ข่าว
สิ้น 'คุณหญิงพรทิพย์ ณรงค์เดช' ผู้สร้างอาณาจักรKPN

เมื่อวันที่ 16 ต.ค. มีรายงานว่า เมื่อเวลา 07.00 น. ที่ผ่านมา คุณหญิงพรทิพย์ ณรงค์เดช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามกลการ จำกัด ได้เสียชีวิตอย่างสงบด้วยโรคหัวใจล้มเหลว สิริอายุ 67 ปี โดยญาติจะจัดพิธีศพที่บ้านณงค์เดช บ้านเลขที่ 49/13 ซอยสุขุมวิท 49 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค. เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป เป็นเวลา 7 วัน โดยทางเจ้าภาพของดพวงหรีด ดอกไม้ ตามเจตนาของคุณหญิงพรทิพย์ ที่ได้สั่งเสียไว้ก่อนหน้า หลังจากนั้นจะเคลื่อนศพไปสุสานประจำตระกูลที่พัทยา จ.ชลบุรี ที่ผ่านมา ได้รับการคัดเลือกเป็นนักธุรกิจชั้นนำแห่งปี 2534, นักธุรกิจสตรีตัวอย่าง ประจำปี 2534 ของสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิขาชีพแห่งประเทศไทย, รางวัลสตรีดีเด่นปี 2536 สาขานักธุรกิจสตรี จากคณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานสตรีแห่งชาติ และเมื่อ 12 ส.ค. 2543 รับรางวัลแม่ดีเด่น ประเภทแม่ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม โดยได้รับประทานรางวัล จากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และรางวัลนักธุรกิจสตรีดีเด่นของโลก เป็นต้น.

ป่วน! รวบ6หนุ่มพิเรนทร์ ขับรถขึ้นบนรางรถไฟ

(14 ต.ค.56) ชายจำนวน 6 คน ได้ขับรถยนต์ CRV ป้ายแดง ขึ้นไปวิ่งบนรางรถไฟตั้งแต่แยกโรงปูน จนถึงหลัง รพ.เพชรเวช ระยะทางรวม 2 กิโลเมตร จนสภาพล้อติดรางรถไฟและไปต่อไม่ได้ และมีรถไฟอยู่ด้านหน้า ทำให้รถไฟต้องจอดหยุดรอที่สถานีมักกะสัน ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ กว่า 20 นาย พยายามช่วยกันยก แต่ใช้เวลานานกว่า 2 ชม. ก็ยังไม่สามารถยกได้ และไม่สามารถเคลื่อนไปไหนได้ เบื้องต้น จึงต้องให้คนขับรถคันดังกล่าว ขับรถถอยหลังยาว 2 กม. เพื่อให้พ้นการกีดขวาง ทั้งนี้ ทางการรถไฟฯ ได้เตรียมคิดค่าเสียเวลาที่รถหยุดขบวนรถ และรอเคลื่อนย้ายนาทีละ 800 บาท ซึ่งเป็นเวลากว่า 2 ชม. ก็เป็นเงิน 96,000 บาท หรือเกือบ 1 แสนบาท ในเบื้องต้น คนขับรถดังกล่าว มีอาการคล้ายคนมึนเมา และอ้างว่าไม่รู้เส้นทางจึงขับรถขึ้นมาบนรางรถไฟ ขณะที่ นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าฯ รฟท. จะมีการดำเนินคดีและฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับ ทั้ง 6 คน อย่างแน่นอน เนื่องจากการกระทำดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบต่อการเดินรถ ทำให้การเดินรถไฟต้องเกิดความล่าช้าไปเกือบ 2 ชั่วโมง โดยจะมีการคิดค่าเสียหาย จากค่าเฉลี่ยของค่าโดยสารของผู้โดยสาร ที่มากับขบวนรถไฟเที่ยวที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงค่าเสียหายที่ทำให้รางรถไฟ ได้รับความเสียหาย อีกเป็นระยะทางเกือบ 400 เมตร ด้วย

ชาวเน็ตไทยไอเดียกระฉูด ตัดต่อภาพท่อประปาแตกกลางกรุง

ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 16 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุท่อประปาขนาดใหญ่แตก บริเวณกลางสี่แยกมักกะสัน ถนนราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี ทำให้น้ำจากท่อประปาไหลทะลักออกมาสูงถึงฟุตบาท ไหลเข้าไปยังบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ข้างเคียงอีกด้วย ท่อที่แตกเป็นท่อขนาดใหญ่ ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 เมตร สาเหตุที่ทำให้ท่อประปาแตกนั้น เกิดจากการขุดเจาะวางท่อเพื่อวางระบบสายไฟฟ้าใต้ดิน

ขณะนี้เจ้าหน้าที่จากการประปานครหลวงเร่งปิดท่อน้ำประปาและทำการซ่อมแซมแก้ไขเป็นการด่วน แต่ต้องใช้เวลานานเพื่อหาวาล์วปิดน้ำ ส่งผลให้การจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัดเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งประชาสัมพันธ์ให้หลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่การประปาได้เร่งปิดวาล์วน้ำดังกล่าวแล้ว ซึ่งทางบริษัทพร้อมและยินดีที่จะรับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว


ลาวแอร์ไลน์ดิ่งดับยกลำ 51 ศพ ไทยดับ 5

16 ต.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด มีรายงานว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีคนไทยร่วมเดินทางอยู่ด้วย 2 คน ซึ่งระบุว่าเป็นเจ้าหน้าของบริษัท ปตท. จำกัด มหาชนคือ นายยรรยง อาภานันท์ อายุ 29 ปี และนายนิพล เหม็งศรี ยังมีรายงานว่าผู้โดยสารของเที่ยวบินนี้ มีรองเจ้าแขวงเซกอง ของ สปป.ลาว รวมอยู่ด้วย

ด้าน นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) กำลังตรวจสอบรายละเอียดอยู่ โดยเท่าที่ทราบในเบื้องต้น พบว่ามีผู้โดยสารชาวไทยจำนวน 5 คน แต่ยังไม่ทราบชื่อ

รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้พบเห็นเหตุการณ์ ยืนยันว่าเครื่องบินลำดังกล่าว ได้เกิดระเบิดขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะร่อนลงกลางลำแม่น้ำโขง กระทั่งมีผู้เสียชีวิตดังกล่าว สำหรับเครื่องบินลำที่ตก คือเครื่องบิน ATR 7-600 เริ่มนำใช้ 29-3-2013 อายุ 6 เดือน เลขทะเบียน RDPD 34233

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สายการบินลาวแอร์ไลน์ลำดังกล่าว เป็นเครื่องบินเล็กเดิมกำหนดขึ้นบิน ตั้งแต่วานนี้ แต่สภาพอากาศ ไม่เอื้ออำนวย จึงต้องเลื่อนมาบินวัน นี้แทน จนเกิดอุบัติเหตุตกเสียชีวิตยกลำ 51 คน เป็นผู้โดยสาร 42 ที่เหลือเป็นกัปตันและลูกเรือ เหตุเกิดบริเวณเกาะกลางลำน้ำโขง บ้านดอนขอ เขตติดต่อระหว่างเมืองชนะสมบูรณ์ กับ ปากเซ

ด้าน นายสรัญ รังคสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ยืนยันจะให้ความช่วยเหลือพนักงานที่เสียชีวิตอย่างเต็มที่

'น้องครีม' ซิวแชมป์ดัตช์โอเพ่น

วันที่ 13 ต.ค. การแข่งขันแบดมินตัน รายการ โยเน็กซ์ ดัตช์ โอเพ่น กรังด์ ปรีซ์ 2013 ที่เมืองอัลเมเร ประเทศเนเธอร์แลนด์ เกมประเภทหญิงเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ "น้องครีม" บุศนันท์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ ของไทย พบกับ กู่ จวน จากสิงคโปร์ วัย 23 ปี

โดยสถิติพบกันมา 4 ครั้ง "น้องครีม" มือวางอันดับ 20 ของโลก และมือ 2 ของรายการ ของไทยวัย 17 ปี เป็นฝ่ายชนะ กู่ จวน มือวางอันดับ 21 ของโลก และมือ 3 ของรายการได้ 3 ครั้ง ซึ่งล่าสุดเกิดขึ้นในศึก เอสซีจี ไทยแลนด์ โอเพ่น เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา

เกมแรก บุศนันท์ ออกสตาร์ตได้อย่างเหนียวแน่น อาศัยการตบจากท้ายคอร์ต สลับหยอดหน้าเนต เล่นงาน กู่ จวน จนหัวหมุน พร้อมนำห่าง 8-4 จากนั้น เกมของ บุศนันท์ ยังคงเล่นได้ตามแผน ก่อนเอาชนะไปอย่างไม่ยากเย็น 21-12 พร้อมขึ้นนำ 1-0 เกม จากนั้น เกมที่สอง บุศนันท์ ยังเล่นได้อย่างมั่นใจ กดดัน นักตบจากสิงคโปร์ จนโชว์ฟอร์มไม่ออก และคว้าชัยไปอีก 21-12 ทำให้ชนะไปในที่สุด 2-0 เกม ซิวแชมป์รายการนี้ไปครองได้อย่างสวยงาม

หลังจากนี้ บุศนันท์ จะเดินทางกลับมายังประเทศไทย เพื่อเตรียมตัวทำศึกบีดับเบิลยูเอฟ แบดมินตันเยาวชนชิงแชมป์โลก 2013 ที่อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก ระหว่างวันที่ 23 ต.ค.-3 พ.ย.นี้