ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 10 เมษายน มีนายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รมว.พลังงานเป็นประธานได้พิจารณาเรื่อง การปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล และน้ำมันดีเซล ตามแนวทางการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิงตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 ต.ค.2554 โดยที่ประชุม กบง. เห็นชอบให้คงอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันแก๊สโซฮอล และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไว้ในอัตราเดิม ซึ่งจะส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันแก๊สโซฮอล และน้ำมันดีเซลราคาคงเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ส่วนน้ำมันเบนซิน 91 และ 95 จะมีการปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ 1 บาท/ลิตร ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล เป็นการเพิ่มส่วนต่างของราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินกับน้ำมันแก๊สโซฮอลให้มากขึ้น โดยส่วนต่างระหว่างราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 กับน้ำมันเบนซิน 91 เพิ่มขึ้นจาก 2.35 บาท/ลิตร เป็น 3.42 บาท/ลิตร และส่วนต่างราคาระหว่างน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 กับน้ำมันเบนซิน 95 เพิ่มขึ้นจาก 6.30 บาท/ลิตร เป็น 7.37 บาท/ลิตร
สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ยังคงเดิมที่ 0.60 บาท/ลิตร ทั้งนี้เพื่อรักษาระดับอัตราเงินเฟ้อและลดภาระค่าครองชีพของประชาชนจากภาระราคาน้ำมันแพง
สำหรับก๊าซ LPG ในภาคขนส่ง และก๊าซ NGV นั้น ที่ประชุม กบง. เห็นชอบให้ปรับขึ้นอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ สำหรับก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ที่จำหน่ายให้ภาคขนส่ง ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน – วันที่ 15 พฤษภาคม 2555 ซึ่งจะส่งผลให้ราคาขายปลีกก๊าซ LPG เพิ่มขึ้น 0.75 บาท/กก. หรือ 0.41 บาท/ลิตร ทำให้ราคาขายปลีก LPG ปรับขึ้นไปอยู่ที่ 11.41 บาท/ลิตร
ส่วนก๊าซ NGV เห็นชอบให้ปรับลดเงินชดเชยราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ลง 0.50 บาท/กก. เหลือ 0 บาท/กก. ตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย. 2555 เป็นต้นไป ซึ่งจะส่งผลให้ราคาขายปลีกก๊าซ NGV เพิ่มขึ้น 0.50 บาท/กก. จาก 10 บาท/กก. เป็น 10.50 บาท/กก.
เมื่อเวลา 17.45น.วันนี้ (11 เม.ย.) ที่โรงแรมดอนจัน พาเลซ นครเวียงจันทน์ สปป.ลาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาฯ ได้เดินทางมาโดยรถเบนซ์สีดำ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สปป.ลาว คอยนำขบวนเพื่อรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยมีบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดงกว่า 500คน มาคอยให้การต้อนรับและให้กำลังใจ ทันทีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ลงรถกลุ่มเสื้อแดงได้กรูเข้าไปทักทายเพื่อขอจับมือ ถ่ายรูป มอบดอกไม้ สวมพวงมาลัย หลังจากนั้นพ.ต.ท.ทักษิณ ได้เข้าห้องรับรอง และเปิดโอกาสให้แกนำนำกลุ่มต่างๆเข้าพบพร้อมกับทำพิธีรดน้ำดำหัว
ต่อมาเวลา 19.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนยังคิดถึงบ้านตลอดเวลาอยู่แล้ว เมื่อถามว่าที่บอกว่าจะกลับบ้านแบบเท่ ๆ จะมีรูปแบบอย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ถึงเวลามันจะเท่ต้องก็เท่ ถ้าถึงเวลายังไม่เท่ก็ไม่เท่ เมื่อถามว่าใกล้ถึงเวลาใกล้เท่หรือยัง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ไม่เป็นอะไร เมื่อถามถึงกรณีส.ส.ในรัฐบาลเตรียมผลักดันพ.ร.บ.นิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า อย่าไปพูดถึงเลย ตนเดินทางมาลาวครั้งนี้เพราะอยากมาทำบุญและอยากเจอกับประชาชนที่ไม่ได้เจอกันนาน หลายคนอยากจะเจอเลยแวะมา บางคนเป็นห่วงว่าสุขภาพว่าเป็นอย่างไร เพราะตอนนี้มีการปล่อยข่าวลือ ก็เลยมาให้เห็นหน้าเห็นตากัน
อดีตนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่อินโดนีเซีย และมีการแจ้งเตือนภัยสึนามิในประเทศไทย ว่า ตนเป็นห่วงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเกิดในจุดเดียวที่เคยเกิดครั้งที่แล้ว อย่างไรก็ตามตนได้คุยกับนายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ เราควรรีบเตือนภัยให้ผู้คนได้อพยพก่อน เอาเรื่องชีวิตประชาชนเป็นหลัก ต้องระมัดระวัง ประมาทไม่ได้ เอาความปลอดภัยในชีวิตเป็นหลัก เมื่อถามว่าได้คุยกับนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังอยู่ในพระราชพิธี และได้คุยเพียงกับนายปลอดประสพ เท่านั้น
ต่อมาเวลา 20.30 น. รมว. ICT ประกาศในนามศูนย์เตือนภัยฯ ว่า ตรวจสอบสถานการณ์พบมีคลื่นสึนามิขนาดเล็ก ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อไทย เหตุการณ์ผ่านพ้น-สงบแล้ว จึงประกาศยกเลิกเตือนสถานการณ์สึนามิ
จากที่ “อ้อม" สุนิสา สุขบุญสังข์ ดีเจคลื่น 94 EFM เคยซุ่มเงียบโกนหัวบวชชี ไปเมื่อ 2 ปีก่อน ที่ “เสถียรธรรมสถาน” ก่อนจะเดินทางไปปฏิบัติธรรมต่อที่จังหวัดลำปาง เป็นเวลาร่วมเดือน ล่าสุดก็ได้ตัดสินใจบวชชีอีกครั้งที่ประเทศอินเดีย ในโครงการบวชพุทธสาวิกาสองแผ่นดิน ครั้งประวัติศาสตร์ ณ แดนพุทธภูมิ ประเทศอินเดีย ฉลองพุทธชัยยันตี 2600 ปี แห่งการตรัสรู้ ขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ วัดไทยพุทธคยา วันที่ 2-12 เม.ย. โดยมี “แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต” แห่งเสถียรธรรมสถาน ปลงผมให้
ทั้งนี้เป็นสาเหตุให้ "อ้อม" หายไปจากการจัดรายงานวิทยุช่วงนี้ สอบถามต้นสังกัด บริษัทเอไทม์ ทราบว่า "อ้อม" ได้ขอลางานเป็นเวลา 15 วัน
เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2555 ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี แถลงผลการจับกุมแก๊งค์ยาบ้า ประกอบด้วย นายสุชิน หรือ ชิน เรียนศรี อายุ 41 ปี และ นายจิตรถาพันธ์ หรือ อ๊าซ อุ่นวงษ์แหวน อายุ 31 ปี ชาว จ.สมุทรสาคร พร้อมของกลางเป็นยาบ้า 1,008,000 เม็ด มูลค่ากว่า 370 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติดจับกุมได้ที่บ่อกุ้งแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร หลังสืบทราบว่า จะมีการนัดส่งมอบยาเสพติดกันบริเวณบ่อกุ้ง จึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าสังเกตการณ์ พบผู้ต้องหาขับรถเก๋งเข้ามา เจ้าหน้าที่จึงติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ พร้อมของกลางดังกล่าว
สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รับยาบ้าทั้งหมดมาจาก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ทำมาแล้ว 3 ครั้ง และจากการสอบประวัติของผู้ต้องหาพบว่า เคยถูกจำคุกในคดียาเสพติดมาแล้วถึง 4 ครั้ง
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012