ข่าว
'อู่ฮั่น'ลุยตรวจโควิดทั่วเมือง หลังไวรัสย้อนกลับป่วยกลุ่มก้อนใหม่

4 สิงหาคม 2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน สำนักงานใหญ่ด้านการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ประจำมณฑลหูเป่ยทางตอนกลางของจีน แถลงข่าวว่านครอู่ฮั่น เมืองเอกของหูเป่ย จัดการทดสอบกรดนิวคลีอิกทั่วเมืองเพื่อตรวจโรคโควิด-19 อีกครั้งในวันอังคาร (3 ส.ค.)

อู่ฮั่น ซึ่งเคยเผชิญการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างหนักหน่วง ตรวจพบการติดเชื้อในท้องถิ่นแบบกลุ่มก้อนครั้งใหม่เมื่อวันจันทร์ (2 ส.ค.) หลังจากแรงงานต่างถิ่นในเขตการพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีอู่ฮั่นมีผลตรวจโรคเป็นบวกรวม 7 ราย

คณะกรรมการสุขภาพประจำมณฑลหูเป่ยระบุว่าอู่ฮั่นตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ติดเชื้อในท้องถิ่นเพิ่ม 3 ราย และผู้ป่วยไม่แสดงอาการ 5 ราย ในวันจันทร์ (2 ส.ค.) ซึ่งถือเป็นการตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อในท้องถิ่นครั้งแรกในรอบปีกว่าของอู่ฮั่น

ทั้งนี้ หูเป่ยจัดการทดสอบกรดนิวคลีอิกขนานใหญ่ โดยมีการเก็บตัวอย่างจากประชาชนแล้วราว 403,000 คน พร้อมกระตุ้นเตือนประชาชนงดเดินทางออกจากมณฑลเว้นมีเหตุจำเป็น

อนุโมทนาบุญ!พระ-โยม‘บ้านหนองกล้า’สาธุ อบจ.เตรียมปรับ‘ถนนโลกพระจันทร์’

4 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากจากชาวบ้านและหลวงพี่ได้รับความเดือดร้อนจากถนนโลกพระจันทร์เป็นหลุมเป็นบ่อเหมือนขนมครก เป็นถนนทางเข้าหมู่บ้านบ้านหนองกล้า ต.ดอนหายโศก อ.หนองหาน จ.อุดรธานีระยะทาง 2 กม. ทำให้ชาวบ้านสัญจรไปมาลำบากมานานร่วมหลายสิบปี และภายหลังจากมีเรื่องราว ในวันนั้นเองขณะที่พระมหานนทพร อานันโท เจ้าอาวาสวัดบ้านหนองกล้า ที่เดินทางกลับจากรับกิจนิมนต์ กำลังนั่งซาเล้งกลับวัด ปรากฏว่าเจอสภาพถนนที่เป็นหลุมขรุขระ รถซาเล้งถึงกับสะเทือน สุดท้ายบาตรหลวงพี่โครงเครงกระเด็น ไข่ที่รับกิจนิมนต์จากญาติโยมแตกคาถุง ปิ่นโตกระจาย

ล่าสุดวันนี้มีรายงานว่า อบจ.อุดรธานี โดยนายวิเชียร ขาวขำ ได้นำรถเกรดมาปรับปรุงเส้นทางที่เป็นหลุมเป็นบ่อให้กับชาวบ้านเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเรียบร้อยแล้ว

พระมหานนทพร กล่าวว่า ชาวบ้านดีใจที่หลายหน่วยงานให้ความสนใจความเดือดร้อนของชาวบ้านหลังตกเป็นข่าวถนนโลกพระจันทร์ โดยนายประทีป อุ่ยเจริญ นายอำเภอหนองหาน พร้อมด้วย สจ. ส.ส.อาภรณ์ สาราคำ ส.ส.อุดรธานีเขต 4 ได้ประสานไปยังนายวิเชียร ขาวขำ นายกอบจ.อุดรธานี เพื่อจะนำเกรดมาปรับเส้นทางไม่ให้เป็นหลุมเป็นบ่อ เพื่อช่วยเหลือเป็นการเบื้องต้นแล้ว และรับปากว่าภายในสิ้นปีนี้ถนนตรงนี้จะทำใหม่ให้เป็นถนนลาดยางเพื่อให้ประชาชนสัญจรไปมาอย่างสะดวก

ขณะเดียวกันก็มีหน่วยทหารพัฒนา อ.ศรีธาตุ เดินทางเข้ามาดูสภาพถนน หากไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาช่วยเหลือก็พร้อมจะมาทำถนนให้ชาวบ้านด้วย ก็ขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญกับทุกหน่วยงานที่เห็นความลำบากของชาวบ้านที่บ้านหนองกล้าแห่งนี้ สาธุ


'หมอเจี๊ยบ'สละห้องเล่นเกมสุดโปรด กลายเป็นห้อง Telemed ตรวจคนไข้ทางไกล

4 ส.ค.64 เดินหน้าเต็มกำลังทำเพื่อผู้ป่วยทุกคน สำหรับ หมอเจี๊ยบ ลลนา เป็นอีกด่านหน้าสำคัญที่ต้องคอยช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19

ล่าสุด เจ้าตัวเผยภาพขณะสละห้องเล่มเกมสุดโปรดเพื่อดูแลและตรวจคนไข้จากทางไกล ซึ่ง หมอเจี๊ยบ ได้ระบุแคปชั่นดีๆนี้ว่า " จากห้องเล่นเกมส์สุดโปรดกลายเป็นห้อง telemed ตรวจคนไข้จากทางไกลสุดโปรดเหมือนกัน คุยกับผู้ป่วยแล้วชื่นใจที่หลายเคสอาการดีขึ้นมากๆ ขอบคุณทีมงานเบื้องหลังและจิตอาสารวมถึงผู้ร่วมสมทบทุนทุกอย่างทุกท่านนะคะ ที่ทำให้เราเดินมาได้ถึงตอนนี้ "


ฟันไม่เลี้ยง! สั่งให้ออกราชการไว้ก่อน'นายดาบ'หัวร้อนปล่อยลูกน้องทุบรถเก๋ง

จากกรณีโลกออนไลน์เผยแพร่คลิปวิดีโอ เป็นภาพเหตุการณ์ชาย 2 คน ขับกระบะป้ายแดงชนรถเก๋งซีวิคจนประสบอุบัติเหตุ บริเวณก่อนถึงแยกประเวศ กทม. จากนั้นผู้ก่อเหตุขึ้นไปบนหลังคารถของผู้เสียหาย และใช้มีดฟันไปที่รถหลายครั้ง ขณะเดียวกันยังมีชายหัวเกรียนอีกรายถืออะไรบางอย่างในมือคล้ายปืน ตรงเข้าไปที่รถผู้เสียหายด้วย โดยโลกออนไลน์ยังเผยข้อมูลอ้างว่าคนขับรถกระบะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ตามที่เผยแพร่ทางสื่อมวลชนแขนงต่างๆไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ (4 ส.ค.64) มีรายงานว่า พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ มีคำสั่งให้ ด.ต.อดิศร ทุมมาโต ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.บางปู ออกจากราชการไว้ก่อนเพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ ด.ต.อดิศร สามารถยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองได้ภายใน 30 วันหากไม่เห็นด้วยกับคำสั่งนี้

ก่อนหน้านี้ จากการสอบสวน พบว่าเหตุเกิดขึ้น (28 ก.ค.) บริเวณแยกอ่อนนุช โดย ด.ต.อดิศร ทุมมาโต อายุ 44 ปี ตำรวจสังกัดใน จ.สมุทรปราการ ได้ขับรถกระบะมากับลูกน้อง ชื่อนายชาครินทร์ ชัยมงคล อายุ 38 ปี คนถือมีด โดยทั้งคู่ขับรถมาด้วยกันเพื่อจะมาซื้อของแถวลาดกระบัง แล้วมาเจอกับรถเก๋งก่อนถูกปาดหน้า จนเฉี่ยวชนท้ายรถ แล้วรถเก๋งไม่ยอมหยุดรถ ทำให้รถกระบะขับไล่ตาม จนมาถึงจุดเกิดเหตุ ดาบตำรวจได้ขับรถปาดหน้าเพื่อให้หยุด แล้วลูกน้องก็ลงไปทุบรถเก๋งตามในคลิป ยืนยันว่า คนที่ทุบรถไม่ใช่ตำรวจ แต่เป็นลูกน้องของดาบตำรวจ มีหน้าที่เฝ้าบ่อปลา


กทม.เร่งสปีดเปิด Modular ICU-เพิ่มห้องความดันลบ รับผู้ป่วยโควิดสีแดง

4 สิงหาคม 2564 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเพิ่มเตียงสำหรับรองรับผู้ป่วยโควิดที่อาการรุนแรง (สีแดง) ของกรุงเทพมหานคร ว่า ในวันพรุ่งนี้ (5 สิงหาคม 2564) กรุงเทพมหานครจะเปิดห้อง Modular ICU สำหรับรองรับผู้ป่วยโควิดที่อาการรุนแรง (สีแดง) เพิ่มเติมอีก 2 อาคาร รองรับผู้ป่วยได้ 20 เตียง ณ อาคารที่ 3 และ 4 (ICU 3 ,4) ภายในศูนย์การเรียนรู้ของโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ เขตทวีวัฒนา ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เปิดบริการแล้ว 2 อาคาร (ICU 1 ,2) รองรับผู้ป่วยได้ 20 เตียง ขณะนี้มีผู้เข้าพักเต็มแล้ว จำนวน 20 เตียง

ทั้งนี้โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานคร และบริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (SCG) ในการดำเนินการเพิ่มเตียงสำหรับรองรับผู้ป่วยที่อาการรุนแรงโดยใช้นวัตกรรม Modular ICU ในการปรับเพิ่มห้อง ICU โดยถูกออกแบบตามลักษณะการทำงานของข้อกำหนดห้อง ICU ที่ใช้ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ขณะนี้การก่อสร้างแล้วเสร็จตามแผนจำนวน 4 อาคาร รองรับผู้ป่วยได้ 40 เตียง

นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครได้ปรับพื้นที่บริเวณ ชั้น 1 ของโรงพยาบาลสนามราชพิพัฒน์ 1 (ศูนย์การเรียนรู้ของโรงพยาบาลราชพิพัฒน์) สร้างเป็นห้องความดันลบ (ICU 5) เพื่อรองรับผู้ป่วยสีแดงเพิ่มเติม สามารถรองรับได้ 40 เตียง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 7 ส.ค.64 ด้านโรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน ขณะนี้มีผู้ป่วยสีแดงครองเตียง 85 ราย แบ่งเป็น บริเวณชั้น 2 (ward 2) จำนวน 33 เตียง และชั้น 3 (ward 3) จำนวน 52 เตียง ทั้งนี้ หากปรับปรุงห้องความดันลบ ICU 5 แล้วเสร็จกรุงเทพมหานครจะมีเตียงสำหรับรองรับผู้ป่วยสีแดงจำนวน 165 เตียง สำหรับการรองรับผู้ป่วยสีเหลืองโรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียนได้ปรับพื้นที่เพื่อรองรับผู้ป่วยจำนวน 140 เตียง ขณะนี้มีผู้ป่วยครองเตียงแล้ว 133 ราย


'เม็กซิโก'ชี้ 97% ผู้ป่วยโควิดในโรงพยาบาล เป็นผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีน

4 สิงหาคม 2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ฮิวโก โลเปซ-กาเตลล์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงสาธารณสุขของเม็กซิโก เผยว่าร้อยละ 97 ของผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ท่ามกลางการระบาดใหญ่ระลอกล่าสุด เป็นผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนโรคโควิด-19

“วัคซีนมีบทบาทสำคัญมากต่อการลดทอนอาการป่วยขั้นร้ายแรงที่สุด ซึ่งทำให้ผู้คนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล” โลเปซ-กาเตลล์กล่าวระหว่างนำเสนอรายงานสถานการณ์สาธารณสุขของประเทศ

โลเปซ-กาเตลล์ระบุว่ามีชาวเม็กซิโกฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างน้อยหนึ่งโดสเพียงกว่า 48 ล้านคน พร้อมกล่าวว่าการระบาดระลอกสามอันตรายและรุนแรงน้อยกว่าระลอกก่อนหน้า

รัฐบาลเม็กซิโกกำหนดเป้าหมายฉีดวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งโดสให้พลเมืองทุกคนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปภายในเดือนตุลาคม คิดเป็นจำนวนประชากรราว 89.4 ล้านคน


ผู้เชี่ยวชาญสหรัฐฯชี้ถึงเวลาต้องบังคับฉีดวัคซีนโควิด หลังความสมัครใจถึงทางตัน

4 ส.ค.64 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า หนังสือพิมพ์เดอะ วอชิงตัน โพสต์ รายงานว่า การรณรงค์ฉีดวัคซีนของสหรัฐฯ ด้วยความสมัครใจเดินมาถึงทางตันแล้ว และทางออกเดียวที่จะหลุดพ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) คือการบังคับฉีดวัคซีน

บทความของโจเซฟ จี. อัลเลน รองศาสตราจารย์และผู้อำนวยการโครงการเฮลธี บิลดิงส์ (Healthy Buildings) ที่วิทยาลัยสาธารณสุข ที เฮช ชานของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ระบุว่า มีบทเรียนมากมายจากความล้มเหลวของกลยุทธ์การฉีดวัคซีนในปัจจุบัน ได้แก่ การอนุมัติล่าช้าของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และเสียงอันแผ่วเบาของ “ผู้มีอิทธิพล” อย่างนักกีฬามืออาชีพ

“หนทางเดียวข้างหน้าคือการใช้ข้อบังคับ” อัลเลนระบุ พร้อมเสริมว่าโรงพยาบาลและคลินิกดูแลสุขภาพต้องบังคับฉีดวัคซีนตามที่องค์กรดูแลสุขภาพชั้นนำเกือบ 60 แห่งเรียกร้องเมื่อเดือนกรกฎาคม โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) กล่าวว่าปัจจุบันมีบุคลากรด้านการรักษาพยาบาลระยะยาวและสถานพยาบาลรับวัคซีนเพียงร้อยละ 45

กระทรวงกิจการทหารผ่านศึกของสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันจันทร์ (2 ส.ค.) ว่าจะกำหนดให้บุคลากรการแพทย์แนวหน้าของกระทรวงฯ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งถือเป็นหน่วยงานรัฐบาลกลางแห่งแรกที่บังคับฉีดวัคซีน

ทั้งนี้ เมื่อวันอาทิตย์ (1 ส.ค.) แอนโทนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อชั้นนำของสหรัฐฯ บอกเล่าว่า ตนท้อใจมากต่อสถานการณ์โรคระบาดใหญ่ในปัจจุบัน โดยสหรัฐฯ อยู่ใน “สถานการณ์ลำบากโดยไม่จำเป็น” ขณะที่จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น และประเทศกำลัง “เดินผิดทาง”

อนามัยโลกเผย‘บุคลากรแพทย์’ เผชิญ‘ความรุนแรง’เพิ่มขึ้นทั่วโลก

4 สิงหาคม 2564 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานว่าบุคลากรการแพทย์และผู้ป่วยใน 17 ประเทศหรือดินแดนที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง เผชิญเหตุโจมตีมากกว่า 2,700 ครั้ง นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2017 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 700 ราย และผู้บาดเจ็บมากกว่า 2,000 ราย

รายงานว่าด้วยการโจมตีบริการสาธารณสุข (Attacks on Health Care) ฉบับล่าสุดขององค์การฯ ระบุว่า 1 ใน 6 ของการโจมตีดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต

ขณะเดียวกันมีสถานพยาบาลหลายร้อยแห่งถูกทำลายหรือปิดทำการ บุคลากรการแพทย์เสียชีวิตและบาดเจ็บ และผู้คนนับล้านในเอธิโอเปีย เยเมน ซีเรีย โมซัมบิก ไนจีเรีย ดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง เมียนมา สาธารณรัฐแอฟริกากลาง โซมาเลีย และอื่นๆ ถูกปฏิเสธการรักษาทั้งที่เป็นสิ่งที่พวกเขาควรได้รับ

สำหรับปี 2020 นอกเหนือจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) แล้ว องค์การฯ ยังได้รับรายงานเหตุโจมตี 333 ครั้ง ซึ่งส่งผลให้บุคลากรการแพทย์และผู้ป่วยเสียชีวิต 239 ราย

องค์การฯ ระบุว่ามีรายงานเหตุโจมตีบุคลากรการแพทย์ 588 ครั้งในปี 2021 โดยการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบหนักต่อบุคลากรในโรงพยาบาล พยาบาล และแพทย์ เนื่องจากพวกเขามักตกเป็นเหยื่อของการเลือกปฏิบัติและการทำร้ายร่างกาย