าใกล้บริเวณบ้านที่อเมริกา บอกโชคดีที่ไม่โดนบ้าน

“ที่ไฟไหม้ป่าใกล้บ้านก่อนหน้านี้ก็น่ากลัวมากค่ะ แต่ทุกอย่างเรียบร้อยค่ะ ไม่เป็นอะไรค่ะ ขอบคุณมากที่ถาม แต่ตอนนั้นไม่ได้เข้าบ้านเกือบสองเดือน บ้านยังโอเคค่ะ เราโชคดีว่าบ้านไม่เป็นอะไร แต่ก็ต้องทำความสะอาดเยอะค่ะ นี่ก็เป็นครั้งที่สองแล้ว แต่เราก็ไม่มีสิทธิที่จะบ่น เพราะว่าบ้านเราไม่ได้เป็นอะไรค่ะ”


นิโคลีน ชมที่ 1 เก่งน่าทึ่ง ได้ตำแหน่งไหน ก็ภูมิใจ

งามระดับโลก สวยแท้ต้องหยุดจ้อง ต้องอยู่จีนต่อ เพื่อทำหน้าที่รองอันดับ 1 มิสเวิลด์ Miss World 2018 นิโคลีน พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ วันนี้ได้เวลาดีแล้ว ที่จะมาเปิดใจชัดๆ ให้สัมภาษณ์สดตรงจากเมืองชานย่า จีน

ความรู้สึกที่ได้เป็นรอง 1 มิสเวิลด์? "ดีใจมากค่ะ ดีใจที่สุด! ถือว่านิโคลได้ทำเต็มที่แล้ว ตำแหน่งไหนก็น่าภูมิใจ และถือเป็นของขวัญให้คนไทยทั้งประเทศด้วยค่ะ"

อีกนิดเดียวก็จะได้ที่ 1 แล้ว ถามจริงๆ มีแอบเสียดายมั้ย? "ไม่เสียดายนะ อย่างที่บอกนิโคลทำเต็มที่ทุกอย่างแล้ว อีกอย่างตำแหน่งนี้ก็สำคัญมากๆ ได้ไปทำภารกิจร่วมกับมิสเวิลด์ 2018 ได้สานต่อเรื่องการกุศลทั่วโลก มันคือสุดยอดมากแล้ว อีกอย่างพี่วาเนสซ่า ได้ที่ 1 มิสเวิลด์ 2018 ก็เก่งมาก เป็นคนที่น่าทึ่ง คิดว่านิโคลจะได้อะไรอีกเยอะ จากตรงนี้ค่ะ"

อยากบอกอะไรกับแฟนนางงามชาวไทย ที่คอยเชียร์คอยสนับสนุนามาตลอด? "อยากบอกแฟนๆ ชาวไทยว่า ถึงนิโคลไม่ชนะก็อย่าเสียใจนะ นิโคลทำเต็มที่แล้ว อยากให้ทุกคนมีความสุขมากกว่าเสียดายค่ะ แล้วเดี๋ยวพบกันที่ประเทศไทย คิดถึงทุกคนมาก ขอบคุณทุกเสียงเชียร์ และแรงโหวตที่ส่งให้นิโคลตั้งแต่ต้นจนจบ วันนี้เราทำได้แล้วไทยแลนด์".


'เหลิม'เลือดขึ้นหน้า กระซวกกลับ'สุริยะ'

13 ธ.ค.61 ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการรณรงค์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย(พท.) โพสต์เฟชบุ๊กตอบโต้ทางการเมืองอย่างดุเดือด โดยระบุว่า

1.นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่คุณให้สัมภาษณ์ว่าคุณไม่รู้จักผมและไม่รู้ว่าผมเป็นใครต้องขอขอบคุณอย่างมากเพราะผมก็ไม่อยากรู้จักคุณ และไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร แต่ผลสำรวจวันนี้ประชาชนทั่วประเทศ 91% ไม่เห็นด้วยที่พวกคุณ ทั้ง 4 รัฐมนตรีจะดำรงตำแหน่งพร้อมตั้งพรรคการเมือง ผมขอบอกให้คุณทราบว่าทำอย่างนี้เป็นเรื่องน่าละอายและผมมั่นใจว่าคนทั้งประเทศรู้จักผมมากกว่าคุณ

2.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่คุณให้สัมภาษณ์ว่า ผมชอบต่อรอง และสร้างข่าวเท็จ ผมยืนยันว่าชีวิตทางการเมืองของผมยาวนานกว่าคุณมาก ผมไม่เคยต่อรอง ผมไม่เคยสร้างข่าวเท็จ และผมไม่เคยไปเก็บเงินในการก่อสร้างทาง สะพาน ถนน จากกระทรวงคมนาคม การที่คุณแนะนำให้พรรคเพื่อไทยเปลี่ยนผู้ทำหน้าที่หัวหน้าทีมปราศรัยเป็นคนอื่น

ผมถือว่าคุณเผือกเพราะไม่ใช่หน้าที่ของคุณ เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย คุณบอกว่าการหาเสียงต้องประนีประนอมและไม่สร้างความขัดแย้ง ผมขอท้าคุณให้มาแสดงความคิดเห็นพร้อมกันที่ไหนก็ได้เพราะรัฐบาล คสช. ยึดอำนาจมาจากพรรคเพื่อไทยขณะผมทำหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย ผมรู้ข้อเท็จจริงมากกว่าคุณโดยเฉพาะอย่างยิ่งการหาเสียงมันจะประนีประนอมกันไม่ได้ ผมจะนำเสนอแนวทางของพรรคซึ่งพรรคเพื่อไทยมีอยู่แล้ว

ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และการต่างประเทศ และพรรคเพื่อไทยยืนยันว่าจะอยู่ฟากฝั่งประชาธิปไตยและไม่ยอมรับฝ่ายเผด็จการ ส่วนคุณสุริยะจะหาเสียงโดยประนีประนอมอย่างไรเป็นเรื่องของคุณ

ผบ.คุกส่ง'ธาริต'เข้าเรือนจำ 'นายเก่า'ก็ไม่มีสิทธิพิเศษ!

14 ธ.ค.61 พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงการคุมขังนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หลังศาลฎีกามีคำพิพากษาจำคุก 1 ปี ในคดีหมิ่นประมาทนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในความผิดหมิ่นประมาทคดีก่อสร้างโรงพักทดแทน 396 แห่งว่า แม้ผู้ต้องขังจะเคยเป็นอดีตข้าราชการระดับสูง แต่จะไม่ได้รับสิทธิพิเศษใดๆทั้งสิ้น โดยการควบคุมตัวจะเป็นไปตามระเบียบของทางราชการ ผู้ต้องขังทุกรายมีสิทธิเท่าเทียมกัน

พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า เมื่อนายธาริต ถูกส่งตัวเข้ามาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ตามขั้นตอนจะต้องถ่ายภาพ พิมพ์ลายนิ้วมือ ทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ และตรวจร่างกายว่ามี โรคประจำตัวที่เป็นอันตรายร้ายแรงหรือไม่ อย่างไรก็ตามสำหรับนักโทษที่มีเกณฑ์อายุตั้งแต่ 60 ขึ้นไปมักจะมีโรคประจำตัว โดยผู้ต้องขังสามารถนำใบรับรองแพทย์มาแสดงเพื่อนำยาที่แพทย์จัดให้เข้ามารักษาอาการป่วยตัวเองได้

ทั้งนี้หากมีอาการเจ็บป่วยภายในเรือนจำก็สามารถเข้าถึงสิทธิการรักษาพยาบาลได้ตามปกติ ในกรณีที่อาการเจ็บป่วยไม่ร้ายแรงก็สามารถรักษาภายในแดนพยาบาลได้ ยกเว้นกรณีเจ็บป่วยหนักต้องถูกส่งตัวไปทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์

พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวอีกว่าเมื่อเสร็จสิ้นการรับตัวผู้ต้องขังใหม่ ผู้คุมเรือนจำจะนำตัวผู้ต้องขังเข้าไปควบคุมไว้ภายแดนแรกรับเพื่ออบรมระเบียบวินัยและชี้แจงกฎของเรือนจำ เพื่อให้ผู้ต้องขังใหม่ปรับตัวไม่กระทำผิดวินัยหรือฝ่าฝืนกฎระเบียบของเรือนจำ ซึ่งถือเป็นปกติที่ผู้ต้องขังใหม่จะต้องใช้เวลาปรับตัวทำใจรับสภาพความเป็นอยู่ภายในเรือนจำและเพื่อนผู้ต้องขัง โดยเบื้องต้น จะให้ผู้ต้องขังพักอยู่ในแดนแรกรับประมาณ 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นจึงจะจำแนกให้ไปแดนคุมขังตามความเหมาะสมต่อไป ทั้งนี้ส่วนตัวไม่หนักใจเพราะถือเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ตามคำสั่งศาลแม้นายธาริตจะเป็นเคยเป็นอดีตผู้บังคับบัญชาก็ตาม