เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ที่ผ่านมา อู๋ - อรรถพร ไทยหิรัญ ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง คนจร ฯ วัย 43 ปี บุตรชายของ ยุ- ยุวดี ไทยหิรัญ ผู้บริหารค่ายยูม่า ได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิต สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับผู้เป็นแม่ มีบุคคลในวงการบันเทิงมาร่วมแสดงความเสียใจมากมาย เคน ธีรเดช -หน่อย บุษกร วงศ์พัวพัน, เชอร์รี่- เข็มอัปสร สิริสุขขะ ,ชมพู่ อารยา ,อู๋ ธนากร โปษยานนท์ ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงที่ อู๋- อรรถพร เสียชีวิตนั้น เป็นช่วงเวลาเช้ามืดของวันที่ 30 กรกฎาคม เหตุเกิดอยู่แถวย่านพระราม 9 ซึ่งไม่มีผู้เห็นเหตุการณ์แต่อย่างใด มีเเต่ตำรวจที่ไปพบศพเป็นคนแรก สำหรับ อู๋อรรถพร นั้น นอกจากจะเคยเป็นผู้กำกับมาก่อนแล้ว ยังเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของคุณยุวดี คอยช่วยเตรียมพร็อบ จัดฉาก ฝ่ายศิลป์ และแอ็คติ้งโค้ช ให้กับละครทุกเรื่องของค่ายยูม่า ซึ่งเมื่อวันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมาได้มีพิธีรดน้ำศพและสวดอภิธรรมไปแล้วเป็นคืนแรก ซึ่งในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3 จะเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพ และจะมีการฌาปนกิจศพ ในวันที่ 4 สิงหาคมนี้
วันที่ 31 ก.ค. นายกนก รัตน์วงศ์สกุล โพสต์คลิปวิดีโอบันทึกภาพเหตุการณ์ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปขึ้นเวทีที่ประชุมเศรษฐกิจโลก (WEF) พร้อมโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก Kanok Ratwongsakul Fan Page ระบุว่า "..สิบประเทศในอาเซียน มีประชากรประมาณครึ่งหนึ่งของโลกค่ะ.. (นาทีที่ 0.15) โอว..ผมขอร้องเถอะครับ ถ้าจะปล่อยหล่อนไปข้างนอกไกลๆ ช่วยหาอะไรครอบปากเธอไว้ได้มั๊ยครับ? ผมไม่ไหวละ..pleaseeee "
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ศาลอาญา นัดฟังคำพิพากษา ในคดีที่นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และนายเกียรติ์อุดม เมนะสวัสดิ์ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาจากกรณีเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2553 ที่นายพร้อมพงศ์ และนายเกียรติ์อุดม ร่วมกันแถลงข่าวกล่าวหา ความประธานศาลรัฐธรรมนูญ ว่าประพฤติตนไม่เหมาะสม ไม่น่าเชื่อถือ ขัดต่อจริยธรรมของตุลาการ ขาดความยุติธรรมและขาดความเป็นกลาง เป็นเหตุให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า นายพร้อมพงศ์ และนายเกียรติ์อุดม ไม่ตรวจสอบข้อมูลให้ครบก่อนการแถลงข่าว เห็นว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยไม่สุจริตหวังผลทางการเมือง ทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียจึงพิพากษา นายพร้อมพงศ์ และนายเกียรติ์อุดม คนละ 1 ปี ปรับ 50,000 บาท แต่จำเลยทั้งสองไม่เคยต้องโทษมาก่อน โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปีและลงโฆษณาโดยย่อในหนังสือพิมพ์จำนวน 3 ฉบับ เป็นเวลา 7 วัน ด้านนายพร้อมพงศ์ กล่าวหลังทราบคำพิพากษาว่า น้อมรับคำตัดสินศาล และจะยื่นอุทธรณ์คดีต่อไป
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม นายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Oak Panthongtae Shinawatra ระบุว่า "วันนี้ถือเป็นวันมงคลอีกวันหนึ่งของครอบครัวของผมครับ เป็นวันครบ 3 รอบ (36ปี) ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานน้ำสังข์เนื่องในงานมงคลสมรส ระหว่าง ร้อยตำรวจเอก ทักษิณ ชินวัตร กับ นางสาว พจมาน ดามาพงศ์ เมื่อวันที่ 30กรกฎาคม พ.ศ.2519 วันนี้จึงเป็นวันที่ โอ๊ค, เอม, อิ๊งค์ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของครอบครัวเรา จำได้ว่าคุณพ่อคุณแม่ เคยมีเรื่องขำๆ มาเล่าให้ผมและน้องๆ ฟัง แถมยังแซวว่า พวกเราเกือบไม่ได้เกิดมาดูโลกแล้ว เพราะว่ามีเหตุการณ์ที่เกือบทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้แต่งงานกันคือในช่วงที่คุณพ่อคุณแม่ยังเป็นแฟนกัน เนื่องจากคุณพ่อมีอายุแก่กว่าอาปูมาก มีอยู่วันหนึ่งคุณแม่มาเยี่ยมคุณพ่อที่บ้าน และเห็นคุณพ่อกำลังไกวเปลกล่อมอาปูนอนอยู่ ด้วยความที่คุณพ่อกลัวอาปูจะสะดุ้งตื่นจึงได้แต่ยิ้มๆ ไม่กล้าส่งเสียงทัก ส่วนคุณแม่ก็นึกว่าคุณพ่อมีพิรุธ ต้องการจะปกปิดอะไรบางอย่าง จึงตีความว่าคุณพ่อมีลูกเมียอยู่แล้วยังมาหลอกกันได้ คุณแม่ถึงกับงอนกลับบ้านไปเลยครับ คุณพ่อบอกว่าต้องง้อกันอยู่นานกว่าคุณแม่จะเข้าใจ และยอมคืนดีด้วย และก็ด้วยความที่อาปูเป็นน้องเล็กนี่แหละครับ จึงทำให้อาปูโดนพิสูจน์ฝีมือตลอดในชีวิตการทำงาน โดยการที่เข้ามาทำงานในธุรกิจของครอบครัว อาปูไม่เคยได้รับ special treatment จากพี่ๆ เลย ต้องทำงานเริ่มจากตำแหน่งเล็กๆ ในองค์กร ออกไปหาลูกค้าด้วยตนเอง ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ด้วยตนเองมาโดยตลอด จึงทำให้กลายเป็นจุดแข็งของอาปูในวันนี้ แข็งไม่แข็งก็คิดดูซิครับ ฝ่ายค้านอกสามศอก ที่ได้ชื่อว่าค้านเก่งที่สุดในประเทศ ผลัดกันเข้ามาเหน็บแนม กระแนะกระแหน จิก กัด ด่า ทั้งแถลงข่าว ให้สัมภาษณ์ ปราศรัย สารพัดวิธี ถ้าเป็นเรื่องไร้สาระ ไม่เคยระคายผิว ให้อาปูต้องออกมาตอบโต้แม้แต่น้อย ถ้าเป็นคุณพ่อผมเหรอครับ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ป่านนี้ได้โต้ออกสื่อกันสะใจคอการเมืองไปแล้ว ก็สมัยคุณพ่อ ไม่ยอมใช้องครักษ์พิทักษ์แม้วที่ชื่อ "พานทองแท้" เหมือนอาปู นี่ครับ จะได้ไม่ต้องโดดออกไปโต้เอง!!!"
หลังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นเวที เปิดเวทีปราศรัย "เดินหน้า ผ่าความจริง หยุดล้มรัฐธรรมนูญ-ออกกฎหมายล้างผิดคนโกง" เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกับสร้างความฮือฮาใส่เสื้อแดงขึ้นเวทีปราศรัยของพรประชาธิปัตย์ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์ เยาวชนกรุงเทพฯ (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง กรุงเทพฯ นั้น โดยนายอภิสิทธิ์เรียกร้องให้มีการคืนสีแดงให้กับประชาชน เพราะสีแดงไม่ใช่ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นหยิบมาจากบทกวีของนายสุรชัย จันทิมาธร หรือ หงา คาราวาน วันเดียวกัน ม.ล.มิ่งมงคล โสณกุล หรือเต่านา ทายาทราชสกุล บุตรี ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล เจ้าของวาทะสะท้านทุกหัวใจในโลกออนไลน์ขณะนี้ "รักที่สุดคือในหลวง ห่วงที่สุดคือ คนที่รักในหลวงจนเสียสติ" ฝากข้อความถึงนายอภิสิทธิ์ผ่านเฟซบุ๊คตัวเอง http://www.facebook.com/taona.sonakul#!/taona.sonakul ดังนี้ "เรียน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หากท่านเชื่ออย่างจริงใจว่า ประชาชนไทยเป็นผู้มีจิตใจเป็นเสรีชน สามารถมีความให้เกียรติในความเห็นที่แตกต่างของเพื่อนร่วมชาติด้วยกันอย่างแท้จริงแล้ว.. ถ้าหากพวกเขาอยากจะใส่เสื้อสีอะไรก็ให้เขาใส่ไปเหอะ จะสีเหลือง สีแดง สีฟ้า สีม่วง สีดำ ฯลฯ ไม่มีความจำเป็นอะไรเลยที่จะต้องไปบอกให้เขาไปเปลี่ยนเสื้อเป็นสีโน้นสีนี้ พวกเขาอยากจะใส่เสื้อสีห่าอะไรก็ให้เขาใส่ไป.. อย่าไปขออะไรกับคนอื่นที่เขามีที่มาที่ไปกันคนละแบบกับท่านเลย.. คนที่เขาเลือกใส่ สีแดง สีเหลือง ก็เพราะเขาใส่แล้วเขามีความสุขของเขา... ความแตกแยกไม่ได้มาจากสีเสื้อ ความแตกแยกมาจากความเจ็บช้ำน้ำใจ และความรู้สึกว่าไม่มีความยุติธรรม และตราบใดที่ท่านยังไม่สามารถแสดงน้ำใจขอโทษประชาชนไทย และวิญญาณของคนที่ต้องตายไปกว่าร้อยศพโดยการบริหารงานที่ผิดพลาดของท่านในฐานะนายกรัฐมนตรี..
ท่านอย่าได้มาเสียเวลาเปลืองน้ำลายฝันบ้าๆบอๆไปว่าจะมีใครลุกขึ้นบ้าใส่เสื้อแดงเพื่อเป็นแนวร่วมกับท่านเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้คนที่ท่านเองนั่นแหละเป็นคนทำพวกเขาตาย.. ท่านเป็นคนที่จิตป่วยมากๆแล้ว ท่านต้องพบจิตแพทย์ และหลบไปอยู่ในที่สงบๆสักพัก"
© 2011 - 2026 Thai LA Newspaper 1100 North Main St, Los Angeles, CA 90012